ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยอาญา

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอน ๕

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 52


    ตอน ๕
     
    ห้องอาหารที่เต็มไปด้วยของใช้ที่หรูหราและแพงสมกับฐานะของเจ้าของบ้านในสายตาของระพีพรรณที่ใช้เวลาพิจารณาดูไม่นานนัก เจ้าของบ้านและแขกนั่งอยู่ทั้งหมดสี่คน คือดนุพร ลัดดา และมีนิตยานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วย และก็มีเด็กชายวัยไม่น่าจะเกินเจ็ดหรือแปด พร้อมกับพิสิทธิ์ที่มีสีหน้าที่เป็นมิตรกับเธอ ซึ่งแตกต่างจากดนุพรและลัดดายิ่งนัก ที่แม้แต่หน้าเธอคนทั้งสองก็แทบจะไม่อยากจะชำเลืองมองด้วยซ้ำ
     
    เธอเองก็ไม่เข้าใจนัก ว่าในเมื่อสองแม่ลูกนี้เกลียดชังเธอและคนในครอบครัวเธอมากขนาดนี้ แล้วทำไมเขายอมให้เธอมาทำงานที่นี่ ภาพทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารกันอยู่ โดยมีเธอและรำพึงคอยเสริฟข้าวเสริฟน้ำให้นั้น ทำให้ระพีพรรณอดคิดถึงสถานะภาพตัวเองเมื่อวันวานไม่ได้ แล้วความรู้สึกต่ำต้อยมันก็ผุดขึ้นมาในความคิดเธอได้ไม่ยากเย็นนัก
     
    เธอเองก็เพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกของคนที่ทำงานเป็นคนรับใช้ก็วันนี้เองว่า มีความรู้สึกเช่นไร แต่คิดไปแล้วก็ป่วยการสำหรับระพีพรรณในเวลานี้ เพราะเธอเองก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะต้องเอาทุกอย่างกลับคืนไปให้ได้ เพื่อพ่อและพี่ชายจะได้มีวันข้างนี้ที่ดีกว่าที่เป็นอยู่นั่นเอง
     
    นิตยา พรุ่งนี้จัดการให้แม่นี่ใส่ยูนิฟอร์มด้วยนะ จะได้เหมือน ๆ กับคนอื่น
     ดนุพรบอกนิตยาก่อนจะลงมือกินข้าว
     
    ค่ะคุณดำพรุ่งนี้จะให้นายสมพรพาไปร้านตัดผ้าจะได้วัดตัว
     
    นิตยารับคำ แล้วก็มีสีหน้าที่แปลกใจไม่น้อยกับท่าทางของดนุพร ที่มีต่อระพีพรรณ
     
    คุณพ่อครับวันนี้คุณพ่อจะสอนการบ้านให้ดอนหรือเปล่าครับ เมื่อวานคุณพ่อก็ลืมไปวันหนึ่งแล้วนะครับ
    เด็กชายเอ่ยถามดนุพร
     
    ได้สิลูก กินข้าวก่อนนะ เดี๋ยวพ่อจะไปสอนให้ที่ห้องนะลูก
     เขาบอกเด็กชายด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และน้ำเสียงที่นุ่มนวล ระพีพรรณมองแล้วก็อดสงสัยไม่ได้
     
    แล้วแม่ของเด็กไปไหนกันหละ
    แต่เธอก็ได้แค่คิด
     
    ฉันยังไม่ได้แนะนำให้เธอรู้จัก นี่คุณดอน ลูกชายฉัน เธอจะต้องสอนการบ้านให้เขาด้วย ในเวลาที่นิตยายุ่ง ๆ และฉันไม่มีเวลา เพราะนั่นก็คืองานของเธอด้วย
     
    เขาบอกและหันหน้าไปหาระพีพรรณเพียงแค่แว๊บเดียวแล้วก็หันกลับ
     
    ใครกันครับคุณพ่อ ดอนไม่เคยเห็นหน้าเลย
    ดอนถามเขา
     
    อ๋อ...คนรับใช้ใหม่ของเราลูก เดี๋ยวอีกหน่อยเขาจะเป็นคนช่วยดอนดูเรื่องการบ้านนะลูก
    เขาพูด
     
