คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ความลับ By: Torokozz
ความลับ
Author: Torokozz
****************************************************************************************
บนโลกนี้ ... ผมเชื่อ ... ว่าไม่มีใคร ที่ไม่มี ‘ความลับ’
แต่มันขึ้นอยู่กับว่า ‘ความลับ’ ของคุณมันคืออะไร? มันเกี่ยวกับอะไร?
แต่ส่วนใหญ่แล้ว ‘ความลับ’ เหล่านั้น มักจะมีผู้ที่รู้ ซัก2-3 ที่คุณจะเล่าให้พวกเขาฟัง
ใครกันเล่า? ... จะมี ‘ความลับ’ ที่เป็น ‘ลับสุดยอด’
ผมเอง ก็เป็นหนึ่งคนที่มี ‘ความลับสุดยอด’ ที่บอกใครไม่ได้
อยากรู้กันมั้ย? ว่าความลับสุดยอด ของผมมันคืออะไร?
จุ๊ ... จุ๊ ... รู้แล้วอย่าบอกใครนะ!
ความลับของผมคือ .... ผมหน่ะ .... ไม่ใช่คน
เอ๊ะ .... แล้วถ้าผมไม่ใช่คน? คุณคิดว่าผมคือตัวอะไรกันละ?
ภูติ? อืม ... ไม่ใช่นะ
ผี? แหม ... ใกล้เคียง แต่ยังไม่ใช่อยู่ดี
ปีศาจ? ลุคผมดู So Bad เลยว่ะ ไม่ใช่ๆ
นางไม้? ผมเป็นผู้ชายนะคุณ!
นางฟ้า? คำตอบเดียวกับนางไม้นะ ...
เทวดา? ดูดีเกินไป ไม่ใช่ผมหรอก
อ่าว ... ถ้าทุกอย่างก็ผิดหมด งั้นผมคือตัวอะไรละ?
ผม ... อยู่กึ่งกลางระหว่างมนุษย์ กับ วิญญาณ ... ใครต่อใครก็เรียกผมว่า ...
‘ยมทูต’
แต่ผมไม่ใช่ยมทูตแบบทั่วไปหรอกนะ ที่จะคอยกำหนดชะตาชีวิตคนไปทั่วแบบนั้น ใส่ชุดสีดำ ถือเคียวอันใหญ่ๆ หน้าตาคล้ายผู้คุมวิญญาณในแฮร์รี่ พอตเตอร์ .... บ้าแล้ว หน้าตาผมหล่อขนาดนี้ให้ไปใส่ชุดแบบนั้น ถือเคียวแบบนั้น สาวๆก็หนีหมดสิ!
แล้วผมแต่งตัวยังไง? แล้วผมเป็นยมทูตได้ยังไง? ผมก็เหมือนวัยรุ่นปกติทั่วไป ที่เดินเตร็ดเตร่เร่ร่อนอยู่ตามถนน และแหล่งช็อปปิ้ง แต่หากคุณสังเกตสักนิด เสื้อผ้าที่ผมใส่ จะมีแค่สองสี คือขาวกับดำและมีแมวดำ1 ตัวเดินตามหลังผม มันเป็นเพื่อนรักของผม ชื่อจีจี้
หน้าที่ของผมหรอ? ผมทำหน้าที่เป็น ‘ผู้ฟังและผู้ชมที่ดี’ เดี๋ยวผมจะขยายความให้ การตายของมนุษย์แบบพวกคุณน่ะ ยมทูตทั่วไปมักมีหน้าที่นำพาวิญญาณคุณสู่ยมโลก แต่ยมทูตแบบผมไม่ใช่ ... หากคุณต้องการจะฆ่าตัวตาย คุณจะเจอผมในความฝันของคุณ
ผมอยากรับรู้เหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องการจะตาย ถ้าเหตุผลคุณดี ผมก็จะเอาวิญญาณคุณไป แต่ถ้าเหตุผลคุณงี่เง่า ต่อให้คุณเอามีดปาดคอยังไง ผมก็ไม่ให้คุณตาย และอีกแบบหนึ่ง หากคุณถึงอายุขัย แล้วคุณไม่ต้องการตายตอนนี้ ผมจะนั่งดูประวัติคุณ และขอเหตุผลกับคุณ ... แค่นั้นเอง
นี่แหละนะ ... หน้าที่ของยมทูตแบบผม ...
ตอนนี้ ผมกำลังตามผู้ชายคนหนึ่งอยู่ อีก2เดือนกว่าๆ เขาจะถึงอายุขัย และผมก็ตามศึกษาพฤติกรรมของเขา ว่าเขาควรจะตายแล้วหรือยัง แต่จะบอกอะไรให้นะ หมอนี่ ... วงจรชีวิตโคตรจะน่าเบื่อ!
ตื่นนอนเวลาเดิม ไปเรียน เลิกเรียน ทำงานพิเศษ กลับบ้าน ดูบอล นอน ... น่าเบื่อสิ้นดี!
ถ้าทำได้นะ ผมจะไปโผล่ในความฝันเขาแล้วบอกให้เขาทำอะไรให้ชีวิตน่าตื่นเต้นบ้างสิวะ! รู้มั้ยว่าคนคอยตามดูแม่งเบื่อขนาดไหนอะ! ถ้าไม่ติดว่าเป็นหน้าที่นะ ผมไม่ตามไอ้หมอนี่หรอก! จริงจังเหอะ!
