คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทนำ บ้านพัก
ผมชื่อทาคาโนะ นัทสึเมะ เหมือนจะได้มาเป็นคนดำเนินเรื่อยแฮะ งั้น....ตอนนี้ผมพึ่งจะได้เข้ามหาวิทยาลัยใน
โตเกียวหมาดๆ ซึ่งแน่นอนบ้านเกิดผมอยู่ที่ฮอกไกโด เพราะฉะนั้นผมเถียงกับแม่คอแทบเป็นเอ็นว่าผมมาอาศัยอยู่คนเดียวได้สบายมาก แต่ก็นะ ไม่ว่าผมจะโตขนาดไหน แม่ก็ยังไม่ปล่อยผมไปง่ายๆอยู่ดี ต้องให้พ่อช่วยพูดถึงจะมาได้ ความที่ว่าสมองของผมอุส่าสอบติดมหาลัยดีๆจะให้โอกาสหลุดลอยผ่านไปได้ยังไง ตอนนี้ผมกำลังเดินทางไปบ้านพัก ซึ่งแน่นอนพี่ชายของผมเป็นคนจัดการเรื่องที่พักให้ แต่ว่าพอมีเรื่องอะไรที่พี่อุส่าออกปากรับคำให้เอง(โดยเฉพาะทำให้ผมด้วยแล้ว...) มันไม่ใช่ว่าจะจบสวยนัก เฮอะๆ พี่บอกว่าที่พักมันใกล้โรงเรียนดีแล้วก็เงียบสงบเหมาะกับเด็กหมาลัย หึหึหึ คงจะไม่ได้อยู่กลางป่าช้า หรือไม่ก็เป็นกระท่อมเล็กๆนะ สักพักแท็กซี่ก็เลี้ยวเข้าไปในซอยก่อนจะจอดหน้าประตูใหญ่แห่งหนึ่ง มันทาด้วยสีขาว รั้วรอบๆมีกุหลาบพันอยู่โดยรอบ ที่นี่นะเหรอ??..
คนขับรถแท็กซี่ขนของๆผมออกมาก่อนที่ผมจะจ่ายตังค์ให้เขาไป ผมถอดแว่นกันแดดสีชา(ใส่เพื่อ) ก่อนจะมองสถานที่ที่เป็นที่อยู่ใหม่ของผม นั้นทำให้ผมตะลึง! บ้านหลังใหญ่ที่เรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์หลังย่อมๆรวมทั้งสวนดอกกุหลาบกับสนามกว้างขวาง อ๋า พี่ผมก็สุดยอดเหมือนกันนี่นา ถึงหาที่พักแบบนี้ให้ แต่แปลกที่ราคาไม่แพงแฮะ ยังไงซะ ผมก็คิดว่าจะทำงานพิเศษอยู่แล้ว อันที่จริงพี่ผมก็เป็นคนดีในเรื่องการเก็บความลับนะแล้วก็หวงผมมากๆ ที่มาอยู่ที่นี่ได้เพราะพี่เขารู้จักคนในนี้นั้นละ(สรุปพี่เอ็งเป็นคนยังไงกันแน่วะเนี้ย=__=??) ผมมีความลับที่พี่และผมจะไม่ยอมปริปากบอกให้แม่รู้อยู่เรื่องนึง ซึ่งแน่นอนผมจะยังไม่บอกคุณผู้อ่านตอนนี้ รอให้คุณพี่ชายส่งกล่องของของผมชิ้นสุดท้ายมาก่อนโดยไม่ให้พ่อแม่รู้ก็แล้วกัน ถ้าทางจะคิดเพลินไปนิด ตอนนี้ผมเดินขึ้นมาถึงบันไดข้างหน้าประตูของบ้านพักที่มีนามว่า ไวท์ เฮาส์ แล้ว แหงละบ้านพักนี้มองไปทางไหนก็โครตจะขาวเลยขนาดออดประตูเนี้ยกำลังจะกลืนไปกับกำแพงแล้ว! ผมค่อยๆกดออดสองครั้งก่อนจะถอยออกมายืนรอสักพักก็มีคนมาเปิดประตู
แอดดด
“คุณทาคาโนะ นัทสึเมะซินะครับ อ้าว..? ไปไหนซะละ” พี่ครับ เอิ่ม พี่เค้าเล่นมุกหน้าตายหรือกระผมเตี้ยกันแน่ครับ??ใครรู้บอกที พี่สูงโยดหันซ้ายขวาก่อนจะขยับแว่นกรอบเหลี่ยมของตัวเอง นั้นทำให้ผมต้องไปสะกิดเขาให้ก้มลงมาหน่อย...หน่อยเดียวจริงๆนะ!!อย่าทำหน้าแบบไม่เชื่อซิ!
