ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fay online (เทพธิดาออนไลน์)

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 ฉันต้องการพลัง

    • อัปเดตล่าสุด 8 มี.ค. 58


                 
    บทที่5
     

                    คุณผู้เล่น มาเลียฟิเซนต์ ที่รับภารกิจ ไปตามหาเหล่าทหารที่หายไปทางระบบกำลังจะเคลื่อนย้ายท่านไปสถานที่เหล่าทหารอยู่ค่ะในอีก
    10วินาที 9 8 7 ….. 3 2 1

     

               ไปแล้วจ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอยู่ๆรอบๆตัวมาเลียฟิเซนต์ก็เกิดวงเวทเคลื่อนย้ายขึ้นภายในไม่กี่นาทีมาเลียฟิเซนต์ก็หายไปจากสายตาของทั้งสอง

     

                  “โจอาฉันว่านายควนที่จะเลิกเป็นนักบวชนะเพราะถ้าเด็กคนนั้นกับมาเธอคงจะเผลอฆ่านักบวชก็ได้เดียวเธอจะบาปมากกว่าเดิม”มิ้นพูดด้วยความหวังดีกับโจอา

     

                 “โหไม่มีอะไรหรอกมั้งแค่ตายครั้งเดียวเองคงไม่ทำให้เธอโกรธขนาดนั้นหรอกมั้ง”โจอาพูดเพราะแค่การตายครั้งสองครั้งเป็นเรื่องปกติของผู้เล่น

     

                  “แต่ฉันยังไม่ได้บอกเธอเลยว่าถ้าตายในภารกิจของทั้งหมดของเธอจะหายไปรวมทั้งชุดด้วยนะและเงิน หายหมดตัว”มิ้นพูดเพราะข้อมูลพึ่งได้มาเมื่อไม่นานมานี้ว่าถ้าตายในภารกิจจะต้องเสียของทุกอย่างที่อยู่กับตัว

     

                  “มิ้นพอมีโบสถ์แถวไหนว่างพอให้ข้าย้ายไปประจำไม่อะ”โจอาพูดเพราะผู้เล่นเริ่มต้นที่ไม่มีอะไรเหลือเลยนี้มันยิ้งกว่าลำบาทอีกนะ เขาคงต้องคิดออกจากเป็นนักบวชแบบที่มิ้นบอกจริงๆแล้วสิ

     

                  “ฉันอยู่  ที่ไหนเนี้ยมืดจัง”มาเลียฟิเซนต์พูดพร้อมหันไปรอบๆก็ไม่มีอะไรอยู่ในสายตาของเธอเลยนอกจากความมืด

     

                  “นายเป็นคนที่ระบบส่งมาเพื่อช่วยพวกฉันใช้ไม”อยู่ๆก็เกิดเสียงขึ้นจากข้างหลัง(อีกแล้ว)ให้มาเลียฟิเซนต์หันไปก็เจอกลุ้มผู้ชายประมาณ3คนที่ตอนนี้ร้างกายเต็มไปด้วยบาดแผลทั่วทั้งตัวใบหน้าถูกดินเละฟุ่นเต็มไปหมดทำให้ดูไม่ออกว่าหน้าตาของพวกเขาเป็นยังไง

     

                 “ใช้ๆฉันเป็นคนที่ระบบส่งมานะ”มาเลียฟิเซนต์พูดเพราะเธอก็เป็นคนที่ระบบส่งมาจริงๆนี้น่า

     

                     “พวกเรารอดแล้วเย้ นายคงเก่งมากเลยใช้ไม่เนี้ยถึงรับภารกิจระดับAเนี้ย”ผู้ชายที่ทักมาเลียฟิเซนต์เป็นคนแรกที่อยู่หน้าสุดถามขึ้น

     

                   “ไม่หรอกๆแค่บังเอิญรับมานะ”มาเลียฟิเซนต์พูดเพราะเธอเกือบไม่รู้เรื่องภารกิจนี้ด้วยซ้ำ

     

                   “โหอย่าถ่อมตัวสินี้มันภารกิจระดับAเลยนะนายต้องระดับสูงแน่ๆพวกฉัน3คนระดับประมาณ50นะแล้วเธอละระดับอะไร”ผู้ชายที่อยู่ตรงกลางของคนแรกถามขึ้น

     

                    “เออฉันว่าฉันระดับ1นะ”มาเลียฟิเซนต์พูดแบบเขินอายเพราะเธอระดับน้อยเป็นสิบสิบเท่าของคนพวกนี้เลยก็ว่าได้

     

                  “ฮ้าระดับ1นายมันบ้าหรือป่าวเนี้ยโง่ระดับ1แล้วยังไม่เจียมตัวคิดจะทำภารกิจระดับAชิตอนแรกนึกว่าระดับจะสูงนี้อะไรระดับแค่1โดนเจ้าพวกข้างนอกสะกิดนิดเดียวก็ตายแล้วมั้ง” คนสุดท้ายพูดอย่างดูถูกเธอเพราะระดับของเธอน้อยที่สุดในกลุ้ม

     

                   “ก็ฉันไม่รู้นิยะว่ามันจะเป็นภารกิจทำคนเดียวนี้น่า”มาเลียฟิเซนต์พูดเพราะเธอก็พึ่งรู้ว่าภารกิจนี้เป็นทำคนเดียวถ้าเธอรู้ก่อนหน้านั้นนะเธอไม่เลือกมาทำหรอก

     

                  “ยะ นายเป็นกระเทยหรอ”ผู้ชายคนแรกพูดออกมาอย่างตกใจเพราะใบหน้าของมาเลียฟิเซนต์หล่อมากในสายตาของพวกเข้าทั้งสามคน

     

            “กระเทยที่ไหนกันยะ ฉันนะหญิงแท้ไม่ปลอมแปรงหรอกยะ”มาเลียฟิเซนต์รีบพูดเพราะไม่อยากให้พวกเขาเข้าใจผิดไปมากกว่านี้แต่ก็สนุกดีน้าแปลงเป็นผู้ชายแล้วให้คนอื่นสับสนเล่นๆเนี้ย

