คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่สาม รอสมูน
บทที่สาม รอสมูน
เช้าวันต่อมาเป็นเช้าวันอาทิตย์ “ เอาล่ะเซเนเรส เคอา วันนี้เราจะช่วยกันทำความสะอาดโบสถ์ให้เสร็จถึงจะกลับบ้านกัน ” เอลลิสพูด “ก่อนแรกเราจะไปทำความสะอาดที่ห้องใต้ดินก่อนก็แล้วกัน ” ว่าแล้วทั้งสามก็ลงไปที่ห้องใต้ดินและแยกทางกันทำความสะอาด
เมื่อเอลลิสเดินไปสุดห้องใต้ดินก็เห็นประตูบานเก่าแก่ ฝุ่นจับเขรอะเอลลิสยกมือขึ้นหมายที่จะจับที่บานประตูนั้น “ เอลลิส ”เสียงตะโกนของเคอาดังขึ้นจากอีกฟากหนึ่งของห้องใต้ดิน ต่อมาเสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ มานี่ ” เมื่อเสียงนั้นพูดจบไป เอลลิสก็พูดตอบว่า “ จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะ และเธอก็เดินจากประตูไปหาเจ้าของเสียงนั้น “ แค่กๆๆนั่มันอะไรกันล่ะเนี่ย ” เธออุทาน เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คือบรรดาฝุ่นที่ฟุ้งกระจายเต็มไปหมดจนมองไม่เห็นทางข้างหน้า “ ว้าย ” เสียงของสาวน้อยดังขึ้น เพราะในขณะที่เธอเดินอยู่เธอได้สะดุดอะไรบางอย่าง และเมื่อเธอล้มลงไปศรีษะของเธอซบไปที่อะไรบางอย่าง ทั้งอุ่น มีเสียงตึกตักเป็นจังหวะ พอฝุ่นจางลงไป
ปรากฏว่าเธอกำลังซบอกของเคอาอยู่ “ อูย อะไรกันอีกล่ะเนี่ยยัย --- “ เขาหยุดกึกเมื่อเห็นร่างบางของสาวน้อยที่นอนซบอกของตนอยู่ตรงหน้า “ ขอโทษที ฉันไม่ได้ตั้งใจ ” เอลลิสลุกขึ้นและพูด “ ไม่เป็นไร ” ในขณะที่เขาพูดเอลลิสสังเกตว่าเขาหน้าออกแดงเรือๆ เขากำลังอายเหรอเนี่ย เอลลิสคิดในใจและหัวเราะออกมาเบาๆ “ หัวเราะอะไร ” เขาถามเสียงแข็งกร้าว “ ก็ไม่อะไรหรอก ” เอลลิสก็ตอบเสียงเรียบๆ ทั้งที่ยังแอบขำอยู่ในใจ “ อ้าว มีอะไรกันหรือ ” ขายหนุ่มเซเนเรสเทวดาดวงตาสีฟ้าครามเดินมาพร้อมกับพูด “ ไม่มีอะไร ” ทั้งสองพูดพร้อมกัน “ แล้วนั่นอะไร ” เซเนเรสพูดพลางชี้ไปที่ข้างๆตัวของเคอา นั่นคือห่อสีน้ำตาลที่มีแสงออกมาเคอาจึงหยิบขึ้นเปิดออก ข้างในนั้นเป็นหินก้อนกลมผิวเรียบเนียนสีอำพันเหลืองใสแถมเรืองแสงสีทองออกมาด้วย “ ทีนี้จะอะไรกันล่ะ ” เอลลิสบ่นเธอหยิบหินนั้นขึ้นมา วู้ม! แสงนั้นสว่างจ้าขึ้นและ
