คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง
บริษัท เมเยอร์กรุ๊ป จำกัด เติบโตมาจากกิจการ เหมืองทองคำดไวท์แอนด์โค ซึ่งก่อตั้งโดยแมทธิว ดไวท์ ตาของควินน์เป็นหนึ่งในนักธุรกิจซึ่งร่ำรวยมาจากธุรกิจเหมืองทองคำในยุคที่การทำเหมืองเริ่มซบเซา การวางแผนธุรกิจที่ดีและมีลูกจ้างทุ่มเทให้กับการทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้กิจการซึ่งทำท่าจะต้องล้มไปดุจเดียวกับกิจการเหมืองแร่หลายแห่งสามารถดำรงอยู่ได้ และยังกลับมาผงาดเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเหมืองทองคำของรัฐโคโลราโดตราบกระทั่งทุกวันนี้
“แม่ครับ ผมจะไม่ยอมให้กิจการของคุณตา ตกไปอยู่ในมือของคนนอกตระกูลอย่างเด็ดขาด”
รูปภาพบรรพบุรุษตระกูลดไวท์ ที่ถ่าย ณ เหมืองทองคำดไวท์แอนด์โค (Dwight and Co.) อยู่ในกรอบไม้สีน้ำตาลไหม้ ติดเรียงรายอยู่บนผนังห้องทำงานของประธานบริษัท เมื่อก่อนห้องนี้เป็นห้องทำงานของเควิน และถูกปิดตายเอาไว้เมื่อท่านเสียชีวิต กระทั่งควินน์รับตำแหน่งประธานบริษัทแทนบิดา ห้องนี้จึงถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง รูปภาพครอบครัวอบอุ่นจอมปลอมประกอบด้วยตัวเขาเองในวัยเยาว์ยืนอยู่ระหว่างบุพการีที่หน้าทางเข้าสำนักงานเหมืองทองคำเมเยอร์โกล์ดไมน์แห่งแรกที่เป็นเพียงอาคารชั้นเดียวกลางดงไม้และที่รกร้าง แมทธิว ดไวท์ ยืนอยู่ข้างบุตรเขย ใบหน้าของชายสูงวัยยิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความภาคภูมิใจในตัวของบุคคลซึ่งเขาฝากความหวังและอนาคตเอาไว้
“ถ้าตารู้ว่าพ่อจะเปลี่ยนไป ท่านคงจะไม่ยอมยกเหมืองให้พ่อ และคงจะเสียใจมากที่ยอมให้พ่อเปลี่ยนชื่อเหมืองนะครับแม่”
แมทธิวอนุญาตให้บุตรเขยเปลี่ยนชื่อเหมืองทองคำของตระกูลดไวท์ จากชื่อ ‘เหมืองทองคำดไวท์แอนด์โค’ เป็น ‘เหมืองมองคำเมเยอร์โกล์ดไมน์’ เพื่อให้รางวัลแก่บุตรเขยที่ตั้งใจทำงานหนัก กระทั่งสามารถทำให้เหมืองรอดพ้นวิกฤตด้านการเงินมาได้ ตอนนั้นยังไม่มีไม่มีใครรู้ว่าเลขาสาวที่ทำงานแข็งขันไม่แพ้กันกับเจ้านายคือภรรยาคนหนึ่งของเควิน
“พ่อทำงานหนัก จึงต้องการผ่อนคลาย แต่ทำไมพ่อถึงไม่คิดถึงใจแม่บ้างครับ ทำไม”
คำถามนี้เขาไม่เคยถามบิดา กระทั่งวันที่บรรลุนิติภาวะและเข้ามาถือหุ้นของบริษัทส่วนที่เป็นของมารดาอย่างเต็มตัว เขาจึงได้ถามในสิ่งที่เก็บเอาไว้ในใจมานานปี การที่ควินน์ไม่เคยถาม ไม่ใช่เพราะกลัวคำตอบ ทว่าไม่ต้องการให้ท่านรู้ว่าใจจริงของเขารู้สึกเช่นไร การเก็บคมไว้ในฝัก ย่อมดีกว่าการชักดาบออกมาฟาดฟันใครต่อใครมั่วไปหมดกระทั่งดาบหมดคม ควินน์ชิงชังบริทาเนียกับมาร์กมาก แต่ยังไม่เท่าความโกรธแค้นชิงชังที่มีต่อบิดา เพราะความไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ไม่มีศีลธรรมของเควินทำให้เมลานีต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
“หรือว่าใจจริงแล้วพ่อไม่ได้เห็นใจใครทั้งนั้น นอกจากใจตัวเองและครอบครัวที่พ่อรัก”
เควินแสดงให้บุตรชายถูกต้องตามกฎหมายจับได้หลายครั้งว่าเขารักบริทาเนียและมาร์กมาก ผู้หญิงคนนั้นสามารถเติมเต็มความปรารถนาให้แก่บุรุษที่กรำงานหนักได้ แถมยังสามารถช่วยงานเอกสารต่างๆ ได้ด้วย ในขณะที่เมลานีเป็นคุณหนูบอบบางแถมยังสุขภาพอ่อนแอ บริทาเนียกลับเป็นผู้หญิงแกร่งสามารถทำงานช่วยเควินได้ทั้งเรื่องงานเรื่องบนเตียงและเรื่องอื่นๆ
“ตกลงว่าพ่อมีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นก่อนมาแต่งงานกับแม่ใช่ไหม เขาถึงได้มีลูกก่อนแม่ ผมถึงได้มีพี่ชาย อีกไม่นานเราจะได้รู้กันว่า ทั้งที่ผมเป็นทายาทโดยถูกต้องชอบธรรม แต่พ่อยังทำพินัยกรรมแบบนั้นทำไม”
ควินน์ไม่มีทางยอมแพ้ต่อความกดดันที่กำลังเกือบถึงขีดสุด และไม่มีทางยอมแต่งงานกับผู้หญิงหิวเงินคนไหน ไม่ว่าจะเป็นพวกที่เข้ามาหาเขาเอง หรือผู้หญิงที่บริทาเนียและมาร์กส่งมาใกล้ชิด
“ผมไม่ใช่คุณหนูที่เอาแต่อ่อนแอ คอยแต่ร้องไห้และไม่สู้คนอย่างแม่ ผมเป็นดไวท์คนซื่อและเมเยอร์จอมเจ้าเล่ห์ พ่อลืมความจริงข้อนี้ไปใช่ไหม พ่อลืมไปว่าผมมีเลือดพ่ออยู่ในตัวครึ่งหนึ่ง เลยคิดว่าผมจะยอมให้พ่อทำทุกอย่างได้เหมือนที่แม่ยอม ผมไม่ได้รักพ่อเหมือนที่แม่รักนะครับ หึ!”
