ดวงตาคู่สุดท้าย...แด่วารี - ดวงตาคู่สุดท้าย...แด่วารี นิยาย ดวงตาคู่สุดท้าย...แด่วารี : Dek-D.com - Writer

    ดวงตาคู่สุดท้าย...แด่วารี

    เพื่อน้องสาวเขาได้ทุกอย่าง แม้กระทั่ง...ฆ่าคน

    ผู้เข้าชมรวม

    538

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    538

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 มี.ค. 48 / 00:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ดวงตาคู่สุดท้าย...แด่วารี
          สองทุ่มเศษในซอยเปลี่ยวย่านชุมชนแออัด
      ผมเดินลัดเลาะไปตามซอยแคบๆ อย่างช้าๆ ด้วยความไม่ชินพื้นที่
      และแล้วผมก็มาถึงที่หมาย ซอยนี้เองที่เธอมักจะผ่านประจำ
      เด็กสาวท่าทางใจดีที่มีแววตาสดใสเหมือนกับน้องสาวผมไม่มีผิด
          
      ครั้งแรกที่ผมได้สบตาเธอ ความทรงจำในวัยเด็ก
      ที่ผมมักจะนึกถึงเสมอเกี่ยวกับน้องก็กลับมาอีกครั้ง
      ผมยังจำได้ดีเกี่ยวกับเหตุการณ์ในวันแรกที่แม่อุ้มวารีกลับมาที่บ้าน
      ตอนนั้นผมยังเด็กเกินว่าจะอุ้มเด็กทารกแรกเกิดได้แต่แม่ก็ยอมให้ผมสัมผัสตัวน้อง
      ผมกดนิ้วลงไปเบาๆ ที่แก้มนิ่ม วารีทำท่าเบะปากคล้ายกำลังจะร้องไห้
      อาการนั้นทำผมตกใจจนต้องถอยกรูดออกมา
      แต่แล้วแทนที่จะร้องแกกลับหัวเราะเหมือนขันในท่าทางของผม
      ผมจึงเข้าไปใกล้ตัวน้องอีกครั้งใช้นิ้วแตะเบาๆ ที่นิ้วมือเล็กจิ๋ว
      นิ้วมือของวารีเหยียดออกเล็กน้อยแล้วกำนิ้วของผมไว้แน่น
      ผมรู้โดยทันทีว่าน้องชอบผม ไม่อย่างนั้นแกคงไม่ดึงนิ้วผมไว้เหมือนไม่อยากให้ไปไหน
      นับตั้งแต่วินาทีนั้นผมก็บอกกับตัวเองว่าจะเป็นพี่ที่ดีและจะไม่รังแกน้องอย่างเด็ดขาด
          
      ทุกวันหลังจากกลับมาจากโรงเรียนผมจะมานั่งเกาะเปน้อง
      ไม่ก็นั่งมองดูน้องดูดนมจากอกแม่
      เวลาที่กินอิ่มวารีจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษแกจะไม่งอแงและยอมให้ผมเล่นด้วย
      เราสองคนไม่เคยทะเลาะกันเลยสักครั้ง ผมรักน้องมากและน้องก็รักผมด้วย
      เราสองคนเป็นพี่น้องที่รักกันยิ่งกว่าพี่น้องคู่ไหนๆ ในโลก
          
      ผมกับวารีใช้ชีวิตตามอัตภาพเรื่อยมา
      ถึงครอบครัวเราจะไม่ร่ำรวยแต่เราก็มีความสุข ผมเชื่ออย่างนั้นมาตลอด
      จนกระทั่งวันเกิดอายุ 10 ขวบของวารี วันนั้นไม่มีเค้ก ไม่มีงานฉลอง
      มีแต่เสียงร่ำไห้ของแม่และการจากไปของพ่อ พ่อทิ้งเราไปกับผู้หญิงคนอื่น
          