.วูบ! แสงก็หายไป แต่หินนั้นก็กลายเป็นรูป พระจันทร์เสี้ยวสลักชื่อไว้ว่า ALLIS นั่นคือชื่อของเธอนั่นเอง “ อะไรอีกล่ะ ทำไมมันเปลี่ยนไป แถมมีชื่อของฉันด้วยอีก ” เอลลิสบ่น “ ไหนขอดูหน่อย ” เซเนเรสพูดพร้อมกันรับหินนั้นมาจากมือของเอลลิส “ เฮ้ย นี่มัน รอสมูน นี่ ” เซเนเรสอุทาน เป็นครั้งแรกที่เอลลิสเห็นหน้าของเซเนเรสตกใจ ที่นอกจากหน้าตาเข้มขรึมตลอดเวลาของเขา ต่อมาเอลลิสก็ถามขึ้นว่า “ แล้วไอ้รอสมูนนี่คืออะไรหินสวรรค์ มีอนุภาคชั้นเลิศในการดึงพลังของคนที่ได้ครอบครองออกมาใช้ ” เมื่อเขาพูดจบ เอลลิสก็อ้าปากจะพูดแต่ “ ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยขึ้นจากห้องใต้ดินของโบสถ์นี้แล้วกลับไปที่บ้านก่อนเถอะ มีอะไรต้องหาอีกเยอะแยะ ” หลังจากที่เซเนเรสพูดจบเขาก็เดินอย่างรีบร้อน ขึ้นไปข้างบนพร้อมกับคืนหินให้เอลลิสและเดินกลับไปที่บ้าน “ โอย รอด้วยสินี่เจ้าเซเนเรสทำไมต้องเดินจ้ำอ้าวขนาดนี้มีอะไรหรือกับหินนั่น ” เคอาบ่น แต่ไม่ทันเสีย เซเนเรสเดินไวจนทั้งสองตามไม่ทัน “นี่ยัยตัวแสบเดินไวๆหน่อยไม่ได้หรือไง ” แต่พอเขาหันมาก็เห็นสาวน้อยร้องโอดครวญอยู่ “ เฮ้ เป็นอะไรรึเปล่าน่ะ” เขาถาม “ ก็ขาแพลงนิดหน่อยเท่านั้น ”สาวน้อยเอลลิส ตอบ “ งั้นก็กลับบ้านเองละกัน ” เคอาพูดแล้วก็เดินจากไป “ หนอยไอ้เทวดาบ้าไม่เป็นสุภาพบรุษเลย แล้วจะกลับบ้านยังไงเนี่ย ถ้าบินได้ก็ดีสิ ” เอลลิสบ่น ทันใดนั้นก็เกิด
วู้ม! หินสีอำพัน รอสมูนของเธอได้เรืองแสงขึ้น ตัวของสาวน้อยค่อยๆลอยขึ้น “ กรี้ด ~” เสียงของสาวน้อยเอลลิสกรีดร้อง ทำให้เคอาที่แอบอยู่ตรงกำแพงรีบรุดออกมา และเมื่อเห็นร่างของสาวน้อยค่อยๆลอยขึ้น แว่บ! ปีกสีดำงอกออกมาในทันใด ปีกนั้นกางออกและโผทะยานสู่ฟ้าอย่างรวดเร็ว เพื่อไปจับร่างของสาวน้อยไว้ “ ช่วยด้วย ๆ ” เธอร้องเรียกหาคนช่วย แต่เหมือนกับฟ้ากลั่นแกล้งเมื่อเขาจะไปจับมือของเธอ ดูเหมือนว่าลมจะพัดเธอไป
ในขณะที่ทั้งสองกำลังวุ้นอยู่นั้นเซเนเรสก็กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดตำราสวรรค์ของเขา มันเขียนไว้ว่า รอสมูน หินสีอำพัน เมื่อพบจะมีการทำพันธสัญญาระหว่างเจ้าของกับหินโดยสลักชื่อไว คุณสมบัติ คือ เมื่อต้องการพลัง พลังที่ถูกซ่อนก็จะถูกดึงออกมา ข้อแนะนำ จะไม่มีปฏิกริยากับผู้ที่ไม้มีพลังอยู่ในกาย เมื่อเขาอ่านจบแล้วก็จึงรีบวิ่งออกมาเพื่อที่จะไปหาทั้งสองแต่
