ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    My Teacher (LeoxN- VIXX) - intro

    ลำดับตอนที่ #1 : My Teacher (LeoxN- VIXX) - 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 282
      1
      17 พ.ค. 58

    Title : teacher and student 

    : Leo x N (vixx)

    : love story




    ผมมันเป็นคนที่โชคร้าย


    ไม่ว่าจะทำอะไร


    ผมก็มักจะโชคร้ายเสมอ

    # A Teacher


    ไม่ชอบคนพูดมาก น่ารำคาญ
    # A student






    ห้องพักครู


    “อาจารย์คะ หนูเอางานที่สั่งมาส่งค่ะ”
    เสียงอันไพเราะของเด็กหญิงในชุดมัธยมปลายดังขึ้นพร้อมกับงานกองโตในมือที่ผมสั่งไว้ทั.้งสองข้าง


    “อ๋อ ขอบใจมากนะ วางไว้ตรงนี้เลย”
    ผมตอบกลับไปก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่ค่อยๆเอางานวางบนโต๊ะ


    “ส่งครบกันรึเปล่า?”


    “เออ. . . คือว่า เหลืออยู่คนนึงค่ะ’จารย์”



    คำว่า 'คนนึง' ของประโยคที่เด็กสาวพูด

    บ่อยๆนี้มันก็คือ


    คนนึง ที่เข้าเรียนสายตลอด


    คนนึง ที่ไม่เคยส่งงาน


    คนนึง ที่ไม่ตั้งใจเรียน


    คนนึง ที้ไม่เคยฟังเขาไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม


    ทำให้คนที่นั่งฟังถึงขั้นถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง



    “หมอนั่นอีกเเล้วล่ะสิ”


    “อะ เอ่อ ใช่ค่ะ หนูพยายามทวงหลายครั้งเเล้วนะคะเเต่เขาก็ไม่เอามาส่งเลยค่ะ”
    ไม่เห็นเเม้กระทั่งเงาเลยค่ะT_T


    “อ่า. งั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวเที่ยงนี้เรียกให้หมอนั่นมาพบครูด้วยนะ”


    “ได้ค่ะ 'จาร์ยสวัสดีค่ะ”


    เอาน่า นี่ไม่ใช่ครั้งเเรกสักหน่อย


    'ชา ฮักยอน' หรืออาจารย์ชาฮักยอนอาจารย์ประจำชั้นห้องE
    พยายามคิดกล่อมตัวเองในทางบวกเข้าใจกับเรื่องที่ต้องเผชิญหน้าที่ทำใฟ้ปวดหัวเกือบตลอดเวลา


    เรื่องที่ 'เด็กคนนั้น' ไม่เคยมาส่งงานเลย


    ไม่ชอบพูดชอบจากับใครเท่าไหร่เเถมยังเอาเเต่เก็บตัว


    ไม่เคยมาทันโฮมรูมเลยสักครั้ง


    ไม่เคยสนใจหรือให้ความเคารพเขาในฐานะอาจารย์เลย


    ถามอะไรไปก็ไม่เคยตอบเกินสามพยางค์


    เด็กคนนั้น จะเป็นใครไปไม่ได้เสียจาก


    "จอง เเทคอุน"


    เด็กที่ทำให้ชาฮักยอนคนนี้จะเป็นบ้าตายอยู่เเล้ว


    “เป็นอะไรไปรึเปล่าคะ คุณฮักยอน?”
    เสียงหวานๆนุ่นๆของใครบางคนเรียกสติของฮักยอนที่กำลังนั่งกุมหัวที่มีรังสีความเครียดเเผ่ออกมาชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหวานๆที่ยิ้มให้นั้นก่อนจะยิ้มตอบให้


    “ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณโชอา เเค่มีเด็กนักเรียนในห้องผมไม่ส่งงานอีกเเล้วก็เท่านั้นเเหละครับ”


    “อ้าว อีกเเล้วเหรอคะเนี่ย ”


    “ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ครับ ผมชินซะเเล้วล่ะ ”


    “เเหม ขนาดชินเเล้วนะ เเต่เมื่อกี้ยังทำหน้าซะเครียดเลยนะคะ”


    รู้ทักอีกก =w=


    “ก็เเหม. . . ให้ทำยังไงได้ล่ะครับก็พี่เเกเล่นไม่เคยเอามาส่งเลยนี่นา”