    เก่งภาษาอังกฤษหรือเปล่าครับ ถ้าเก่งดอนจะให้ช่วยสอน คราวที่แล้วน้านิดก็สอนการบ้านดอนไม่ค่อยจะถูกเลย
     
    เด็กน้อยพูดด้วยความไร้เดียงสา แต่เล่นเอานิตยาถึงกับทำหน้าไม่ถูก
     
    อะไรกันคะคุณดอน คราวที่แล้วน้านิดก็สอนถูกนี่คะ ว่าแต่คุณดอนเถอะทำถูกหรือเปล่าคะ แล้วมาโทษน้า
     
    นิตยารีบแก้หน้าตัวเอง จนทำให้พิสิทธิ์กับดนุพรอดกลั้นขำแทบไม่อยู่
     
    ตาดอน....พอแล้วลูก เวลากินข้าวย่าไม่ชอบให้คุยกัน
    ลัดดารีบเอ็ดหลานชาย เล่นเอาทุกคนในโต๊ะเงียบไปตาม ๆ กัน
     
    เอ่อ...ดำ ช่วยบอกให้แม่นี่ไปที่ไหนก็ไปได้แล้วไป แม่กินข้าวไม่ค่อยจะลง ทีหลังก็ไม่ต้องให้มาเสนอหน้าที่ห้องอาหารอีกนะ
    ลัดดาเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย จนทำให้พิสิทธิ์ที่นั่งตรงข้ามกับดนุพรถึงกับมีสีหน้าที่กังวล แต่เขาก็เข้าใจความรู้สึกสองแม่ลูกนี้ดี ว่ารู้สึกอย่างไร
     
    ได้ครับคุณแม่...เธอไปอยู่ในครัวกับป้าแพงโน่นไป วันหลังถ้าฉันไม่เรียกก็ไม่ต้องมาตั้งโต๊ะนะให้รำพึงกับป้าแพงทำก็พอ
     
     เขาบอกเธอทั้ง ๆ ไม่มองไปดูหน้าเธอแม้แต่หางตา
     
    ระพีพรรณไม่พูดอะไรมาก รีบออกไปจากห้องอาหารทันที พร้อมกับความรู้สึกที่บอกไม่ถูก กับความเกลียดชังที่คนทั้งสองมอบให้ เท้าที่ก้าวไปได้ไม่เท่าไหร่น้ำตาก็พาลจะไหลออกมา จนเธอต้องรีบอดกลั้นเอาไว้ และก็เดินตรงไปยังห้องครัว แต่ก็ไม่เห็นแพงหรือว่าใครอยู่ ก็เลยเดินกลับไปยังห้องพักของตัวเอง
     
    ™™™
     
    ป้าแพง....
     
    รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าทันทีที่ประตูห้องของระพีพรรณเปิดออก
     
    คุณเพลง ทำไมไม่ไปกินข้าวคะ แพงถาม
     
    เพลงไม่หิวค่ะ ป้าแพงมีอะไรให้เพลงทำหรือเปล่าคะ หรือว่าใครเรียกเพลง
    เธอถาม เพราะตั้งแต่โต๊ะอาหารแล้ว เธอก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย
     
    ไม่มีหรอกค่ะ ป่านนี้แล้ว คนที่นี่ก็จะเตรียมตัวเข้านอนแล้วหละค่ะ....คุณเพลงคะเกิดอะไรขึ้นคะ แล้วทำไมคุณเพลงถึงได้มาทำงานอย่างนี้ ช่วยบอกป้าทีเถอะค่ะ
    แพงรีบถามด้วยความอยากรู้
     
    ก็ตั้งแต่ตอนที่ป้าแพงอยู่นั่นหละค่ะ เพลงเองก็ไม่ค่อยได้รู้อะไรมาก ก็รู้มาจากลุงโป่งอีกที....
     