      วารีเห็นแม่ร้องไห้ก็ร้องไห้ตาม
      ผมได้แต่กอดแล้วปลอบน้องว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น
      แต่แล้วทุกอย่างกลับยิ่งแย่ลง แม่เอาแต่ดื่มเหล้าแล้วอาละวาดทุบตีผมกับน้อง
      ครอบครัวเปี่ยมรักของเรากลายเป็นอดีตแสนสุขที่ไม่อาจย้อนคืน
          
      ผมอดทนกับแม่ ทนเรียน ทนลำบากสารพัดจนจบปวช.
      ผมก็ไม่คิดจะเรียนต่อ ผมหางานทำตั้งใจทำงานเก็บเงินเพื่อส่งน้องเรียน
      วารีเป็นเด็กเรียนดี ผมจะทำทุกวิถีทางให้น้องได้เรียนจนจบปริญญา
      แกจะมีโอกาสชีวิตที่ดีกว่าผม
          
      พอวารีจบ ม.ต้น ก็มีเหตุทำให้ผมกับน้องต้องย้ายบ้านหนีตาย
      เราพี่น้องจำต้องจากบ้านที่เคยอยู่มาตลอดชีวิตไปเพราะเป็นหนี้เงินกู้นอกระบบ
      แม่ก่อหนี้ไว้มากมายโดยที่ผมไม่เคยรู้
      พอไม่มีเงินใช้แม่ก็หนีหายไปเฉยๆ ทิ้งผมกับน้องให้เผชิญชะตากรรมกันตามลำพัง
          
      เจ้าหนี้มากมายกรูกันเข้ามาในบ้านหยิบฉวยทุกอย่างที่พอจะมีราคาไปจากเรา
      แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่เพียงพอที่จะชดใช้เงินต้นได้หมด
      จากเงินต้นไม่กี่หมื่นมันกลับทบต้นทบดอกจนกลายเป็นหลักแสน
      ผมไม่มีปัญญาใช้หนี้เลยพาน้องสาวหนีเข้ามากรุงเทพฯ ในคืนนั้น
          
      ทั้งเนื้อทั้งตัวเราสองคนมีเงินอยู่สองร้อยกว่าบาท ผมรู้ว่ามันคงช่วยให้เราอยู่รอดได้ไม่กี่มื้อ
      ดังนั้นผมจึงเริ่มออกหางานทำ โชคดีที่บังเอิญไปเจอคนใจดีเข้า
      เจ้าของอู่รถยนต์ขนาดกลางรับผมไว้เป็นเด็กช่วยงาน
      ซ้ำยังให้ที่พักเราสองคนพี่น้องด้วย ถึงมันจะเป็นแค่ห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ไม่มีอะไรเลย
      แต่เราสองคนก็ดีใจที่มีที่ซุกหัวนอน
          
      ผมเริ่มตั้งต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ความขยันทำให้นายจ้างเอ็นดูผมเป็นพิเศษ
      ไม่นานผมก็มีเงินเก็บมากพอที่จะพาน้องไปสมัครเรียน
      แรกทีเดียววารีจะไม่ยอมเรียน
      แกตั้งใจจะทำงานเป็นลูกจ้างโรงงานทอผ้าเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระผม
      แต่ผมก็กล่อมจนน้องยอมเรียนจนได้
          
      วารีเรียนดีชนิดไม่ทำให้ผมผิดหวัง
      แกสอบได้เกรดดีเสมอซ้ำยังได้ทุนฟรีจนจบมัธยมปลายด้วย
      ผมภาคภูมิใจในตัวน้องสาวเหลือเกิน
          
      แต่แล้วความโชคร้ายก็มาเยือนเราสองคนพี่น้องอีกครั้ง วารีถูกรถชน
      เท่าที่ผมเห็นแกไม่เป็นอะไรมากนองจากถลอกนิดหน่อย
      แต่หมอกลับบอกว่าแกเป็นเนื้องอกในสมองต้องผ่าตัดด่วน
      ผมตะลึงงัน ผมว่าหมอต้องตรวจผิด ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่
      วารีดูแข็งแรงดีแล้วจะเป็นเนื้องอกนั่นได้อย่างไร
          