     

                “ผู้หญิงจริงๆหรอเนี้ยแต่ชั่งมันเถาะยังไงเดียวพวกเราก็ตายอยู่แล้ว  มาแนะนำตัวกันดีกว่าฉัน อัศวินสุดหล่อ เรียกสั้นๆว่า อัศวิน ก็ได้ฉันไม่ถือ “คนที่อยู่ใกล้เธอที่สุดและเป็นคนที่ทักเธอมาคนแรกแนะนำซื่อของต้นเองให้มาเลียฟิเซนต์รู้จัก

     

                    “ส่วนคนนี้ชื่อ โอมนะ หรือเรียกว่าโอมก็ได้”อัศวินแนะนำเพื่อนคนที่อยู่ตรงกลางให้ว่าเขาชื่อโอม หรือ โอมนะกันแน่

     

                    “ส่วนผู้ชายปากเสียที่ด่าเธอเมื่อกี่ ชื่อ นักรบคลัง หรือเรียกว่า นักรบก็ได้”และคนสุดท้ายผู้ชายปากหม้าที่ด่าเธอว่าไรความสามารถชื่อ ว่านักรบคลัง

     

                   “ส่วนฉันชื่อมาเลียฟิเซนต์นะหรือเรียกว่า มาเลียก็ได้นะ ยินดีที่ได้รู้จัก”มาเลียฟิเซนต์แนะนำตัวบ้างแต่เมื่อมาเลียฟิเซนต์แนะนำตัวเสร็จก็เกิดแผนดินไหวขึ้นตรงจุดที่พวกเธออยู่นั้นเอง

     

               “เจ้านั้นเจอเราแล้วละครั้งนี้จะทำยังไงดีครั้งนี้เราไม่รอดแน่”โอมพูดเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก

     

              “นี้อัศวินตอนนี้เราอยู่ตรงไหนอะทำไม่ถึงเกิดแผนดินไหวได้”มาเลียฟิเซนต์ถามอัศวินสุดหล่อว่าตอนนี้พวกตนอยู่ที่ไหน

     

                 “ตอนนี้เราอยู่ในโพงต้นไม้นะแล้วแผ่นดินไหวที่เกิดเกิดจากที่ตัวข้างนอกนั้นเริ่มคลังเลยทำให้มันโจมตีทุกอย่างที่ขวางหน้านะ”อัศวินพูดสั้นๆแล้วเอามือมาปิดปากมาเลียฟิเซนต์เพราะกลัวตัวที่อยู่ข้างนอกจะรู้ว่าพวกตนอยู่ตรงนี้

     

                  ตู้ม ตู้ม

    เสียงของการทำร้ายล้างก็ยังดังขึ้นเรื่อยๆเหมือนมันกำลังตรงมาที่ซ้อนของเธอกับเพื่อนใหม่ทั้งสาม

     

                 อัศวินมองหน้าไปที่โอมและนักรบด้วยสายตาที่ทั้งสามคนสามารถเขาใจได้ยกเว้นมาเลียฟิเซนต์ว่าอัศวินต้องการสื่ออะไรโอมเมื่อเห็นสายตาอยากรู้อย่ากเห็นของมาเลียฟิเซนต์แล้วก็กระซิบเบาๆว่าถ้าโอมนับ1-10เมื่อไรให้วิ่งให้เร็วที่สุด

     

                โอบเริ่มนับอย่างช้าๆ 1 2….6 7…8 9 แล้วมาเลียฟิเซนต์เตรียมพร้อมที่จะวิ่ง

    10 ทั้งสามคนลุกขึ้นอย่างพร้อมเพียงแล้ววิ่งออกไปโดยมีมาเลียฟิเซนต์วิ่งตามหลังโดยไม่คาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียวเพราะอาจเป็นตัวชีชะตากรรมของเธอเลยก็ได้

     

          ตู้ม ตู้ม อยู่ๆทางที่มาเลียฟิเซนต์วิ่งมาก็เกิดดินถล่มขึ้นยิงทำให้เธองัดพลังที่มีทั้งหมดตั้งตาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตโดยสิ่งที่เธอคิดคือหยุดคือตายทำให้ร่างกายของเธอมีพลังแห่งการหนีอยู่ระดับสูงสุด

     

                 เมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูงจนมาเลียฟิเซนต์รู้สึกถึงแสงสว่างที่ปากทางของโพ่งแห่งนี้ยิ่งทำให้มาเลียฟิเซนต์เร่งความเร็วเขาไปใหญ่โดยที่ไม่ได้ฟังเสียงของคนที่ตะโกนบอกว่า “มาเลียฟิเซนต์อย่าพึ่งออกไป”

     

                 “แสงสว่างจ้ามาเลียฟิเซนต์คนนี้มาหาแล้วนะ”เมื่อมาเลียฟิเซนต์ออกมาจากแสงได้ก็เห็นสิ่งที่อยากให้เธอกับเขาไปในโพ่งนั้นตลอดไปเลยก็ยังดี

     

                   ผู้เล่นมาเลียฟิเซนต์ พบ ปีศาจไรหัว โบอารอน ระดับ100 เมื่อถูกฆ่าระดับจะลดลง5ระดับ ของที่สวมใสทุกอย่างจะหายไปและรอเกิดเพิ่มเป็น10ชั่วโมงค่ะ   โปรดระวังระดับต่างกันมากโปรดหนีเถาะค่ะด้วยความหวังดีจุ๊บๆๆ

     

