คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : My Teacher (LeoxN- VIXX) - 1
Title : teacher and student
: Leo x N (vixx)
: love story
ผมมันเป็นคนที่โชคร้าย
ไม่ว่าจะทำอะไร
ผมก็มักจะโชคร้ายเสมอ
# A Teacher
ไม่ชอบคนพูดมาก น่ารำคาญ
# A student
ห้องพักครู
“อาจารย์คะ หนูเอางานที่สั่งมาส่งค่ะ”
เสียงอันไพเราะของเด็กหญิงในชุดมัธยมปลายดังขึ้นพร้อมกับงานกองโตในมือที่ผมสั่งไว้ทั.้งสองข้าง
“อ๋อ ขอบใจมากนะ วางไว้ตรงนี้เลย”
ผมตอบกลับไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่ค่อยๆเอางานวางบนโต๊ะ
“ส่งครบกันรึเปล่า?”
“เออ. . . คือว่า เหลืออยู่คนนึงค่ะ’จารย์”
คำว่า 'คนนึง' ของประโยคที่เด็กสาวพูด
บ่อยๆนี้มันก็คือ
คนนึง ที่เข้าเรียนสายตลอด
คนนึง ที่ไม่เคยส่งงาน
คนนึง ที่ไม่ตั้งใจเรียน
คนนึง ที้ไม่เคยฟังเขาไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม
ทำให้คนที่นั่งฟังถึงขั้นถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง
“หมอนั่นอีกเเล้วล่ะสิ”
“อะ เอ่อ ใช่ค่ะ หนูพยายามทวงหลายครั้งเเล้วนะคะเเต่เขาก็ไม่เอามาส่งเลยค่ะ”
ไม่เห็นเเม้กระทั่งเงาเลยค่ะT_T
“อ่า. งั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวเที่ยงนี้เรียกให้หมอนั่นมาพบครูด้วยนะ”
“ได้ค่ะ 'จาร์ยสวัสดีค่ะ”
เอาน่า นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกสักหน่อย
'ชา ฮักยอน' หรืออาจารย์ชาฮักยอนอาจารย์ประจำชั้นห้องE
พยายามคิดกล่อมตัวเองในทางบวกเข้าใจกับเรื่องที่ต้องเผชิญหน้าที่ทำใฟ้ปวดหัวเกือบตลอดเวลา
เรื่องที่ 'เด็กคนนั้น' ไม่เคยมาส่งงานเลย
ไม่ชอบพูดชอบจากับใครเท่าไหร่เเถมยังเอาเเต่เก็บตัว
ไม่เคยมาทันโฮมรูมเลยสักครั้ง
ไม่เคยสนใจหรือให้ความเคารพเขาในฐานะอาจารย์เลย
ถามอะไรไปก็ไม่เคยตอบเกินสามพยางค์
เด็กคนนั้น จะเป็นใครไปไม่ได้เสียจาก
"จอง เเทคอุน"
เด็กที่ทำให้ชาฮักยอนคนนี้จะเป็นบ้าตายอยู่เเล้ว
“เป็นอะไรไปรึเปล่าคะ คุณฮักยอน?”
เสียงหวานๆนุ่นๆของใครบางคนเรียกสติของฮักยอนที่กำลังนั่งกุมหัวที่มีรังสีความเครียดเเผ่ออกมาชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหวานๆที่ยิ้มให้นั้นก่อนจะยิ้มตอบให้
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณโชอา เเค่มีเด็กนักเรียนในห้องผมไม่ส่งงานอีกเเล้วก็เท่านั้นเเหละครับ”
“อ้าว อีกเเล้วเหรอคะเนี่ย ”
“ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ครับ ผมชินซะเเล้วล่ะ ”
“เเหม ขนาดชินเเล้วนะ เเต่เมื่อกี้ยังทำหน้าซะเครียดเลยนะคะ”
รู้ทักอีกก =w=
“ก็เเหม. . . ให้ทำยังไงได้ล่ะครับก็พี่เเกเล่นไม่เคยเอามาส่งเลยนี่นา”
เฮ้อ~ ╯△╰
“เอาน่า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วัยรุ่นก็เเบบนี้เเหละ เข้าใจยาก เอาเเต่ใจ ยิ่งเด็กนั้นเเล้วเรายิ่งต้องพยายามเข้าใจเขาให้มากๆ”
เฮ้อ~╯△╰
“นะคะ คุณฮักยอน~ พยายามต่อนะคะ ”
โชอาพูดพร้อมกับทำท่าทางน่ารักตาปิ๊งๆให้ผมสามทีเล่นเอาผมเกือบหลุดขำออกมากับท่าทางเเบบนั้นเลยสิ
“ต้องพยายามเข้าใจนักเรียนให้มากกว่านี้นะคะ”
คราวนี้โชอาพูดพร้อมกับเอานิ้วชี้หน้าผมอย่างเอาเรื่อง เสมือนการทำสนธิสัญญาอย่างนึงเลยล่ะมั้ง
เเล้วเเบบนี้ผมจะกล้าปฏิเสธเหรอครับ?