“ผมเองทาคาโนะ นัทสึเมะ”
“อ๋า..นี่เอง ก็จริงหรอกที่คุณพี่คุองบอกว่าตัวเล็กไปหน่อย แต่นี่มัน” ชายหนุ่มใส่แว่นเหลือบตาลงมา ประทานโทษ!! ไอ้พี่บ้ามันพูดบ้าอะไรกันนะ!
“ขอโทษนะครับที่...ตัวเล็ก”ไม่อยากพูดว่าเตี้ย ผิดไม๊ครับ(อยากร้องไห้) ระหว่างนั้นผมก็แอบเขย่งน้อยๆเพื่อไม่ให้ดู...เอิ่ม...ตัวเล็กนัก
“ไม่หรอกครับ ไม่ได้เล็กอะไรมาก” เอ็งพูดแบบนี้แต่สายตามันม่ายช่ายยยยยยย!! ฉันเตี้ยขนาดนั้นเลยเหรอฟร้าา!!! “อ๋อ จริงสิ ผมชื่อฮิทสึคุจิ โคชิเอ็น เป็นคนดูแลความระเบียบเรียบร้อยของที่นี่ แต่ไม่ใช่เจ้าของที่นี่หรอกนะครับ ใช่สิ ปีนี้ผมขึ้นม.6พอดีเลย ถ้าผมมีเรื่องเรียนอะไรที่ไม่เข้าใจแล้วรุ่นพี่ช่วยได้จะบอกละกัน”
ฮะ..อะไร..ยังไง แม่เจ้า! กระผมตามไม่ทันน!! ไอ้พี่คุองคบเด็กรุ่นน้องที่อายุห่างกันขนาดนี้เลยเรอะ แล้ว เจ้านี้อายุน้อยกว่าผมเหรอ! จะบ้าตายผม..ผม(อยากตาย แต่ยังตายตอนนี้ไม่ได้มีบางอย่างที่จะต้องทำอยู่) ว่าแต่ผมไปบอกตอนไหนว่าช่วยเจ้านี้เรื่องเรียน ชักงงหนักแล้วซิ
“แต่คงช่วยอะไรได้ไม่มากหรอกแบบนี้” เออ ขอบใจนี่มันนับถือกันรึเปล่าหว่า..เหมือนโดนแอบด่ายังไงไม่รู้ “เชิญครับคุณนัทสึเมะ ตากลมข้างนอกหนาวนะครับ”เหมือนที่แวบนึงจะเห็นเจ้านี้ยิ้มออกมา เอิ่มแวบนึงจริงๆ หนุ่มแว่นที่มีนามว่าโคชิเอ็นคนนี้ผายมือออกเป็นการเชิญให้ผมเดินเข้าไปในบ้านพัก “ขนของเข้าไปเองนะครับ” ครับ!!(โถ๋ นึกว่าใจจะหล่อเหมือนหน้า)
ผมหอบของพะรุงพะรังแถมปิดหน้ามองไม่เห็นทางเดินตามโคชิเอ็นไป อ๋า ผมสีน้ำตาลเหมือนสีผมของผมเลย สีตาก็ด้วยแฮะ น้ำตาลสวยมาก(ของแกก็สีเดียวกันนะไอ้หอกหัก=__=^^) คงไม่ต้องถามถึงพี่ใช่มะ
ปึก!!