    เฮ้อ~ ╯△╰


    “เอาน่า ไม่เป็นไรหรอกค่ะ วัยรุ่นก็เเบบนี้เเหละ เข้าใจยาก เอาเเต่ใจ ยิ่งเด็กนั้นเเล้วเรายิ่งต้องพยายามเข้าใจเขาให้มากๆ”


    เฮ้อ~╯△╰


    “นะคะ คุณฮักยอน~ พยายามต่อนะคะ ”
    โชอาพูดพร้อมกับทำท่าทางน่ารักตาปิ๊งๆให้ผมสามทีเล่นเอาผมเกือบหลุดขำออกมากับท่าทางเเบบนั้นเลยสิ


    “ต้องพยายามเข้าใจนักเรียนให้มากกว่านี้นะคะ”
    คราวนี้โชอาพูดพร้อมกับเอานิ้วชี้หน้าผมอย่างเอาเรื่อง เสมือนการทำสนธิสัญญาอย่างนึงเลยล่ะมั้ง

    เเล้วเเบบนี้ผมจะกล้าปฏิเสธเหรอครับ?


    “โอเคครับ ผมจะพยายาม”


    “เยี่ยม! !”^O^


    “เเล้วนี่คุณโชอาไม่มีสอนเหรอครับ.มันเลยคาบเเรกมาเเล้วนะ”


    “ว้าย ตายเเล้ว ลืมซะสนิทเลยไปก่อนนะคะ”

    ผมมองดูสาวผมสั้นสีครีมรีบเก็บของที่จะใช้สอนเเละวิ่งออกห้องไปอย่างขำๆก่อนจะหวนนึกถึงคำพูดที่เจ้าตัวบอก


    ต้องพยายามเข้าใจนักเรียนให้มากกว่านี้นะคะ



    ถ้าให้ผมพยายามเข้าใจคนอย่างหมอนั่นให้มากขึ้นกว่านี้ล่ะก็ มีหวังได้เป็นไมเกรน หมอมี่ไหนก็รักษาไม่หายเลยล่ะ


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    จนเเล้วจนรอด จนกริ่งออกยังกริ่งดับ


    จนนาทีสุดท้าย หกสิบวิ


    ยันห้าโมงเย็นล่วงเลยมาถึงหกโมง

    หมอนั่นก็ไม่โผล่หัวมาให้ผมเห็นหน้าเลยไม่มีเเม้เเต่เงา



    ผมถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับบ้านอย่างอ่อนล้าทั้งกายใจ
    นาฬิกาในห้องตีบอกเวลาว่าหกโมงเย็นเเล้วโรงเรียนที่เคยเต็มไปด้วยผู้คนก็เริ่มหดหายไร้ผู้คน


    ในเวลาเเบบนี้เเทบจะเรียกได้ว่าเป็นโรงเรียนร้างก็ไม่ปานขนาดในห้องพักครูที่เคยเสียงดังก็ยังไม่เหลือใครเลยสักคน



    “อ้าว ยังไม่กลับอีกเหรอ พ่อฮักยอน”
    เสียงทุ้มเเก่ๆของใครบางคนที่ผมรู้จักดีเอ่ยทักขึ้นในขณะที่ผมกำลังปิดประตูห้องพร้อมกับใบหน้าที่มีริ้วรอยเเละรอยยิ้มกว้าง


    “อ้ะ กะว่าจะกลับเเล้วครับ ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะครับ ”


    “ไม่ลำบากหรอก อย่าขอโทษเลยรีบกลับดีกว่านะเดี๋ยวดึกกว่านี้เเล้วมันเปลี่ยวอากาศมันหนาวด้วย จะเป็นหวัดเอา”


    “ครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับลุงภารโรงก็รักษาตัวด้วย ได้ข่าวว่าช่วงนี้เเอบไปดื่มบ่อยนี่ครับ”


    “เอาน่ามันก็ต้องมีกันบ้างเเหละ ให้อยู่กับยัยขี้บ่นที่บ่นตั้งเเต่เช้ายันเย็นจนเข้านอนนั่นทั้งวันก็ไม่ไหวหรอก ฮ่าฮ่า”


    “ฮ่ะฮ่ะ นั้นสินะครับ”


