ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เส้นทางสู่ตำแหน่งมเหสี

    ลำดับตอนที่ #6 : พิธีเลือกพระชายา-1

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 64


         ท้องพระโรง

       

                 วันนี้ที่ท้องพระโรงต่างเต็มไปด้วยเหล่าขุนนางและเสนาบดีที่มาประชุมงานราชการ



                 เมื่อฮ่องเต้ไท่ถังและเหล่าขุนนางได้ประชุมการบริหารราชการแผ่นดินเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว สักพักมีเสนาบดีคนหนึ่งเอ่ยขึ้นท่ามกลางท้องพระโรง



                 "ฝ่าบาทพะยะคะ?หม่อมฉันขอบังอาจกราบบังคับทูลให้ทรงทราบว่า?บัดนี้เป็นการสมควรที่ฝ่าบาทต้องเปิดรับคัดเลือกพระชายาแล้วพะยะคะ?!"       เอ๋อไท่ซางเสนาบดีราชสำนักเอ่ยขึ้นกลางท้องพระโรงออกว่าราชการของฮ่องเต้ไท่ถังท่ามกลางเหล่าขุนนางและเสนาบดีคนอื่นๆที่อยู่ในท้องพระโรง



                 "เอ๊ะ!ถึงเวลาแล้วหรอ?ข้ามีฮ่องเฮาอยู่แล้วนะ" พูดขึ้นกลางท้องพระโรงที่มีเสนาบดีและขุนนางต่างจับจ้องมาที่เขา



                "ก็ได้!ก็ได้?ถ้าพวกเจ้าเห็นสมควรว่าข้าต้องมีชายาข้าก็จะตามใจพวกเจ้าแล้วกัน?


                เสนาบดีเอ่อไท่ซางรับพระราชโองการ?ข้าขอแต่งตั้งเจ้าเป็นเจ้ากรมวิธีการคัดเลือกพระชายาในครั้งนี้ควบคู่กันกับเสนาบดีกรมวังอ้ายซานเพื่อคัดเลือกสตรีสามัญชนมาเป็นพระชายาของข้าต่อไป" ฮ่องเต้ไท่ถังได้สั่งการให้เสนาบดีทั้งสองปฏิบัติหน้าที่พิจารณาและคัดเลือกสตรีตามระเบียบของราชสำนัก


          ณ บ้านพักของหลินเฟ่ง


              วันนี้หลินหลี่และหลินเฟ่งทั่งสองคนหัดฝึกแข่งม้ากันในสวนหญ้าหลังบ้านของเขา


             

               ตึ่ง! ตึ่ง!ตึ่ง! เสียงตีกลองประชุมที่จวนของเจ้าเมือง ชาวบ้านชาวเมืองต่างนานามากันมาที่จวนเจ้าเมืองอย่างเนืองแน่นทุกคนต่างรอการประกาศของเจ้าเมืองว่าเหตุใดถึงได้ตีกลองเรียกประชุม



              ประกาศ!ข้าคือ อ้ายไท่ซางเสนาบดีราชสำนักและเป็นเจ้ากรมวิธีการคัดเลือกพระชายาขอน้อมนำพระราชโองการให้ประกาศว่าแก่ราษฎร์ทั้งหลายทราบว่า


             "ข้าอ้ายไท่ถังหลาน ไท่ถังฮ่องเต้ขอประกาศว่า โดยที่พระราชพิธีอภิเษกเลือกคู่ของเหล่าสามัญชนจะต้องจัดขึ้นทุกสามปี มาบัดนี่เวลานั้นได้มาถึงแล้ว ข้าจึงได้สั่งให้อ้ายไท่ซางเสนาบดีราชสำนักเป็นเจ้ากรมวิธีการในราชสำนักตลอดจนวิธีการคัดเลือกพระสนมควบคู่กับเสนาบดีกรมวังสืบไป จบราชโองการ"


           ใจความสำคัญของพระราชโองการนี้คือการที่จะให้สตรีหญิงสามัญชนที่มีอายุใกล้ไล่เลี่ยไม่น้อยไม่ต่ำกว่า13ปีขึ้นไปแต่ไม่เกิน30ปีเพื่อคัดเลือกให่เป็นพระชายาของฮ่องเต้ทำงานเกี่ยวกับในราชสำนักสืบต่อไป



           หลินเฟ่งและหลินหลี่ได้ขี่ม้าควบมายังประตูหน้าจวนของเจ้าเมืองตงหมานที่ยืนอยู่หลังเสนาบดีอ้ายไท่ซางที่มาอ่านพระราชโองการของไท่ถังฮ่องเต้




           "โอ้?เอ๊ะ!นั้นมันเสนาบดีอ้ายไท่ซางไม่ใช่หรอ?เหตุใดมาที่นี่ได้ล่ะ?" 


           "เอ๊ะ?ใครหรอคะเสนาบดีอ้ายไท่ซางเนี่ย?" 

       

          หลินหลี่และหลินเฟ่ยต่างหยุดม้าและจ้องมองเห็นเสนาบดีอ้ายไท่ถังยืนอยู่หน้าประตูจวนเจ้าเมืองแถมในมือของเขายังมีกระดาษใบหนึ่งถืออยู่ด้วย พร้อมทั้งพูดคุยกันบนหลังม้าหน้าจวนเจ้าเมืองที่ต่างเต็มไปด้วยเหล่าประชาชนที่มารอฟังประกาศ



         "เขาคือเสนาบดีที่ดีคนหนึ่งเลยละจ๊ะ?" 



       เสนาบดีอ้ายไท่ซางหรือ ซางเฟ่ยหลานเขาสามารถสอบติดได้เป็นจอหงวนด้วยวัยเพียง29ปี เขาจึงได้รับราชการเป็นนายอำเภอเมืองหลี่ตงในแผ่นดินรัชสมัยไท่กงฮ่องเต้ จนปัจจุบันเขารับราชการเป็นเสนาบดีราชสำนักหรือทีปรึกษาราชการแผ่นดินของไท่ถังฮ่องเต้ ปัจจุบันอายุ56ปี


       

        และเมื่อที่หลินเฟ่งขอออกจากวังเขาก็ได้คัดค้านอยู่หลายครั้งหลายคราวแต่เพื่อการคัดค้านไม่ได้ผลเขาจึงไม่คัดค้านอีกต่อไปเพียงแต่เขาได้เสนอที่ดินจำนวน 10ไร่ติดริมทะเลให้แก่หลินเฟ่ง ซึ่งที่ดิน10ไร่ที่เขาเสนอก็คือที่ดินที่ใช้สร้างบ้านและคอกม้าของหลินเฟ่งในปัจจุบัน



               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×