มหาเศรษฐีหนุ่มเดินไปมองภาพสุดท้ายที่อยู่มุมขวาสุดของผนัง เควิน เมเยอร์เป็นบุรุษรูปงามแบบผู้ชายแท้ๆ ที่มีความดิบกระด้างเพราะต้องต่อสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็ก ใบหน้าสี่เหลี่ยมแคบค่อนข้างยาว รอยบากอยู่บนปลายคาง อันน่าจะเกิดจากการต่อสู้หรืออะไรสักอย่าง ควินน์ไม่สนิทกับบิดา เพราะท่านอยู่ที่บ้านน้อยกว่าที่ทำงาน มารดาก็ไม่รู้ว่ารอยแผลเป็นที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับสามีเกิดจากอะไร
“แม่รักพ่อ จนยอมมองข้ามอะไรหลายอย่าง แม่ไม่ยอมรับความจริงว่าพ่อไม่ได้รักแม่ พ่อไม่เคยแบ่งปันความรู้สึกหรือว่าเรื่องราวสำคัญๆ ในชีวิตกับแม่ ในขณะที่ผู้หญิงคนนั้นกับลูกชายคนโตของพ่อรู้ทุกอย่าง หัวใจของพ่อคงจะมีซอกหลืบซับซ้อนมากเสียจนพ่อเองอาจจะหลงลืมความจริงไปแล้วว่า ผมต่างหากคือทายาทโดยชอบธรรม พ่อมีวันนี้ได้ ก็เพราะตาให้โอกาส ให้ความไว้วางใจ ทำไมพ่อถึงกล้าคิดจะยกสมบัติที่ไม่ใช่ของตัวเองให้กับคนอื่น”
ความโกรธแค้นที่ถูกเก็บสะสมเอาไว้นานปี ปะทุขึ้นมาจนเขาตาพร่า เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ กรามแข็งแรงขบแน่นเพื่อข่มอารมณ์ลงให้ได้ ในทุกครั้งที่เขาส่องกระจกความโกรธที่มีต่อผู้ห้กำเนิดจะเพิ่มมากขึ้นจนอยากชกเงาตัวเอง ควินน์มีใบหน้าเหมือนบิดามากกว่ามารดา เขาหล่อเหลาแบบบุรุษแท้ๆ ลูกคางบึกบึน การมีเส้นผมสีทองไม่ได้ลดเสน่ห์ของบุรุษเพศลงแม้แต่น้อย ดวงตาของเขามีสีเขียวดุจเดียวกับมารดาจึงเคยทำให้เขาถูกเรียกว่าเทพบุตรตัวน้อยมาแล้วในยามเยาว์วัย คนภายนอกมักตัดสินควินน์จากรูปลักษณ์ก่อนจะค่อยๆ เรียนรู้ในภายหลังว่า เขาไม่ใช่แค่คุณหนูทายาทเศรษฐีที่ทำอะไรไม่เป็น ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขความเอาใจใส่จากมารดาและตาของเขาจบลงในวันที่แมทธิวเสียชีวิต เด็กชายควินน์ได้รู้ความลับของบิดาในวันนั้นเอง ชีวิตที่เคยเปรียบประดุจเทพบุตรตัวน้อย มีทุกอย่างพร้อมพรั่ง ไม่เคยต้องรับรู้กับปัญหาหรือว่าความทุกข์ใดๆ จบลงพร้อมกับการมี ‘พี่ชาย’ ซึ่งอายุมากกว่าสองปี เมลานีแทบครองสติไม่อยู่ นางเอาแต่จมอยู่ในความเศร้ากับเรื่องราวที่จำต้องรับรู้จนไม่สามารถดูแลบุตรชายได้ดีดังเดิม หากไม่ได้อันนาคอยช่วยดูแลชีวิตของเขาคงจะไม่มีวันนี้
“หวังว่าอันนาจะไม่ทำให้เราผิดหวัง”
แม่บ้านซึ่งเปรียบประหนึ่งญาติ ไม่เคยทำอะไรให้ควินน์ต้องผิดหวังอยู่แล้ว มีเพียงนางกับมารดาและผู้เป็นตาเท่านั้นที่ควินน์เชื่อว่ารักเขาจริง ส่วนคนอื่นๆ เป็นเพียงบุคคลซึ่งหวังประโยชน์จากควินน์ เมเยอร์กันแทบทั้งสิ้น
อัพนิยายอีกสองเรื่องที่ลิงค์ด้านล่าง ลองไปอ่านกันนะคะ
ความคิดเห็น