                 ตรงหน้าของมาเลียฟิเซนต์นั้นคนที่มีกล้าเป็นมัดๆทำให้ดูถึกมากในสายตาของเธอและมันไม่ใช้กล้ามที่แบบสวยงามแต่เป็นกล้าที่แบบกล้ามวัวกล้ามควายรวมร่างกันเลยละเพราะมันใหญ่มากกกก และส่วนบนของคอมันนั้นไม่มีอะไรอยู่บนนั้นเลย และที่ทำให้มาเลียฟิเซนต์ช๊อกที่สุดคือกล้ามของมันใหญ่กว่าส่วนล่างมากและส่วนล่างของมันไม่ใสอะไรเลย

     

                เมื่อพวกผู้ชายทั้งสามคนออกมาจากโพ่งได้แล้วเห็นว่าทำไม่มาเลียฟิเซนต์ไม่ขยับเลยแม่แต่นิดเดียวพวกเขาก็เดินไปใกล้ๆแล้วก็รู้สาเหตุว่าทำไม่มาเลียฟิเซนต์ถึงอยู่ในสถานนะเหมือนเจอผีแบบนี้

     

                อัศวินเมื่อเห็นแบบนั้นแล้วก็ขยับอย่างช้าๆเพื่อแล้วจับข้อมือของมาเลียฟิเซนต์แล้วนำมารวมกับกลุ่มของตนเมื่อ นักรบ และโอมเห็นว่ามาเลียฟิเซนต์อยู่ในกลุ่มแล้วทุกคนก็ต่างหยิบอาวุธของแต่ละคนออกมา อาวุตของอัศวินนั้นเป็นหอกที่ไม่ค่อยจะมีอะไรเด่นมาก   ส่วนของโอมนั้นป็นธนูไม้ธรรมดาไม่มีอะไรแปลกใหม่และอาวุธของนักรบนั้นเป็นดาบที่เรียวบางเมื่ออัศวินเห็นว่าทุกคนเตรียมพร้อมที่จะสู้แล้วก็เริ่มสั่งการแต่ไม่ลืมหันไปดูมาเลียฟิเซนต์ว่าตอนนี้พร้อมยัง ก็เลยสกิดเบาๆเพื่อให้เธอมีสติแต่ตอนนี้สติของมาเลียฟิเซนต์นั้นอยู่กับการที่ตนจะพยายามลบรูปแห่งความสยองที่สุดในรอบ18ปีที่ผ่านมาของเธอให้หายไปจากความทรงจำที่สวยงามของเธอทั้งหมดแต่เมื่อโดนอัศวินสกิดหลายๆที่เขามาเลียฟิเซนต์ก็สามารถกับเขามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้

     

                         “โอมนายพยายามล่อความสนใจให้พวกเราสองคนนะฉันกับนักรบจะหาช่องว่างแล้วจะโจมตีมันโดยไม่ให้รู้ตัวส่วนมาเลียเธอช่วยฮิวเลือดให้พวกเราด้วยก็แล้วกัน”อัศวินพูดจบพวกเขาทั้งสามก็ตั้งท้าพร้อมที่จะสู้ของแต่ละคนถึงอัศวินจะไม่ค่อยหวังอะไรกับมาเลียฟิเซนต์เพราะถึงเธอจะเป็นนักบวชแต่ระดับของเธออยู่แค่1ฮิวให้พวกเขาคงได้คนละ10-50เองและยังไม่รวมพลังเวทย์ที่ใช้การฮิวแต่ระที่ด้วยมันใช้ไม่ใช้น้อยๆ

     

                          เมื่อทั้งสามคนมองหน้ากันอีกครั้งหนึ่งแล้วก็พุ่งออกไปคนละทิศละทาง โอมไปทางซ้าย นักรบไปทางขวา ส่วนอัศวินพุ่งไปข้างหน้า โอมเมื่อเห็นว่าปีศาจอยู่ในสายตาของตนก็ยิงธนูออกไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดพักส่วนนักรบกับอัศวินนั้นเดินรอบๆเจ้าปีศาจอย่างช้าเพื่อที่จะหาช่องว่างภายในเสี่ยววินาทีเมื่อพวกเขาทั้งสองเห็นช่องว่างแล้วก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงพร้อมใช้ทักษะของแต่ละคนหอกในมือของอัศวินปล่อยแสงสีฟ้าออกมา ส่วนดาบของนักรบ ใบดาบเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงของเลือดอย่างช้าๆ

    หอกศักดิ์สิทธ์แห่งอาธีนา

    ดาบคลับบ้าสงคราม

    เมื่อทักษะทั้งสองสำแดงพลังนั้นถึงจะไม่ค่อยมากมายอะไรแต่คงพอให้มันเกิดบาทแผลได้แต่พวกเขาก็คิดผิดเมื่อดูว่าผลงานของทักษะของสองคนไม่สามารถสร้างบาทแผลให้เจ้านั้นได้เลยอัศวินกับนักรบเห็นอย่างนั้นก็พร้อมที่จะใช้ทักษะเมื่อกี่อีกครั้งโจมตีที่แผลเก่าแต่ครั้งนี้คิดหรอว่าจะใช้ได้ง่ายๆดูถูกปีศาจระดับ100น้อยไปสะแล้วเมื่อพวกเขาทั้งสองพร้อมจะใช้ทักษะทั้งสองปีศาจไร้หัวก็นำมือของมันที่มีแต่กล้ามมากันอาวุธทักษะของทั้งสองคนและยิ่งทำให้นักรบกับอัศวินตกใจมากกว่าคือทักษะของทั้งสองไม่สามารถสร้างบาทแผลให้กับปีศาจนี้ไดเลยแม้แต่น้อยแล้วเมื่อปีศาจไร้หัวโดนโจมตีเสร็จคิดหรือว่ามันจะยอมโดนฝ่ายเดียวมันจับหอกของอัศวินพร้อมเหวี่ยงด้วยความแรงจนตัวอัศวินลอยไปชนกับต้นไม่อย่างแรง ส่วนนักรบก็โดนไม่น้อยหน้ากันหรืออาจจะมากกว่าอัศวินก็ได้เมื่อปีศาจไร้หัวจับแขนของนักรบแล้วบีบเบาๆจนทำให้กระดูกของแขนนักรบแตกละเอียดแล้วเหวี่ยงมาทางเดียวกับอัศวินเมื่อโอมเห็นเพื่อๆของตนนั้นโดนโจมตีจนหมดสภาพโอมเลยยิงธนูล่อมันให้ออกมาห่างๆจากเพื่อทั้งสองของเขาก่อน