ด้วยความที่แทบมองไม่เห็นทางเมื่อโคชิเอ็นหยุดกึกทำให้ผมชนหลังของของเขาทันทีเสียงดัง เจ้าหนุ่มสี่ตาเลยค่อยๆหันมาหาผมด้วยสายตาเย็นชาน่ากลัว ให้ตายซิผมผิดไปแย้ววว!
“มะ มีอะไรเหรอ?” ผมชะโงกหน้าไปดูข้างหน้าหน้าของโคชิเอ็น นั้นทำให้ผมชะงัก มีผู้ชาย(ที่รู้ว่าเป็นผู้ชายเพราะเขาใส่ชุดเหมือนบาร์เทนเดอร์) เขามีผมสีคาราเมลน่ากินยาวปะบ่ามัดครึ่งหัวแบบไม่ค่อยแน่นนัก กำลังนอนคว่ำเหมือนศพใกล้อืด แถมยังมีกลิ่นเหล้าฉุนกึก “อ่า...ต้องแจ้งตำรวจไม๊”
“ไม่ต้อง ขอแนะนำละกัน เจ้านี้เป็นคนของหอนี้นี่ละชื่อคาวามุระ ฮาจิคุเงะ เป็นคนติดสังสรรค์นิดหน่อยชอบกลับดึกประจำ” นี่มันเช้าแล้วไม่ใช่เหรอ
“...งะ..งั้นเหรอ? ว่าแต่ที่นี่มีคนอยู่กี่คนละ”
“รวมคุณนัทสึเมะก็เจ็ดคนพอดีครับ ก็..ผมอยู่ชั้นที่หนึ่งห้อง101 ส่วนห้องของซากของผู้ชายเบื้องล่างนี้อยู่ห้องติดกับคุณ114 แน่นอนคุณอยู่ห้อง 113 ส่วนที่เหลือจะไล่ให้ตอนอาหารค่ำคืนนี้นะครับ เอาละไปต่อได้แล้วเดินข้ามซากนี้มาได้เลยนะครับ” พูดจบเขาก็เดินข้ามไปจริงๆ เอิ่ม....ผมพยายามเดินอ้อมๆสิ่งที่เขาเรียกว่าซากนี้ก่อนจะรีบตามโคชิเอ็นที่เดินจ้ำอ้าวๆแต่มิวายหันมามองคนที่ชื่อฮาจิคุเงะ นี่ผมต้องมาอยู่ข้างๆห้องกับชายขี้เมาเหรอ ดีนะที่คว่ำหน้าไม่งั้นคงหลอนตาย คนขี้เมานะ คงจะประมาณหน้าเหลี่ยมๆมีหนวดมีเคราหน้าตาเยิ้มๆแหงๆ
ผมเดินขึ้นบันไดแบบโค้งๆสีขาวขึ้นไปบนชั้นสอง ระหว่างทางก็มีโคมไฟระย้าเหมือนกับข้างล่าง(ห้องโถงกลางกว้างมากแถมยังมีโซฟาจำนวนหนึ่งกับทีวีเครื่องใหญ่ ในห้องคงไม่มีทีวี) พอมาถึงห้องโคชิเอ็นก็ยื่นกุญแจแบบโบราญสุดๆให้แถมลายและรูปลักษณ์ยังเป็นแบบโกธิคสวยงาม
“ระวังนะ กุญแจนะมีแค่สองดอก อีกดอกหนึ่งอยู่ผม มันเป็นกุญแจแบบฉะเพราะที่เก่ามาก มีมาตั้งแต่เริ่มสร้างไม่ได้เปลี่ยนแปลกลูกกุญแจเลยยกเว้นประตูใหญ่ ดอกนี้ของคุณส่วนนี้กุญแจประตูใหญ่ จะไปป้ำก็ได้นะ แล้วก็ ระวังด้วย เจ้าของบ้านนี้นะไม่ได้ซ่อมแซมที่นี้เลย มันเป็นคฤหาสน์ขุนนางเก่าของโรมาเนีย เขาแยกชิ้นส่วนคฤหาสน์แล้วเอามาประกอบที่นี่ ที่นี่มันจะพุๆพังๆนิดหน่อยนะ เอาละเจอกันเย็นนี้” เขาพูดก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง อะไรของเขากันนะ ว่าแต่ที่นี่เป็นคฤหาสน์ขุนนางเชียวเหรอ?? สุดยอดเลยนะ แต่ดูหลอนๆยังไงไม่รู้ตอนนี้นะ