    แล้วระพีพรรณก็บอกเล่าให้แพงฟังเฉพาะในเรื่องหนี้สินเท่านั้น แต่สำหรับเรื่องความหลังของทั้งสองครอบครัวนั้น ระพีพรรณเองก็ไม่อยากจะบอกเล่าให้ใครฟังสักเท่าใดนัก
     
    โถ่...คุณเพลง ดูสิคะ เคยแต่มีคนทำโน่นทำนี่ให้ แล้วต้องมาทำงานเอง แล้วจะไหวเหรอคะ ตั้งห้าปี แต่จะว่าไปแล้วทำไมคุณดำแกใจดีจังคะ เงินตั้งเยอะให้มาทำงานใช้แค่นี้เองค่ะ
     
    เพลงก็ไม่รู้ค่ะป้า แต่เพลงก็ทำสัญญากับเขาเอาไว้แล้ว คุณพิสิทธิ์ก็เป็นพยานให้เพลงด้วย แต่ไม่ว่าจะยังไงเพลงก็คงจะต้องอดทนให้ถึงที่สุดค่ะ เพราะคุณพ่อกับพี่พี และลุงโป่งที่ฝากความหวังไว้กับเพลง
     
    เธอบอกด้วยความมุ่งมั่น จนทำให้แพงรู้สึกแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงของเจ้านายที่มีแววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ผิดกับครั้งก่อนที่แพงเห็นไปถนัดตา ระพีพรรณคนก่อนที่แพงรู้จักนั้น ค่อนข้างจะเป็นคนที่ง่าย ๆ อะไรก็ได้ การเรียนก็เอาแบบสบาย ๆ ไม่ค่อยจะเคร่งเครียดจริงจังสักเท่าไหร่นัก
     
    ป้าหละเสียใจจริง ๆ เลยค่ะที่ได้ยินเรื่องแบบนี้ แต่ยังไงคุณเพลงก็ต้องอดทนนะคะ คนที่นี่ไม่ค่อยจะเง้มงวดสักเท่าไหร่หรอกค่ะ คุณดำก็ใจดี คุณลัดดาก็ใจดี ป้าทำงานที่นี่มาได้นานเหมือนกัน จะมีก็แต่คุณนิตยา กับนังแตนเท่านั้นหละค่ะที่คุณเพลงจะต้องระวัง แพงบอก
     
    ทำไมคะป้า
     เธอถามเพราะก็สงสัยไม่น้อย ตั้งแต่ตอนอยู่ที่ในครัวแล้ว
     
    คุณเพลงรู้แล้วต้องเก็บไว้นะคะ และถ้าเลี่ยงสองคนนี้ได้ก็ให้เลี่ยง....ก็คุณนิตยาสิคะ แอบรักคุณดำค่ะ แกไม่ค่อยแสดงออกให้ใครเห็นหรอกค่ะ แต่พวกเราก็รู้กันอยู่ คุณลัดดาเองก็รู้ค่ะ ส่วนนังแตนก็ใช่ย่อยค่ะ รายนี้แสดงออกนอกหน้าค่ะ น้าหลานคู่นี้ ดู ๆ จะรักกันนะคะ แต่ลึก ๆ กินในกันอยู่ค่ะ
     
    แพงเล่าให้เธอฟัง
     
    แล้วคุณดำเขารู้หรือเปล่าคะ
     เธออดอยากรู้เรื่องไม่ได้ เพราะจะได้เก็บเอาไว้เป็นข้อมูล
     
