คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1
ชายสูงวัยสายเลือดแดนมังกรกำลังเพ่งพินิจกับหญิงสาวร่างระหงใส่เสื้อสีมอกางเกงยีนเก่าซีดแบกเป้สะพายหลังก้าวลงจากรถประจำทางที่เดินตรงรี่มาทางร้านของแก..คุ้นแต่ไม่น่าใช่..คนที่แกรู้จักไม่น่าจะมาอย่างนี้แต่ท่าทางการเดินเหินเหมือนจริง..แต่ต้องไม่ใช่แน่เพราะหญิงสาวที่แกรู้จักคนนั้นงามราวกับนางฟ้าแต่นี่ดูซอมซ่อ เมื่อหาคำตอบให้ตัวเองได้แล้วก็ละสายตาออกจากร่างบางร่างนั้นหันมาให้ความสำคัญกับงานที่ทำค้างอยู่ก็ต้องตกใจจนสุดขีดเมื่อเงยหน้ามองหญิงสาวที่มายืนฉีกยิ้มหวานหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวของแก
“เฮ้ยไอ้หยาอาหลูฟ้า”
ซิ่มกี ผู้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเถ้าแก่เนี๊ยะและเป็นศรีภรรยาของชายชาวจีนกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากทางด้านหลังของร้านหลังจากได้ยินเสียงลั่นของเฮียของแก หรือแปะเม้ง ที่ใครๆเรียก
“มีอะไรเฮียร้องซะตกอกตกใจหมด”
แต่คำตอบก็ปรากฏให้ซิ่มกีเห็นเองโดยที่แปะเม้งไม่ต้องบอกสักคำ
“ว้ายตาเถน หนูฟ้าทำไมเป็นแบบนี้”ซิ่มกี ร้องด้วยความตกใจยิ่งกว่าเพราะแกรู้จักหญิงสาวหน้าแอร่มคนนี้ดี
หญิงสาวได้แต่หัวเราะกับเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี๊ยะเจ้าของร้านก๊วยเตี๋ยวเล็กๆร้านนี้
สองปีทีเดียวที่เธอไม่ได้กลับมาที่นี่ ร้านนี้เป็นห้องแถวเก่าเป็นเรือนไม้สองชั้นที่ตั้งอยู่บนที่ดินของ คุณหญิง เดือนแข อิทธิเทพ ผู้มีศักดิ์เป็นย่าของเธอ
“โถ่แปะกับซิ่มก็ฟ้ายังไม่ตายสักหน่อยร้องอย่างกับเห็นผี”หญิงสาวพูดพร้อมหัวเราะและเลื่อนเก้าอี้กลมเก่าที่เธอเคยนั่งมาตั้งแต่เด็กทุกครั้งเมื่อมากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้
จะไม่ให้ซิ่มกีกับแปะเม้งตกใจได้อย่างไรเพราะคนตรงหน้า คือ พ.ญ. จอมสุรางค์ อิทธิเทพ หลานสาวคนเดียวเศรษฐีนีระดับประเทศ
ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆที่รู้กันดีระหว่างคนกินกับคนทำถูกยกมาทันทีโดยไม่ต้องสั่งเพราะเธอไม่เคยเปลี่ยน
และนมเย็นหอมหวานที่ถูกยกมาวางคู่กับก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ
“แหมรู้ใจจังซิ่มเนี่ยะ”หญิงสาวพูดพลางหัวเราะดึงตะเกียบจากพาชนะที่มีฝาปิดมิดชิดพร้อมกับช้อน
สองเถ้าแก่ได้แต่มองหน้ากันเพราะไม่รู้จะพูดอะไรดีกับสภาพกับหญิงสาวที่เห็นมาแต่เล็กแต่น้อย
“นี่หนูฟ้า ทำไมแต่งตัวแบบนี้ฮึดูสิใครเขาจะเชื่อว่าเป็นหมอเป็นหลานสาวคนเดียวของคุณหญิงท่านถ้าซิ่มไม่รู้จักหนูฟ้ามาก่อนซิ่มคงนึกว่าพวกพม่าหางานทำ”
