ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กล่องความสุข...Happiness box

    ลำดับตอนที่ #1 : ความสุขเกิดขึ้นเมื่อ ..ได้ทุ่มเทให้กับคนที่ชอบ

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 56


     

    ความสุขเกิดขึ้นเมื่อ ..
                                ได้ทุ่มเทให้กับคนที่ชอบ

    เคยมีคนบอกว่าความสุขที่เกิดจากความรัก มันก็ต้องมาจากการที่ได้ครอบครอง
    และเป็นไปอย่างที่เราหวังเอาไว้ ใครบางคนพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขาหันมาสนใจ    ใครบางคนพยายามไปในที่ๆเขาจะไปเพราะหวังว่าจะได้เห็นเขา ใครบางคนยอมทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบเพื่อให้ได้ใกล้ชิด ใครบางคนต้องคอยเก็บอาการเอาไว้ไม่ให้เขารู้ความในใจ สำหรับใครบางคนอาจโชคดีที่ได้ความรักจากเขาคนนั้น คงจะมีความสุขน่าดู  แต่สำหรับใครบางคนที่ไม่ได้ความรักจากเขากลับมาล่ะ จะรู้สึกยังไง เสียใจ
    ? ดีใจ? มีความทุกข์? มีความสุข? แต่สำหรับฉัน.....

    โอ๊ย!! เจ็บจังเลย วันนี้มันวันซวยอะไรนะ มาโรงเรียนก็สายแถมยังมาเหยียบเปลือกกล้วยลื่นล้มอีก” “เป็นอะไรมากมั๊ยครับเสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยถาม
    โอ๊ยก็เป็นน่ะซิ เห็นอยู่ว่าลื่นล้ม ยังจะมาถาม” คำตอบที่แข็งกระด้างของฉันต้องหยุดลง เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าที่เอ่ยถามฉันคือ พี่ตะวัน หนุ่มรุ่นพี่ที่ใครหลายๆคนต่างก็เฝ้ามอง เพราะอะไรน่ะเหรอ
    ก็เพราะว่าพี่เขาเป็นคนที่เรียนเก่งมากๆ แถมยังเป็นนักกีฬาบาสของโรงเรียน ที่สำคัญยังร้องเพลงเพราะอีกด้วย

    อะ..เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะฉันตอบพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย
    งั้นเดี๋ยวพี่พาไปห้องพยาบาลดีกว่านะ มาค่อยๆลุกขึ้นนะครับ
     ฉันได้แต่เดินตามพี่ตะวันไปอย่างนิ่งๆโดยไม่พูดไม่จาเหมือนถูกมนต์สะกด ฉันไม่เคยคิดไม่เคยฝันมาก่อนว่าจะได้พูดคุยและใกล้ชิดพี่ตะวัน คนที่ใครหลายๆคนต่างชื่นชม หลังจากเหตุการณ์วันนั้น
    ทำให้ฉันอยากเจอพี่ตะวันบ่อยๆเสียแล้ว
    เอ...ทำยังไงดีนะ จะได้ใกล้ชิดพี่ตะวันอีก  นึกออกแล้ว!!! ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าในแต่ละวันพี่ตะวันทำอะไรที่ไหนบ้าง ในที่สุดฉันก็รู้ว่าในช่วงพักกลางวันพี่ตะวันจะชอบไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด ส่วนในตอนเย็นหลังเลิกเรียนพี่ตะวันก็จะไปซ้อมบาสที่โรงยิมเป็นประจำ และด้วยความที่อยากใกล้ชิด ฉันจึงพยายามเข้าห้องสมุดทั้งๆที่ชีวิตนี้ไม่เคยคิดที่เข้ามาที่นี่เลยด้วยซ้ำ
    ฉันพยายามไปขอร้องเพื่อนให้สอนฉันเล่นบาสที่โรงยิมทั้งๆที่ฉันเป็นคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย
    จนเพื่อนสนิทต่างก็เริ่มสงสัยว่าเพราะอะไรจึงทำให้ฉันเปลี่ยนไป ฉันพยายามหาโอกาสที่จะเข้าไปคุยกับพี่ตะวันแต่ก็ไม่เคยกล้าสักครั้ง ในวันกีฬาสีฉันก็ให้เพื่อนไปขอถ่ายรูปพี่ตะวัน แถมยังให้เพื่อน
    ขอเบอร์พี่เขามาอีก
     