“นี่นาย!” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังร่างเล็กในชุดสีดำ
“ห ..ห๊ะ?!” เขาหันกลับไปมอง ก็พบว่า ไอ้นี่มันไอ้น่าเบื่อที่เขาตามนี่หว่า!
“นายตามฉันมาทำไมอะ?”
“ฉ ..ฉัน?! ฉันเนี่ยนะตามนาย?! บ้าแล้ว!”
“ยังจะมาแก้ตัวอีก ฉันเห็นนายตามฉันมาตั้งหลายวันแล้ว โรคจิตรึเปล่าเนี่ย?”
“ม ... ไม่ใช่ซักหน่อย!”
เฮ้ยยยยยยยยยยยยย! นี่มันไม่ตลกแล้วนะ! ทำไอ้หมอนี่มันรู้ละว่าเขาตามอะ! เขาตามคนแบบนี้มาร้อยๆปี ไม่เคยมีใครจับได้เลยนะเว้ย! แล้ว .. แล้วทำไมหมอนี่รู้ตัวอะ?!
“แล้วนายเป็นใคร? บอกมาซะว่าตามฉันทำไม ไม่งั้นฉันจะไปแจ้งความ!”
“เฮ้ยยย ไม่ได้นะ!”
“ทำไมไม่ได้?”
ก็ถ้าแกไปแจ้งความ หัวหน้าก็ต้องรู้ มันก็ต้องเรื่องใหญ่ แล้วหัวหน้าก็จะลดเงินเดือนยมทูตแบบฉันนะเส๊!
“ก็ .. ฉันไม่ใช่โรคจิต!”
“ถ้าไม่ใช่โรคจิตแล้วนายตามฉันมาทำไม?” ขายาวก้าวเท้าเดินตรงเข้ามาร่างเล็กที่ยืนตัวแนบกำแพง
“ก็ ...ก็คือ ...ก็ ...” ตอนนี้นนทนันท์ ยมทูตหมายเลข3 อยากเป็นมนุษย์ที่สามารถโป้ปดได้มากเลยครับ ฮืออออ
“ว่าไง?” ร่างสูงก้มลงมองคนตัวเล็กกว่า สายตาของร่างเล็กล่อกแล่กเหมือนเด็กที่กำลังถูกจับได้ว่าทำผิด จนทำให้เขาอดอมยิ้มไม่ได้ อืม ... เขากำลังแกล้งเด็กรึเปล่านะ?
“ก็ ...!” ทำยังไงดีอะ! ผมโกหกไม่ได้! ถ้าผมบอกความจริงไป ‘ความลับ’ มันก็ไม่เป็น ‘ความลับ’ แล้วนะสิ! ที่สำคัญ ... ทำไมคนที่มารู้ความลับของผมตอนนี้ต้องเป็นเจ้าคนน่าเบื่อด้วยเนี่ย! ... ฮือออ คชาบินหนีตอนนี้ทันปะวะ T^T
“ว่าไงครับ?” ชายหนุ่มอมยิ้มขัน ยิ่งเมื่อดวงตาแป้วๆนั้นช้อนมองขึ้นมา สายตาเหมือนเด็กถูกแกล้งนั้นทำให้หัวใจเขากระตุกวูบแบบไม่มีสาเหตุ
“ถ้า ... ถ้าบอกไปแล้ว อย่ากลัว อย่าตกใจ อย่าหนี อย่าเป็นลม จะได้มั้ยละ?!”
“น่ากลัวขนาดนั้นเลย?” ชายหนุ่มหัวเราะเบาในลำคอ ตัวก็แค่นี้ หน้าตาก็น่ารัก อะไรที่จะให้คนตัวเล็กคนนี้ดูน่ากลัวได้นะ?
“น่ากลัวมากๆด้วย!” ขู่เข้าไว้ เผื่อจะไม่อยากรู้!
“งั้นไหนบอกมาสิครับ ว่าคุณนะ น่ากลัวยังไง?”
“ฉัน ... ฉัน ... เป็นยมทูต ..” น้ำเสียงใสแผ่วเบา ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรับกับเสียงกรีดร้องตกใจของคนตรงหน้า ใครก็ตามที่ได้ยินแบบนี้ ต้องตกใจเป็นแน่ ริมฝีปากบางเม้มแน่น แต่ ... เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม ชายหนุ่มร่างสูงขาวยืนกอดอกแล้วอมยิ้มอยู่ตรงหน้าเขา ไม่มีทางทีตกใจเลยซักนิด
“ไม่ตกใจเลยเหรอ?”
“ทำไมต้องตกใจอะ?” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆในลำคอ แววตาสงสัยปนตกใจจากคนตรงหน้าทำให้เขารู้สึกว่ามันน่าเอ็นดูเป็นบ้า!
“ฉันเป็นยมทูตนะ! เป็นยมทูตเลยนะ ...” น้ำเสียงเริ่มแผ่วเบา ใช่ .. เขาคือยมทูต ... สิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวของมนุษย์
“รู้แล้ว ว่าเป็นยมทูต แล้วไงต่อ? จะมาเอาวิญญาณผมไปเหรอ?”