    “พ่อฮักยอนเองก็หัดปล่อยวางซะบ้างเถอะเห็นวันๆเอาเเต่เครียดกับเรื่องการเรียนการสอนจนริ้วรอยขึ้นอรเเล้วนะสงสัยท่าโรงเรียนเรามีรางวัลครูพยายามดีเด่นประจำปีละก็พ่อฮักยอนคงได้เเหงๆ”


    “โห ท่าได้ก็ดีสิครับ ”
    เอาจริงๆนะผมว่าท่ามีรางวัลครูพยายามเเห่งปีล่ะก็ผมว่าผมน่าจะไม่พ้น1ในห้าเลยล่ะจริงๆนะ ค่อยคุ้มกับที่ผมทำอยู่นี่หน่อย


    ไม่ได้โม้



    “เอาจริงเหรอ ฮ่าฮ่า รีบๆกลับเถอะนี่ก็ดึกมากเเล้ว ให้ลุงเดินไปส่งที่จอดรถเป็นเพื่อนมั๊ย”


    “ไม่เป็นไรครับ ส่งถึงบันไดเเค่นี้ก็พอเเล้ว ลาล่ะครับ”

    อุตส่าห์เดินมาส่งถึงหน้าบันไดเลยขอบคุณมากครับ~



    “เออนี่ เดี๋ยว”


    “ครับ?”
    ขาที่กำลังก้าวลงบันไดหยุดเดินก่อนที่ผมหันกลับไปตามเสียงเรียกก่อนที่จะมีของบางสิ่งโยนลงมาผมรับของสิ่งนั้นมาก่อนจะกางมันเเล้วดูดีๆอีกครั้ง


    เสื้อกันหนาวเเขนยาวสีดำ


    “เอาไปใส่เถอะ เผื่อไว้ เดี๋ยวหวัดมันจะถามหา”


    “ขอบคุณมากเลยนะครับ”
    ผมรีบกล่าวขอบคุณพร้อมกับโค้งตัวให้ตามมารยาท90องศาก่อนจะหันกลับไปเดินลงบันไดต่อผมค่อยๆกางเสื้อเเขนยาวสีดำออกก่อนจะสวมมันทับเสื้อเเขนสั้นสีฟ้าที่ผมใส่อยู่ดูไปมันก็ไม่ค่อยเเย่นะเเต่เเค่ตัวใหญ่ไปหน่อย



    นี่ลุงภารโรงเขาใส่เสื้อตัวใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?




    พูดถึงลุงภารโรงเเล้ว

    ลุงภารโรงนี่เขามีน้ำใจกับผมมากเลยนะครับตั้งเเต่ที่ผมย้ายเข้ามาเพราะผมเป็นคนต่างจังหวัดเลยไม่มีใครมาคุยด้วยก็มีลุงนี่เเหละครับที่มาคุยกับผมเป็นคนเเรก

    ตอนเเรกๆอาจเป็นเพราะผมคุยไม่เก่งไม่ชอบทักใครก่อนเเถมยังขี้อายด้วยเลยไม่ค่อยสนิทกับใครเท่าไหร่
    อีกอย่างครูที่นี่ส่วนใหญ่เวลาเลิกเรียนต่างก็พากันไปหาความสุขต่อตามสถานที่บันเทิงต่างๆ


    ซึ่งนั่นผมขอบอกเลยว่า not my สไตล์
    เห็นหน้าผมเเบบนี้เเต่จริงๆเเล้วผมไม่ชอบดื่มของมึนเมาเลยก็ว่าได้


    ผมกระชับเเขนเสื้อเข้ากับตัวเพราะอากาศที่เริ่มจะเย็นก่อนที่จะเดินไปที่จอดมอเตอร์ไซด์สำหรับของครูที่จอดอยู่ใกล้ๆกับประตูหลัง





    สายลมเย็นๆพัดเข้ามากระทบกับร่างบางที่เดินกลับบ้านอยู่ทำให้เขาเผลอเอามือขึ้นลูบเเขนของตนเองทั้งสองข้างเป็นพักๆชายมีอายุที่แอบมองคนร่างบางจากที่สูงเเอบอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหันหลังเดินลงไป









    อยากจะบ้าตาย!! เ-ี้ยเอ้ยยย



    เสียงกรีดร้องในใจของใครบางคนกรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่งเสียงดังสุดๆ(?)เพราะของที่มีค่าที่สุดเกือบทั้งชีวิต


    "กระเป๋าสตางค"์


    ที่มีทั้งใบขับขี่

    บัตรประชาชน

    บัตรห้องพัก

    บัตรเครดิต

    บัตรส่วนลด เเถม


    คูปองซื้อนมรสกล้วย




    หาย!!!!!