    นี่ได้มาแล้วทั้งรูปทั้งเบอร์เสียงเพื่อนคนสนิทของฉันเอ่ย
     
    จริงเหรอ ขอบใจมากเลยนะ  
    ตึ๊กๆ ตึ๊กๆ เสียงหัวใจของฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ มือไม้สั่นจนทำอะไรไม่ถูก
    ตื่นเต้นจังเลย ถ้าโทรไปแล้วพี่เขาจะรับไม่นะ พี่เขาจะเป็นคนยังไง จะคุยดีๆกับเรารึเปล่าน้า... คำถามต่างๆผุดขึ้นมาในหัวของฉัน ฉันพยายามตั้งสติและรวบรวมความกล้าทั้งหมด
    กดเบอร์ของพี่ตะวันแล้ว โทรออก

    สวัสดีครับเสียงทุ้มๆดังขึ้นในโทรศัพท์  
    สะ สะ.. สวัสดีค่ะ  เอ่อ...ขอสายพี่ตะวันหน่อยค่ะ
    “พูดอยู่ครับ นี่ใครพูดครับตะวันถามกลับ
    ฉันไม่กล้าที่จะบอกว่าตนเองเป็นใคร เพราะคิดในใจว่าบอกไปพี่ตะวันก็ไม่รู้จัก

    เอ่อ...พี่ตะวันคะ พี่ไม่ต้องรู้หรอกค่ะ ว่าคนที่พูดอยู่เป็นใคร รู้แค่ว่าคนๆนี้ชอบพี่มากเลยนะคะ  ตะวันตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินปลายสายตอบเช่นนั้น อ๋อ...ครับ แล้วทำไมน้องถึงชอบพี่ครับตะวันเป็นฝ่ายถามกลับบ้าง เสียงสั่นๆของฉันจึงได้แต่ตอบกลับไปว่า เพราะ...พี่เป็นคนเก่ง ทั้งเรียนเก่ง เล่นกีฬาก็เก่ง ร้องเพลงก็เพราะ ใครๆก็ชอบพี่ตะวันทั้งนั้น”          และเราสองคนก็พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ฉันมักจะโทรไปหาพี่ตะวันเมื่อมีเวลาว่างๆ         และมักจะพยายามแอบมองพี่ตะวันทุกครั้งที่เจอหน้า จนพี่ตะวันเริ่มสังเกตและสงสัยแล้วว่าคนที่โทรมาหาเป็นฉัน แต่พี่ตะวันก็คงไม่ได้สนใจอะไรหรอก ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้พี่ตะวันหันมาสนใจ ทั้งพยายามเรียนให้เก่งจนได้เกรดเฉลี่ยสูงๆ เป็นคณะกรรมการนักเรียน เป็นนางรำของโรงเรียน และทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้ช่วงเวลานั้นฉันไม่ได้ติดต่อกับพี่ตะวันทางโทรศัพท์อีกเลย แต่สิ่งที่น่าโชคดีกว่านั้นคือ ฉันได้มีโอกาสพูดคุยกับพี่ตะวันเพราะได้ทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยๆ ฉันรู้สึกดีใจทุกครั้งแต่ก็พยายามเก็บอาการมาตลอดและหวังว่าพี่ตะวันก็จะไม่รู้ถึงความรู้สึกในใจของฉัน  จนมาถึงวันนี้วันที่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เจอพี่ตะวัน ฉันซื้อดอกกุหลาบสีขาว ดอกไม้ที่พี่ตะวันชอบ พร้อมกับผูกโบว์สีแดงสีโปรดของพี่ตะวัน เพื่อเตรียมให้ในวันรับใบประกาศนียบัตรของนักเรียนชั้นม.6 ฉันรวบรวมความกล้าที่มี           ถือดอกกุหลาบในมือดอกเดียวสำหรับคนๆเดียว เดินตรงไปยังคนที่ฉันเฝ้ามองมาตลอดเวลา
    พี่ตะวันคะเสียงของฉันเอ่ยทักขึ้น  พี่ตะวันก้มหน้ามองฉันด้วยความเอ็นดู
    คือจันทร์เจ้าเอาดอกกุหลาบมาให้ค่ะ ต่อจากนี้เราก็คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ขอให้พี่ตะวันโชคดี นะคะ
    ตะวันพยักหน้าพร้อมกับรับดอกกุหลาบสีขาวจากมือของฉัน
    ขอบใจมากนะ พี่จะเก็บไว้เป็นอย่างดีเลย จะขึ้นม.6แล้ว จันทร์เจ้าก็ตั้งใจเรียนด้วยนะ 
    หลังจากจบงานวันนั้นฉันยังคงหัวใจเต้นแรงไม่หยุด เฮ้อ..อย่างน้อยก็ได้ทำอะไรเพื่อพี่ตะวันเป็น
    ครั้งสุดท้าย แต่ก็อดใจหายไม่ได้ที่จะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว   เอ๊ะ!!นี่กระดาษอะไร