      เมื่อวารียืนยันว่าไม่เป็นอะไร ผมจึงพาน้องกลับมาที่บ้าน
      ตอนนั้นวารียังดูเป็นปกติดีจนกระทั่งสองเดือนผ่านไป
      อาการของโรคก็เริ่มปรากฏให้เห็น
      วารีหน้ามืดเป็นลมบ่อย หายใจไม่ออกและเริ่มบ่นว่าปวดหัวมาก
      ที่ร้ายกว่านั้นแขนขาของน้องเริ่มขยับไม่ได้

      ผมรีบพาวารีไปหาหมอแต่มันก็สายไปแล้วเนื้องอกลุกลามจนช่วยอะไรไม่ได้
      หมอให้แต่ยาราคาแพงมากินเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น
          
      ผมพยายามทำงานหาเงินทุกทางเพื่อนำเงินมาซื้อยาให้น้อง
      แต่อาการของวารีก็ไม่เคยดีขึ้นเลย นับวันอาการของแกจะยิ่งทรุดลง
      แกเริ่มพูดลำบาก มองไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียงและเริ่มไม่รับรู้รส
          
      ในที่สุดผมก็เลิกเชื่อหมอแล้วมาใช้วิธีการของผมแทน
      ตอนนี้แกเริ่มจะกลับมาเป็นปกติแล้ว
      ถึงจะยังขยับตัวไม่ได้แต่แกก็เริ่มพูดกับผมและได้ยินเสียงชัดขึ้นแล้ว
      ท่าทางแกจะชอบหูกับจมูกคู่ใหม่ที่ผมหาให้แกมาก
      ตอนนี้ก็เหลือแต่ตาแกก็จะกลับมาเป็นเหมือนก่อนแล้ว
          
      ผมสูดหายใจลึกๆ ทำสมาธิรอเวลาให้เด็กผู้หญิงคนนั้นเดินผ่านมาทางนี้
      ผมตามดูเธออยู่นานจนรู้ว่าทุกครั้งที่เรียนพิเศษเลิกดึกเธอจะใช้เส้นทางนี้กลับบ้าน
          
      สิบนาทีต่อมาเธอก็เดินมาตามถนน
      ผมกวาดตาไปรอบบริเวณเมื่อไม่เห็นว่ามีใครอื่นอยู่ด้วย ผมก็ลงมือทันที
          
      ผมปราดเข้าไปประชิดตัวเธอใช้มืดจี้บังคับเธอให้ตามไปที่พงหญ้าข้างทาง
      กดร่างเธอลงกับพื้นแล้วใช้มือแทงไปที่อกซ้าย
      ยังหรอก...เธอยังไม่ตาย
      เธอพยายามดิ้นรนหนีผม แววตาเธอดูน่าสงสารเสียจนผมเกือบจะใจอ่อน     
          
      ผมหลับตานิ่งนึกถึงใบหน้าของน้องสาว ผมต้องทำ
      นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ผมจะทำอะไรแบบนี้
          
      “ฉันขอโทษ”
      ผมพึมพำบอกเด็กนักเรียนหญิงคนนั้นแล้วแทงมีดซ้ำลงไปอีกที
      เพื่อที่ว่าเธอจะได้จับแผลจนสลบไป
      ผมไม่อยากให้เธอรู้สึกทรมานในขณะที่ลูกตาถูกควักออกจากเบ้า  
          
      ผมใช้มีดด้ามเล็กอีกเล่มค่อยๆ ควักดวงตาคู่สวยออกมาอย่างระมัดระวัง
      ผมประคองมันใส่ถุงน้ำเกลือที่เตรียมไว้เพื่อรักษาความสด
      จะให้มีประสิทธิภาพดีของที่เอาไปต้องสดใหม่เสมอ
      ดังนั้นเหยื่อหรือจะให้เรียกในอีกชื่อก็คือผู้บริจาคจะต้องยังมีชีวิต
      ในขณะที่ผมเอาชิ้นส่วนร่างกายของพวกเธอออกมาจากร่าง
          