ทั้งสองได้ลอยอยู่บนบ้านแล้ว “ เฮ้ย ขึ้นมาช่วยกันหน่อยดิเร็วๆ ด้วยเดี๋ยวยัยนี่จะปลิวไปอีก” เคอาตะโกนจากข้างบน ทันใดนั้นปีสีขาวก็กางออกและโผทะยานสู่ท้องฟ้า เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วที่ร่างของเอลลิสลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ “ ช่วยทีเถอะ ทนไม่ไหวแล้ว ” เอลลิสบอก “ อะไรกันปวดขาจนทนไม่ไหวเราะ โถ่ แค่นี้ก็ทนไม่ได้ ” เคอาพูด “ เปล่าซักหน่อยแค่
หิวข้าวน่ะ ” เอลลิสครวญคราง จริงสินี่ก็มือแล้วถ้ายังเป็นแบบนี้ไปถึงเช้าแย่แน่ๆ เซเนเรสคิด “ เอลลิส ลองพูดว่าไม่ต้องการพลังแล้วดูสิ ” เซเนเรสพูด เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอก็พูดว่า “ พลังอย่างนี้น่ะไม่ต้องการแล้ว ” หลังจากเอลลิสพูดจบ “ กรี้ด ~ ” เอลลิสกรีดร้องสุดเสียง เพราะหลังจากที่เธอพูดจบร่างของเธอก็ร่วงลงไปขนนกสีขาวใหญ่มโหฬารเหมือนเปล รองรับเธออยู่ “ โอย ทีนี้อะไรอีกล่ะเนี่ย ” แต่พอมองลงมาที่ข้างล่าง “ ว้าว สวยจังวิวเมืองในกลางคืนแบบนี้น่ะ ” เอลลิสพูดพลางเหม่อมองออกไปอย่างใจลอย “ เธอนี่ดูท่าจะบ้านะ เดี๋ยวก็บ่นเดี๋ยวก็คร่ำครวญ เดี๋ยวก็ขอให้ช่วย ” น้ำเสียงยียวนกวนประสาทของเคอาที่บินมาอยู่ข้างๆดังขึ้น “ ก็ใครกันล่ะทีไม่ยอมช่วยก่อนถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ” เอลลิสพูดประชด “ นี่เธอว่าฉันเหรอฮะ ยัยตัวแสบ วันๆไม่ทำอะไรดีแต่ก่อปัญหาให้คนอื่น ” เคอาพูดเสียงเข้มอย่างมีอารมณ์โกรธ “ หนอยแล้วใครให้นายยอมรับล่ะฮะ ไอ้เทวดาปากเสีย ” เอลลิสพูดย้อน หลังจากที่ทั้งสิงพูดกระทบกระทั่งกันจนเวลาล่วงเลยไปกว่าหนึ่งนาทีแล้ว เซเนเรสก็บินตามลงมา “ ไป กลับกันเถอะบอกว่าหิวข้าวไม่ใช่เหรอ ” เขาพูด “ ก็ได้ กลับกันเถอะ เชอะ ” พูดจบแล้วเอลลิสก็เชิดหน้าใส่เคอา “ แล้วจะลงไปยังไงล่ะ ” เอลลิสพูด “ ก็ยังงี้ไง ” เคอาพูดและดีดนิ้ว “ กรี้ด~” ร่างของเธอร่วงลงไปอีกครั้งเมื่อ เปลขนนกที่รองรับเธออยู่หายไป เซเนเรสรีบบินไปหาเอลลิสย่างรวดเร็ว เขารองรับร่างของเอลลิสเข้าสู่อ้อมแขนของตน “ เป็นไงบ้าง ” เขาถามเอลลิสที่หน้าแดงขึ้นทั้งอายเซเนเรสและโกรธเคอา “ ไม่เป็นไร ” เอลลิสตอบ “ ลงท่าสวยดีนี่ ” เคอาบินตามลงมาแล้วพูด “ นายนี่นะ จงร่วงลงไปซะ ” เอลลิสสั่ง โดยไม่นึกถึงว่ามันจะเป็นจริง ทันใดนั้นแสงของรอสมูนที่อยู่ในกระเป๋าก็วาบขึ้น เคอาร่วงลงสู่พื้นดิน “ จ้าก~ ” เขาร้อง พร้อมกับร่างของเขาที่ร่วงลงสู่พื้นดิน ตุบ!