    คุณดำเหรอคะ เอ...ป้าไม่แน่ใจนะคะ เพราะคุณดำเป็นคนไม่ค่อยจะพูด แต่เวลาดุนะ ใครก็กลัวกันหัวหดค่ะ เวลาคุณดำโกรธคุณเพลงก็ต้องระวังตัวไว้นะคะ อย่าเข้าใกล้เด็ดขาด ถ้าเป็นเรื่องงานแกเข้มงวดมากค่ะ ไม่อย่างนั้นแกจะสร้างตัวได้เร็วเหรอคะ ป้ารู้มาว่าเมื่อก่อนบ้านนี้ฐานะดีค่ะ พอพ่อเสียก็จนลง แล้วก็มารวยอีกทีรุ่นคุณดำนี่หละค่ะ แต่แกมีพี่อีกคนนะคะ ชื่ออะไรก็ไม่รู้ค่ะ ป้าเองก็ไม่เคยเห็นหน้าด้วย เห็นแต่รูปที่ตั้งไว้ในห้องคุณลัดดา กับที่ห้องคุณดำ
     
    ....แต่ป้าว่าป้าดูคุ้นหน้าคนในรูปมาก ๆ เลยนะคะ หน้าเหมือนพ่อเด่นที่เคยไปทำงานกับคุณท่านมาก ๆ เลยค่ะ แต่ป้าก็ไม่แน่ใจ และคิดว่าคงจะไม่น่าจะใช่ เพราะพ่อเด่นบ้านเขาจน แต่คุณดำกับคุณลัดดานี่ออกจะร่ำรวยไม่น่าจะใช่ อาจจะเป็นคนหน้าเหมือนกันก็ได้ค่ะ
     
    แพงเล่าให้เธอฟังในสิ่งที่ตัวเองเห็นและรู้มาตอนที่เป็นลูกจ้างที่บ้านกำพลเท่านั้น แต่ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ นั้น จะมีเพียงกำพลกับโป่งเท่านั้นที่รู้เรื่องโดยละเอียด เพราะกำพลสั่งโป่งให้เก็บทุกอย่างเป็นความลับ
     
    จริงเหรอคะป้า
    เธอถามกลับแค่นั้น เพราะในใจรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก
     
    ค่ะคุณเพลง พูด ๆ แล้วก็คิดถึงพ่อเด่นเหมือนกันนะคะ ไม่รู้เป็นอะไรจู่ ๆ ก็หายออกจากบ้านไป ไม่ลาป้ากับลุงโป่งสักคำเลย นึกจะมาก็มานึกจะไปก็ไป ไม่มีใครรู้ใครเห็นเลย
     
    เหรอคะ เธอถามแค่นั้น
     
    ค่ะ นี่พูดไปแล้วอย่าเอ็ดไปนะคะ ป้าแอบได้ยินคุณดำกับคุณลัดดาคุยกันโดยบังเอิญค่ะ ว่าตอนนี้ลูกชายแกกำลังติดคุกอยู่ค่ะ แต่ข่าวเขาว่าพี่แกไม่ผิดหรอกค่ะ แต่ถูกกลั่นแกล้งก็เลยติดคุกฟรี เห็นเขาบอกว่าคุณดำโกรธและเกลียดพวกที่ทำให้พี่ชายแกติดคุกมาก เรียกได้ว่าจะจองล้างจองผลาญให้ถึงที่สุดเลยค่ะ ป้าก็รู้แค่นี้หละค่ะ คุณเพลงอย่าเผลอไปบอกใครเชียวนะคะ ไม่งั้นมีหวังได้หอบผ้ากลับบ้านแน่ ๆ ค่ะ เพราะคุณดำกับคุณลัดดาปิดเรื่องนี้มิดเชียวค่ะ นี่ถ้าป้าไม่บังเอิญไปได้ยินมานะคะ ป้าก็ไม่รู้หรอกค่ะ
     
     แพงบอกเล่าด้วยความไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่มันก็ทำให้ระพีพรรณอดที่จะหดหู่ใจไม่ได้ แล้วเธอเองก็อดคิดไม่ได้ว่าการที่สองแม่ลูกเกลียดชังเธอนั้น มันก็สมควรแก่เหตุผลไม่น้อย
     
    ขอบคุณป้าแพงนะคะ ที่เล่าให้เพลงฟัง
     
    เธอบอกไปแค่นั้น และก็ไม่ได้ปริปากเล่าหรือให้ความกระจ่างในข้อสงสัยของแพงแม้แต่อย่างใด เพราะเธอคิดว่ายิ่งแพงรู้เรื่องของเธอและครอบครัวนี้น้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่งจะทำให้แพงปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น
     