      เมื่อดวงตาสดใหม่สองคู่ลงไปอยู่ในถุงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
      ผมก็รีบถอดเสื้อผ้าออก เปลี่ยนชุด และเร้นกายออกจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว
          
      ผมรีบนำตาคู่ใหม่มาให้กับวารี
      แกยิ้มให้ผมด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมความสุขอย่างที่ผมไม่เคยได้เห็นมาก่อน
      วารีบอกผมว่าแกชอบตาคู่ใหม่มาก แกดีใจที่ได้มองเห็นผมอีกครั้ง
          
      “วารีรักพี่ชายค่ะ” แกพูดไปยิ้มไป
          
      ผมเข้าไปกอดน้องทั้งน้ำตาด้วยความปลื้มปิติ
          
      “พี่ก็รักวารี รักมาที่สุดในโลก”
          
      ขณะที่สองพี่น้องกำลังกอดกันด้วยความซาบซึ้ง
      ประตูไม้เก่าๆ ก็ถูกพังเข้ามา
      ตำรวจหลายนายกรูกันเข้ามาจับพี่ชายผู้แสนดีไว้แล้วลากตัวไปจากห้อง
          
      “ปล่อยผมนะ...ปล่อย...จะจับผมไปไหน ผมจะอยู่กับน้องสาวผม”
      ชายหนุ่มร้องตะโกนแต่ก็หามีใครสนใจไม่
          
      นายตำรวจอีกสองนายที่เหลือเหลือบมองชายหนุ่มเสียที
      ก่อนเดินเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณของวารีในห้อง
          
      “อยู่นี่เองครับหมด หู ตา จมูก ของเหยื่อ ครบเลยล่ะ”  
      จ่าวัยกลางคนว่าพลางเอามือบีบจมูกไว้แน่น
          
      “เน่าเฟะหนอนไชอย่างนี้คงตายมาไม่ต่ำกว่าสามเดือนแล้ว
      จ่าแจ้งคนมาจัดการเก็บหลักฐานทีนะ”
      ผู้หมวดหนุ่มว่าแล้วเดินเลี่ยงออกมา เนื่องจากทนสูดกลิ่นเน่าเหม็นของซากศพไม่ได้
          
      รุ่งเช้าวันต่อมาบนหน้าหนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับ
      ต่างลงข่าวฆาตกรโรคจิตที่สังหารเหยื่อเพื่อนำชิ้นส่วนต่างๆ ไปให้กับศพน้องสาว
          
      กระแสสังคมต่างวิภาควิจารณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นกันไปต่างๆ นาๆ
      บ้างก็ว่าเป็นข่าวสะเทือนขวัญ บ้างก็พากันหวาดกลัวว่าจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ
      จะมีก็แต่ตัวฆาตกรโรคจิตเองเท่านั้นที่หัวใจกำลังเต็มตื้นไปด้วยความสุข
          
      “พี่จะติดคุกก็ไม่เป็นไร ขอให้วารีหายก็พอแล้ว พี่รักวารีนะ”
      ถ้อยคำนั้นแม้จะแผ่วเบาแต่ก็มั่นคงและเชื่อถือได้ยิ่งว่าถ้อยคำของคนปกติคนไหน

                                            -END-

      ไม่ไหวแล้วค่ะเบื่อความแหววความหวานแล้ว ขอบ้าเสียหน่อย (อากาศร้อนเลยเก็บกด)
      ไอ้อ่านงานเขียนของคุณ กาญจน์ฏีเลยขอลองเขียนบ้าง ไม่เคยเขียนอะไรอย่างนี้มาก่อนจริงๆ
      อาจมีข้อผิดพลาดแยะไปหน่อยกันนี้ต้องขออภัยนะคะ

      หมายเหตุ เขียนไปเขียนมากลับไปเปิดตำราดู
      ยายวารีนี่เป็นเนื้องอกแบบโคตรเนื้องอกเลย ^-^”
      เนื้องอกกดทับเส้นเลือกกับประสาทสารพัดเส้น เราใจร้ายไปรึเปล่าเนี่ย?

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×