    นี่มันอะไรก้าาน ชาติที่เเล้วชาฮักยอนคนนี้ทำอะไรผิดดด ทำม้าาาย



    อุตส่าห์มาถึงมินิมาร์ทเเล้วเเท้ๆต้องกลับมือเปล่าเหรอเนี่ย

    ฮักยอนถอนหายใจอีกเฮือกออกมายาวเหยียดก่อนจะเดินกลับไปที่รถของตัวเองที่จอดไว้ด้านหน้าร้านซึ่งเปลี่ยวผู้คนด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยวเหมือนต้นไม้ที่ไม่ได้รับน้ำมาหลายวัน



    ความโชคดี กับ โชคร้าย



    ทั้งสองอย่างนี้มักจะเกิดขึ้นพร้อมกัน



    ได้อย่าง มันก็ต้อง เสียอย่าง



    “เฮ้ย เเกน่ะ ”



    ขวับ



    ชายหนุ่มที่กำลังเพิ่งจะห่อเหี่ยวหันกลับไปตามเสียงเรียกปริศนาของใครบางคนก่อนที่จะรู้สึกถึงของอะไรบางอย่างที่เเข็งเเละบางสัมผัสเข้าที่เอวทางซ้ายมิหนำซ้ำมันดูท่าพร้อมจะลงมือเเทงได้ทุกเมื่อ


    “มีเงินเท่าไหร่ ส่งมาให้หมด”
    เสียงอันเย็นยะเยือกบวกกับกลิ่นเหล้าที่ฟุ้งออกมาจากปากของคนตรงหน้าทำให้ฮักยอนถึงขั้นต้องรีวเอามือปิดจมูกทันที



    จะมีอะไรร้ายกว่านี้อีกมั๊ยเนี่ย



    “เอ่อ ขอโทษนะครับ คือว่าตอนนี้กระเป๋าเงินผมมันหาย เลย. .”



    “มีอะไรเเม่งก็เอาเหอะน่า!!!”
    มีดเล่มบางขยับทีนึงเป็นเชิงเตือนเบาๆ


    ฮักยอนแอบเหลือบมองชายตรงหน้าที่ดูไปดูมาก็คาดว่าน่าจะเเก่กว่าเขาเเค่ปีสองปีเท่านั้นดูจากรูปร่างส่วนสูงหน้าตาโดยประมาณเเล้วคงจะเป็นพวกนักดื่มที่ไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อจนต้องมาปล้นดีไม่ดีอาจจะเคยขโมยขอมาก่อนเเล้วก็ได้

     

    ฮักยอนเผลอกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงไปก่อนจะรีบทำเป็นหาของที่คิดว่ามีค่าในกระเป๋าของตนอย่างเร่งรีบ
    ของในกระเป๋าตอนนี้ของฮักยอนที่คิดว่ามีค่าก็มีเเค่ ครีมกันเเดดที่หลอดละ340วอนเท่านั้นนอกนั้นก็มีเเค่สมุดจดงาน กับ งานที่ต้องไปนั่งทำคืนนี้



    จู่ๆมือของคนที่กำลังหาของอย่างเร่งรีบก็ไปชนเข้ากับอะไรบางอย่างในกระเป๋าเป้สีเทา


    ของที่เขามักพกติดตัวเสมอ



    ของที่ถ้าไม่จำเป็นจรืงๆก็ไม่อยากเอาของมาใช้



    “เร็วดิว่ะ หรือว่าต้องให้มีดมันเสียบเข้าเนื้อก่อนถึงจะให้ ”


    “คือ ว่า. .”



    โอ้ย ทำไงดีเนี่ย! เงินก็หายของก็ไม่มีจะให้มีเเต่อีกเนี่ย ทำไมมันถึงได้ซวยอย่างงี้



    ในขณะที่ความสิ้นหวังเริ่มคืบคลานเข้ามาเยือนทันใดนั้นก็มีเเสงสว่างอันสว่างจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ฉายส่องลงมาพร้อมกับตำรวจสองนายที่วิ่งหน้าตาตื่นมา



    “คนนั้นเเหละค่ะ คุณตำรวจคนที่มาปล้นเงินของดิฉันน”