    เอ่อ....ป้าเกือบลืมค่ะ คุณนิตยาบอกว่าให้คุณเพลงตื่นไปช่วยป้าทำอาหารเช้าด้วยค่ะ ที่นี่จะตื่นกันประมาณตีห้าค่ะ กว่าป้าจะเข้าครัวก็จะประมาณตีห้าครึ่ง เตรียมอะไรเสร็จและตั้งโต๊ะก็เจ็ดโมงค่ะ แต่ความจริงคุณเพลงไม่ต้องไปก็ได้ รำพึงมันก็ไปช่วยป้า
     
    แพงบอกเพราะได้รับคำสั่งมาจากแตนอีกที
     
    ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้าแพง งั้นเพลงจะไปหาป้าที่ครัวตอนตีห้าครึ่งนะคะ แล้วห้องป้าแพงอยู่ที่ไหนคะ
     เธอถาม
     
    ห้องป้าอยู่ห้องที่สองค่ะ และห้องก็ใหญ่กว่านี้ด้วย มีเตียงด้วย ข้าวของเครื่องใช้ก็มีครบนะคะ แต่ทำไมห้องคุณเพลงถึงมีข้าวของน้อยจังคะ เตียงก็ไม่มี ห้องก็เล๊ก เล็ก ที่นอนก็เก๊าเก่า หมอนก็เก่า ปกติคุณดำจะให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของคนในบ้านดีนะคะ พวกเราก็มีสวัสดิการเหมือน ๆ กับพวกคนงานที่บริษัทค่ะ เงินเดือนก็เอาเข้าบัญชีด้วย โบนัสอะไร ๆ ก็มีให้ครบค่ะ
     
    แพงอดสงสัยไม่ได้
     
    ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า แค่นี้เพลงก็พอแล้ว เขาคงจะหาไม่ทันก็ได้ค่ะ เพราะมันฉุกละหุก....เอ่อ...ป้าแพงคะ เพลงมีอะไรอยากจะบอกป้าค่ะ
     
    อะไรคะ
     
    เพลงอยากให้เราอยู่ที่นี่ในฐานะที่เป็นเหมือนคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนค่ะ แล้วป้าแพงก็ต้องเลิกเรียกเพลงว่า
     
    คุณ  ด้วยนะคะ
     
    เธอรีบบอก
     
    ทำไมหละคะคุณเพลง
    แพงทำสีหน้างง
     
    เพลงเองก็ไม่รู้ค่ะ มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราสองคนอาจจะไม่รู้ก็ได้ คนเราเขาว่ารู้หน้าไม่รู้ใจ เพลงกลัวถ้าเกิดมีคนรู้ว่าเรารู้จักกันมาก่อน ป้าแพงจะเดือดร้อนค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้น เพลงคงไม่สบายใจแน่ ๆ เลยค่ะ นะคะ เชื่อเพลงเถอะ
     
    ป้าเรียกคุณเพลงจนติดปากแล้ว จะให้เปลี่ยนกันง่าย ๆ มันก็ยากอยู่นะคะ แล้วป้าเองก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดตรงไหน ก็ในเมื่อคนเรามันจะรู้จักกันมาก่อนไม่ได้เชียวหรือคะ
     
    แพงไม่วายที่จะแย้งเพราะไม่เห็นด้วย
     
    เชื่อเพลงเถอะค่ะ หรือถ้าไม่อย่างนั้น ป้าแพงก็ต้องระวัง อย่าเรียกเพลงให้คนอื่นได้ยินก็แล้วกันนะคะ....จริงสิคะ...ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เพลงว่าป้ากลับไปห้องเถอะค่ะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะเดือดร้อนกันเปล่า ๆ เดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้เช้านะคะ
     