ผมใช้กุญแจดอกเก่าไขลูกบิดประตูสีทอง หวังว่ากุญแจจะไม่หักคามือซะก่อนนะ เมื่อไดยินเสียงคลิ๊กผมก็ดึงกุญแจออกแล้วเปิดประตูเข้าไปเบาๆ ผิดคาดที่ว่าในห้องนี้มีทีวีอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเตียงคิงไซต์ ห้องนี้หรูมากๆแถมยังใหญ่สุดๆ มีตู้กระจกโชว์ขนาดใหญ่ที่น่าจะวางของรักของหวงของผมได้หมดกับกระจกบานใหญ่ที่รับแสงแดงอ่อนๆมี่ถูกบดบังด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อยู่แล้ว กิ่งก้านของต้นอะไรซักอย่างที่ใหญ่สุดๆมาคลอเคลียกับหน้าต่าง
“ปีนลงไปชั้นล่างได้เลยนะเนี้ย” ผมก้มลงดูต้อไม้ที่ประจำอยู่ข้างหน้าต่าง มันอยู่ติดหน้าต่างของห้องผมซะเหมือนเป็นคู่รักต่างเผ่าพันธุ์ ผมเดินออกห่างจากหน้าต่างก่อนที่จะลื้อเสื้อผ้าในกระเป๋าใส่ตู้เสื้อผ้า ไม่นานนักผมก็เก็บกระเป๋าเสจ็ด เล่นเอาเกือบตายกันไปข้างเนื่องพระมารดาเป็นห่วงเกินเหตุกระเป๋าของผมเลยมีสัมภาระเยอะซะยิ่งกว่าผู้หญิง อาจโดนหาว่าไม่แมนก็เป็นได้ นั้นควรระวัง
[พัสดุถึงคุณทาคาโนะ นัทสึเมะครับ]
พอผมทำท่าจะเข้าห้องน้ำก็มีเสียกออกมาจากออดซะก่อน ของมาถึงแล้วเหรอ เร็วดีจังแฮะ ไม่รอช้า ผมรีบวิ่งออกจากห้องทันแบบแทบไม่ดูทางเพราะกลัวใครจะมารู้มาเห็นเรื่องของส่วนตัวของผม พอลงมาถึงประตูใหญ่ผมก็หันซ้ายขวาก่อนจะเปิดประตูมา ของมันใหญ่และท่าทางจะหนักเอาการ ผมเซ็นรับเสร็จแล้วก็เดินอุ้มของกลับห้อง ให้ตายมันหนักมากเลย
เอมาถึงห้อง ความรู้สึกอย่างแรกก็คือขาจะเดี้ยงแล้ว แล้วเอาตะคิวกินซะสองข้างเฉียว ตอนเข้ามาผมจัดการล็อคประตูเรียบร้อยอย่างสบายใจก่อนจะค่อยเปิดกล่องอย่างถะนุถนอม ในที่สุดผมก็เปิดได้หมด ทั้งแผ่นซีดีปลอกหมอนสารพัดฟิกเกอร์และของตกแต่งมากมายนอนแอ้งแม้งอยู่ในกล่อง ของทุกอย่างมีภาพผู้ชายอยู่ทั้งสิ้นทั้งหนังสือและภาพการ์ตูนผู้ชายรักชาย ทีนี้คงรู้เสป็คผมแล้วซินะ แต่บอกไว้ก่อนนะผมไม่ใช่กระเทย ผมไม่ได้อยากแต่งหญิงแต่งหน้าหรือใส่ส้นสูง แค่พอมารู้ตัวอีกทีผมก็เอาแต่มองพวกนักกีฬาหุ่นดีๆของโรงเรียนไปซะแล้ว แล้วก็นะผมผอมแบบนี้ผมไม่ชอบซักกะติ๊ด เพราะผมนะจะเมะให้ดู!(ถึงตอนนี้กำลังจะเป็นเฟรชชี่ก็เถอะ)