“โอเคครับ ผมจะพยายาม”
“เยี่ยม! !”^O^
“เเล้วนี่คุณโชอาไม่มีสอนเหรอครับ.มันเลยคาบเเรกมาเเล้วนะ”
“ว้าย ตายเเล้ว ลืมซะสนิทเลยไปก่อนนะคะ”
ผมมองดูสาวผมสั้นสีครีมรีบเก็บของที่จะใช้สอนเเละวิ่งออกห้องไปอย่างขำๆก่อนจะหวนนึกถึงคำพูดที่เจ้าตัวบอก
ต้องพยายามเข้าใจนักเรียนให้มากกว่านี้นะคะ
ถ้าให้ผมพยายามเข้าใจคนอย่างหมอนั่นให้มากขึ้นกว่านี้ล่ะก็ มีหวังได้เป็นไมเกรน หมอมี่ไหนก็รักษาไม่หายเลยล่ะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
จนเเล้วจนรอด จนกริ่งออกยังกริ่งดับ
จนนาทีสุดท้าย หกสิบวิ
ยันห้าโมงเย็นล่วงเลยมาถึงหกโมง
หมอนั่นก็ไม่โผล่หัวมาให้ผมเห็นหน้าเลยไม่มีเเม้เเต่เงา
ผมถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้านอย่างอ่อนล้าทั้งกายใจ
นาฬิกาในห้องตีบอกเวลาว่าหกโมงเย็นเเล้วโรงเรียนที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนก็เริ่มหดหายไร้ผู้คน
ในเวลาเเบบนี้เเทบจะเรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนร้างก็ไม่ปานขนาดในห้องพักครูที่เคยเสียงดังก็ยังไม่เหลือใครเลยสักคน
“อ้าว ยังไม่กลับอีกเหรอ พ่อฮักยอน”
เสียงทุ้มเเก่ๆของใครบางคนที่ผมรู้จักดีเอ่ยทักขึ้นในขณะที่ผมกำลังปิดประตูห้องพร้อมกับใบหน้าที่มีริ้วรอยเเละรอยยิ้มกว้าง
“อ้ะ กะว่าจะกลับเเล้วครับ ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะครับ ”
“ไม่ลำบากหรอก อย่าขอโทษเลยรีบกลับดีกว่านะเดี๋ยวดึกกว่านี้เเล้วมันเปลี่ยวอากาศมันหนาวด้วย จะเป็นหวัดเอา”
“ครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับลุงภารโรงก็รักษาตัวด้วย ได้ข่าวว่าช่วงนี้เเอบไปดื่มบ่อยนี่ครับ”
“เอาน่ามันก็ต้องมีกันบ้างเเหละ ให้อยู่กับยัยขี้บ่นที่บ่นตั้งเเต่เช้ายันเย็นจนเข้านอนนั่นทั้งวันก็ไม่ไหวหรอก ฮ่าฮ่า”
“ฮ่ะฮ่ะ นั้นสินะครับ”
“พ่อฮักยอนเองก็หัดปล่อยวางซะบ้างเถอะเห็นวันๆเอาเเต่เครียดกับเรื่องการเรียนการสอนจนริ้วรอยขึ้นอรเเล้วนะสงสัยท่าโรงเรียนเรามีรางวัลครูพยายามดีเด่นประจำปีละก็พ่อฮักยอนคงได้เเหงๆ”
“โห ท่าได้ก็ดีสิครับ ”
เอาจริงๆนะผมว่าท่ามีรางวัลครูพยายามเเห่งปีล่ะก็ผมว่าผมน่าจะไม่พ้น1ในห้าเลยล่ะจริงๆนะ ค่อยคุ้มกับที่ผมทำอยู่นี่หน่อย
ไม่ได้โม้
“เอาจริงเหรอ ฮ่าฮ่า รีบๆกลับเถอะนี่ก็ดึกมากเเล้ว ให้ลุงเดินไปส่งที่จอดรถเป็นเพื่อนมั๊ย”
“ไม่เป็นไรครับ ส่งถึงบันไดเเค่นี้ก็พอเเล้ว ลาล่ะครับ”
อุตส่าห์เดินมาส่งถึงหน้าบันไดเลยขอบคุณมากครับ~
“เออนี่ เดี๋ยว”
“ครับ?”