     

                 เมื่อมาเลียฟิเซนต์เห็นอย่างนั้นก็อย่ากจะทำประโยชน์อะไรได้บ้างเธอเลยเปรี่ยนชุดเป็นชุดเช็ทบาทหลวงสีขาวทันที่และเมื่อมาเลียฟิเซนต์กำลังจะหยิบมีดเบาเบ้าออกมาก็ไปสดุดกับตำราที่คล้ายหนังสือนิทานที่พวกผู้ใหญ่อ่านให้เธอฟังเธอเลยคิดว่ามันน่าจะเป็นของที่เธอเปิดได้เมื่อคืนน่าจะเป็นอาวุธแต่ระบบบอกว่าไม่สามารถใช้การได้เธอเลยเปิดดูข้อมูลมันว่าทำไม่เธอถึงใช้ไม่ได้

     

                  ตำราราแห่งการปกป้อง อาวุธระดับ sss โปรดทำพันธสัญญาค่ะ

     

     มาเลียฟิเซนต์ไม่รู้ว่าวิธีที่จะทำพันธสัญญาต้องทำยังไงแต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาแล้วถ้าเธอไม่สามารถใช้อาวุธนี้ได้เพื่อนๆของเธอก็อาจจะไม่รอดมาเลียฟิเซนต์เลยตะโดนถามอัศวินว่า

     

               “อัศวิน พันธสัญญานี้ทำยังไงหรอ”มาเลียฟิเซนต์ตะโกนสุดเสียงเพื่อให้อัศวินได้ยิน

     

             “เธอต้องหยดเลือดเขาไปในสิ่งที่จะทำพัธสัญญาด้วย”อัศวินตะโกนกับมา

            เมื่อมาเลียฟิเซนต์ได้ยินอย่างนั้นแล้วเธอก็หยิบมีเบาเบ้ามาจิ้มนิ้วตัวเองแล้วนำไปหยดกับตำราแห่งการปกป้อง

     

                   ตำราแห่งการปกป้องทำสัญญากับผู้เล่นมาเลียฟิเซนต์ ไม่สามารถโอน ขาย หรือ ยกให้คนอื่นได้ค่ะ

     

               มาเลียฟิเซนต์รีบเปิดดูว่าตอนนี้ทักษะสายฮิวของเธอมีอะไรบ้างแล้วมันก็ขึ้นมามีเพียงทักษะเดียวนั้นคือ ฮิว ระดับ1 ที่สามารถฟื้นพลังได้ตามค่าINTของตนเองเมื่อมาเลียฟิเซนต์เห็นอย่างนั้นก็ตรงไปที่อัศวินกับนักรบนอนอยู่

     

               “อัศวิน นักรบรอแปปนะเดียวฉันจะฮิวให้เดียวนี้ละ”มาเลียฟิเซนต์พูดพร้อมจะเรียกใช้ทักษะฮิวแต่ก็ต้องถูกขัดโดยอัศวินว่า

     

              “เธอเก็บไว้ฮิวตัวเองดีกว่านะไม่ต้องฮิวให้พวกฉันเดียวพลังเวทย์ของเธอจะเสียป่าวเพราะฮิวคงฟื้นพลังได้ไม่มาก”อัศวินพูด

     

              “ใช้ระดับ1อย่างเธอจะฮิวได้กี่ครั้งเองเก็บไว้ฮิวตัวเองดีกว่าไม”นักรบพูดเพราะขนาดเขาระดับ50พลังเวทย์ยังอยู่ที่หลัก1000อยู่เลย

     

             เมื่อมาเลียฟิเซนต์ได้ยินอย่างนั้นมันก็ใช้เธอมันแค่ผู้เล่นระดับ1ไม่มีความสามารถจะไปช่วยใครได้เลยนิแต่แค่ขอให้มีประโยชน์แค่นิดเดียวก็พอขอให้ได้ช่วยทำประโยชน์สักนิดก็ได้เมื่อมาเลียฟิเซนต์คิดอย่างนั้นก็พูดชื่อทักษะทันที่

         ฮิว แล้วชี้นิวไปที่อัศวินแล้วตัวเลขฟื้นพลังก็เด่งขึ้นมา

    +2500

    เมื่อมาเลียฟิเซนต์เห็นตัวเลขที่เด่งขึ้นมาก็ยิ้มอย่างพึ่งพอใจแล้วหันไปยิ้มใหนักรบกับอัศวินพร้อมยักคิ้วให้คนละที่ตอนนี้อัศวินกับนักรบอึ่งมากเพราะระดับ1สามารถฮิวได้แรงพอๆกับผู้เล่นระดับ50+บางคนเลยนะ

    ฮิว

    +2500

    +2500

    +2500

    +2500

    เมื่อมาเลียฟิเซนต์ผลงานในการฮิวของเธอก็ยิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจแล้วกันหน้าเพื่อหาว่าโอมอยู่ไหนจะได้ช่วยฮิวได้ถูก

     

                 เมื่อนักรบกับอัศวินหายจากการบาทเจ็บและฟื้นพลังมาเต็มเปรี่ยมพวกเขาทั้งสองก็วิ่งตรงไปที่ปีศาจนั้นอีกครั้งหวังว่าจะจัดการมันได้ส่วนตอนนี้มาเลียฟิเซนต์กำลังดูว่าทักษะสายอาชีพมีอะไรบ้าง

