ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : งานที่ 2 ตัวแทนแห่งความตาย
ที่ไหนสักแห่งระหว่างโลกมนุษย์และโลกแห่งความตาย
ผมตื่นขึ้นที่ไหนสักแห่ง เหมือนเป็นห้องแคบๆ ห้องหนึ่งที่สว่างไสว มันโดนปิดล้อมทั้ง 3 ด้าน ส่วนอีกด้านหนึ่งมีประตู ผมมองไปรอบๆ ไม่เห็นอะไรสักอย่าง แสงที่ส่องจากปรุตูที่เปิดอยู่ช่างแสบตา แต่ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก ผมลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปยังประตูต้นทางของแสง ผมเดินเข้าประตูไป แล้วพบว่ามันคือท้องทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา
ตอนนี้ผมยืนอยู่บนเนินเขาที่ปูเรียบไปด้วยผืนหญ้าสีเขียว มองไปรอบๆ เห็นว่าภูเขานี้ยาวใหญ่สุดลูกหูลูกตา ผมหันหลังกลับไปพบว่า ประตูที่ผมเดินเข้ามาที่นี่ได้หายไปแล้ว ผมทิ้งตัวลงบนพื้นหญ้า นึกย้อนทบทวนว่าผมมาที่นี่ได้ยังไง
เอ๊ะ! ผมโดนยิงเข้าที่หน้าอกนี่ ผมก้มมองที่หน้าอก ไม่เห็นมีรอยเลือดไหล ชุดก็ยังเป็นชุดเดิมที่กำลังใส่ก่อนโดนยิง นั่นไง นึกออกแล้ว ผมตายแล้วสินะ
"คิดได้ไวดีนี่" ได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง ผมหันกลับไปมอง พบชายผมทองหน้าตาดีคนหนึ่ง เขายิ้มแล้วเดินเข้ามาหาผม แล้วพูดว่า "ผมขอนั่งบนเก้าอี้นะ ยังไงก็เห็นแก่สูทราคาแพงของผมบ้าง" ว่าแล้วเขาก็โบกมือขึ้น มีเก้าอี้เหล็กแบบที่เราไว้นั่งเล่นแถวสวนสาธารณะ ผุดขึ้นมาจากพื้น เขาก็นั่งลง ผมลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "คุณเป็นใคร ต้องการอะไรจากผม นี่มันเกิดอะไรขึ้น"
ชายแปลกหน้ายิ้ม แล้วพูดว่า "ผมคือยมทูต มีหน้าที่มานำดวงวิญญาณของคนตายไปสู่ที่ที่ควรจะไป และในที่นี่คือคุณ" เขาชี้มาทางผม "แสดงว่าผมตายแล้ว เฮ้อ เหลือเรื่องที่จะต้องทำอีกตั้งเยอะ เสียดายจริงๆ" ผมตัดพ้อ
"อย่างคุณน่ะ ตายดีกว่ามีชีวิตอยู่เสียอีก คนทำกรรมเยอะอย่างคุณ อยู่ไปก็มีแต่จะทำให้โลกนี้เป็นพิษภัยเปล่าๆ ผมน่ะวันๆ รับวิญญาณคนตายหลายคนก็จริง แต่น้อยคนนะที่จะชั่วได้เท่าคุณ"
เขากล่าวอย่างจริงจัง
"ไม่จริง! ผมว่าต้องมีหลายคนแหละที่ชั่วกว่าผม อย่างไอ้พวกนักการเมือง ฉ้อโกงสารพัดทำไมมันถึงไม่ตาย" ผมเถียง "โฮ๊ะ ไอ้พวกนั้นก็ต้องตามคุณมาไม่ช้านี้แหละ แต่ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณมันชั่วแค่ไหน มานี่ผมจะเอาอะไรให้ดู จะได้เลิกเถียงซะที" เขาพูดจบก็หยิบแท๊บเลทขึ้นมา
"โฮ๊ะ เดี๋ยวนี้พัฒนาวุ๊ย มีเทคโนโลยีลงมาถึงนี่เลยเหรอ" ผมถาม ชายแปลกหน้ายิ้ม เขาคลิกโปรแกรม แล้วคีย์ชื่อของผมเข้าไป เมื่อกดปุ่มยืนยัน ที่หน้าจอแสดงเส้นตารางรายการ ดูไปคล้ายๆ Timeline แสดงสิ่งที่ผมทำในแต่ละช่วงปี