ขาที่กำลังก้าวลงบันไดหยุดเดินก่อนที่ผมหันกลับไปตามเสียงเรียกก่อนที่จะมีของบางสิ่งโยนลงมาผมรับของสิ่งนั้นมาก่อนจะกางมันเเล้วดูดีๆอีกครั้ง
เสื้อกันหนาวเเขนยาวสีดำ
“เอาไปใส่เถอะ เผื่อไว้ เดี๋ยวหวัดมันจะถามหา”
“ขอบคุณมากเลยนะครับ”
ผมรีบกล่าวขอบคุณพร้อมกับโค้งตัวให้ตามมารยาท90องศาก่อนจะหันกลับไปเดินลงบันไดต่อผมค่อยๆกางเสื้อเเขนยาวสีดำออกก่อนจะสวมมันทับเสื้อเเขนสั้นสีฟ้าที่ผมใส่อยู่ดูไปมันก็ไม่ค่อยเเย่นะเเต่เเค่ตัวใหญ่ไปหน่อย
นี่ลุงภารโรงเขาใส่เสื้อตัวใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?
พูดถึงลุงภารโรงเเล้ว
ลุงภารโรงนี่เขามีน้ำใจกับผมมากเลยนะครับตั้งเเต่ที่ผมย้ายเข้ามาเพราะผมเป็นคนต่างจังหวัดเลยไม่มีใครมาคุยด้วยก็มีลุงนี่เเหละครับที่มาคุยกับผมเป็นคนเเรก
ตอนเเรกๆอาจเป็นเพราะผมคุยไม่เก่งไม่ชอบทักใครก่อนเเถมยังขี้อายด้วยเลยไม่ค่อยสนิทกับใครเท่าไหร่
อีกอย่างครูที่นี่ส่วนใหญ่เวลาเลิกเรียนต่างก็พากันไปหาความสุขต่อตามสถานที่บันเทิงต่างๆ
ซึ่งนั่นผมขอบอกเลยว่า not my สไตล์
เห็นหน้าผมเเบบนี้เเต่จริงๆเเล้วผมไม่ชอบดื่มของมึนเมาเลยก็ว่าได้
ผมกระชับเเขนเสื้อเข้ากับตัวเพราะอากาศที่เริ่มจะเย็นก่อนที่จะเดินไปที่จอดมอเตอร์ไซด์สำหรับของครูที่จอดอยู่ใกล้ๆกับประตูหลัง
สายลมเย็นๆพัดเข้ามากระทบกับร่างบางที่เดินกลับบ้านอยู่ทำให้เขาเผลอเอามือขึ้นลูบเเขนของตนเองทั้งสองข้างเป็นพักๆชายมีอายุที่แอบมองคนร่างบางจากที่สูงเเอบอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินลงไป
อยากจะบ้าตาย!! เ-ี้ยเอ้ยยย
เสียงกรีดร้องในใจของใครบางคนกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งเสียงดังสุดๆ(?)เพราะของที่มีค่าที่สุดเกือบทั้งชีวิต
"กระเป๋าสตางค"์
ที่มีทั้งใบขับขี่
บัตรประชาชน
บัตรห้องพัก
บัตรเครดิต
บัตรส่วนลด เเถม
คูปองซื้อนมรสกล้วย
หาย!!!!!
