คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความร่วมมือทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ
(North Atlantic Treaty Organization : NATO)
ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2492 เมื่อประเทศภาคีสมาชิก ลงนามในสนธิสัญญาร่วมป้องกันภูมิภาคแอตแลนติกเหนือ ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์กสหรัฐอเมริกา แคนาดา เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์ อิตาลี นอร์เวย์และโปรตุเกส เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2493 กรีซ และตุรกี เข้าร่วมเป็นสมาชิก ในปี พ.ศ. 2498 เยอรมนีตะวันตกเข้าร่วมเป็นสมาชิก สำนักงานใหญ่ขององค์การนี้ตั้งอยู่ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม
การก่อตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ เป็นการร่วมมือทางทหารเพื่อสกัดกั้นอิทธิพลของของอดีตสหภาพโซเวียต และต่อต้านสนธิสัญญาวอร์ซอ เป็นผลของความขัดแย้งระหว่างโลกเสรี ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ และโลกคอมมิวนิสต์ นำโดยอดีตสหภาพโซเวียต
วัตถุประสงค์
- สร้างความมั่นคงร่วมกันระหว่างกลุ่มประเทศประชาธิปไตยในยุโรป ด้วยความร่วมมือและช่วยเหลือของสหรัฐอเมริกา แคนาดา
- กติกาสำคัญของสัญญานี้ กล่าวว่า ถ้าประเทศหนึ่งประเทศใดแห่งสมาชิกสัญญานี้ ถูกโจมตี ให้ถือว่าทุกประเทศถูกศัตรูรุกราน
ซึ่งเป็นภาระที่ต้องร่วมมือกันต่อสู้ และป้องกันตัวเองของประเทศสมาชิก
- สนธิสัญญานี้ ไม่มีการจำกัดอายุ แต่ภาคีสมาชิกอาจลาออกได้ หลังก่อตั้งองค์การไปแล้ว 20 ปี โดยจะต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี
องค์การสนธิสัญญาวอร์ซอ
(Warsaw Pact)
องค์การระหว่างประเทศที่จัดตั้งขึ้นโดย สหภาพโซเวียต จัดตั้งขึ้น ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 ช่วง สงครามเย็น
(ค.ศ. 1945 - 1991) โดยมีสมาชิกทั้งหมด 8 ประเทศ ประกอบไปด้วย
1. สหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต
2. สาธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมนี (เยอรมนีตะวันออก)
3. สาธารณรัฐประชาชนโปแลนด์
4. สาธารณรัฐสังคมนิยมเชคโกสโลวเกีย
5. สาธารณรัฐประชาชนบัลแกเรีย
6. สาธารณรัฐประชาชนอัลบาเนีย
7. สาธารณรัฐประชาชนฮังการี
8. สาธารณรัฐสังคมนิยมโรมาเนีย
นอกจากจะเป็นสัญญาทางด้านการทหารแล้ว ยังเป็นข้อผูกพันทางด้านการต่างประเทศด้วย โดยการดำเนินนโยบายต่างประเทศขององค์การนี้จะต้องมีสหภาพโซเวียตเป็นผู้นำ องค์การสนธิสัญญาวอร์ซอจึงเท่ากับเป็นปฏิกิริยาของกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ที่แสดงการตอบโต้กลุ่มประเทศเสรีประชาธิปไตย
สนธิสัญญาวอร์ซอ ได้ถูกยกเลิกอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1991 ปีเดียวกับการล่มสลายของ สหภาพโซเวียต
องค์การการค้าโลก
(World Trade Organization : WTO)
องค์การการค้าโลก หรือ WTO (World Trade Organization) เป็นองค์การระหว่างประเทศที่มีการพัฒนามาจากความตกลงทั่วไปว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า หรือ GATT (General Agreement on Tariff and Trade) ก่อตั้งเมื่อวันที่1 มกราคม 2538 มีสมาชิกเริ่มแรก 81 ประเทศ สำนักงานตั้งอยู่ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
วัตถุประสงค์
- เปิดตลาดสินค้าเกษตรให้มากขึ้น
- ให้มีข้อปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่างสำหรับประเทศกำลังพัฒนาในทุกเรื่องที่เจรจา
- ดูแลให้สมาชิกดำเนินการตามข้อตกลงทางการค้าที่มีต่อกัน
- เป็นคนกลางในการตัดสินข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ
องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน
(Organization of Petroleum Exporting Countries : OPEC)
ก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2503 โดยสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง 5 ประเทศคือ อิหร่าน, อิรัก, คูเวต, ซาอุดิอาระเบีย และ เวเนซูเอลา ต่อมาได้มีสมาชิกเข้ามาเพิ่มตามลำดับได้แก่ กาตาร์, อินโดนีเซีย, ลิเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, แอลจีเรีย, ไนจีเรีย, เอกวาดอ (ถอนตัวในปี 2535) และสมาชิกล่าสุดเมื่อต้นปี 2550 ที่ผ่านมาคือ แองโกลา รวมเป็น 12 ประเทศ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
วัตถุประสงค์
เพื่อเป็นตัวกลางประสานงานด้านนโยบายน้ำมันระหว่างประเทศผู้ผลิตน้ำมัน รักษาระดับราคาให้มีความเป็นธรรม และสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศผู้ผลิตปิโตรเลียม การรวมตัวของกลุ่มผู้ผลิตนำมันรายใหญ่
โอเปกสามารถกำหนดปริมาณการผลิตน้ำมันซึ่งจะมีผลต่อการขึ้นลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก โปเปกเป็นกลุ่มที่ผลิตน้ำมันได้มากที่สุดในโลกคือ 41.7%ของทั้งโลก
สหภาพยุโรป