    ฮิว    ระดับ1

    สามารถฟื้นค่าพลังชีวิตของผู้เล่นต่ามค่าINTของผู้เล่นค่ะ ใช้mp100ค่ะ

    แสงศักสิทธิ์   ระดับ1

    ยิงลำแสงสีขาวไปหาอีฝ่ายเพื่อสร้างความเสียหาย100+INT ใช้100mpค่ะ

    โล่แห่งแสง     ระดับ1

    สร้างโล่แห่งแสงป้องกันตนเองและเพื่อนๆในปาร์ตี้ได้ค่ะ เพิ่มพลังป้องกัน 5%ค่ะสามารถอยู่ได้นานตามค่าINT x 1ค่ะ  ใช้400mp

    พลแห่งพระผู้อารี    ระดับ1

    เมื่อใช้แล้วสถานะผิดปกติองผู้เล่นจะหายไปทั้งหมด  ค่ะ ใช้525MP

    จิตวิญญาณแห่งความอารี  ระดับ1     

    สร้างจิตในรูปแบบของวิญญาณสามารถใช้ใช้ทักษะและความสามารถเหมือนผู้เล่นทุกอย่าง เเต่ค่าพลังชีวิตของวิญญาณมีเพียงเเค่ 1 เท่านั้น ต้องเสีย  MP ครึ้งหนึ่งของ MP ทั้งหมด

     

     

    มาเลียฟิเซนต์เมื่อเห็นว่าเธอยังมีทักษะใช้ต่อสู้อยู่บ้างก็เรียกใช้ทันที่

     

    ข้าขอให้ท่านมหาธาตุแห่งแสงโปรดแบ่งเสดเสี้ยวแห่งพลังอำนาจของท่านเพื่อให้ข้าผู้รับใช้แห่งแสงสว่างปัดเปาเหล่าความมืดให้หายไป

     

    แสงศักดิ์สิทธิ์  เกิดวงเวทย์ขนาดเล็กตรงนิ้วชี้ของมาเลียฟิเซนต์เมื่อมาเลียฟิเซนต์เห็นอย่างนั้นก็หันนิ้วชี้ของเธอไปทางปีศาจไร้หัวเพื่อที่จะปดปล่อยทักษะไปหาเจ้าปีศาจกล้ามโตก็โดนมันอย่างจังแต่กับเหมือนไม่สามารถสร้างความเสียหายได้เลยแต่กับมีค่าความเสียหายขึ้นมาตรงหัวของมัน

    1500

     

    ถึงความเสียหายจะไม่ค่อยมากแต่เล่นเอาทั้งสามหนุ่มตาค้างกันไปตามๆกันเพราะขนาดพวกเขาอาชีพสร้างความเสียหายระดับกัน50แล้วยังไม่สามารถสร้างความเสียหายให้เจ้าปีศาจไร้หัวนี้ได้แม้แต่นิดเดียวเลยแต่นี้มันอะไรนักบวชระดับแค่1กับสามารถโจมตีเขาแถมยังแรงในระดับหนึ่งด้วย

     

                     “แบบนี้ละแจ่มเลย”มาเลียฟิเซนต์พูดอย่างสนุกเมื่อรู้ว่าทักษะของตนสามารถสร้างความเสียหายได้บ้างกำลังใจของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

     

                    “โอม นักรบ อัศวิน พวกนายล่อเอาไว้ก่อนนะเดียวฉันจะพายายามใช้แสงศักดิ์สิทธิ์โจมตีเจ้านั้นเอง

     

                   “เอาละนะเจ้าปีศาจบ้าจงรับการลงโทษของฉันที่ทำให้ฉันได้เห็นภาพไม่เป็นมงคลแบบนั้นเตรียมพร้อม”มาเลียฟิเซนต์พูดเสร็จก็เริ่มรายเวทย์เพื่อที่จะโจมตีปีศาจไร้หัว

     

                “แสงสีขาวแห่งสวรรค์เอ๋ย โปรดส่องประกาย แผ่ความเมตาของท่านมาให้พวกข้าเหล่าลูกแกะผู้อ่อนแอ โปรดนำแสงแห่งความสุขโอบอุ้มพวกเราให้รอดพ้นจากความเจ็บปวด และ อันตรายทั้งหมายด้วย”มาเลียฟิเซนต์พูดตามบทร่ายที่ระบบส่งมาให้เพื่อที่จะใช้ทักษะ

     

    ”โล่แห่งแสง”เมื่อมาเลียฟิเซนต์พูดชื่อทักษะจบก็เกิดโดมขนาดไม่ใหญ่มากร้อมรอบพวกของเธอแต่กับสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปกติ นักรบ โอม อัศวินดูผลของทักษะแล้วดูว่าโล่นี้มีความสามารถอะไร”ป้องกันการโจมตี5%เป็นเวลา5นาทีค่ะ”เมื่อทั้งสามอ่านก็อึ้นกันต่อไปอีกครั้งเพราะ5%นี้ถือไม่ใช้น้อยๆนะแถมนี้มันอะไร5นาทีด้วยเรียกได้ว่าเป็นทักษะป้องกันที่พอมีความสามารถอยู่บ้าง

              “เอาละทุกคนพร้อมนะค่ะ”มาเลียฟิเซนต์พูดเพื่อให้ทั้งสามคนตั้งสติให้ได้”ตอนนี้พวกคุณอยู่กับมอสเตอร์ ระดับ100นะค่ะไม่ใช้เวลามาเหม่อ”

     

                “โหดอะอัศวินเมื่อกี่นายยั้งสั่งเธออยู่เลยแต่ตอนนี้เธอสั่งนายได้แล้วหรอเนี้ย”โอมพูดเพราะเมื่อกี่เขายังเป็นคนเตือนสติมาเลียฟิเซนต์อยู่เลยแต่ตอนนี้กับเป็นเขาเองที่ถูกเตือนสติแล้วถูกช่วยเหลือไว้ด้วย