“อีกไม่นานหรอก”
“ผมจะตายแล้วหรอ?”
“ใช่สิ! ไม่งั้นฉันไม่มาตามนายแบบนี้หรอก!” ร่างเล็กเอ่ยอย่างหงุดหงิด คนบ้าอะไรวะ? บอกว่าเป็นยมทูตก็ไม่ตกใจ พอบอกว่าใกล้จะตายก็ยังไม่มีท่าทีทุกข์ร้อน
“อื้มมม แล้วคุณยมทูตชื่ออะไรละ?”
“คชา”
“เห ... ชื่อน่ารักนี่นา ผมนึกว่าจะออกแนวชื่อแปลกๆหน่อย”
“ชื่อแปลกๆ? ยังไง?”
“ก็แนวแบบ ... มาเรีย เจนนิเฟอร์ ไมเคิล ไรงี้อะ! ฮ่าๆๆๆๆๆ” ร่างสูงหัวเราะกับความคิดของตัวเอง
“ขำมากปะแก!!”
“นิดหน่อย แล้วนี่คชาพักที่ไหนหรอ?”
“ไม่ต้องมาตีสนิทเลยนะ! ไม่มีที่พัก เดินไปเรื่อยๆ”
“ไม่เหนื่อยหรอ?”
“ฉันเป็นยมทูตนะเว้ย! จะเหนื่อยได้ไง ถามไรคิดปะเนี่ย”
“แล้วคุณก็ต้องตามผมตลอดเวลาเลยอะนะ?”
“ใช่สิ ชีวิตนายโคตรจะน่าเบื่อเลย ไม่มีอะไรให้มันน่าตื่นเต้นเลย”
“ผมก็เป็นคนแบบนี้แหละ นี่คุณยมทูตตัวเล็ก ผมขออะไรอย่างนึงสิ”
“ว่ามาดิ” แอบขัดใจคำชื่อที่ร่างสูงเรียก
“ผมเกิดมายังไม่รู้จักคำว่ารักเลย ก่อนผมตาย คุณช่วยบอกผมทีได้มั้ยว่ารักมันคืออะไร?”
“แล้วทำไมฉันต้องบอกนาย?”
“อย่าลืมสิ ... ผมกุมความลับของคุณอยู่นะ ..”
“โธ่เว้ย! รักมันก็แปลว่ารักนั่นแหละ!”
“ผมไม่เคลียร์วะ”
“โง่จริง!”
“เอางี้มั้ย? คุณมาอยู่บ้านผม แล้วมาสอนผมที ไหนๆผมก็อยู่บ้านคนเดียว ไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว”
“อืมมม ถามจีจี้ก่อน” ร่างเล็กว่า ก่อนจะมือบางจะอุ้มเจ้าเหมียวขึ้นมา
“จีจี้ คชาไปอยู่เจ้าคนน่าเบื่อนั่นดีรึเปล่า?”
“เมี๊ยววว~” แมวน้อยตอบกลับ ก่อนจะกระโดดออกจากมือบาง แล้วเดินไปสีตัวกับขาของเศรษฐพงศ์
“ผมแปลว่ามันโอเคนะ”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมชื่อ เต๋า เศรษฐพงศ์ เพียงพอ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยปี2 ทำงานพิเศษเป็นตุ๊กตามาสคอตในสวนสนุกแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เป็นลูกชายคนโตของบ้าน มีน้องอีกสองคน คุณพ่อคุณแม่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดพร้อมน้อง บังเอิญที่เขาดันเอนทรานติดมหาลัยในกรุงเทพ เลิกเรียนแล้วมันว่างเกินไป เลยไปหางานทำสนุกๆ ไม่ได้ยากจนขัดสนอะไรนักหรอกนะ ก็แค่ ... รู้สึกว่าชีวิตมันน่าเบื่อไปหน่อย
แต่แล้ววันหนึ่ง ผมบังเอิญเปิดหน้าต่างห้องนอนที่ไม่ได้เปิดมานานหลายปี สายตาของผมก็เจอกับเด็กหนุ่มตัวเล็กในชุดสีดำทั้งชุด พร้อมหูฟังสีเขียว หัวกลมโยกไปมา คงโยกตามจังหวะเพลงละมั้ง? ใบหน้าของเขาหวานใส กว่าเด็กผู้ชายทั่วไป ถ้าให้ผมเดา คงอยู่ราวๆม.ปลาย และคงต้องเป็นโรงเรียนเอกชนหรือนานาชาติ ก็ผมที่ยาวเกินกว่าจะเป็นเด็กม.ปลายโรงเรียนรัฐบาลมันฟ้องนะสิ
ผมคิดว่าเขาคงเดินผ่านมา แต่เมื่อผมอาบน้ำ ทำงานเสร็จ ผมก็ยังเห็นเขายืนอยู่ที่เดิม แต่เปลี่ยนอิริยาบถ ผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา ก็เหมือนจะมองไม่เห็นเขา อะไรกัน? ผมนั่งเฝ้ามองเขาอยู่ที่หน้าต่าง เขาก็ยังไม่ไปไหน หรือว่าเขา ... ติดใจอะไรบ้านผมปะวะ?