    จันทร์เจ้า                                                                                                            ขอบคุณที่เคยปลื้มพี่ ขอบคุณที่เคยให้เพื่อนมาขอเบอร์พี่ ขอบคุณที่กล้าคุยกับพี่ ขอบคุณที่ให้เพื่อนมาถ่ายรูปพี่ขอบคุณที่ตั้งใจเรียนจนได้เกรดสูงมาตลอด และขอบคุณสำหรับดอกกุหลาบ
    สีขาวในวันนี้นะครับ พี่จะเก็บมันไว้เป็นอย่างดี มีเรื่องอยากปรึกษาอะไรก็โทรมาหาพี่ได้นะ พี่ยังใช้เบอร์เดิมอยู่ครับ
                                                                                            ตะวัน  ทิวากร

    ฉันเริ่มรู้สึกใจเต้นแรงอีกครั้ง มือไม้สั่นจนทำอะไรไม่ถูก  เมื่อรู้ความจริงว่าพี่ตะวันคนที่ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อเขา รู้เรื่องราวทุกอย่างมาตลอด ...

    เวลาก็ผ่านมาตั้งหลายปีแล้วนะ แต่ทำไมเมื่อคิดไปถึงสมัยมัธยมทีไร เรื่องนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวทุกครั้ง ไม่ว่าเวลาจะนานแค่ไหน กี่วันกี่ปีผ่านไป ฉันก็ไม่เคยลืมผู้ชายที่เคยทำให้ฉันหัวใจเต้นแรงและยอมทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ชอบ เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเขาและให้เขาหันมาสนใจได้ขนาดนี้  นึกแล้วก็อดขำไม่ได้ทำเพื่อเขาทุกอย่าง เพราะคิดว่าเขาจะไม่รู้ว่าเป็นเรา แต่ที่ไหนได้เขารู้มาตลอดเลย น่าอายจริงๆ แต่ฉันก็เข้าใจดีว่าฉันคงไม่ใช่ปุยเมฆสีขาวที่จะอยู่เคียงข้างดวงตะวันอย่างเขาในตอนเช้า ส่วนเขาก็ไม่ใช่ดวงดาวที่จะอยู่คู่กับพระจันทร์อย่างฉันในตอนกลางคืน แต่ในเช้าบางวันที่พระอาทิตย์ขึ้น พระจันทร์อย่างฉันก็ยังแอบมองพระอาทิตย์ไม่ยอมไปไหนซะที มันก็เหมือนกับที่ฉันยังคงเฝ้า
    แอบมอง และยินดีทุกครั้งที่เขามีความสุขและประสบความสำเร็จ ฉันรู้แล้วละว่าความสุขที่เกิดจากความรักไม่จำเป็นต้องได้มาซึ่งการครอบครอง แต่การได้ทุ่มเททำอะไรเพื่อคนๆหนึ่งที่เราชอบแค่นี้ก็ถือว่ามีความสุขเพียงพอแล้วสำหรับฉัน  
    เชื่อฉันสิมันมีความสุขจริงๆนะที่ได้ทุ่มเททำอะไรเพื่อใครคนหนึ่งโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

                                                                                         จันทร์เจ้า  นิสากร

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×