    ได้ค่ะคุณเพลง งั้นป้าไปนะคะ คุณเพลงก็พักผ่อนนะคะ
     
    แพงบอกและก็ลุกเดินออกไปจากห้องแต่โดยดี ทันทีที่แพงคล้อยหลังไประพีพรรณรีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋า เพื่อโทรไปหากำพลทันที เพราะความเห็นห่วงพ่อ
     
    ™™™
     
    ใบหน้าคมสัน ดวงตาคมเข้มฉายแววที่ปรีดายิ่งนัก เมื่อดนุพรอ่านกระดาษที่อยู่ในมือเสร็จ
     
    ไอ้กำพล รออีกไม่นานหรอก แกก็จะได้รู้ว่าลูกที่แกรักต้องอยู่ในสภาพยังไง
     
    เขารำพึงกับตัวเองพร้อมแววตาฉายแววที่เกลียดชังคนที่เขาพูดถึงเป็นที่สุด แต่มันก็ถูกซ่อนเอาไว้ด้วยสายตาที่ปกติ เมื่อมีเสียงเคาะประตูห้องทำงานของเขา
     
    คุณดำเรียกนิดเหรอคะ
     
    นิตยาเยื้องกายเข้ามาในห้องทำงาน ดนุพรหันไปมองก็ถึงกับตกตะลึงกับภาพที่เห็นของญาติห่าง ๆ เพราะใบหน้าของนิตยานั้นนวลผ่อง ถึงแม้จะแต่งหน้าค่อนข้างเข้ม แต่ก็ทำให้ดูดีในสายตาเขา เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ดูจะมีแต่ของแบรนด์เนมแทบทั้งนั้น นิตยาตอนนี้ดูดีแทบจะไม่มีที่ติ ผิดจากเมื่อก่อนที่เขาพบกับเธอครั้งแรก
     
    โดยมารดาบอกว่านิตยาเป็นญาติทางพ่อซึ่งเขาเองก็ไม่รู้จักมาก่อน เพราะห่างกันมาก แล้วนิตยาก็กำลังเดือดร้อนไม่มีงานทำ เขาก็เลยรับเข้ามาอยู่ในบ้าน และให้ทำงานในตำแหน่งแม่บ้าน ซึ่งนิตยาเองก็ช่วยเขาได้มากทีเดียว แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกไม่ชอบใจในบางครั้งก็คือ นิตยามักจะพยายามสื่ออะไร ๆ ออกมาให้เขาได้รู้ความในอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่มากจนน่าเกลียดเขาจึงไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรนัก บวกกับนิตยาเองก็พอจะรู้ตัวเองว่าเขามีความรู้สึกยังไงกับเธอ เพราะเขาจะแสดงออกด้วยความเฉยเมย และจะคุยเฉพาะเรื่องงานกับเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น พร้อม ๆ กับไม่แสดงท่าทางที่สนิทสนมมากเกินไปกว่าฐานะนายจ้างกับลูกจ้างเท่านั้น จนบางครั้งก็ทำให้นิตยาถึงกับอายหน้าถอดสีไปก็มี เพราะสะพานที่ทอดไปหาเขานั้น ไม่ได้รับการตอบสนองนั่นเอง
     
    ใช่ นิดช่วยเอานี่ไปให้ระพีพรรณด้วย ตารางงานที่เขาจะต้องทำ ผมทำให้แล้ว
    เขายื่นกระดาษในมือให้เธอ
     
    ทำไมมันมากมายนักคะคุณดำ ผู้หญิงคนเดียวจะทำได้เหรอคะ
    นิตยาอดที่จะถามเขาไม่ได้ หลังจากอ่านรายละเอียดทั้งหมด
     
    ผมอยากให้แม่นั่นทำให้มากว่านี้ด้วยซ้ำ อย่าลืมที่ผมสั่งนะ อย่าปล่อยให้แม่นั่นว่างเด็ดขาด คุมให้ดี แล้วมีอะไรให้มาบอกผมโดยตรง
     