เวลาผ่านมาหลายวัน ทำให้ผมเริ่มจะรู้สึกว่า เขาไม่ใช่แค่อยู่หน้าบ้านผม แต่เขาตามผมไปแทบจะทุกที่!!! และตอนนี้ ผมก็ได้ฟังคำตอบจากเขาแล้ว ... ยมทูต ... คือคำตอบของตัวเขา
“คุณจะนอนในห้องกะผมปะ?”
“ฉันเป็นยมทูตนะ”
“แล้วไง? นี่ สอนผมซักทีสิว่าความรักมันเป็นยังไง”
“มานั่งนี่ๆ เดี๋ยวมาสเตอร์คชาจะเลคเชอร์ให้ฟัง” ร่างเล็กว่าพลางนั่งลงบนโซฟาสีเขียว
“ผมจะเชื่อคุณได้ปะเนี่ย?”
“เฮ้ย! อย่ามาดูถูกนะ ปีนี้ฉันอายุครบ333ปีแล้วนะเว้ย!”
“โห ... นี่รุ่นโคตรของโคตรของโคตรปู่ทวดผมเลยวะ”
“เออสิ ฉันนะผ่านความรักมาอย่างโชกโชน ...”
“เป็นยมทูตมีความรักได้ด้วยหรอ?”
“ยมทูตแบบฉันก็มีจิตใจ! เงียบแล้วฟังได้แล้วไอ้น่าเบื่อ!”
“ผมชื่อเต๋า”
“เออรู้”
“ก็เรียกสิ”
“ไม่เรียกแล้วจะทำไมวะ?”
“พูดจาให้เพราะๆหน่อย ไหนเรียกชื่อผมสิ”
“ทำไมฉันต้องทำตามคำสั่งแก?”
“อย่าเรียกแกสิคะ ไหนพูดเพราะๆหน่อย”
“เอ๊ะ ....!”
“พูดเพราะๆ .. ไม่งั้นจูบ”
“แกไม่กล้าหรอก!”
“รู้ได้ไง?”
“ฉันเป็นผู้ชาย!”
“ผมก็ผู้ชาย ตกลงจะพูดเพราะๆมั้ย?”
“ไม่เว้ย!
อุ้บ!”
ร่างสูงยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะพุ่งตัวอย่างรวดเร็วใช้ปากตัวเองปิดปากแดงๆของคนตรงหน้า ริมฝีปากร้อนดูดดึงริมฝีปากอิ่มเบาๆ จนคนตัวเล็กเริ่มจะหายใจไม่ออก มือบางยกขึ้นมาดันหน้าอกกว้าง ทำให้ร่างสูงถอนริมฝีปากออก
ไม่รู้สินะว่าทำไมต้องจูบ? พึ่งจะได้คุยกันครั้งแรก ไม่รู้สินะ รู้แค่ว่า ... ปากแดงๆนี่ดูน่าลิ้มลอง
“ไอ้เต๋า!!”
“ฮะ ..เฮ้ย!!” ร่างสูงหันไปทางประตูบ้านก็พบกับร่างสูงใหญ่ของเพื่อนที่ยืนนิ่งค้างอยู่
“ค ... คือ ...คือ .. กูไม่ได้จะมาขัดจังหวะอะไรนะเว้ย ... แค่จะมาขอยืมสบู่ .... เอ่อะ ... ตามสบายมึงนะเดี๋ยวกูไปเซเว่นได้ ...”
“เฮ้ยคุณ! ไม่ได้ขัดจังหวะ ไม่เลย ไม่!!!!” คชาขยับตัวออกห่างร่างสูงอย่างรวดเร็วไปอยู่ริมโซฟา
“เชี่ยเจมส์ ... กลับบ้านมึงไปเลยนะ!” เต๋าเอ่ยอย่างหัวเสีย
“เอ่อะ ... ว่าแต่ว่า ...แ ฟนมึงอ๋อ? น่ารักจัง”
“เออ!! แฟนกู! จะไปได้ยัง?!”
“โห ... คุณนี่เจ๋งนะ! แฟนคนแรกของไอ้เต๋าเลยวะ ปกตินะเวลามันจีบใคร จีบไม่ติดซักคน คนล่าสุดนะชื่อน้องซาร่า คนนี้มันโดนปฏิเสธแบบ ... เฮ้ย! ทำไรของมึงอะไอ้เต๋า!!!” ร่างสูงของเจมส์โดนเพื่อนลากแล้วยันโครมออกนอกประตูบ้านทันที
“ใครแฟนแกห๊ะ?!” ทันทีที่เต๋ายันเจมส์ออกจากบ้าน คชาก็เปิดปากถามทันที
“ผมใช้โปรโมชั่น เหมาเหมา”
“เกี่ยวบ้าอะไร?!”
“โปรโมชั่น เหมาเหมา ก็เหมารวมไงว่าคุณเป็นแฟนผม!” ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวแบบเด็กเอ๋อ
“ไอ้ ...ไอ้ ...ไอ้บ้าเอ๊ยยย!!!!” ร่างเล็กมีท่าทีฟึดฟัด ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะหายวับไปกับตา
“เฮ้ย! คชา หายไปไหนอะ?! อย่าหายงี้ดิ!”
