ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เส้นทางสู่ตำแหน่งมเหสี

    ลำดับตอนที่ #5 : ไท่ถังฮ่องเต้

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 64


    หลังจากหลินเฟ่งและหลินหลี่ได้รับประทานข้าวที่พระราชวังแล้วได้ขอตัวกลับบ้านของหลินเฟ่งที่อยู่ภาคตะวันออกของเมืองเสฉวน


    "แม่หนูน้อย?เจ้าเห็นลูกชายฉันแล้วรู้เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ?!" ถึงบ้านของหลินเฟ่งเธอได้ให้หลินหลี่ไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายจนเสร็จจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงมีเล่ห์เหลี่ยมภายในใจ


    "เอ่อ...เขาก็ดูดีดูเหมาะสมกับตำแหน่งฮ่องเต้นิค่ะ?" นั่งเล่นบนเก้าอี้ข้างเตียงของหลินเฟ่งต่างคนต่างพูดคุยถามไท่เรื่องต่าง ๆ ตามภาษาผู้หญิงด้วยกัน จนดึกถึงพากันเข้านอน


    "หลินหลี่?เรามาปล่ำลูกกันเถอะ?ห๊ะ?!!ว่าไรนะ อย่า!!!?" เธอสะดุ้งตื่นจากฝันด้วยใบหน้าที่เขินอาย


    "ทำไหมอยู่ดีๆถึงได้ฝันแบบนี้ได้ล่ะ?!" นั่งคึดภายในใจว่าทำไหมตัวเองถึงได้ฝันเรื่องราวแบบนั้นไปได้


    "หรือเป็นเพราะ?ไม่นร้าาา!!!?" คึดภายในใจว่าเหตุใดถึงฝันพอย้อนคึดกลับไปเมื่อตอนอยู่ในพระราชวังเธอได้เสียจูบแรกไปให้กับไท่ถังฮ่องเต้เมื่อตอนที่ตัวเองสะดุดที่ห้องเสวย


    ย้อนกลับไปเมื่อตอนอยู่พระราชวัง


              "นั้นแม่ขอตัวกลับก่อนนะ?นี้มันก็ใกล้ค่ำแล้ว?" กำลังเดินออกจากห้องเสวยเพื่อลงไปขึ้นม้าที่ได้รอให้พวกเธอขึ้นอยู่หน้าตำหนัก



             "ช่วยด้วย!ค่ะ?" เสียงกรีดร้องดังทั่วตำหนักเหล่าขันทีและหลินเฟ่งตาตกใจกับสิ่งที่ปรากฎต่อหน้า คือหลินหลี่ล้มใส่ไท่ถังริมฝีมือของทั้งสองประกบกัน



             เธอรีบลุกขึ้นจากตัวของไท่ถังด้วยความเขินอาย "ขอโทษคะ?" เสียงขอโทษจากหลินหลี่ที่ดันจับมือไท่ถังล้มร่วมกันกับเธอ


       

             "แหม่!ลูกๆยังไม่แต่งงานกันเลยนะจ๊ะ?" ยิ้มแล้วเดินไปทางที่ม้าที่ถูกเตรียมไว้รอพวกเธอทั้งสองคน



           ย้อนกลับมาในปัจจุบัน


             "โถ่เอ่ย?ทำไหมต้องเก็บเรื่องที่ถูกจูบที่นั้นด้วยนะ?" ก้มหน้าอยู้บนเตียงนอนนึกแต่ภาพเหตุการณ์ที่ถูกจูบ



             นี้เป็นจูบแรกของหลินหลี่เนื่องจากเธอไม่เคยมีแฟนและไม่เคยคบกับใครมาก่อน เธอตั้งมั่นในการเรียนโดยไม่ได้สนใจเรื่องมีคู่ครองมากเท่าไหร่



            เช้าวันต่อมา



           หลินหลี่ตื่นจากที่นอนพบว่าหลินเฟ่งไม่ได้นอนอยู่ร่วมกับตนแตากลับไปทำอาหารเช้าที่ห้องครัวในบ้านอย่างสนุกสนานสำราญใจ


            พวกเธอทั้งสองคนได้นั่งกินข้าวด้วยกันอย่างมีความสุขได้สักพักหลินหลี่ได้สังเกตุว่าผู้เฒ่าหลินเฟ่งช่องมองเธออย่างไม่ละสายตา