นี่มันอะไรก้าาน ชาติที่เเล้วชาฮักยอนคนนี้ทำอะไรผิดดด ทำม้าาาย
อุตส่าห์มาถึงมินิมาร์ทเเล้วเเท้ๆต้องกลับมือเปล่าเหรอเนี่ย
ฮักยอนถอนหายใจอีกเฮือกออกมายาวเหยียดก่อนจะเดินกลับไปที่รถของตัวเองที่จอดไว้ด้านหน้าร้านซึ่งเปลี่ยวผู้คนด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวเหมือนต้นไม้ที่ไม่ได้รับน้ำมาหลายวัน
ความโชคดี กับ โชคร้าย
ทั้งสองอย่างนี้มักจะเกิดขึ้นพร้อมกัน
ได้อย่าง มันก็ต้อง เสียอย่าง
“เฮ้ย เเกน่ะ ”
ขวับ
ชายหนุ่มที่กำลังเพิ่งจะห่อเหี่ยวหันกลับไปตามเสียงเรียกปริศนาของใครบางคนก่อนที่จะรู้สึกถึงของอะไรบางอย่างที่เเข็งเเละบางสัมผัสเข้าที่เอวทางซ้ายมิหนำซ้ำมันดูท่าพร้อมจะลงมือเเทงได้ทุกเมื่อ
“มีเงินเท่าไหร่ ส่งมาให้หมด”
เสียงอันเย็นยะเยือกบวกกับกลิ่นเหล้าที่ฟุ้งออกมาจากปากของคนตรงหน้าทำให้ฮักยอนถึงขั้นต้องรีวเอามือปิดจมูกทันที
จะมีอะไรร้ายกว่านี้อีกมั๊ยเนี่ย
“เอ่อ ขอโทษนะครับ คือว่าตอนนี้กระเป๋าเงินผมมันหาย เลย. .”
“มีอะไรเเม่งก็เอาเหอะน่า!!!”
มีดเล่มบางขยับทีนึงเป็นเชิงเตือนเบาๆ
ฮักยอนแอบเหลือบมองชายตรงหน้าที่ดูไปดูมาก็คาดว่าน่าจะเเก่กว่าเขาเเค่ปีสองปีเท่านั้นดูจากรูปร่างส่วนสูงหน้าตาโดยประมาณเเล้วคงจะเป็นพวกนักดื่มที่ไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อจนต้องมาปล้นดีไม่ดีอาจจะเคยขโมยขอมาก่อนเเล้วก็ได้
ฮักยอนเผลอกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงไปก่อนจะรีบทำเป็นหาของที่คิดว่ามีค่าในกระเป๋าของตนอย่างเร่งรีบ
ของในกระเป๋าตอนนี้ของฮักยอนที่คิดว่ามีค่าก็มีเเค่ ครีมกันเเดดที่หลอดละ340วอนเท่านั้นนอกนั้นก็มีเเค่สมุดจดงาน กับ งานที่ต้องไปนั่งทำคืนนี้
จู่ๆมือของคนที่กำลังหาของอย่างเร่งรีบก็ไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างในกระเป๋าเป้สีเทา
ของที่เขามักพกติดตัวเสมอ
ของที่ถ้าไม่จำเป็นจรืงๆก็ไม่อยากเอาของมาใช้
“เร็วดิว่ะ หรือว่าต้องให้มีดมันเสียบเข้าเนื้อก่อนถึงจะให้ ”
“คือ ว่า. .”
โอ้ย ทำไงดีเนี่ย! เงินก็หายของก็ไม่มีจะให้มีเเต่อีกเนี่ย ทำไมมันถึงได้ซวยอย่างงี้
ในขณะที่ความสิ้นหวังเริ่มคืบคลานเข้ามาเยือนทันใดนั้นก็มีเเสงสว่างอันสว่างจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ฉายส่องลงมาพร้อมกับตำรวจสองนายที่วิ่งหน้าตาตื่นมา
“คนนั้นเเหละค่ะ คุณตำรวจคนที่มาปล้นเงินของดิฉันน”
เหมือนสวรรค์มาโปรดจู่ๆก็มีหญิงร้านท้วมที่สวมชุดกระโปรงสีเเดงเเขนสั้นคอกลมวิ่งมาพร้อมกับตำรวจสองนายที่วิ่งมาทางด้านหลังของโจรที่กำลังเอามีดจ่อผมอยู่อย่างโหวกเหวกโวยวายเพื่อหวังจะจับมัน
เเต่ทว่า
“อย่าเข้ามา ไม่งั้นไอ่นี่ตาย!!”