“ฉันเบื่อแก!!” เสียงใสๆดังก้องอยู่ภายในบ้าน แต่ไม่พบตัวคนพูด
“นี่ ออกมาเหอะ มีแต่เสียงแบบนี้มันน่ากลัวนะคุณ!”
“แน่นอนสิ! ฉันเป็นยมทูตนะ! ใครๆก็ต้องกลัว ...”
“คุณไม่เห็นน่ากลัวตรงไหน ตัวก็เล็กแค่นั้น”
“ความน่ากลัวมันอยู่ที่ขนาดตัวรึไงละไอ้บ้า! ไม่อยู่ด้วยแล้ว เดี๋ยวตอนเช้ากลับมาใหม่!”
“เฮ้! แล้วคุณจะไปไหนอะ?!”
“ไปหาของกิน” คชาตอบแค่นั้นก็ลมพัดมาวูบใหญ่ๆ ซึ่งเต๋าอุปปาทานไปเองว่า คุณยมทูตตัวเล็กคงบินออกไปหาของกินซะแล้ว
“เมี๊ยว~” ร่างสูงหันไปมองตามเสียงของแมว เจ้าเหมียวน้อยนามจีจี้ ยืนจ้องเขาอยู่ที่ระเบียงบ้าน
“ไงจีจี้ ไปตามคชาไปหรอ?” เอ่ยถามแล้วยกมือขึ้นเกาคางแมวตัวน้อย
“เดี๋ยวข้าตามเจ้าเปี๊ยกนั่นไป”
“เฮ้ย ... พ ... พูดได้เหรอ?!” ร่างสูงชะงัดมือในการเกาคางเจ้าแมวน้อยทันทีที่ได้ยินเสียงออกมาจากปาก
“แน่นอนสิ ข้าไม่ใช่แมวทั่วไปในโลกของเจ้าหรอกนะ!”
“เดี๋ยวนะ ... ขอช็อคแป้บ ...” ดวงตาร่างสูงเบิกกว้าง ใบหน้าหล่อดูตกใจ แต่ไม่ถึงว่าตกใจมาก ก็เขาเจอคุณยมทูตที่หายวับไปแล้ว เจอแมวพูดได้ ก็ไม่ค่อยตกใจอะไรมาก
“ ... คชาหน่ะ ไม่มีความรักมาหลายร้อยปีแล้ว ถ้าจะมีครั้งใหม่ ขออย่าให้เจอความโชคร้ายแบบคราวนั้นเลย”
“อ ... อะไรนะ?” แมวน้อยไม่ตอบร่างสูง เพียงแต่กระโดดลงจากระเบียงแล้ววิ่งหายไปในความมืด ทิ้งให้เศรษฐพงศ์นั่งคิดกับคำพูดของมัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เสียงดนตรีสนุกสนานดังออกมาพร้อมกับ เสียงหัวเราะ และพูดคุยจ้อกแจ้กจอแจของเด็กน้อย และวัยรุ่น สีสันสวยงามของตัวมาสคอตต่างๆ ยิ่งเสริมให้สถานที่แห่งนี้ดูสดใส ขาเรียวบางเดินเข้ามาใต้ซุ่มประตูลูกโป่งหลากสี ความรู้สึกตรงหน้าเขาเป็นความรู้สึกแปลกใหม่
มันทั้ง ... ตื่นเต้น ดีใจ และรู้สึกแปลกใจที่เห็นเครื่องเล่นต่างๆ
คนทีเดิมผ่านไปมา ส่งสายตาแปลกๆมาให้เขา แน่ละ ก็ชุดดำทั้งชุดเหมือนจะไปงานศพ แต่ดันมายืนอยู่หน้าสวนสนุกนี่นะสิ คนเลยมอง แต่คชาไม่สนใจหรอกนะ! ความสนใจของเขา มันอยู่ที่คุณมาสคอตแมวสีเขียวอ่อนตัวนั้นตังหาก!
“นี่~” ชายหนุ่มในชุดมาสคอตหันกลับไปตามสัมผัสที่จิ้มอยู่ด้านหลังเขา
“เฮ้ย ...” คนตัวสูงชะงักไปเล็กน้อย แล้วก็อมยิ้มขึ้นมา เด็กผู้ชายตัวเล็กในชุดสีดำทั้งชุดที่คุ้นเคย กับ หน้ากากลายเบ็นเท็นประหลาดๆนั่น ทำให้เขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้
คชาทำอะไรเป็นเด็กๆ ... แต่ก็น่ารักดีนะ ว่ามั้ย?
“อะไรเนี่ย?” ชายหนุ่มกลั้นหัวเราะ
“เห็นยืนมาตั้งนานละ เหงาเปล่า? มายืนเป็นเพื่อนไง” หัวกลมๆของคนตัวเล็กเอียงเล็กน้อยอย่างน่ารัก
“เลยใส่หน้ากากเบ็นเท็นมาเนี่ยนะ?”
