เส้นทางสู่ตำแหน่งมเหสี

ลำดับตอนที่ #4 : อ่องสิบแปด

        “เสด็จแม่?ท่านมาที่นี้ตอนไหนกัน?แล้วหญิงผู้หญิงคือใครกัน?” รีบคว้ามือของหลินเฟ่งเพื่อพาไปนั่งบนเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้แล้วช่องมองดูหลินเฟ่งด้วยความสงสัยและประหลาดใจที่เธอแต่งกกายประหลาดกว่าคนในปัจจุบัน

       “อ้อ?หญิงผู้นี้คือหลานสาวของอ่องสิบแปดที่ประสูติกับพระชายาเลียวนะ?เธอมีอายุ27ปีพอๆกันกับอายุลูกเลย?” ตอบคำถามแทนหลินหลี่

     “แล้วเหตุใดถึงแต่งกายอย่างนี้ล่ะ?แปลกประหลาดยิ่งนัก?” 

 .

     “เอ่อ…?อ้อเธอพึ่งกลับมาจากรัฐเซียน่ะ?พ่อของเจ้าส่งเธอไปเรียนที่นั้นตั้งแต่เธอมีอายุเพียง7ปีจนเธอได้กลับมานี้ไง แม่ถึงพาเธอมาทักทายเจ้า ส่วนการแต่งตัวของเธออาจจะแปลกประหลาดกว่าคนในอาณาจักรเรานะ?”

     เหตุผลที่หลินเฟ่งต้องโกหกเนื่องจากต้องการปิดบังไม่ให้ใครรู้มากและเพื่อไม่ให้เกิดความสงสัยของเหล่าขุนนางและประชาชนในเมืองถึงได้อ้างว่าเป็นหลานสาวของอ่องสิบแปด

     อ่องสิบแปดเป็นพระเชษฐาลำดับที่8 โดยเกิดวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.1146 ส่วนไท่ถังฮ่องเต้ประสูติวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.1160 ปัจจุบันมีพระชันษา41พรรษาและ27พรรษา โดยไท่ถังฮ่องเต้มีพระพรรษาน้อยกว่าฮ่องสิบแปดถึงสิบสี่ปี

     "ขันทีฟานจงไปนำเสื้อผ้าหลวงมาที?"สั่งเสียงดังสนั่นห้องเหล่าขันทีต่างตกใจรีบพากันไปนำเสื้อผ้ามามอบ

     "อ่ะ?นี้ข้าให้มอบให้?จงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าของเจ้าเถอะ!เดวคนเหล่านี้จะว่าเจ้าประหลาดนะ" มอบชุดเสื้อผ้าให้หลินหลี่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

     หลินหลี่ขอตัวออกไปสวมชุดที่ไท่ถังมอบให้เมื่อสวมชุดเสร็จได้เดินออกมาทุกคนในห้องต่างต้องอ้างปากค้างถึงกับอึงกับความงามของเธอและเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่อยู่ เนื่องจากชุดที่เธอสวมมีลายดอกไม้สวยงามล้วนเป็นดอกไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมส่วนพื้นสีผ้าเป็นสีแดงโดยปักษ์เป็นรูปดอกไม้

      "งาม งามนัก?"เสียงเหล่าขันทีที่ยืนช่องมองดูลำตัวและเครื่องเสื้อแต่งกายของเธอที่เต็มไปด้วยเครื่องเพชรมินจินดาสวยงามมากมาย

     สองแม่ลูกต่างได้ถามไถ่ซึ่งกันและกันโดยที่หลินหลี่ขอตัวเดินออกไปข้างนอกห้องที่ประทับโดยเธอเดินไปยังโรงครัวของพระราชวังโดยการถามไถ่กับนางกำนันที่อยู่บริเวณนั้น

    ที่โรงครัวต่างวุ่นวานกับการปรุงอาหารเพื่อขึ้นถวายโดยมีอาหารหลักอยู่5เมนูประกอบด้วย  เป็ดต้มซุป เป็ดย่างไฟ แกงซุปต่างๆ

     เมื่อเหล่าพ่อครัวเห็นหลินหลี่เดินเข้ามาต่างตกใจในความงามของชุดและตัวของหลินหลี่ทุกคนต่างเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและด้วยความที่อยากรู้จักกับเธอ

    "หนีห่าว!ทะ ท่านเป็นใครกัน?เหตุใดถึงได้มาเดินที่โรงครัวได้ขอรับ?" พ่อครัวเก๋อหลานถามไถ่ที่มาชื่อเสียงเรียกนามของเธอ

     "ฉะ! ฉันชื่อหลินหลี่คะ?ปะ เป็นหลานสาวของหลินเฟ่ง?" ตกใจที่พ่อครัวเดินเข้ามาทักพูดคุยกับเธอแม้ตนเองจะกำลังวุ่นวายอยู่ด้วยก็ตาม

     "เอ๊ะ?หลานสาวหลินเฟ่ง?!! สะ!! แสดงว่าทะ ท่านก็เป็นเชื้อพระวงศ์แถมยังเป็นถึงหลานสาวของพระมารดาขององศ์ฮ่องเต้นะสิ?กระหม่อมมีตาหามีแววไม่!ขอพระราชทานอภัยโทษด้วยพะนะคะ?!" เมื่อรู้ว่าคนที่ตนยืนคุยและได้เข้าไปทักทายด้วยเป็นถึงเชื้อพระวงศ์แะละเป็นถึงหลานของพระมารดาของฮ่องเต้จนตกใจไม่มีอันจะทำอะไร ได้ก้มลงหมอบกราบตัวสั่น

    "รีบลุกขึ้นเถอะคะ?ดิฉันเดินผ่านมาทำให้งานของพวกท่านต่างได้รับความเดือดร้อน ฉันควรเป็นฝ่ายขอโทษมากกว่าคะ?"รีบก้มลงไปพยุงบริเวณไหล่ของพ่อครัวให้ลุงขึ้นที่กำลังหมอบกราบอยู่นั้น

    "ข้าอภัยให้เจ้า ลุกขึ้นเถอะคะ?" บอกให้เหล่าพ่อครัวลุกขึ้นจากพื้นที่กำลังก้มลงหมอบกราบพื้นอยู่ในขณะนี้

    ฝากติดตามผลงานด้วยนะครับ

สามารถติชมได้เลยนะครับ...

โปรดติดตามตอนต่อไป.......