เขาคลิกไปที่ 2559 ซึ่งเป็นปีหน้า ยื่นให้ผมดู "ฆ่าคน ฆ่าคน ปล้น ขายยาเสพย์ติด ทะเลาะ เลิกกับเมีย ฯลฯ เอ้ยยยย นี่คือสิ่งที่ผมจะทำจริงเหรอ คุณโม้หรือเปล่า" "คุณน่ะมันสวะสังคม ดีแล้วที่คุณมาตายซะเดี๋ยวนี้ คนอื่นเขาจะได้มีความสุขอยู่ดี" เขาบอก
"ไม่นะ ผมยังไม่อยากตาย ผมสาบานว่าผมจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน คุณให้ผมกลับไปได้ไหม ผมเป็นห่วงลูกเมีย ไม่รู้จะอยู่ยังไง" ผมยกมือขอร้อง "ผมมีหน้าที่มานำวิญญาณไปสู่ที่ควรไป ไม่ใช่ส่งกลับไปโลกมนุษย์ ไอ้เวรนี่ วอนให้ผมตกงานซะแล้ว" เขาเริ่มโมโห
"เอ้อ แต่ที่คุณพูดก็มีเหตุผล มีคนอีกตั้งหลายคนที่ชั่ว และสมควรจะตาย อืม เอายังไงดีล่ะ" เขาทำท่าครุ่นคิด "ผมมีทางจะได้กลับไปเหรอครับ ท่านครับ ผมยินดีทำทุกอย่างที่ท่านสั่ง ขอเพียงผมได้กลับไปหาลูกเมียของผม ลูกผมยังเล็กเพิ่งเข้าอนุบาลสอง เองครับ" ผมนั่งลงกราบที่เท้าของเขา
"ดูจากที่คุณมาอยู่ในสถานที่นี้ได้ แสดงว่าแท้จริงแล้วคุณก็เป็นคนดี ติดอยู่ที่สถานการณ์พาไป ทำให้ต้องทำชั่ว และก็ยังเสือกจะทำได้เก่งซะอีก" เขาเอามือลูบคางทำท่าครุ่นคิด ระหว่างนั้นผมยกมือขึ้นเป็นเชิงขอร้อง ตามองเขาด้วยอาการขอร้องแบบสุดๆ
"เอาอย่างนี้ ไหนๆ รอบอาทิตย์นี้ก็ไม่ค่อยได้ยอดด้วยสิ ผมจะให้โอกาสคุณได้กลับไปโลกมนุษย์ แต่มีข้อแม้อยู่ไม่กี่ข้อที่ต้องทำตาม" เขาบอกต่อว่า "ข้อที่หนึ่ง คุณจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าคุณตายไปแล้วแต่ได้กลับมาโลกมนุษย์อีก และข้อที่สอง คุณจะต้องทำหน้าที่ของยมทูตแทนผม คุณต้องฆ่าคนตามจำนวนที่ผมต้องการ"
"หา เพิ่งบอกว่าผมทำชั่ว แต่นี้จะให้ฆ่าคน เอายังไงแน่ครับท่าน" ผมถาม "เอ้า ก็ฆ่าแต่ไอ้คนเลวๆ สิวะ ไอ้นี่ก็พูดไม่คิด เดี๋ยวก็เอาตีนยันหน้าลงนรกไปเลย" เขาด่าเสียงดัง ผมร้องอ้อ หัวเราะแหะๆ
"เอาอย่างนี้ คุณจะอยู่ในโลกมนุษย์ได้แบบวันต่อวัน ในแต่ละวันคุณจะต้องฆ่าอย่างน้อยหนึ่งคน ถ้าวันใดคุณไม่ได้ฆ่าใครเลย ถือว่าจบหน้าที่ของคุณ คุณจะต้องกลับมาที่นี่เพื่อรับกรรมของคุณต่อไป" เขาอธิบาย "และเลือกเฉพาะคนเลวๆ เท่านั้นนะครับ ถ้าทำอะไรผิดพลาด จะต้องกลับมารับกรรมที่นี่ทันที"
"เอาๆ ยังไงก็ได้ ขอให้ผมได้กลับไปเจอลูกเมียอีกครั้งหนึ่ง" ผมก้มหัวยอมรับ ก้มลงกราบเท้าของเขา "อ่ะ เรื่องนั้น ไม่น่าจะได้แล้วล่ะ ป่านนี้ศพของคุณคงโดนเผาไปเรียบร้อยแล้ว" เขาบอก
"ห๊า! เราอยู่กันที่นี่แปปเดียวเอง ทำไมถึงโดนเผาแล้วล่ะครับ" ผมถาม "ก็ที่โลกมนุษย์เวลาเดินเร็วกว่าที่นี่ เราอยู่กันที่นี่ 20 นาที เวลาที่โลกน่าจะผ่านไป 7-8 วันแล้ว"