“อื้อ~” คนตัวเล็กผงกหัวเร็วๆ แล้วคว้าลูกโป่งสีสวยไปยืนแจก บรรดาเด็กตัวน้อยที่เห็นคุณแมวสีเขียวกับคุณเบ็นเท็นยืนคู่กัน ก็ต่างวิ่งเข้ามาหา รอยยิ้มร่าเริงแบบเด็กๆที่อยู่หลังหน้ากากเบ็นเท็นนั่นทำให้เต๋าอมยิ้มขึ้นมา
“นี่~ แจกหมดแล้ว กลับบ้านได้รึยังอะ?” เสียงใสๆบ่นกระเง้ากระงอด หน้ากากเบ็นเท็นถูกถอดออกมา เผยให้เห็นใบหน้าใสๆของอีกคน ปากแดงบ่นพึมพำ แต่ใบหน้าไม่มีท่าทางเบื่อเลย ดวงตากลมๆมองไปทางนั้นที ทางที
“อีกแป็บเดียวสวนสนุกจะปิดแล้ว รอก่อนนะ นั่งรอข้างหน้าก็ได้” มือหนาลูบเบาๆที่หัวกลมๆของคนตัวเล็ก ใบหน้าน่ารักยิ้มหวานจนตาปิด ก่อนจะออกวิ่งไปยังหน้าสวนสนุก
ท่าทางแสนน่ารัก น่าเอ็นดูนั่น ทำให้หัวใจของชายหนุ่มกระตุกวูบ เขาพยายามหุบรอยยิ้ม แต่ทำไมได้ มุมปากยกยิ้มขึ้นตลอดเวลาที่มองท่าทางของคนตัวเล็ก ท่าจะเป็นหนักแล้วนะไอ้เต๋า ....
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เย็นวันนั้น มีร่างสองร่างนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเล็กในบ้าน เจ้าของบ้านร่างสูงนั่งกินข้าวไป พลางฟังเรื่องราวต่างๆมากมาย จากริมฝีปากแดงสดที่เจื้อยแจ้ว รอยยิ้มน่ารักๆวาดลงบนใบหน้าหวาน เวลาพูดถึงเรื่องราวแสนสนุก แก้มป่องๆพองลมออก ตอนพูดถึงเรื่องที่น่าหงุดหงิด เรื่องราวชีวิตของยมทูตนะ ... มีเรื่องน่าตื่นเต้นตลอดเวลานั่นแหละ
“เรื่องของคชานี่สนุกดีนะ”
“แน่นอนละ ยมทูตนะ ไม่เหมือนกับคนธรรมดาหรอก”
“แล้วมีคนอื่นนอกจากผมที่รู้ว่าคชาเป็นยมทูตมั้ย?”
“ไม่มีหรอก”
“งั้นแสดงว่า ... ผมคนเดียว งั้นสิ?”
“อื้อ นายคนเดียว”
“รู้สึกตัวเองดูเป็นคนสำคัญจังเลยอะ” รอยยิ้มกรุ้มกริ่มถูกส่งมาให้คนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ พวกเขาย้ายจากโต๊ะกินข้าวมานั่งคุยกันต่อที่โซฟาสีเขียวประหลาดของเต๋า
“หลงตัวเองชะมัด!” ปากก็พูดไปอย่างนั้น แต่ในหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อ ดวงตากลมหลุบตาลง หลบสายตาแปลกๆของร่างสูง หัวใจดวงน้อยๆเริ่มเต้นแรง และความร้อนที่แผ่บนหน้านี่คืออะไรกัน ....
“ว่าแต่ คชาไม่เห็นเล่าถึง ความรัก ของคชาเลย”
“มันนานมากแล้ว นานจนเกือบลืมว่าเคยมีความรัก”
“นานขนาดนั้นเชียว?”
“เป็นร้อยปีเลยนะ ครั้งล่าสุด ..” ใบหน้าหวานเสมองไปทางอื่น ดวงตาเหม่อลอย เหมือนกำลังนึกถึงเรื่องราวแสนหวานในอดีต รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นมา แต่มันดูน่าหงุดหงิดใจยิ่งนักสำหรับร่างสูง
ทำไมกันนะ? เขารู้สึกไม่ชอบเลยที่คชาจะนึกถึงใครคนอื่น ยิ้มเพราะใครคนอื่นแบบนี้ ไม่ชอบ ไม่ชอบเลยจริงๆ ..
“คชาครับ”
“หื้ม?”
“แล้วตอนนี้คชามีความรักรึเปล่า?”
“ไม่มีหรอก ไม่ได้ ... ไม่ได้รักใครเลย”
“ตกลง คำว่ารักของคชา เป็นยังไง?”
“อะไรที่ทำแล้วมีความสุข นั่นแหละ ความรัก แต่ถ้าทำไปแล้วมันไม่มีความสุข มันก็ไม่ใช่ความรัก”
“แล้วอะไรที่มีความสุขสำหรับคชาละ?”
“หลายอย่างเลย เวลาอยู่กับจีจี้ ได้ไปเที่ยวในหลายๆที่ที่ไม่เคยไป แบบที่ไปสวนสนุกวันนี้
”
“คชา ... อยู่กับผมแล้วมีความสุขมั้ย?”
“ก็ ..ก็ดี”
“ผมอยู่กับคชา ผมมีความสุขมาก ผมไม่เคยรู้จักความรัก คชาบอกผมว่า ความรักคือการที่ทำอะไรแล้วมีความสุขใช่มั้ย? ผมอยู่กับคชา ผมมีความสุข มันหมายความว่ารักรึเปล่าละ?”