    เหมือนสวรรค์มาโปรดจู่ๆก็มีหญิงร้านท้วมที่สวมชุดกระโปรงสีเเดงเเขนสั้นคอกลมวิ่งมาพร้อมกับตำรวจสองนายที่วิ่งมาทางด้านหลังของโจรที่กำลังเอามีดจ่อผมอยู่อย่างโหวกเหวกโวยวายเพื่อหวังจะจับมัน


    เเต่ทว่า



    “อย่าเข้ามา ไม่งั้นไอ่นี่ตาย!!”
    ยังไม่ทันที่ความสบายใจจะมาเยือนเจ้าขโมยนั่นก็คว้าผมที่ยืนเกร็งอยู่เข้ามาล็อคคอด้วยมือซ้ายหันหน้าใส่บุคคลทั้งสามที่กำลังวิ่งมาพร้อมกับมีดเล่มเดินในมือขวาที่เมื่อตะกี้นี้ยังทำท่าจะเเทงท้องกลับกลายว่เปลี่ยนตำเเหน่งมาที่คอเสียเเล้ว


    ชา ฮักยอน ชาติที่เเล้วนายทำอะไรผิดไว้กันเเน่นะ



    “ว้าย มันจับตัวประกันไว้ด้วยค่ะคุณตำรวจ มันมีมีดด้วย ตายเเล้ว ”



    “เฮ้ย ใจเย็นๆก่อนนะคุณ เอามีดออกจากคอก่อน”
    คนในเครื่องเเบบพยายามพูดเกลี้ยกล่อมคนตรงหน้าอย่างใจเย็นส่วนผู้หญิงชุดเเดงคนนั้นก็ดูเหมือนจะเริ่มที่จะคุมสติสตางค์ตัวเองไม่อยู่



    “เอาเงินมา ไปหาเงินมาห้าสิบล้านวอน กูให้เวลาพวกมึงเเค่สามนาที ถ้าพวกมึงยังหน้าสลอนยืนอยู่นี่เเล้วไม่เอาเงินมาให้กู กูจะเเทง    เเม่งให้พรุนเลย!!”



    เออ ให้มันได้อย่างนี้สิ จับมาเป็นตัวประกันไม่พอเเม่งจะไถ่เงินอีก



    ช่วยด้วยยย



    “ห้าสิบล้านวอน?!”


    0[]0

    0[]0

    0( )0

    T0T


    “นี่เเกจะบ้าเหรอไง เเค่สามนาทีหมาตัวไหนมันจะหามาได้กันห้ะตั้งห้าสิบล้านวอน”

    ทั้งนายตำรวจเเละหญิงสาวที่เงียบอยู่นานได้อุทานออกมาด้วยความตกใจออกมาเสียงดังอย่างมิได้นัดหมายมันก็จริงอย่างว่าเเค่สามนาทีมันจะเป็นไปได้ยังไงขนาดฮักยอนคนนี้ทำงานมานานเป็นปียังเก็บไม่ถึงเล้ยยชาติจะมีกับเขารึเปล่ายังไม่รู้เลย



    “สรุปพวกเเกไม่จ่ายใช่มั๊ย ได้ ขอโทษที่เเกเกิดมาโชคร้ายซะเถอะ”

    ผมหลับตาเเน่นเตรียมพร้อมรับความคมของปลายมีดที่จะเเทงเข้ามาที่ลำคอตัดเส้นเลือดใหญ่อย่างไม่หวาดกลัว


    น่าเเปลก ที่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวหรืออยากจะร้องขอชีวิตเลยสัดนิด



    เเต่เเค่มีความรู้สึกว่า



    มันแปลกดีนะ



    "ที่โดนโจรกระจอกเเบบนี้จับเป็นตัวประกัน"





    “กรี๊ดดดดดดดดดดด”



    “อย่าา!!! // เดี๋ยว!!!!”



    “ย้าาาาาาาก!!!!”




    ฟิ้ว!!




    พลั่กก!!!!!




    ตุบ!!!!!!


    ลูกกลมๆสีขาวสลับดำที่ถูกเตะมาอย่างเเรงลอยข้ามหัวคนไร้ประโยชน์ทั้งสามที่ได้เเต่มองเเละร้องอย่างตกใจมากระทบอย่างจังกับใบหน้าของไอ่หนุ่มขี้เมาซึ่งเเรงกระเเทกนั้นมากพอที่ทำให้ให้คนที่ปากเก่งว่าจะเอาห้าสิบล้านเมื่อกี้ถึงขั้นล้มไปด้านหลังทั้งยืนเสียงดังตุบ!!