หญิงสาวละความสนใจกับชามก๋วยเตี๋ยวชั่วคราวเงยหน้าขึ้นมาสบตาแล้วอมยิ้มกับคำพูดของซิ่มกี
“ฟ้าหน้าให้ขนาดนั้นเชียว”
ซิ่มกีได้แต่ส่ายหน้ากับหญิงสาวขนาดแกกับแปะเม้งเป็นคนนอกยังรับกับสภาพหญิงสาวตอนนี้ไม่ได้เลยแล้วคุณหญิงย่าของเธอจะรับได้ยังไง
“หน้าไม่ให้หรอกเพราะสวยไปแต่ผิวน่ะให้ แล้วนี่นึกยังไงถึงมาแบบนี้ก็ไหนนังช้อยมันบอกว่าหนูฟ้าไปเรียนหมอเพิ่มที่เมืองนอกไงแล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้มาล่ะ”
“ก็ใช่ค่ะไปเรียนเฉพาะทางหนึ่งปีอีกปีไปเป็นอาสาสมัครอยู่ที่ลาว”หญิงสาวบอกหลังจากดูกนมเย็นแสนอร่อยในแก้วใสทรงโบราณที่ผ่านศึกมานาน
หญิงสูงวัยเบิกตาโพลงเมื่อได้ฟังถ้อยคำบอกกล่าวของหญิงสาว
“เมืองลาวตายแล้วหนูฟ้าแล้วคุณหญิงท่านรู้ไหมเนี่ยะคงไม่รู้ล่ะสิถึงได้ไป”
ใช่เธอไปเป็นแพทย์อาสาสมัครประจำโรงพยาบาลประจำกรุงเวียนจันทร์หนึ่งปีเต็มจากเดิมที่คิดว่าจะอยู่อีกสักปีแล้วค่อยกลับแต่ความลับไม่มีในโลกเพราะเพื่อนๆของคุณย่าเธอไปเที่ยวเวียงจันทร์แล้วจำเธอได้ข่าวของเธอจึงถูกส่งมาถึงคุณย่า
“ตอนแรกไม่รู้แต่ตอนนี้รู้แล้วฟ้าถึงถูกเด้งกลับมาที่นี่ไง”เมื่อเล่าถึงตรงนี้หญิงสาวก็ได้แต่ถอนหายใจกับการยื่นคำขาดของผู้เป็นย่าผ่านสายโทรศัพท์ข้ามประเทศ
‘ฟ้า ย่าเหลือฟ้าเพียงคนเดียวนะลูกฟ้าอยากเป็นหมอย่าก็ให้เป็นฟ้ายังจะทิ้งย่าได้ลงอีกเหรอ ทุกครั้งแล้วที่ฟ้าไปออกค่ายอาสาที่แถวชายแดนย่าก็ได้แต่นอนร้องไห้เป็นห่วงฟ้า แต่ครั้งนี้ฟ้าหนีไปเป็นหมออยู่ลาวทำไมฟ้าทำแบบนี้ฟ้าดีแต่ช่วยรักษาคนอื่นแล้วย่าล่ะลูกใจของย่าตัวของย่าใครจะดูแล คราวนี้ถ้าฟ้าไม่กลับมาก็ไม่ต้องมาเรียกย่าว่าย่า และถ้าย่าตายก็ไม่ต้องมาเผาผีกันและย่าจะขายที่ดินให้หมดโดยไม่สนเลยว่าใครมันจะเป็นอย่างไรเพราะย่าไม่รู้จะเก็บไว้ให้ใครเพราะมีหลานก็เหมือนไม่มี’
ในฐานะหลานเธออาจดูอกตัญญูที่ทอดทิ้งผู้เป็นบุพการีแต่คุณย่าของเธอมีทั้งเงินทองและบริวารรายล้อมมากมายคงไม่มีใครปล่อยให้เป็นอะไรเด็ดขาดแต่ที่เธอยอมกลับเพราะห่วงชาวบ้านตาดำๆพวกนี้ต่างหากพวกเขายากจนที่ดินที่เขาอาศัยอยู่นั้นถูกทำสัญญาเช่าก็จริงแต่ก็ไม่เคยเก็บเงินค่าเช่าสักเดือน
การสนทนาที่ดำเนินไปเรื่อยๆก็ต้องหยุดลงกลางคันเมื่อรถยนต์จาร์กัว..สีดำมันปราบแล่นมาจอดเทียบหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆร้านนี้
“เดี๋ยวนี้ร้านแปะกับซิ่มดังขนาดนี้แล้วเหรอไฮโซเขาถึงแวะมากินเนี่ยะ”หญิงสาวกระเซ้าแซวเจ้าของร้านเพราะไม่คิดว่าร้านเล็กๆร้านนี้จะมีคนระดับนี้มาแวะกิน..นอกจากเธอ