“เต๋า ...”
“ผมว่า .. ผมรักคชา ..” ใบหน้าหล่อเคลื่อนเข้ามาใกล้ ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนที่เป่ารดหน้า ก่อนที่ริมฝีปากจะประกบลงมา ดวงตากลมโตปิดลง จูบที่แสนอ่อนโยน ...
คชาจำไม่ได้ว่า เขาจูบลึกซึ้งครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ อ่า ... น่าจะหลายร้อยปีมาแล้วนะ ลิ้นเล็กกระหวัดกับลิ้นร้อนของอีกฝ่าย มือแกร่งเลื่อนมาโอบเอวบางเข้าหาตัว ร่างเล็กค่อยๆเอนกายลงบนโซฟา และปล่อยให้คนตรงหน้าเป็นคนดำเนินเรื่องราวต่อ
หลายอาทิตย์ผ่านไปอย่างรวดเร็ว คชายังคงอยู่กับเต๋าที่บ้านของชายหนุ่ม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาคือ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่กลายมาเป็นคนรัก ชายหนุ่มดูแลร่างเล็กอย่างดี พาไปกินข้าว พาไปเที่ยว
เต๋าไม่เคยมีความรัก การที่มีคชาอยู่เคียงข้างนับเป็นสิ่งที่พิเศษมากสำหรับเขา
คชาเอง ก็ไม่มีความรักมานานนับร้อยปี ความรักครั้งใหม่นี้จึงแสนมีความสุข
แต่ทั้งคู่อาจลืมไปว่า ... คชาไม่มนุษย์ และอีกเพียงไม่กี่วัน ... ก็จะถึงฆาตของเต๋า ทั้งคู่ลืมไป .. ลืมไปจริงๆ อย่างที่มีคนเคยพูดว่า ความสุขมักจะอยู่กับเราได้ไม่นาน
มันคงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆนั่นแหละ ...
“ชา ไปกินข้าวกัน”
“ไปไหนอะ? วันนี้ชาอยากกินขนมอะ”
“งั้นไปร้านตรงหน้าปากซอยก็ได้” ชายหนุ่มเดินกุมมือบางตรงไปยังร้านขนมที่ว่า คชาก้มลงมองมือของเขาที่โดนกอบกุมแล้วอมยิ้ม ... อยากให้กุมมือกันไปแบบนี้นานๆจัง
“ไปดิ” คนทั้งคู่เดินตรงมายังร้านอาหารเล็กๆหน้าปากซอยบ้าน มือหนาปล่อยมือเล็กๆที่กอบกุมอยู่
“เดี๋ยวข้ามถนนไปกดตังแป้บนะ ชา .. อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ไปกดตังเอง” มือหนายกขึ้นขยี้ผมนุ่มของอีกฝ่าย ปากแดงๆเบะออก เหมือนไม่อยากให้เขาไปซะอย่างนั้น
“ไปด้วยกัน”
“ชารอตรงนี้แหละ ผมไปแป้บเดียว” มือหนายกขึ้นโบก แล้ววิ่งข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม พอดีกับรถสปอร์ตสีแดงคันหรูที่วิ่งตรงมาด้วยความเร็วสูง
“เต๋า!!!!!!”
ปัง
โครม!!
ร่างสูงผิวขาวถูกรถคันนั้นชนอย่างรุนแรงจนร่างปลิวไปกระแทกกับเสาไฟฟ้า เท่านั้นยังไม่พอ รถคันนั้นก็พุ่งตรงเข้ามาชนเสาไฟฟ้าที่ร่างสูงกระแทก
“เต๋า!!!!!!!!” เสียงใสหวีดร้องลั่น ร่างทั้งร่างนิ่งอยู่กับที่ สมองเหมือนไม่รับรู้อะไรแล้ว พอคนเริ่มวิ่งไปมุงบริเวณเสาไฟฟ้า เขาก็เริ่มรู้สึกตัว ขาเพรียววิ่งเข้าไปหาร่างสูงที่ร่างครึ่งล่างอยู่ใต้รถสปอร์ตคันนั้น เจ้าของรถเสียชีวิตคาที่ และคนที่ถูกชน ก็ลมหายใจรวยริน
“เต๋า ...เต๋า ..ฮึก”
“ค ...ชา ...อย่าร้อง ...อย่าร้อง ...ไห้” ใบหน้าหล่อยิ้มออกมาบางๆ มือหนาพยายามยกขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่แก้มใส คชารั้งมือหนามาแนบแก้มตนเอง
“เต๋าอย่าเป็นอะไรนะ อย่าเป็นอะไร ...ฮึก”
“เจ็บจังเลย ...”