    เขาบอกด้วยแววตาที่เกลียดชังทายาทกำพลยิ่งนัก
     
    ค่ะ แต่นิดก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมคุณดำถึงให้เขาทำงานเยอะจังหละคะ...เอ่อ...นิดขอโทษค่ะ ที่ละลาบละล้วง
     
    นิตยาอดที่จะอยากรู้ไม่ได้ แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าดนุพรไม่ชอบให้ใครมาถามโน่นนี่
     
    ก็ไม่มีอะไรนี่ ก็แค่อยากจะให้แม่นั่นทำงานมาก ๆ ก็แค่นั้น และก็ให้ทำตามที่ผมจัดตารางไว้ให้ทุกวันนะ คนที่จะเปลี่ยนแปลงได้ก็มีผมกับคุณแม่เท่านั้น เขาบอก
     
    ค่ะคุณดำ....มีอะไรอีกหรือเปล่าคะ
    นิตยาหยุดความสงสัยไว้แค่นั้น
     
    พยาบาลดูแลยายดามาหรือยัง
    เขาถามถึงพยาบาลคนใหม่
     
    มาแล้วค่ะ นิดเพิ่งจะพาไปเรือนกุหลาบ ดูหน่วยก้านแล้วน่าจะได้นะคะ
     
    ดี....แล้วแม่นั่นไปไหน อีกชั่วโมงหนึ่งให้ไปพบผมที่เรือนกุหลาบด้วย เขาสั่ง
     
    ยังไม่กลับจากร้านตัดเสื้อค่ะ แต่อีกเดี๋ยวก็คงจะมาแล้วนิดจะให้ไปหานะคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วนิดขอตัวนะคะ
     
    นิตยารีบออกไปจากห้อง ด้วยความเกรงกับอารมณ์ของดนุพร ที่ดูไม่ค่อยจะปกติเท่าไหร่เมื่อเอ่ยถึงระพีพรรณ ซึ่งนิตยาเองก็อยากจะรู้เรื่องไม่น้อย เพราะดูทั้งลัดดาและดนุพรแล้ว ไม่ค่อยจะชอบหน้าระพีพรรณเอามาก ๆ เลย
     
    ™™™
     
    แสงแดดอ่อน ๆ ยามบ่ายแก่ ๆ สาดส่องลงมายังพื้นหญ้าที่ขึ้นปกคลุมดินบริเวณหลังบ้าน ซึ่งคนในบ้านพากันเรียกว่า
     
    บ้านใหญ่
     
    ระพีพรรณเดินตามแนวทางเดินที่ปูลาดยาวออกมาจากตัวบ้านใหญ่ โดยที่สองฟากฝั่งนั้นถูกตกแต่งไปด้วยไม้ดอก ไม้ผลเต็มไปหมด พลางเธอก็อดชื่นชมกับคนสวนไม่ได้ ที่ตกแต่งอาณาบริเวณบ้านหลังนี้ให้ดูเขียวชะอุ่มไปด้วยไม้นานาพันธุ์ เธอเพิ่งจะประจักษ์ถึงความร่ำรวยที่ดนุพรสร้างสมขึ้นมาก็วันนี้นี่เอง
     
    หลังจากที่เมื่อเช้านิตยาให้รำพึงพาไปดูห้องหับต่าง ๆ ที่บ้านใหญ่ แต่ก็ยังไม่ได้รู้อะไรมากนัก ก็ต้องออกไปร้านตัดยูนิฟอร์ม ที่ตัวเองรู้สึกขัดใจนัก หากจะต้องได้สวมใส่เอาไว้ เพราะด้วยความเคยชินกับเสื้อผ้าฝ้ายที่ใส่สบาย ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องมีอะไรมาก แต่ยังไงเธอก็ต้องทำใจให้ลืมเรื่องทั้งหมดเอาไว้ให้ได้
     