“ทำพูดดีหนูฟ้าตัวเองน่ะก็ใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่”
เมื่อประตูรถคันหรูตรงหน้าถูกเปิดออกพร้อมกับการก้าวลงมายืนมองสำรวจสภาพร้านของผู้มาใหม่ทั้งชายและหญิง
“อี๋จะทานได้คุณธีร้านเก่าขนาดนี้ดูสิคะสกปรกขนาดนี้แววไม่ทานดีกว่าค่ะ”เสียงของหญิงสาวหน้าตาก็จัดว่าสวยที่ไม่รู้ว่าสวยจริงหรือสวยด้วยเครื่องสำอางค์ในชุดแซคสายสปาเก็ตตี้สีแดงเพลิงที่แสนร้อนแรงแข่งกับดวงอาทิตย์บอกกับชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อโปโลสีน้ำเงินกางเกงขายาวที่มีท่าทีระอาในท่างทางของหญิงสาวข้างตัว
แต่สิ่งที่ได้ยินทำให้เจ้าของร้านทั้งสองโมโหถึงแกจะจนแต่ก็ทำมาหากินสุจริตอาหารของแกสะอาดพาชนะที่ใช้ใส่ก็มีผ้าขาวบางปิดคลุมเสมอ
“นี่คุณถ้าร้านที่มั่นใจในความสะอาดขนาดโชว์ชามที่ล้างแล้วให้เห็นตรงหน้าและมีผ้าขาวบางปิดคลุมกันฝุ่นขนาดนี้กับหม้อก๋วยเตี๋ยวที่น้ำเดือดพล่านจนสามารถล้างเชื้อผู้ดีที่จะมาแปดเปื้อนร้านคนจนได้ คุณยังว่าสกปรกก็เชิญคุณไปกินร้านอาหารผู้ดีที่ล้างชามหลังร้านทำอาหารหลังร้านมีแมลงวันแมลงสาปตกไปในหม้อในกระทะแล้วหยิบออกก่อนเสิร์ฟให้พวกคุณกินเถอะนะ”เสียงเล็กๆใสๆที่ดังออกมาจากในร้าน
หญิงสาวหน้าตาสะสวยใส่เสื้อสีมอกางเกงเก่าซีดโผล่หน้าออกมายืนเคียงกับสองเจ้าของร้าน แปะยืนกำกระบวยตักน้ำตั้งท่าพร้อมรบซิ่มยืนท้าวสะเอวตั้งท่ามั่น
เสื้อผ้าแม้จะดูเก่าเช่นไรแต่ความสวยไม่ได้ลดน้อยลงกริยานั้นหยิ่งทะนงเต็มที่คำพูดที่เชือดเฉือนอาจดูไม่รุนแรงแต่เจ็บเชียวแหละสำหรับคนฟัง
“นี่หล่อนเป็นใคร”เสียงแหวใส่ที่ไร้มารยาทอย่างที่สุด
ใช่เธอเป็นใคร..ชายหนุ่มเองก็อยากรู้ ดวงหน้ารูปไข่ หน้าผากรูปหัวใจ ผิวขาวอมชมพูแต่มีรอยหมองลงไปบ้างเพราะแสงแดด ดวงตากลมโตสีบรั่นดีขนตางอนยาว คิ้วโก่งศร ปากแดงเรื่อได้รูป ผมยาวถูกมัดรวบเป็นหางม้า..สวยธรรมชาติโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องสำอางค์แต่อย่างใด
“นี่คุณมารยาทที่ดีน่ะไม่เคยเรียนหรือไงเวลาจะถามคนอื่นเขาให้แนะนำตัวเองก่อนแต่ก็อีกฉันมันก็ไม่ใช่ผู้ดีเลยไม่อยากรู้ ฉันว่าคุณสองคนรีบไปเถอะก่อนที่น้ำลวกก๋วยเตี๋ยวจะถูกใช้เพื่อการอื่น”
ชายหนุ่มนั้นนึกรู้แต่แรกแล้วว่าผู้หญิงที่มากับเขากำลังก่อเรื่อง
“แววเร็วสิคุณหิวไม่ใช่หรือไงขึ้นรถไปซะ”ชายหนุ่มสั่งด้วยน้ำเสียงเข้มเมื่อได้ฟังคำไล่ของสาวหน้าหวานคนนี้..ตัวเขาไม่เคยมีปัญหาอะไรกับการกินอยู่แต่คนที่ร้องขอตามเขามานี่สิคือปัญหา
“แต่มัน..”