“เต๋า ... อย่าพึ่งเป็นอะไรนะเดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้ว ฮึก อย่าเป็นอะไรนะ”
“ไม่เป็นไร ...เต๋าไม่เป็นไร ชาอย่าร้อง”
“ไม่ร้อง ไม่ร้องแล้ว” มือบางปาดน้ำตาออกจากหน้า แต่แล้วสมองก็เริ่มจะนึกอะไรบางอย่างออก มือบางล้วงกระเป๋ากางเกงออกมา สมุดบันทึกเล่มเล็กๆ ถูกเปิดออกมาอย่างลวกๆ
‘วันที่xxเดือนxxปีxx นายน่าเบื่อ = เสียชีวิต’
สมุดบันทึกร่วงลงจากมือบาง ใช่ ... เขาลืมไปว่า วันนี้แล้วที่จะเป็นวันที่ผู้ชายคนนี้หมดลมหายใจ เขาเป็นยมทูต เขาต้องพาวิญญาณของเต๋าไปส่งยังประตูยมทูต
“เจ้ามีหน้าที่ที่ต้องทำนะ คชา เจ้าไม่ใช่มนุษย์ เจ้าคือยมทูต อย่าลืมหน้าที่ของเจ้า” เจ้าแมวน้อยจีจี้กระโดดมาเกาะไหล่บาง ดวงตากลมโตหันไปมองชายหนุ่มร่างสูง ที่บัดนี้ ดวงตาปิดสนิท และ ... เขาหยุดหายใจไปแล้ว
“เต๋า!!!! เต๋าตื่นสิเต๋า เต๋าอย่าหลับ ฮึก อย่าหลับ!!!” มือบางทั้งทุบทั้งตีชายหนุ่ม และคนที่จากไปแล้ว เขาจะไม่มีวันหวนกลับมาอีก คชารู้ แต่คชาแค่รับความจริงไม่ได้ เท่านั้นเอง ...
ร่างเล็กลุกออกมาจากที่ตรงนั้น แล้วมองไปรอบๆ ดวงวิญญาณของเต๋าอยู่ที่ไหนกัน? หากร่างสูงเสียชีวิตแล้ว วิญญาณของเต๋าก็ต้องรอให้เขาพาไปยังประตูยมทูตสิ!
อย่างน้อย ... ขอแค่ได้เจอเป็นครั้งสุดท้าย ...
“หาอะไรอยู่ครับคนสวย?
“เต๋า!!!!” เสียงที่คุ้นเคยทำให้คชาหันหลังไปมอง ชายหนุ่มผิวขาวในชุดสีดำทั้งชุด พร้อมกับแมวสีขาวข้างกาย ร่างเล็กหันไปมองร่างที่นอนนิ่งไร้ลมหายใจ ร่างไร้วิญญาณของเต๋ายังอยู่ตรงนี้ งั้นนี่ก็คือ ...วิญญาณ? ทำไมใส่เสื้อผ้าคนละชุดกันละ?!
“ตกใจอะไรครับ” ร่างสูงถามยิ้มๆ หน้าตาคนตัวเล็กตอนนี้น่ารักน่าแกล้งดีจัง
“ทำไมคนละชุดกับ ... นั่นอะ”
“ตอนนี้ผมเป็นยมทูตเหมือนกับคชาแล้วนะ”
“เป็นได้ยังไง?” อะไรวะ?! ตอนเรา กว่าจะเป็นยมทูตได้ต้องไปชดใช้กรรมอยู่เป็นสิบปี ไอ้บ้านี่ตายไม่ถึง10นาทีทำไมมันเป็นยมทูตได้อะ?!
“อยากรู้หรอ? หึหึ ไม่บอกหรอก ถ้าบอก ก็ไม่เป็น ความลับ นะสิ”
“เต๋า ...” ดวงตากลมหรี่ลงอย่างจับผิด แต่สิ่งที่ได้รับมาเป็นเพียงรอยยิ้มแสนขี้เล่นของคนตรงหน้า คชาถอนหายใจเฮือกใหญ่ รอยยิ้มแบบนี้มันหมายความว่าเขาจะไม่ได้รับคำตอบแน่นอน
ร่างเล็กๆ ยื่นมือมาตรงหน้าเจ้าเหมียวจีจี้ แมวน้อยกระโดดขึ้นมาบนฝ่ามือเล็ก แล้วกระโดดไปเกาะไหล่แคบ ดวงตากลมจ้องมองชายหนุ่ม ก่อนจะสะบัดหน้าหนีน้อยๆ แล้วลอยตัวขึ้นสู่ท้องฟ้า เต๋าหัวเราะเบาๆ ท่าทางแบบนี้ งอนแน่ๆ ร่างสูงในชุดดำค่อยๆลอยตามคนขี้งอนขึ้นไป
อยากรู้มั้ย? ว่าทำไมผมถึงกลายมาเป็นยมทูตแบบคชา?
ไม่บอกหรอกครับ ผมบอกแล้วไง ว่าถ้าผมพูดออกไป ..
ความลับ มันก็ไม่ใช่ ลับสุดยอด นะสิ ..
ขอตัวไปง้อคนขี้งอนก่อนแล้วกันนะครับ สวัสดีครับผม (:
************************************************
สวัสดีสวัสดีสวัสดีค้า 555555555555
เราโตโรโก๊ะเองง ไม่รู้จะมีใครคุ้นชื่อเรารึเปล่า
รู้สึกตื่นเต้นมากในการลงโปรเจคฟิคเรื่องความลับร่วมกับไรเตอร์เก่งๆอีกหลายคน
ซึ่งเราเองเป็นไรเตอร์ง่อยๆกากๆคนนึง ฮ่าๆๆ
ฝากช็อตฟิคเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ (:
ความคิดเห็น