     

           เมื่อทั้งสามคนตั้งสติได้แล้วก็ตั้งท้าพร้อมต่อสู้อีครั้งโดยครั้งนี้ไม่ห่วงเรื่องบาทแผลอีกแล้วเพราะตอนนี้มีนักบวชอยู่ในทีมแล้วด้วยทำให้พวกเขาทั้งสามโล่งใจไปนิดหนึ่งแต่ยังไงพวกเขาก็ยังไม่เห็นทางที่จะชนะเลยแม้แต่นิดเดียว

     

     เมื่อทั้งสามคนตั้งท้าพร้อมก็พุ่งตรงไปที่ปีศาจไร้หัวด้วยความเร็วนักรบ รีบใช้ทักษะเสริมพลังของตนเอง “เพลิงดาบสงคราม”ที่สามารถช่วยเพิ่มพลังโจมตีได้ส่วนหนึ่ง ส่วนอัศวินใช้ทักษะ    ”หอกหมื่นหยดเลือด”ที่จะสร้างความเสียให้เป็นสองเท่าในการโจมตีครั้งนี้ ส่วนโอมก็ไม่น้อยหน้าใช้ทักษะ”ดวงตาของนักล้า”ที่จะเพิ่มความแม่นยำของลูกธนูให้รุนแรงขึ้นทั้งสามคนต่างใช้สกิวของแต่ละคนอย่างบ้าครั้งโดยที่มาเลียฟิเซนต์ทำการสนับสนุนโดยการเพิ่มเลือดให้แกทุกคนและเมื่อเห็นช่องว่างเธอก็จะร่ายเวทย์แสงศักดิ์สิทธิ์ใสตอนมันเผ่อทุกคนต่างมีอะไรกันก็งัดกันออกมาใช้กันทั่วหน้าไม่ว่าจะเป็นเธอเอง

     

    พวกพวกเขาทั้งที่สู้ติดต่อกันมาเป็นเวลานานเป็นเวลา4ชั่วโมงได้แล้วร่างกายของคนเรานั้นก็มีขีดจำกัดของตนเองอัศวิน นักรบ และโอม ตอนนี้ร่างกายเป็นไปด้วยเหงื่อเพราะสู้ติดต่อกันมาเป็นเวลานานถึงมาเลียฟิเซนต์จะไม่มีเหงื่อออกมามากเท่าทั้งสามคนแต่ที่แน่ๆยังไงเธอก็เป็นผู้หญิงรางกายถึงมีขีดจำกัดเร็วกว่าผู้ชายหลายเท่าแต่เธอก็สามารถต่อสู้กับมอสเตอร์ระดับ100ได้ถึง4ชั่วโมงโดยที่ยังไม่มีใครตายเลยแม้แต่คนเดียวเรียกได้ว่าเก่งมากแล้วกับผู้หญิงที่ระดับ1อย่างเธอและคนระดับ50สามคน เพราะปีศาจไร้หัวที่จริงควนที่จะใช้ผู้เล่นระดับเกิน50ประมาณ15คนเพราะหนังของมันหน้ามากและกล้ามแขนของมันที่ใหญ่โตทำให้การโจมตีทางเวทย์และกายภาพไม่ค่อยมีผลกับมันมากนักแต่พวกเธอและเหล่าชายทั้งสามสามารถยืนหยัดสู้กับมันมาได้ถึง4ชั่วโมงพวกเขาทั้งสี่คนต่างหมดแรงไม่เหลือแรงที่จะสู้ต่อไปแล้วแต่ไม่ใช้กับปีศาจไร้หัวมันเหมือนได้รับบาทเจ็บไม่ค่อยมากกันกำลังพยายามที่จะจับโอมที่ตอนนี้ใกล้จะหมดแรงในการเคลื่อนที่อยู่แล้วด้วย

     

               “มาเลียฟิเซนต์เมื่อพวกเรานับ1-3เธอรีบหนีไปเลยนะเขาใจไม่”อัศวินพูดพร้อมสั่งให้เธอนี้ไปเพราะถ้าพวกเขาตายไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้นอยู่แล้วแค่ภารกิจของมาเลียฟิเซนต์จบแต่ถ้าเธอตายเธอจะต้องเสียของทุกอย่างที่เธอมีอยู่

     

              “บ้าหรอเจ้าพวกบ้าอย่าพูดแบบนี้นะมาด้วยกันขนาดนี้พวกเราก็ต้องทำให้มันจบด้วยกันถ้าพวกนายตายฉันก็จะขอตายด้วย”มาเลียฟิเซนต์ตะโกนใส่หน้าของอัศวินขอหาพูดบ้าๆ

     

              “แต่เธอรู้ใช้ไม่ว่าถ้าเธอตายของทั้งหมดของเธอจะหายไปแถมต้องรอเวลาเกิดอีก10ชั่วโมงเธอว่ามันคุ้มหรอหา”นักรบก็ตะคลอกกับใจเธอข้อหาที่เธอไม่รู้เรื่องไหนควนหนีเรื่องไหนควนอยู่

     

                “ของนะหาไหมก็ได้แต่พวกนายทั้งสามคนไม่มีใครมาแท้นที่ได้หรอกนะ”มาเลียฟิเซนต์พูดพร้อมทั้งวิ่งไปกอดอัศวิน กับนักรบ ถึงพวกเขาจะเจอเธอได้ไม่ถึงวันแต่เพราะการต่อสู้ทำให้พวกเขารู้ว่าเธอเป็นคนที่ไม่เคยทิ้งเพื่อนดูขนาดระดับ1เมื่อยืนอยู่ต่อหน้ามอสเตอร์ระดับ100หลายๆคนคงกลัวจนวิ่งหนีไม่ก็ฆ่าตัวตายกันแต่ไม่ใช้สำหรับเธอเธอคนนี้พยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยพวกเขาถึงมันจะเล็กน้อยแค่ไหนเธอก็พยายามทำให้ถึงที่สุดที่เธอทำได้