(European Union: EU)
เป็นองค์การระหว่างประเทศ ที่ประกอบด้วยรัฐสมาชิก 27 ประเทศก่อตั้งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 ภายใต้สนธิสัญญามาสทริชต์
สหภาพยุโรป พัฒนามาจาก ประชาคมยุโรป ซึ่งเป็นกลุ่มที่รวมองค์การทางเศรษฐกิจ 3 องค์การเข้าด้วยกัน คือ ประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้ายุโรป ประชาคมเศรษฐกิจยุโรป หรือตลาดร่วมยุโรป และประชาคมพลังงานปรมาณูยุโรป จัดตั้งขึ้นเพื่อยกระดับทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปให้ดีขึ้น โดยอาศัยความร่วมมือของประเทศสมาชิก
วัตถุประสงค์
- เพื่อรวบรวมระบบเศรษฐกิจ ความร่วมมือในการพัฒนาสังคม และการปกครองแบบประชาธิปไตยของประเทศสมาชิกให้เป็น อันหนึ่งอันเดียว
- เพื่อยกระดับการดำรงชีวิตของประชากรขาวยุโรปให้ดีขึ้น
- เพื่อจัดตั้งสหภาพศุลกากรโดยการขจัดอุปสรรคต่างๆ ทางการค้าระหว่างประเทศ
สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(Association of South East Asian Nations : ASEAN)
เป็นองค์การทางภูมิศาสตร์การเมืองและองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มี ประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า
วัตถุประสงค์
เพื่อส่งเสริม ความร่วมมือและความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจสังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี และการบริหาร ส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ สัญลักษณ์ของอาเซียน คือ รูปรวงข้าว สีเหลืองบนพื้นสีแดงล้อมรอบด้วยวงกลมสีขาวและสีน้ำเงิน รวงข้าว 10 ต้น หมายถึง ประเทศสมาชิก 10 ประเทศ สีเหลืองหมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและการมีพลวัติ สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ และสีน้ำเงิน หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง
สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป
(The European Free Trade Association : EFTA)
ก่อตั้งเมื่อเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2502 เนื่องจากความไม่พอใจของกลุ่มประเทศในองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจของยุโรป (OEEC) ที่มีต่อองค์การตลาดร่วมยุโรป (EEC) จึงแยกตัวออกมาตั้งกลุ่มการค้าใหม่ เรียกว่า กลุ่มอีอีซี ได้ตั้งชื่อกลุ่มว่า เอฟตา มีการลงนามในสัญญาความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก ต่อมามีประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นสมาชิกและถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก
วัตถุประสงค์
- เพื่อปฏิรูประบบการค้าของสินค้าอุตสาหกรรมภายกลุ่มประเทศสมาชิก
- เพื่อกำหนดนโยบายการค้าของประเทศสมาชิกและประเทศนอกกลุ่มสมาชิก
เขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ
(North America Free Trade Agreement: NAFTA)
เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจในทวีปอเมริกาเหนือ ในการที่จะร่วมมือกันแสวงหาตลาดส่งออกและลดต้นทุนการผลิตสินค้า เพื่อให้มีราคาถูกลง สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ โดยหลังจากที่สหภาพยุโรป ได้แก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยการเปิดตลาดเสรีเป็นตลาดเดียวแล้ว ผู้นำแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาและเม็กซิโกได้จัดประชุมกันเมื่อ พ.ศ.2535 ที่จะเปิดเสรีทางการค้าระหว่างกันให้เป็นตลาดเดียว และจะลดอัตราภาษีศุลกากรให้เหลือร้อยละ 0 ภายใน 5 ปี โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 มกราคม พ.ศ. 2537 เป็นต้นไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อแสวงหาตลาดสินค้าส่งออกในภูมิภาคอื่น
2. เพื่อส่งเสริมการจ้างงาน การเคลื่อนย้ายแรงงาน ที่จะผลิตสินค้าให้ได้ ราคาถูกและมีคุณภาพดี
3. เพื่อส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็กให้ขยายตัวและมีประสิทธิภาพสูง
เขตการค้าเสรี
(Free trade area : FTA)
เป็นกลุ่มประเทศที่ได้ทำข้อตกลงที่จะทำการค้าแบบเสรี โดยกำจัด การเก็บภาษีศุลกากรการจำกัดส่วนแบ่ง และการให้สิทธิพิเศษ กับสินค้าส่วนใหญ่ ที่ทำการค้าขายระหว่างกัน
วัตถุประสงค์
FTA สะท้อนแนวคิดสำคัญทางเศรษฐศาสตร์ที่ว่า "ประโยชน์จากการค้าระหว่างประเทศจะเกิดขึ้นสูงสุดเมื่อประเทศต่างๆ ผลิตสินค้าที่ตนมีต้นทุนในการผลิตต่ำที่สุดเมื่อเปรียบ เทียบกับประเทศอื่นๆ แล้วนำสินค้าเหล่านั้นมาค้าขายแลกเปลี่ยนกัน" ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงนั้น ประโยชน์สูงสุดดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น หากยังมีการเก็บภาษีขาเข้าและมีการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าต่างๆ ซึ่งส่งผลบิดเบือนราคาที่แท้จริงของสินค้า และทำให้การค้าขายไม่เป็นไปอย่างเสรีและมีประสิทธิภาพ
ความคิดเห็น