ผมตื่นขึ้นที่ไหนสักแห่ง เหมือนเป็นห้องแคบๆ ห้องหนึ่งที่สว่างไสว มันโดนปิดล้อมทั้ง 3 ด้าน ส่วนอีกด้านหนึ่งมีประตู ผมมองไปรอบๆ ไม่เห็นอะไรสักอย่าง แสงที่ส่องจากปรุตูที่เปิดอยู่ช่างแสบตา แต่ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก ผมลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปยังประตูต้นทางของแสง ผมเดินเข้าประตูไป แล้วพบว่ามันคือท้องทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา
ตอนนี้ผมยืนอยู่บนเนินเขาที่ปูเรียบไปด้วยผืนหญ้าสีเขียว มองไปรอบๆ เห็นว่าภูเขานี้ยาวใหญ่สุดลูกหูลูกตา ผมหันหลังกลับไปพบว่า ประตูที่ผมเดินเข้ามาที่นี่ได้หายไปแล้ว ผมทิ้งตัวลงบนพื้นหญ้า นึกย้อนทบทวนว่าผมมาที่นี่ได้ยังไง
เอ๊ะ! ผมโดนยิงเข้าที่หน้าอกนี่ ผมก้มมองที่หน้าอก ไม่เห็นมีรอยเลือดไหล ชุดก็ยังเป็นชุดเดิมที่กำลังใส่ก่อนโดนยิง นั่นไง นึกออกแล้ว ผมตายแล้วสินะ
"คิดได้ไวดีนี่" ได้ยินเสียงมาจากด้านหลัง ผมหันกลับไปมอง พบชายผมทองหน้าตาดีคนหนึ่ง เขายิ้มแล้วเดินเข้ามาหาผม แล้วพูดว่า "ผมขอนั่งบนเก้าอี้นะ ยังไงก็เห็นแก่สูทราคาแพงของผมบ้าง" ว่าแล้วเขาก็โบกมือขึ้น มีเก้าอี้เหล็กแบบที่เราไว้นั่งเล่นแถวสวนสาธารณะ ผุดขึ้นมาจากพื้น เขาก็นั่งลง ผมลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า "คุณเป็นใคร ต้องการอะไรจากผม นี่มันเกิดอะไรขึ้น"
ชายแปลกหน้ายิ้ม แล้วพูดว่า "ผมคือยมทูต มีหน้าที่มานำดวงวิญญาณของคนตายไปสู่ที่ที่ควรจะไป และในที่นี่คือคุณ" เขาชี้มาทางผม "แสดงว่าผมตายแล้ว เฮ้อ เหลือเรื่องที่จะต้องทำอีกตั้งเยอะ เสียดายจริงๆ" ผมตัดพ้อ
"อย่างคุณน่ะ ตายดีกว่ามีชีวิตอยู่เสียอีก คนทำกรรมเยอะอย่างคุณ อยู่ไปก็มีแต่จะทำให้โลกนี้เป็นพิษภัยเปล่าๆ ผมน่ะวันๆ รับวิญญาณคนตายหลายคนก็จริง แต่น้อยคนนะที่จะชั่วได้เท่าคุณ"
เขากล่าวอย่างจริงจัง
"ไม่จริง! ผมว่าต้องมีหลายคนแหละที่ชั่วกว่าผม อย่างไอ้พวกนักการเมือง ฉ้อโกงสารพัดทำไมมันถึงไม่ตาย" ผมเถียง "โฮ๊ะ ไอ้พวกนั้นก็ต้องตามคุณมาไม่ช้านี้แหละ แต่ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณมันชั่วแค่ไหน มานี่ผมจะเอาอะไรให้ดู จะได้เลิกเถียงซะที" เขาพูดจบก็หยิบแท๊บเลทขึ้นมา
"โฮ๊ะ เดี๋ยวนี้พัฒนาวุ๊ย มีเทคโนโลยีลงมาถึงนี่เลยเหรอ" ผมถาม ชายแปลกหน้ายิ้ม เขาคลิกโปรแกรม แล้วคีย์ชื่อของผมเข้าไป เมื่อกดปุ่มยืนยัน ที่หน้าจอแสดงเส้นตารางรายการ ดูไปคล้ายๆ Timeline แสดงสิ่งที่ผมทำในแต่ละช่วงปี