“ไม่มีแต่ถ้าคุณไม่ไปคุณก็กลับเองแล้วกัน”
“ค่ะกลับก็กลับ ฝากไว้ก่อนเถอะนังบ้า”
“ที่นี่ไม่ใช่โรงจำนำหรือธนาคารจะได้เที่ยวเอาอะไรมาฝาก”เสียงใสตะโกนตอบไปอย่างไม่แคร์พร้อมยืนกอดอกเพื่อรอไล่ส่งแขกที่ไม่ได้รับเชิญ
“เอ่อผมขอโทษแทนเธอด้วย”ชายหนุ่มที่ยังคงจับจ้องร่างบางอย่างไม่วางตาผู้หญิงคนนี้ท่าทางจะเป็นหลานสาวเจ้าของร้าน แต่หน้าตาไม่เหมือนเลยเธอออกตากลมโตขนตางอนยาวเหมือนตุ๊กตา แต่เจ้าของร้านแค่มองหน้าก็บอกเชื้อชาติได้แล้ว
“ถ้าขอโทษตามมารยาทก็ไม่ต้องมากองไว้หรอกนะคุณแต่ถ้าขอโทษจากใจก็กองไว้ตรงนั้นเดี๋ยวจะเก็บขึ้นมาเอง”หญิงสาวบอกพร้อมจ้องกลับก็เอาสิเล่นเกมจ้องหน้าเธอก็พร้อมจ้องตอบ
ส่วนชายหนุ่มได้แต่อมยิ้มกับหลานสาวคนสวยของเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวที่แสนดุคนนี้น่าสนใจจริงๆเห็นทีเขาคงต้องลองมาเป็นลูกค้าสักทีแต่คงต้องมาคนเดียว
“งั้นก็ขอบคุณครับที่คุณจะเก็บมันขึ้นมา โปรดนะรักษาไว้ให้ดีด้วยนะคุณหัวใจผมทั้งดวงเลยนะ”ชายหนุ่มตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่ส่งให้เฉพาะเจาะจงกับหลานสาวเจ้าของร้านเท่านั้น
“ซิ่มกับแปะวันหลังผมจะมาลองกินนะครับแต่วันนี้ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”ชายหนุ่มตะโกนบอกพร้อมขึ้นรถและปิดประตูขับออกไป
หัวใจผมทั้งดวง..ปากพล่อย..
“หน้าด้านจริงๆเลยยังมีหน้าจะกลับมาอีก”หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆขณะคว้าเป้ขึ้นมาสะพายเตรียมตัวกลับ
“อีท่าทางลีนะหลูฟ้าผิดกับผู้หญิงที่มากับอี”อาแปะบอกด้วยประสบการณ์ทีสูงวัยมองปราดเดียวก็พอจะอ่านอะไรในท่าทางชายหนุ่มเมื่อครู่ออก
“เสียดายหน้าตาท่าทางดีไม่น่าได้เมียแบบนั้นเลย”ซิ่มกีบอกด้วยความเสียดาย
“มาเสียดายอะไรเล่าซิ่มเค้าเหมาะกันดีแล้ว งั้นฟ้าไปก่อนนะซิ่มแปะวันหลังจะแวะมาหาใหม่”หญิงสาวบอกพร้อมเดินออกไปเรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างเพื่อไปยังบ้านที่อยู่ลึกเข้าไปในซอย
หลังกำแพงสูงสีขาวตระหง่านเป็นที่ตั้งบ้านอิทธิเทพ ที่จริงมันไม่ควรเรียกว่าบ้านเลยด้วยซ้ำเพราะความอลังการสมหน้าตาฐานะของผู้เป็นเจ้าของที่ใครๆมักเรียกว่าผู้ดีเก่าเพราะที่ดินตรงนี้เป็นมรดกตกทอดกันมารุ่นต่อรุ่น
สองปีเต็มที่จอมสุรางค์ไม่กลับมาเหยียบที่บ้านหลังนี้ สองปีเต็มที่เธอไม่ได้เป็น คุณ จอมสุรางค์ อิทธิเทพ ทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมกรงทองหลังนี้เป็นเช่นไรก็เป็นเช่นนั้นเสมอ แต่เวลาของนกน้อยเช่นเธอก็หมดลงแล้วสำหรับคำว่าอิสระต้องโบยบินกลับกรงทอง