ยังไม่ทันที่ความสบายใจจะมาเยือนเจ้าขโมยนั่นก็คว้าผมที่ยืนเกร็งอยู่เข้ามาล็อคคอด้วยมือซ้ายหันหน้าใส่บุคคลทั้งสามที่กำลังวิ่งมาพร้อมกับมีดเล่มเดินในมือขวาที่เมื่อตะกี้นี้ยังทำท่าจะเเทงท้องกลับกลายว่เปลี่ยนตำเเหน่งมาที่คอเสียเเล้ว
ชา ฮักยอน ชาติที่เเล้วนายทำอะไรผิดไว้กันเเน่นะ
“ว้าย มันจับตัวประกันไว้ด้วยค่ะคุณตำรวจ มันมีมีดด้วย ตายเเล้ว ”
“เฮ้ย ใจเย็นๆก่อนนะคุณ เอามีดออกจากคอก่อน”
คนในเครื่องเเบบพยายามพูดเกลี้ยกล่อมคนตรงหน้าอย่างใจเย็นส่วนผู้หญิงชุดเเดงคนนั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มที่จะคุมสติสตางค์ตัวเองไม่อยู่
“เอาเงินมา ไปหาเงินมาห้าสิบล้านวอน กูให้เวลาพวกมึงเเค่สามนาที ถ้าพวกมึงยังหน้าสลอนยืนอยู่นี่เเล้วไม่เอาเงินมาให้กู กูจะเเทง เเม่งให้พรุนเลย!!”
เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ จับมาเป็นตัวประกันไม่พอเเม่งจะไถ่เงินอีก
ช่วยด้วยยย
“ห้าสิบล้านวอน?!”
0[]0
0[]0
0( )0
T0T
“นี่เเกจะบ้าเหรอไง เเค่สามนาทีหมาตัวไหนมันจะหามาได้กันห้ะตั้งห้าสิบล้านวอน”
ทั้งนายตำรวจเเละหญิงสาวที่เงียบอยู่นานได้อุทานออกมาด้วยความตกใจออกมาเสียงดังอย่างมิได้นัดหมายมันก็จริงอย่างว่าเเค่สามนาทีมันจะเป็นไปได้ยังไงขนาดฮักยอนคนนี้ทำงานมานานเป็นปียังเก็บไม่ถึงเล้ยยชาติจะมีกับเขารึเปล่ายังไม่รู้เลย
“สรุปพวกเเกไม่จ่ายใช่มั๊ย ได้ ขอโทษที่เเกเกิดมาโชคร้ายซะเถอะ”
ผมหลับตาเเน่นเตรียมพร้อมรับความคมของปลายมีดที่จะเเทงเข้ามาที่ลำคอตัดเส้นเลือดใหญ่อย่างไม่หวาดกลัว
น่าเเปลก ที่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวหรืออยากจะร้องขอชีวิตเลยสัดนิด
เเต่เเค่มีความรู้สึกว่า
มันแปลกดีนะ
"ที่โดนโจรกระจอกเเบบนี้จับเป็นตัวประกัน"
“กรี๊ดดดดดดดดดดด”
“อย่าา!!! // เดี๋ยว!!!!”
“ย้าาาาาาาก!!!!”
ฟิ้ว!!
พลั่กก!!!!!
ตุบ!!!!!!
ลูกกลมๆสีขาวสลับดำที่ถูกเตะมาอย่างเเรงลอยข้ามหัวคนไร้ประโยชน์ทั้งสามที่ได้เเต่มองเเละร้องอย่างตกใจมากระทบอย่างจังกับใบหน้าของไอ่หนุ่มขี้เมาซึ่งเเรงกระเเทกนั้นมากพอที่ทำให้ให้คนที่ปากเก่งว่าจะเอาห้าสิบล้านเมื่อกี้ถึงขั้นล้มไปด้านหลังทั้งยืนเสียงดังตุบ!!