เขาคลิกไปที่ 2559 ซึ่งเป็นปีหน้า ยื่นให้ผมดู "ฆ่าคน ฆ่าคน ปล้น ขายยาเสพย์ติด ทะเลาะ เลิกกับเมีย ฯลฯ เอ้ยยยย นี่คือสิ่งที่ผมจะทำจริงเหรอ คุณโม้หรือเปล่า" "คุณน่ะมันสวะสังคม ดีแล้วที่คุณมาตายซะเดี๋ยวนี้ คนอื่นเขาจะได้มีความสุขอยู่ดี" เขาบอก
"ไม่นะ ผมยังไม่อยากตาย ผมสาบานว่าผมจะไม่ทำแบบนั้นแน่นอน คุณให้ผมกลับไปได้ไหม ผมเป็นห่วงลูกเมีย ไม่รู้จะอยู่ยังไง" ผมยกมือขอร้อง "ผมมีหน้าที่มานำวิญญาณไปสู่ที่ควรไป ไม่ใช่ส่งกลับไปโลกมนุษย์ ไอ้เวรนี่ วอนให้ผมตกงานซะแล้ว" เขาเริ่มโมโห
"เอ้อ แต่ที่คุณพูดก็มีเหตุผล มีคนอีกตั้งหลายคนที่ชั่ว และสมควรจะตาย อืม เอายังไงดีล่ะ" เขาทำท่าครุ่นคิด "ผมมีทางจะได้กลับไปเหรอครับ ท่านครับ ผมยินดีทำทุกอย่างที่ท่านสั่ง ขอเพียงผมได้กลับไปหาลูกเมียของผม ลูกผมยังเล็กเพิ่งเข้าอนุบาลสอง เองครับ" ผมนั่งลงกราบที่เท้าของเขา
"ดูจากที่คุณมาอยู่ในสถานที่นี้ได้ แสดงว่าแท้จริงแล้วคุณก็เป็นคนดี ติดอยู่ที่สถานการณ์พาไป ทำให้ต้องทำชั่ว และก็ยังเสือกจะทำได้เก่งซะอีก" เขาเอามือลูบคางทำท่าครุ่นคิด ระหว่างนั้นผมยกมือขึ้นเป็นเชิงขอร้อง ตามองเขาด้วยอาการขอร้องแบบสุดๆ
"เอาอย่างนี้ ไหนๆ รอบอาทิตย์นี้ก็ไม่ค่อยได้ยอดด้วยสิ ผมจะให้โอกาสคุณได้กลับไปโลกมนุษย์ แต่มีข้อแม้อยู่ไม่กี่ข้อที่ต้องทำตาม" เขาบอกต่อว่า "ข้อที่หนึ่ง คุณจะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าคุณตายไปแล้วแต่ได้กลับมาโลกมนุษย์อีก และข้อที่สอง คุณจะต้องทำหน้าที่ของยมทูตแทนผม คุณต้องฆ่าคนตามจำนวนที่ผมต้องการ"
"หา เพิ่งบอกว่าผมทำชั่ว แต่นี้จะให้ฆ่าคน เอายังไงแน่ครับท่าน" ผมถาม "เอ้า ก็ฆ่าแต่ไอ้คนเลวๆ สิวะ ไอ้นี่ก็พูดไม่คิด เดี๋ยวก็เอาตีนยันหน้าลงนรกไปเลย" เขาด่าเสียงดัง ผมร้องอ้อ หัวเราะแหะๆ
"เอาอย่างนี้ คุณจะอยู่ในโลกมนุษย์ได้แบบวันต่อวัน ในแต่ละวันคุณจะต้องฆ่าอย่างน้อยหนึ่งคน ถ้าวันใดคุณไม่ได้ฆ่าใครเลย ถือว่าจบหน้าที่ของคุณ คุณจะต้องกลับมาที่นี่เพื่อรับกรรมของคุณต่อไป" เขาอธิบาย "และเลือกเฉพาะคนเลวๆ เท่านั้นนะครับ ถ้าทำอะไรผิดพลาด จะต้องกลับมารับกรรมที่นี่ทันที"
"เอาๆ ยังไงก็ได้ ขอให้ผมได้กลับไปเจอลูกเมียอีกครั้งหนึ่ง" ผมก้มหัวยอมรับ ก้มลงกราบเท้าของเขา "อ่ะ เรื่องนั้น ไม่น่าจะได้แล้วล่ะ ป่านนี้ศพของคุณคงโดนเผาไปเรียบร้อยแล้ว" เขาบอก
"ห๊า! เราอยู่กันที่นี่แปปเดียวเอง ทำไมถึงโดนเผาแล้วล่ะครับ" ผมถาม "ก็ที่โลกมนุษย์เวลาเดินเร็วกว่าที่นี่ เราอยู่กันที่นี่ 20 นาที เวลาที่โลกน่าจะผ่านไป 7-8 วันแล้ว"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น