ตอนที่ 43 : 8.4
ริมฝีปากบางสั่นระริกจนต้องขบเอาไว้ มัญชุลิกาหันไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้มยุรินเห็นเธอในสภาพแบบนี้ ถึงแม้จะเคยระแคะระคายมาก่อนว่าทำไมมยุรินถึงได้ดูหึงหวงในตัวลวรรษนัก แต่เธอก็ไม่คิดมาก่อนว่าลวรรษจะมีอะไรกับมยุรินซึ่งเป็นแม่บ้านด้วยอีกคน
“แรกๆ เธออาจจะรับไม่ได้ แต่ต่อไปเธอก็จะชิน”
“ในเมื่อคุณรู้แล้ว ทำไมคุณยังทนอยู่ที่นี่อยู่อีก”
“ก็เพราะฉันรักเขาไง ฉันรักคุณลัน”
คำพูดของมยุรินเปรียบเสมือนมีดบาดหัวใจของเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ลงมีดทีเดียวให้ดาวดิ้นแต่ค่อยๆ กรีดทีละน้อยๆ จนเป็นริ้วรอยไปทั่วทั้งดวง
“เจ้านกยูงพวกนี้ก็เหมือนกัน คุณลันเลี้ยงไว้ให้ฉัน เพราะชื่อฉันมันคล้องกับเจ้าสี่ตัวนี่ ฉันเองก็ไม่ได้ชอบพวกมันหรอกนะ แต่ก็ต้องรับเอาไว้ไม่ให้คุณลันเสียน้ำใจ”
มยุรินยิ้มในหน้าเมื่อเห็นใบหน้าหวานของมัญชุลิกาซีดเผือดลงต่อหน้าต่อตาของเธอ
‘ผู้หญิงอย่างแกยังห่างไกลคนอย่างฉันอีกเยอะ แค่นี้แกก็หัวใจแทบพังทลายอยู่แล้วนังนกยูง’ มยุรินคิดก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นทิ้งให้มัญชุลิกามองเจ้านกยูงทั้งสี่ตัวด้วยน้ำตา มือบางกุมสร้อยที่ร้อยแหวนวงน้อยเอาไว้แน่น ความอิ่มเอมหัวใจที่พองโตคับอกจากเมื่อคืนนั้นในตอนนี้โดนบีบจนแทบไม่เหลืออากาศให้หายใจ มัญชุลิกาเดินกลับมาถึงห้องพักของตัวเองด้วยความเหนื่อยอ่อน เหนื่อยกายไม่เท่าไรแต่เหนื่อยหัวใจที่เธอกำลังเผชิญอยู่นี่มันหนักหน่วงเหลือเกิน เท้าเล็กชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นรถคันใหญ่เลี้ยวเข้ามา ทันทีที่เห็นร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่ง มัญชุลิกาก็ต้องฝืนยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้หญิงสาวที่เดินเข้ามาใหม่
“สวัสดีค่ะคุณชงโค”
“สวัสดีจ้ะนกยูง ได้ข่าวว่าเจ้านายนกยูงไม่สบาย ฉันเลยมาเยี่ยม”
มัญชุลิกายิ้มเพียงเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือเข้าไปช่วยถือปิ่นโตที่ชงโคเตรียมมาเยี่ยมลวรรษ
“มาค่ะ เดี๋ยวนกยูงถือไปให้คนในครัวจัดออกมาให้ คุณชงโคจะรับด้วยไหมคะ”
ชงโคพยักหน้า
“ขอบใจนะ”
มัญชุลิกายิ้มให้อีกนิดก่อนจะเดินเข้าไปในครัว เพียงแค่เธอเดินเข้าไปในนั้นคนงานที่อยู่ในครัวเงียบกริบทันทีมีเพียงจำปีคนเดียวที่เดินเข้ามาใกล้เธอพร้อมกับกอดอกมองเธอด้วยแววตาเหยียดหยัน
“ตัวจริงเขามาแล้ว ตัวปลอมอย่างเธอก็ควรเป็นแบบนี้แหละ”
“จำปี”
มยุรินปรามจำปีเสียงเข้มก่อนจะส่งยิ้มให้มัญชุลิกาเล็กน้อยพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวที่ยืนจัดการกับปิ่นโตของชงโค