ฮักยอนที่รู้สึกเหมือนมีอะไรลอยผ่านหัวไปอย่างรวดเร็วยืนเกร็งอยู่สักพักก่อนที่จะค่อยๆเปิดเปลือกตาออกเเละมองไปด้านหลังภาพที่เห็นทำให้เขาตกใจอย่างมากเมื่อพบกับของสภาพร่างไร้สติของโจรสิบล้านที่นอนเเน่นิ่งอยู่กับพื้นก่อนที่สายตาจะไปหยุดเข้ากับของบางสิ่งที่คาดว่าจะเป็นของที่ทำให้คนร้ายหมดสติได้
ลูกฟุตบอล?
“น่ารำคาญ”
เสียงอับสงบนิ่งของใครบางคนเรียกฮักยอนให้หันไปเสียงที่ฮักยอนรู้จักดีดังขึ้นอย่างราบเรียบทำให้เจ้าตัวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่ยังสวมเสื้อนักกีฬาฟุตบอลพร้อมกับเหงื่อที่ไหลโชกออกมาเต็มใบหน้า
จอง เเทคอุน
ฮักยอนเผลอมองใบหน้าเด็กหนุ่มนักกีฬาเป็นเวลานาอย่างไม่รู้ตัว
ทำให้เจ้าตัวเเทบจะไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างที่ตำรวจรีบมาจับไอ่ขี้เมาใส่กุญเเจมือเลยเเม้เเต่น้อย
“มองอะไร?”
“อ่ะ เปล่าๆ ขอบใจมากนะเเทคอุน”
เหมือนชาฮักยอนจะรู้สึกตัวเเล้วว่าเขาแอบมองคนตรงหน้านานเกินไปจึงได้รีบกล่าวคำขอบคุณก่อนที่ขาเรียวอันไร้เรี่ยวเเรงจะเซเตรียมตัวล้มทันทีที่จะกว้าขาเดิน
หมับ
ร่างอันเบาหวิวของชาฮักยอนที่กำลังจะล้มถูกมือใหญ่อันเเข็งเเรงของคนตรงหน้ารองรับไว้ทันก่อนจะล้มไปทำให้ร่างบางเผลอเกาะเเขนคนที่เข้ามาช่วยอย่างเเน่นอย่างช่วยไม่ได้ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ฮักยอนได้เข้าไปอยู่ในอ้อมเเขนของเเทคอุนเป็นที่เรียบร้อย
เมื่อยชะมัด
“พักที่ไหน”
“ห้ะ?”
นี่เราตกใจที่โดนโจรปล้นจนหูเพี้ยน ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย
ตั้งสติไว้ฮักยอน
“ตอบ”
“เออ . . ”
นี่มันใช่คำที่นักเรียนใช้พูดกับครูเหรอเเทคอุน-,,-
“ขอโทษนะครับคุณทั้งสอง ที่ต้องขัดจังหวะ เเต่ผมคงต้องขอตัวคุณคนนี้ไปเป็นพยายานหน่อยน่ะครับ”
ชายในเครื่่องเเบบคนหนึ่งรูปร่างผอมสูงที่จู่ๆก็เดินเข้ามาหาผมกับเเทคอุนก่อนที่จะชี้มาที่ผมอย่างเกร็งๆ
ก็เเหงล่ะจู่ๆมาขัดจังหวะเวลาคนเขาคุยกันนี่ครับ เลยโดนอายคอนเทคเเอกเเทกเลย
“อ๋อ ได้สิครับ”
ผมตอบกลับนายตำรวจไปพลางค่อยๆปล่อยมือที่จับเเทคอุนไว้เเต่เจ้าตัวเเทนทีจะปล่อยกับกลาบมาเป็นโอบเอวเเทน
จะว่าไปเเขนของเเทคอุนเขาเเข็งเเรงมากเลยจริงๆเล่นเอาซะผมอิจฉาเลย
# ไม่ค่อยเลยนะจ้ะครูฮักยอน เเหม~~~
# น้องเเทคอุนของเราก็เเมนไปหน่อยนะ-0-
#ครูมาเฟีย
ความคิดเห็น