    ฮักยอนที่รู้สึกเหมือนมีอะไรลอยผ่านหัวไปอย่างรวดเร็วยืนเกร็งอยู่สักพักก่อนที่จะค่อยๆเปิดเปลือกตาออกเเละมองไปด้านหลังภาพที่เห็นทำให้เขาตกใจอย่างมากเมื่อพบกับของสภาพร่างไร้สติของโจรสิบล้านที่นอนเเน่นิ่งอยู่กับพื้นก่อนที่สายตาจะไปหยุดเข้ากับของบางสิ่งที่คาดว่าจะเป็นของที่ทำให้คนร้ายหมดสติได้



    ลูกฟุตบอล?



    “น่ารำคาญ”
    เสียงอับสงบนิ่งของใครบางคนเรียกฮักยอนให้หันไปเสียงที่ฮักยอนรู้จักดีดังขึ้นอย่างราบเรียบทำให้เจ้าตัวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองคนตรงหน้าที่ยังสวมเสื้อนักกีฬาฟุตบอลพร้อมกับเหงื่อที่ไหลโชกออกมาเต็มใบหน้า



    จอง เเทคอุน



    ฮักยอนเผลอมองใบหน้าเด็กหนุ่มนักกีฬาเป็นเวลานาอย่างไม่รู้ตัว
    ทำให้เจ้าตัวเเทบจะไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างที่ตำรวจรีบมาจับไอ่ขี้เมาใส่กุญเเจมือเลยเเม้เเต่น้อย



    “มองอะไร?”



    “อ่ะ เปล่าๆ ขอบใจมากนะเเทคอุน”


    เหมือนชาฮักยอนจะรู้สึกตัวเเล้วว่าเขาแอบมองคนตรงหน้านานเกินไปจึงได้รีบกล่าวคำขอบคุณก่อนที่ขาเรียวอันไร้เรี่ยวเเรงจะเซเตรียมตัวล้มทันทีที่จะกว้าขาเดิน



    หมับ



    ร่างอันเบาหวิวของชาฮักยอนที่กำลังจะล้มถูกมือใหญ่อันเเข็งเเรงของคนตรงหน้ารองรับไว้ทันก่อนจะล้มไปทำให้ร่างบางเผลอเกาะเเขนคนที่เข้ามาช่วยอย่างเเน่นอย่างช่วยไม่ได้ กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ฮักยอนได้เข้าไปอยู่ในอ้อมเเขนของเเทคอุนเป็นที่เรียบร้อย



    เมื่อยชะมัด



    “พักที่ไหน”



    “ห้ะ?”
    นี่เราตกใจที่โดนโจรปล้นจนหูเพี้ยน   ถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย 


    ตั้งสติไว้ฮักยอน




    “ตอบ”


    “เออ . . ”
    นี่มันใช่คำที่นักเรียนใช้พูดกับครูเหรอเเทคอุน-,,-



    “ขอโทษนะครับคุณทั้งสอง ที่ต้องขัดจังหวะ เเต่ผมคงต้องขอตัวคุณคนนี้ไปเป็นพยายานหน่อยน่ะครับ”
    ชายในเครื่่องเเบบคนหนึ่งรูปร่างผอมสูงที่จู่ๆก็เดินเข้ามาหาผมกับเเทคอุนก่อนที่จะชี้มาที่ผมอย่างเกร็งๆ
    ก็เเหงล่ะจู่ๆมาขัดจังหวะเวลาคนเขาคุยกันนี่ครับ เลยโดนอายคอนเทคเเอกเเทกเลย


    “อ๋อ ได้สิครับ”
    ผมตอบกลับนายตำรวจไปพลางค่อยๆปล่อยมือที่จับเเทคอุนไว้เเต่เจ้าตัวเเทนทีจะปล่อยกับกลาบมาเป็นโอบเอวเเทน



    จะว่าไปเเขนของเเทคอุนเขาเเข็งเเรงมากเลยจริงๆเล่นเอาซะผมอิจฉาเลย














    # ไม่ค่อยเลยนะจ้ะครูฮักยอน เเหม~~~

    # น้องเเทคอุนของเราก็เเมนไปหน่อยนะ-0-

    ‪#‎ครูมาเฟีย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×