     

                      “ยายบ้า”นักรบ พูด แล้วหันหน้าไปทางอัศวิน และโอม ทั้งสามคนพยักหน้าให้กัน

     

                    “เอาละนะลุยกันเถาะนักรบการสู้ครั้งสุดท้ายของเรา”อัศวินพูดพร้อมทั้งวิ่งนำหน้านักรบไปส่วนตอนนี้นักรบอุ้มเธอแล้วโย้นไปให้โอมที่ตอนนี้มาอยู่ใกล้ๆเธอตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้แล้วเมื่อโอมรับมาเลียฟิเซนต์ได้ก็พาเธอวิ่งออกไปจากการต่อสู้ครั้งนั้นด้วยความเร็วที่สุดที่โอมสามารถทำได้

     

                    “โอมจะพาฉันไปใหนนะโอมพาฉันกับไปเดียวนี้นะ”มาเลียฟิเซนต์พูดพร้อมทั้งพายายามที่จะตบ ตี ต่อย แต่เนื่องจากที่ระดับต่างกันมากแถมค่าATKของเธอน้อยสะยิ้งกว่าน้อยทำให้เธอไม่สามารถทำไรโอมได้เลยแม้แต่นิดเดียดเมื่อโอมพามาเลียฟิเซนต์มาได้ไกลนะจุดหนึ่งก็ปล่อยเธอลงตรงต้นไม้นั้นอย่างเบามือแล้วพูดว่า

     

                  “มาเลียฟิเซนต์นี้คือความตั้งใจของพวกนั้นทั้งสองคนที่อยากให้เธอปลอดภัยรวมถึงฉันด้วยได้โปรดหลบอยู่ตรงนี้นะห้ามไปไหนเด็กขาดเขาใจไม่”โอมพูดจบก็วิ่งหายไปเพื่อที่จะช่วยอัศวิน และนักรบ สู้ถึงจะมีโอกาศรอดเพียงน้อยนิดก็ตามที่แต่เมื่อมาเลียฟิเซนต์ก็กริ๊ดร้องขึ้นมาในใจ

     

                   “ทำไม่ ทำไม่ ฉันมันอ่อนแอแบบนี้ ทำไม่ละ ทำไม่”มาเลียฟิเซนต์พูดกับตัวเองแล้วพายายามที่จะลุกขึ้นเพื่อที่จะตรงไปยังจุดที่พวกเขาทั้งสามต่อสู้กันอยู่แต่ก็ไม่หยุดพูดกับตัวเอง

               “ขนาดคนสำคัญฉันยังปกป้องไม่ได้เพื่อนก็ปกป้องไม่ได้ฉันนะ ฉันยังมีอะไรที่สามารถช่วยคนอื่นได้บ้างไม่สามารถทำอะไรสักอย่างได้ไม่ถึงจะแค่เล็กน้อยก็เถาะฉันมีอะไรที่สามารถทำได้ไม่ท่านมหาธาตุแห่งแสงค่ะโปรดบอกฉันที่ บอกฉันที่ว่าฉันสามารถช่วยพวกเขาทั้งสามคนได้ไม”มาเลียฟิเซนต์พูดกับตนเองที่ตอนนี้น้ำตาเริ่มไหลออกมามากขึ้นมากขึ้นเมื่อเสียคนเซื่อใจไปอีกครั้งเธอไม่อยากจะเสียใครไปอีกแล้วไม่อยากเสียใครไปอีกแล้วอย่ากจะแข็งแกร่งขึ้นถึงจะแค่นิดเดียวก็เถาะอยากจะแข็งแกร่งขึ้น

     

                     “หนูน้อยต้องการพลังหรอ”อยู่ๆก็มีเสียหนึ่งดังขึ้นในโสดประสาทของมาเลียฟิเซน์เป็นเสียงที่เยือกเย็นยิ้งกว่าหิมะในฤดูหนาว แต่กับสงบและทรงอำนาจมาก

     

                   “ใช้ค่ะหนูต้องการพลัง พลังที่สามารถปกป้องคนสำคัญได้”มาเลียฟิเซนต์บอกถึงจะไม่รู้ว่าเป็นใครแต่ขอให้เธอมีพลังมากกว่านี้นิดหน่อยก็ยังดี

     

                   “แต่แม่หนูนั้นขาวสะอาจดุดผ้าที่ไรรอยเปื้อนเจ้าจะเอาผ้าของเจ้าไปครุกดินเพื่อที่จะทำให้เปื้อนทำไมละ”

     

                    “ผ้าที่ไร้รอบเปื้อนหรอค่ะทุกสิ่งนั้นไม่ใช้สีขาวบริสุทธิ์อยู่แล้วนิค่ะทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีตรงข้ามโดยเฉพาะมนุษย์อย่างพวกหนูที่มีทั้งด่านดีและไม่ดี มนุษย์อย่างพวกเราไม่ใช้พระเจ้ามีทั้งโลภ โกรธ หลง ทั้งนั้นไม่ว่าสิ่งใดๆนั้นต้องมีรอยเปื้อนของมันเองถ้าผ้าที่สะอาจนั้นไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เพราะเพียงแค่กลัวจะมีร้อยเปื้อนสู้ไม่ให้มีมั้นเลยจะดีกว่าไม่ละค่ะ”มาเลียฟิเซนต์พูดเพราะเธอรู้ดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างนั้นรวนแต่ไม่บริสุทธิ์แม้แต่เธอเองด้วยเธอมีทั้งโกรธ โลภ และ แค้นอยู่ในตัวของเธอ

     

                   “หึๆเจ้านี้พูดถูกใจข้าจริงๆแต่ตอนนี้เจ้ายังไม่ถึงเวลาหรอกนะเด็กน้อยเมื่อถึงเวลาเมื่อไรข้ามหาธาตุแห่งความมืดจะมอบพลังให้แกเจ้าเองเเต่ตอนนี้เจ้ายังไม่ถึงเวลา”