ปิ๊ง ป่อง เสียงออดหน้าประตูดังขึ้นทำให้ชายผู้มีหน้าที่เฝ้ายามอยู่ตรงบริเวณรั้วต้องเดินมาดู
หญิงสาวท่าทางเหมือนคนเรร่อนมาหางานทำมายืนกดออดอยู่หน้าบ้านทำให้เขาผู้มีหน้าที่ตรงนี้ต้องมาจัดการ
“บ้านนี้ไม่รับคนงานหรอกไปหางานทำที่อื่นไป”เสียงชายวัยกลางคนที่เดินออกมาไล่ทำให้หญิงสาวอมยิ้ม
เค้าจำเธอไม่ได้...แต่เธอจำเค้าได้ชายคนนี้คือคนเก่าคนแก่ของบ้านอิทธิเทพแต่ตอนนี้ดูแก่ลงไปเยอะเลยในเวลาเพียงแค่สองปี
“ไม่ได้มาหางานทำจ้ะแต่จะมาขออาศัยซุกหัวนอนต่างหากลุงท้วม”
ใคร..ทำไมรู้จักชื่อเขา...คนแก่ขี้หลงขี้ลืมยังทำหน้างงพร้อมมองหน้าพวกมาของานทำ..คุ้นแต่ไม่น่าจะใช่
“เอ้าดูทำหน้าเข้าฟ้าไม่อยู่แค่สองปีนี่ลืมหน้ากันเลยเหรอไม่ได้เรื่องเลยลุงนี่สู้แปะเม้งกับซิ่มกีก็ไม่ได้”
ชายสูงวัยลมแทบจับคุณหนูของแกที่เห็นมาแต่เล็กแต่น้อยกลายเป็นแบบนี้ก่อนไปเมืองนอกก็สวยราวเจ้าหญิงแต่นี่อะไรเสื้อเก่าปอนกางเกงยีนเก่าขาดเป้ที่แบกมาก็เก่าพอกัน
“เฮ้ย.ตายแล้วคุณหนูทำไมกลายเป็นแบบนี้ครับดูซิผมก็นึกว่าพวกมาของานทำ”
ชายแก่รีบกุลีกุจอเปิดประตูทันทีพร้อมรับเป้ที่สมควรเรียกว่าซากเป้เสียมากกว่าจากคุณหนูของแกมาถือแทนเขาจำได้ก่อนคุณหนูไปเมืองนอกกระเป๋าใบโตต้องสองสามใบแต่ทำไมขากลับเหลือเท่านี้
“ลุงนี่พูดเหมือนซิ่มกีเลยรู้ไหมเมื่อกี้ฟ้าไปกินก๋วยเตี๋ยวแกมาแกก็บอกว่าเหมือนพวกพม่าหางานทำ”หญิงสาวบอกด้วยความอารมณ์ดีเป็นเนืองนิตย์พร้อมเดินขึ้นตึกใหญ่..ไม่สิกรงทองหลังใหญ่
“ตายแล้วคุณหนูของช้อยทำไมเป็นแบบนี้คะ”ช้อย ซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ของบ้านเมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวก็ร้องลั่น
เพราะผิวสวยๆที่เคยอมชมพูหน้าตาที่ดูอิ่มเอมบัดนี้ดูผ่ายผอมลงมากและหมองคล้ำ
“เอาเถอะค่ะป้าช้อยเดี๋ยวฟ้าไปแปลงโฉมนิดหน่อยก็กลับมาเป็นคนเดิมแล้วค่ะว่าแต่คุณย่าอยู่ไหมคะ”
“ไม่อยู่ค่ะท่านพึ่งออกไปสมาคมเมื่อบ่ายนี่เองค่ะ”
หญิงสาวพยักหน้ารับรู้แต่ไม่พูดอะไรต่อเพราะเธอเองก็เพลียเต็มทีแล้วจึงเดินเข้าบ้านขึ้นตรงไปยังชั้นบนของบ้านที่เป็นห้องนอนของเธอแต่เธอก็ไม่ลืมที่จะเข้าไปกราบรูปคุณปู่ที่เธอไม่มีโอกาสรู้จักและคุณพ่อคุณแม่ของเธอที่ห้องพระ
“คุณพ่อคุณแม่คะฟ้ากลับมาแล้วค่ะ”
ความคิดเห็น