“นกยูงเขารู้แล้วว่าเขาเป็นได้แค่ของเล่น ไม่เห็นจะต้องตอกย้ำอะไรเลย”
คำพูดของมยุรินทำให้จำปีที่เงียบไปเพราะคิดว่าคุณแม่บ้านเอ็ดเธอหัวเราะออกมา เมื่อรู้แล้วว่าแท้ที่จริงทำไมคุณแม่บ้านถึงห้ามไม่ให้เธอพูดแบบนั้น ในขณะที่คนฟังเม้มเรียวปากตัวเองแน่นพยายามสนใจกับโจ๊กตรงหน้าเพียงอย่างเดียว
“ตายแล้ว มือเธอเปื้อนน่ะนกยูง ไปล้างมือก่อนสิ เดี๋ยวที่เหลือฉันจะให้จำปีจัดการให้”
ถึงแม้จะไม่รู้วัตถุประสงค์ของมยุรินแต่ตอนนี้เธอต้องการที่จะอยู่คนเดียวสักครู่ มัญชุลิกาเลยไม่เกี่ยงที่จะทำตามคำพูดของแม่บ้านสาว มยุรินต้องการอะไรกันแน่...เหมือนจะเห็นใจเธอแต่ก็ลอบกัดทุกครั้งที่มีโอกาส
“นังจำปีไปหยิบน้ำปลามาสิ”
“น้ำปลาเอามาทำไมคะคุณแม่บ้าน โจ๊กนี่ไม่อร่อยหรือคะ”
“นังโง่ ฉันบอกให้ไปหยิบก็ไปหยิบมา อย่าถามมาก”
“ค่ะ...ค่ะ”
สาวอวบรีบเดินไปหยิบน้ำปลาก่อนจะส่งให้คุณแม่บ้าน ดวงตาของจำปีเบิกกว้างเมื่อเห็นมยุรินเทน้ำปลาใส่ถ้วยโจ๊กถ้วยหนึ่งแบบไม่ยั้งก่อนจะคนให้โจ๊กกับน้ำปลาเข้ากัน ทุกคนในครัวทำสีหน้าเหมือนเดิมทุกอย่างเมื่อเห็นมัญชุลิกาเดินออกมาจากห้องน้ำ
“ยกไปได้แล้วเดี๋ยวคุณลันจะคอย ถ้วยนี้ของคุณลัน ไม่ใส่กระเทียมเจียวส่วนถ้วยนี้ของคุณชงโค”
จำปาอ้าปากหวอทันทีเมื่อเข้าใจในสิ่งที่มยุรินทำ ถ้วยที่ใส่น้ำปลานั่นคือถ้วยของชงโค คุณแม่บ้านเธอต้องมีแผนจัดการนังนกยูงอีกแน่ๆ เสียงภายในห้องอาหารหยุดคุยกันทันทีที่เห็นมัญชุลิกายกอาหารออกมา
“ยกมาเองเลยหรือจ้ะนกยูง”
“ค่ะ”
หญิงสาวตอบพร้อมกับก้มหน้านิ่งไม่มองผู้ชายอีกคนที่คอยมองเธออยู่ ลวรรษออกจะแปลกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นมัญชุลิกายกอาหารออกมาเองทั้งอีกยังก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองเขาสักนิด คิดไปคิดมาอารมณ์ของชายหนุ่มก็เริ่มกรุ่นขึ้นมาบ้าง
“กินเถอะครับ ชงโค”
ชงโคยิ้มรับคำพูดของลวรรษก่อนจะยกช้อนขึ้นมาตักอาหารของตัวเองเพียงแค่ช้อนที่ตักโจ๊กเข้าปากเพียงแค่นั้นใบหน้าหวานของชงโคถึงกับเหยเกพร้อมกับหยิบแก้วน้ำมาดื่มอึกใหญ่
“เป็นอะไรครับ”
“โจ๊กมันเค็มมากเลยค่ะ ของลันเหมือนกันไหมคะ ตอนทำชงโคชิมแล้วว่ามันไม่เค็มแบบนี้นี่คะ แต่ทำไมตอนนี้มันถึงได้เค็มเหมือนกับกินน้ำปลา”
คิ้วหนาของลวรรษขมวดเข้าหากันทันทีก่อนจะใช้ช้อนตัวเองตักโจ๊กในชามของชงโคมาชิม ใบหน้าคมเข้มก็ต้องนิ่วหน้าทันทีเมื่อรสชาติเหมือนที่ชงโคพูดไม่มีผิด ในขณะที่มัญชุลิกากลับสงสัยเพราะเธอเอาออกจากปิ่นโตก็ไม่ได้ใส่อะไรเติมลงไปเลย
“คุณยุริน... คุณยุริน!”