เสียงกระแทกของบั้นท้ายเคอาเมื่อเขาตกลงที่พื้น “ อูย เจ็บชะมัด ” เขาพูด “ นายนี่ก็ลงท่าสวยเหมือนกันนี่ ” เสียงของสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเซเนเรสที่พาเธอบินตามลงมา “ หนอยยัยตัวแสบ ” เอาเถอะรีบกลับกัน ” เขาพูดพร้อมกับวางเอลลิสลง แต่ก็ยังประคองเธอเนื่องจากขาที่แพลงและเจ็บแปลบๆของเธอ
เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้าน ประตูกลับเปิดไม่ออก “ ประตูบ้าหิวจะแย่อยู่แล้วอยากให้ประตูระเบิดซะจริง ” เธอพูด “ เฮ้ยเดี๋ยวก่อน ” เคอาอาพูดห้ามแต่ ตูม! ไม่ทันเสียแล้วประตูนั้นระเบิดกระเด็นออกไป “ เธอนี่นะใช้พลังไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ” เคอาบ่น
ในขณะที่ทั้งสองกำลังวุ้นอยู่นั้นเซเนเรสก็กำลังยุ่งอยู่กับการเปิดตำราสวรรค์ของเขา มันเขียนไว้ว่า รอสมูน หินสีอำพัน เมื่อพบจะมีการทำพันธสัญญาระหว่างเจ้าของกับหินโดยสลักชื่อไว คุณสมบัติ คือ เมื่อต้องการพลัง พลังที่ถูกซ่อนก็จะถูกดึงออกมา ข้อแนะนำ จะไม่มีปฏิกริยากับผู้ที่ไม้มีพลังอยู่ในกาย
เมื่อเขาอ่านจบแล้วก็จึงรีบวิ่งออกมาเพื่อที่จะไปหาทั้งสองแต่ ทั้งสองได้ลอยอยู่บนบ้านแล้ว “ เฮ้ย ขึ้นมาช่วยกันหน่อยดิเร็วๆ ด้วยเดี๋ยวยัยนี่จะปลิวไปอีก” เคอาตะโกนจากข้างบน ทันใดนั้นปีสีขาวก็กางออกและโผทะยานสู่ท้องฟ้า
เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงแล้วที่ร่างของเอลลิสลอยเคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ “ ช่วยทีเถอะ ทนไม่ไหวแล้ว ” เอลลิสบอก “ อะไรกันปวดขาจนทนไม่ไหวเราะ โถ่ แค่นี้ก็ทนไม่ได้ ” เคอาพูด “ เปล่าซักหน่อยแค่
หิวข้าวน่ะ ” เอลลิสครวญคราง จริงสินี่ก็มือแล้วถ้ายังเป็นแบบนี้ไปถึงเช้าแย่แน่ๆ เซเนเรสคิด “ เอลลิส ลองพูดว่าไม่ต้องการพลังแล้วดูสิ ” เซเนเรสพูด เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอก็พูดว่า “ พลังอย่างนี้น่ะไม่ต้องการแล้ว ” หลังจากเอลลิสพูดจบ “ กรี้ด ~ ” เอลลิสกรีดร้องสุดเสียง เพราะหลังจากที่เธอพูดจบร่างของเธอก็ร่วงลงไปขนนกสีขาวใหญ่มโหฬารเหมือนเปล รองรับเธออยู่ “ โอย ทีนี้อะไรอีกล่ะเนี่ย ” แต่พอมองลงมาที่ข้างล่าง “ ว้าว สวยจังวิวเมืองในกลางคืนแบบนี้น่ะ ” เอลลิสพูดพลางเหม่อมองออกไปอย่างใจลอย “ เธอนี่ดูท่าจะบ้านะ เดี๋ยวก็บ่นเดี๋ยวก็คร่ำครวญ เดี๋ยวก็ขอให้ช่วย ” น้ำเสียงยียวนกวนประสาทของเคอาที่บินมาอยู่ข้างๆดังขึ้น “ ก็ใครกันล่ะทีไม่ยอมช่วยก่อนถึงเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ” เอลลิสพูดประชด “ นี่เธอว่าฉันเหรอฮะ ยัยตัวแสบ วันๆไม่ทำอะไรดีแต่ก่อปัญหาให้คนอื่น ” เคอาพูดเสียงเข้มอย่างมีอารมณ์โกรธ “ หนอยแล้วใครให้นายยอมรับล่ะฮะ ไอ้เทวดาปากเสีย ” เอลลิสพูดย้อน หลังจากที่ทั้งสิงพูดกระทบกระทั่งกันจนเวลาล่วงเลยไปกว่าหนึ่งนาทีแล้ว เซเนเรสก็บินตามลงมา “ ไป กลับกันเถอะบอกว่าหิวข้าวไม่ใช่เหรอ ” เขาพูด “ ก็ได้ กลับกันเถอะ เชอะ ” พูดจบแล้วเอลลิสก็เชิดหน้าใส่เคอา “ แล้วจะลงไปยังไงล่ะ ” เอลลิสพูด “ ก็ยังงี้ไง ” เคอาพูดและดีดนิ้ว “ กรี้ด~” ร่างของเธอร่วงลงไปอีกครั้งเมื่อ เปลขนนกที่รองรับเธออยู่หายไป เซเนเรสรีบบินไปหาเอลลิสย่างรวดเร็ว เขารองรับร่างของเอลลิสเข้าสู่อ้อมแขนของตน “ เป็นไงบ้าง ” เขาถามเอลลิสที่หน้าแดงขึ้นทั้งอายเซเนเรสและโกรธเคอา “ ไม่เป็นไร ” เอลลิสตอบ “ ลงท่าสวยดีนี่ ” เคอาบินตามลงมาแล้วพูด “ นายนี่นะ จงร่วงลงไปซะ ” เอลลิสสั่ง โดยไม่นึกถึงว่ามันจะเป็นจริง ทันใดนั้นแสงของรอสมูนที่อยู่ในกระเป๋าก็วาบขึ้น เคอาร่วงลงสู่พื้นดิน “ จ้าก~ ” เขาร้อง พร้อมกับร่างของเขาที่ร่วงลงสู่พื้นดิน ตุบ!เสียงกระแทกของบั้นท้ายเคอาเมื่อเขาตกลงที่พื้น “ อูย เจ็บชะมัด ” เขาพูด “ นายนี่ก็ลงท่าสวยเหมือนกันนี่ ” เสียงของสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเซเนเรสที่พาเธอบินตามลงมา “ หนอยยัยตัวแสบ ” เอาเถอะรีบกลับกัน ” เขาพูดพร้อมกับวางเอลลิสลง แต่ก็ยังประคองเธอเนื่องจากขาที่แพลงและเจ็บแปลบๆของเธอ
เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้าน ประตูกลับเปิดไม่ออก “ ประตูบ้าหิวจะแย่อยู่แล้วอยากให้ประตูระเบิดซะจริง ” เธอพูด “ เฮ้ยเดี๋ยวก่อน ” เคอาอาพูดห้ามแต่ ตูม! ไม่ทันเสียแล้วประตูนั้นระเบิดกระเด็นออกไป “ เธอนี่นะใช้พลังไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ” เคอาบ่น
เมื่อมาถึงหน้าประตูบ้าน ประตูกลับเปิดไม่ออก “ ประตูบ้าหิวจะแย่อยู่แล้วอยากให้ประตูระเบิดซะจริง ” เธอพูด “ เฮ้ยเดี๋ยวก่อน ” เคอาอาพูดห้ามแต่ ตูม! ไม่ทันเสียแล้วประตูนั้นระเบิดกระเด็นออกไป “ เธอนี่นะใช้พลังไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ” เคอาบ่น
ความคิดเห็น