ผมเก็บของทุกอย่างให้เป็นระเบียบ เก็บของเรตๆซุกไว้ใต้เตียงและลิ้นชักมิดชิด เรื่องนี้พี่ของผมรู้ตั้งแต่ตอนที่ผมอยู่ม.ปลายปี 1 ตอนนั้นพี่คุองเขาไปซื้อหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดัง(ซึ่งแน่นอน ไม่ใช่ที่เดียวกับผม เพราะมันยากเกินไปสำหรับผม) แต่ผมดันมองหนังสือนักกีฬากับหนังสือของพวกเกย์ซะจนตาไม่กระพริบพี่เลยจับได้และบอกว่าจะเก็บเป็นความลับให้ ซึ่งน่าแปลกมาก แถมยังใจดีซื้อให้ผมหน้าตาเฉยอีก(ตอนนั้นสาวแคทเชียร์ทำหน้าเหมือนอยากจะเป็นลมเสียให้ได้=__=;;;;)
และในที่สุดก็ถึงของอย่างสุดท้าย มันเป็นของเล่นที่พี่ผมซื้อมาให้ใหม่ ‘ไวเบรเตอร์’ ไม่เข้าใจว่าทำไมแต่...มันตะงิดๆชอบกล
ฟุบ..
.....
...
..
ผมค่อยๆหันไปมองทางต้นเสียงนั้นก็คือหน้าต่างที่มีการพลอดรักกับต้นไม้กลางวันแสกๆนั้นเอง ปรากฏตัวของชายหนุ่มที่ทรงผมสีคาราเมลคุ้นๆตา ใบหน้าหวานดวงตาสีทอง ผิวขาวราวหิมะกับชุดแบบบาร์เทนเดอร์
“โทษทีเข้าห้องผิด” คะ..คุณ คาวามูระ!!!!!(TTOTT) เขาพูดก่อนจะมองผมที่กำลังเอาจะของเล่นใหม่แนบหน้าและถูๆราวพี่น้องที่ถูกพลัดพรากกันมาหลายแสนปีแล้วเกาหัวแกลกๆ สมน้ำหน้าขอให้ขี้กากขึ้นหัว!!มันเข้าห้องผิดจริงๆเหรอว้าาาาา!
“อะ..” ตอนนี้ผมหน้าหน้าแดงฉ่า ใบหน้าของผมร้อนสุดๆ ซวยแล้ว อนาคต ผมทำหน้าแบบคนกำลังจะร้องไห้
“ไม่เอาน่าฉันไม่ใช่คนปากพร่อย” เขาพูดแบบนี้ทำให้ผมโล่งใจนิดหนึ่ง “แต่ชอบเล่าสู่กันฟัง คิก คิก” อร๊าคคคคคคคคคคคค ตัดคำนี้ออกปายยยย!!!
“อย่าเลยนะ ขอร้องง” ผมวิ่งไปเขย่าตัวของคุณคาวามูระที่แสยะยิ้มอยู่ราวกับจะหัวเราะสมน้ำหน้าผมยังไงยังงั้น
“ก็ได้ แต่ต้องมีข้อแรกเปลี่ยน คืนนี้เจอกันนะ หนูน้อย” คาวามูระเดินไปหัวเราะคิกๆในลำคอไปก่อนจะออกจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งแห้งเหี่ยวเฉาตายภายในห้องคนเดียว..
“เฮอะๆ..จบกัน ชีวิตเด็กมหาลัยที่แสนสงบ เฮอะๆ”
............ .........................................
........ ............................................................
ในที่สุดบทนำก็จบ...จบแล้วววววววTT มุ่งสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นคะ
ได้แค่นี้เนื่องจากรถล้มคะ เนโกะพยายามที่สุดแล้ว
ขอให้ทุกคนคอมเมนต์ด้วยนะคะเผื่อจะต้องปรับปรุงแก้ไข TT
ไม่ค่อยถนัดเรื่องตัวอักษรนักอาจจะขาดตกบกพร่องสะกดผิดก็ขออภัย
(ปล. ตั้งแต่บทที่1จะมีNCเลยนะคะ )
"""
ความคิดเห็น