ลวรรษตะโกนเสียงลั่นเรียกมยุรินที่เตรียมตัวไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว คุณแม่บ้านสาววิ่งออกมาด้วยหน้าตาตื่นมองลวรรษเป็นเชิงถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“ใครเป็นคนเตรียมโจ๊กชามนี้”
“ทำไมหรือคะคุณลัน”
“ผมถามว่าใครเตรียมโจ๊กชามนี้”
มยุรินเงียบกริบไปครู่ใหญ่เมื่อได้ยินเสียงเข้มของลวรรษตะโกนถามออกมา ใบหน้าของชายหนุ่มในตอนนี้ไม่ต่างจากมัจจุราชสักเท่าไร
“นังนกยูงค่ะ จำปีเห็นกับตา”
สายตาคมกริบของลวรรษตวัดไปมองมัญชุลิกาเขม็ง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวพร้อมกับเค้นเสียงถามคนที่ยืนนิ่งทันที
“เธอเป็นคนจัดโจ๊กชามนี้ใช่ไหม”
“ค่ะ”
“ทำแบบนี้หมายความว่าไง เธอจงใจแกล้งคุณชงโคใช่ไหม”
“ไม่ใช่นะคะ นกยูงไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น นกยูงแค่เทโจ๊กใส่ชามเท่านั้นเองไม่ได้เติมอะไรทั้งสิ้น”
“ยังมีหน้ามาแก้ตัวอีกนะ ฉันคิดมาตลอดเวลาว่าเธอจะกลับตัวกลับใจคิดดีขึ้นมาบ้าง แต่ฉันลืมคิดไปว่าผู้หญิงอย่างเธอคงคิดไม่เป็น”
มัญชุลิกามองลวรรษอย่างตกตะลึงไม่คิดว่าผู้ชายที่กกกอดเธอมาทั้งคืนจะพูดจากล่าวหาเธอได้ขนาดนี้
“พี่ลัน...นกยูงไม่ได้ทำนะคะ”
“ถ้าเธอไม่ได้ทำแล้วใครจะทำ ในเมื่อกล้าทำก็กล้ายอมรับเถอะ”
“ลันคะ ชงโคว่าเราพูดกันดีๆ ก็ได้นะคะ”
ชงโคมองคนที่โดนปรักปรำด้วยแววตาสงสาร เธอเชื่อในสิ่งที่นกยูงพูด แต่จะเป็นใครที่ผลักความผิดอันนี้ให้นกยูงเธอก็สุดจะเดา แต่ลวรรษก็ไม่ได้ฟังคำพูดของชงโคแม้แต่น้อย ร่างสูงเดินไปหยิบถ้วยโจ๊กที่เหลืออยู่เต็มถ้วยมาวางตรงหน้ามัญชุลิกาอย่างแรงจนโจ๊กกระฉอกออกมานอกถ้วยเล็กน้อย
“ทีนี้ชงโคก็รู้แล้วใช่ไหมว่าผู้หญิงคนนี้เชื่อถือไม่ได้ ชงโคดีกับเขาสักเท่าไรเขาก็ไม่สำนึกหรอก เพราะฉะนั้นเลือกเอาว่าจะกินโจ๊กนั่นให้หมดหรือว่าจะออกไปจากไร่ของฉัน”
หยาดน้ำตาไหลอาบแก้มของมัญชุลิกาทันที หญิงสาวมองสบตาลวรรษด้วยแววตาตัดพ้อ ริมฝีปากบางสั่นระริกจนต้องเม้มขบเอาไว้แน่น น้อยใจผู้ชายตรงหน้าเหลือเกินที่ไม่เคยเชื่อในตัวเธอสักนิดเดียว ผู้ชายคนนี้ที่กอดเธอมาทั้งคืน ผู้ชายคนนี้ที่มองเธออย่างเว้าวอนยามที่เธอจะออกจากห้องของเขา หยาดน้ำตาไหลรินลงมาหยดแล้วหยดเล่า แต่ลวรรษหาได้สนใจไม่ สายตาของเขามีแต่ความโกรธเกรี้ยวมองเธอราวกับเธอทำความผิดมหันต์
![]() |
|
![]() |
|
17 ความคิดเห็น
-
#4 puynaruk2499 (@puynaruk2499) (จากตอนที่ 43)วันที่ 19 สิงหาคม 2562 / 20:44เมื่อไหร่จะเข้าใจกัน#40