             "ทะ ท่าน?มองอะไรตัวฉันหรอค่ะ?" หลินหลี่



             "เปล่าจ๊ะ?ฉันแค่ตรวจลักษณะรูปร่างเธอว่าจะเป็นยังไงต่อไป?" หัวเราะปนยิ้มพร้อมอธิบายเหตุที่ช่องมองเธออย่างไม่ละสายตา



             "ละ แล้วดิฉันจะเป็นยังไงต่อหรอคะ?" ตาตื่นตาโตกับคำตอบของหลินเฟ่ง ทั้งอยากทราบว่าตัวเองจะเป็นยังไงต่อไป



             "ฉันตรวจแล้ว?พบว่ามีราษีมงคล ต่อไปเจ้าจะได้เป็นที่เคารพรักนับถือของเหล่าประชาชนและเจ้ายังจะเป็นพระมารดาของฮ่องเต้ที่ทรงปรีชาสามารถปกครองอาณาจักรและราชวงศ์ให้เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดในประวัติศาสตร์" หลินเฟ่ง


           

           ราษีมังกร คนจีนเชื่อกันว่ามีเป็นราษีที่ยิ่งใหญ่บารมีกว้างใหญ่ไพศาล



           "ฉันมีเรื่องจะถามค่ะ?ว่าฮ่องเต้ไท่ถังประสูติเมื่อไหร่กับใครแล้วท่านมีลูกกี่คนค่ะ?!" หลินหลี่


     

           "เฮ้อ!ก็ได่"



            ไท่ถังฮ่องเต้ เดิมคือองศ์ชายยี่สิบเจ็ด เป็นพระราชโอรสลำดับที่27 และเป็นพระราชโอรสลำดับที่4ในพระราชมารดาหลินเฟ่งหรือไท่หลินถังเฟ่งหรือ หลินไท่ถังหรือไท่ถัง มีพระเชษฐาและพระอนุชาร่วมพระมารดาเดียวกันสององศ์คือ องศ์ชายสิบแปดและองศ์ชายยี่สิบเก้า


              องศ์ชายไท่ถังทรงได้เข้าศึกษาตำราพิชัยสงครามต่าง ๆ การบริหาร การปกครอง



               เมื่อปลายรัชกาลไท่กงฮ่องเต้ที่ 23 โดยที่พระองศ์ได้ทรงวินิจฉัยแล้วเห็นว่าสมควรแก่การแต่งตั้งองศ์รัชทายาทเพื่อขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์องศ์ต่อไป


             

               เมื่อแรกต้นรัชกาลไท่กงฮ่องเต้ได้ทรงแต่งตั่งองศ์ชายสามดำรงตำแหน่งพระอุปราชตั้งแต่ปีที่หนึ่งของรัชกาลจนถึงไท่กงฮ่องเต้ปีที่ 17 พระอุปราชได้ประชวรเป็นไข่ทรพิษจนสิ้นพระชนด้วยพระชันษาเพียง31ชันษาและตำแหน่งอุปราชก็ได้วางเว้นลงไประยะหนึ่งจนถึงปลายรัชกาล



              สืบด้วยเนื่ององศ์ชายไท่ถังชำนาญการศึก ตำราพิชัยสงคราม การบริหารและการปกครอง ไท่ถังฮ่องเต้จึงตัดสินพระทัยแต่งตั้งพระราชโอรสอันประสูติจากเจ้าจอมมารดาหลินเฟ่งขึ้นดำรงตำแหน่งอุปราชสืบราชย์สมบัติต่อเป็นฮ่องเต้ลำดับที่17 แห่งราชวงศ์ไท่


             และเมื่อได้ขึ้นครองราชย์สมบัติแล้วได้สถาปนาพระอิสริยศฉันในฐานะเป็นเจ้าจอมหลินเฟ่งขึ้นเป็น พระราชมารดาเธอ หลินเฟ่ง พระราชเทวีอยู่ในพระอิสริยศนี้นานถึง3ปีจึงขอพระราชทานถอดถอนพระฐานัดดรศักดิ์เพื่อกลับไปใช้ชื่อและแซ่ตามเดิมว่า หลินเฟ่ง แต่ด้วยความกตัญญูธิคุณแด่พระราชโอรสและพระราชมารดา จึงยังให้ใช้พระยศพระราชมารดาหลินเฟ่งหรือหลินเฟ่ง แซ่หลิน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×