     

                 “แต่หนูต้องการพลัง พลังที่สามารถปกป้องคนสำคัญของหนูได้ ได้โปรดเถาะค่ะให้หนูทำอะไรก็ได้หนูพร้อมที่จะทำโปรดมอบพลังให้แกหนูเถาะค่ะ”มาเลียฟิเซนต์บอกเพราะตอนนี้เธอต้องการพลังที่สามารถปกป้อง โอม อัศวิน และนักรบให้ได้

     

                    “หนูยังไม่ถึงเวลาหรอกจะ   ตอนนี้หนูไม่สามารถรับพลังของท่านมหาธาตุแห่งความมืดได้หรอกนะจะ”ต่อมาเป็นเสียงของผู้หญิงที่อบอุ่น เหมือนเป็นเสียงของครอบครัวที่ยืนรอพร้อมหน้ากันเพื่อที่จะฉลองความยินดี

     

                 “แต่เพื่อนๆของหนูกำลังอยู่ในอันตรายนะค่ะเพราะตอนนี้หนูไม่มีพลังเหลือแล้วหนูนั้นอ่อนแอจนไม่สามารถปกป้องเพื่อนๆของหนูได้เลย”มาเลียฟิเซนต์พูดแล้วยิ้งร้องใหล้ออกมามากกว่าเดิมเป็นเท่าตัวเมื่อย้อนไปดูว่าเธอนั้นในตอนนี้ไม่สามารถช่วยพวกเขาในการต่อสู้ได้อีกต่อไปแล้ว

     

               “ทำไม่เธอถึงคิดอย่างนั้นละจะถึงหนทางแห่งการปกป้องจะลำบากกว่าหนทางแห่งการทำล้ายแต่ถ้าเธอเชื่อมันในตัวของเธอเองทุกสิ่งจะทำให้เธอสมหวังได้นะจะ จงเชื่อมันในตัวของเธอเองสิไม่ว่าสิ่งได้เธอก็สามารถปกป้องมันได้ถ้าเธอเชื่อมันในตัวของตัวเองและความต้องการที่อยากจะปกป้องอย่างแรงกล้า”เมื่อเสียงที่อบอุ่นนั้นหายไปมาเลียฟิเซนต์กนึกขึ้นได้ว่ายังมีอีกอย่างที่เธอสามารถทำได้ทำให้เธอออกวิ่งด้วยความเร็วสูงยิ้งกว่าความเร็วของโอมสะอีกโดยเวลาไม่นานเกินรอเธอก็มาถึงจุดที่พวกเธอทั้งสี่คนต่อสู้กัยเมื่อกี่เมื่อเธอมาถึงก็ต้องตกใจขึ้นไปอีก ความโกรธในตัวของมาเลียฟิเซนต์พุ้งขึ้นสูงมากในเวลาอันนิดเดียวเพราะอะไรหรอเพราะตอนนี้โอมนั้นบาทเจ็บเจียนตายอยู่ในมือของปีศาจไร้หัวสวนนักรบสลบอยู่ที่เท้าของมันโดยที่โอมนั้นไม่กระดุกระดิกเลยแม้นแต่นิดเดียวส่วนอัศวินนั้นกำลังยืนหยัดสู้อยู่กับปีศาจไร้หัวเพียงคนเดียวถึงตอนนี้สภาพของเขาจะตายแหล่งมิตายแหล่งเขาก็ไม่สนใจแต่เมื่อเห็นว่าใครมายิ้งทำให้เขาตกใจเขาไปอีก มาเลียฟิเซนต์ตอนนี้เธออยู่ในอารมณ์ที่โกรธมาก ไม่ได้โกรธเจ้าปีศาจไร้หัวนะแต่เธอโกรธตัวเองที่ไม่สามารถอยู่ช่วยพวกเขาได้จนถึงวินาที่สุดท้าย

     

                   “มาเลียฟิเซนต์เธอกับมาทำไม่ยายบ้ารีบหนีไป รีบหนีไป”อัศวินพูดจบก็ล้มลงกับพื้นทันที่แต่ก็ไม่ตกถึงพื้อนเพราะตอนนี้อัศวินนัน้อยู่ในอ้อมกอดของเธอแล้ว

     

             “อัศวินถ้าฉันตายฉันก็ขอตายกับพวกนายเนี้ยละดีกว่าตายโดยให้พวกนายทั้งสามคนเป็นเครื่องสังเวย”มาเลียฟิเซนต์พูดจบปีศาจไร้หัวก็ตรงมาที่เธอด้วยความเร็วสูงโดยโยนโอมกับรับมาทางเธอก่อนเป็นอำดับแรก

     

                 แต่เมื่อวันจะเขามาใกล้มาเลียฟิเซนต์ก็เกิดเห็นอะไรบางอย่างขึ้นรอบๆตัวของมาเลียฟิเซนต์เกิดออร่าแปลกๆออกมาอย่างช้าๆจนตอนนี้เริ่มที่จะก่อตัวเป็นรูปของผู้หญิงที่กอดคอมาเลียฟิเซนต์โดยที่เอาคางเกยหัวของเธอเป็นผู้หญิงที่อบอุ่นใบหน้าของเธอนั้นเหมือนใบหน้าของมาเลียฟิเซนต์ในโลกแห่งความป็นจริงมากเหมือนเป็นคนๆเดียวกันเลยก็ว่าได้และดวงตาของมาเลียฟิเซนต์ตอนนี้เป็นแววตาที่พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะปกป้องเพื่อนๆของตนไม่ว่าจะต้องเสียอะไรไปก็ตาม

     

     

     

     

     

     

    มาเลียฟิเซนต์พูดจบเธอก็หญิง ตำราแห่งการปกป้องขึ้นมาพร้อมรบ

       

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×