    ระพีพรรณยืนละล้าละลังกับหนทางที่ตัวเองเดินออกมาจากบ้านใหญ่ เพราะไม่รู้ว่าเรือนกุหลาบที่รำพึงบอกนั้นอยู่ที่ไหน เพราะมีแต่ต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมด เลยไม่แน่ใจว่ามาถูกหรือไม่ บวกกับทางซีเมนต์ที่ปูลาดและแยกออกไปหลาย ๆ แยก
     
    คงจะทำไว้เพื่ออำนวยความสะดวกให้รถเข็นของคุณลัดดานั่นเอง
     
    เธอคิดเอาไว้ แล้วตัวเองก็ตัดสินใจเดินตรงไปตามทางเล็ก ๆ ต่อไป แล้วในที่สุดก็มองเห็นเรือนกุหลาบที่ถูกห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้เอาไว้ เดินพ้นจากแนวต้นไม้ได้ไม่นาน ระพีพรรณก็ต้องตะลึงกับความงามของสวน ที่ถูกจัดเอาไว้ก่อนจะถึงตัวเรือนกุหลาบ
     
    ดอกไม้นานาพันธุ์ทำให้มองแล้วรู้สึกเย็นตาและสบายใจได้ไม่น้อย โดยเฉพาะกุหลาบหลากหลายสีหลายพันธุ์ที่กำลังออกดอกชูช่อสลอน ตูมบ้าง บานบ้าง
     
    มิน่าหละถึงพากันเรียกว่า เรือนกุหลาบ เธอสันนิษฐานเอาเอง
     
    ตัวเรือนกุหลาบถูกสร้างเอาไว้ให้เล็กกระทัดรัด ระเบียงหน้าบ้านถูกทำเอาไว้กว้างพอสมควร และมีโต๊ะเล็ก ๆ ที่จัดเก้าอี้ที่ไว้แค่สามที่เท่านั้น สภาพบ้านถูกออกแบบมาโล่งโปร่ง รับลมได้ทุกด้าน
     
    ระพีพรรณหรือเปล่าจ๊ะ คุณดำรออยู่ด้านในแหนะ
    พยาบาลเปิดประตูบ้านออกมาทักทายเธอ
     
    ค่ะ เธอตอบแค่นั้น
     
    พี่เป็นพยาบาลใหม่ ชื่อยุพินค่ะ จะเรียกว่าพี่ยุก็ได้นะ
    ยุพินพยาบาลที่ดูจะมีวัยที่สูงกว่าเธอแนะนำตัวเองด้วยความมีไมตรี
     
    ค่ะ งั้นเรียกหนูว่าเพลงก็ได้ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ เธอตอบกลับ
     
    เช่นกันจ๊ะ เพลง งั้นพี่ขอตัวก่อนนะ จะไปหาคุณนิตยา คุณดำบอกว่าให้เข้าไปหาด้านในเลย
     
    ยุพินบอก แล้วตัวเองก็เดินผละไป  ร่างผอมบางค่อย ๆ เปิดประตูเรือนกุหลาบเข้าไป ผิวกายของระพีพรรณรู้สึกได้ จากลมที่พัดโชยเข้าไปด้านในทำให้รู้สึกเย็นสบายไม่น้อย เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ด้านใน มีห้องที่ประตูปิดเอาไว้สามห้อง มีห้องรับแขกและที่นั่งเล่นเล็ก ๆ ที่ทำติดไว้กับหน้าต่าง
     
    ส่วนอีกด้านก็ดูเหมือนจะเป็นครัวเล็ก ๆ ที่มีข้าวของเครื่องใช้เอาไว้ไม่มากนัก ครัวนี้คงจะไม่ค่อยได้ใช้งานหนักมากนัก เพราะจะเห็นได้ว่าข้าวของทุกอย่างถูกเก็บเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ที่ผนังด้านในทุกด้านถูกฉาบสีไว้ด้วยสีชมพูอ่อน ๆ สีคล้ายกลีบกุหลาบสีชมพู หน้าต่างบานใหญ่ที่เป็นกระจก ที่มีอยู่รอบ ๆ ตัวบ้าน ถูกเปิดออก จะปิดเอาไว้เฉพาะส่วนที่เป็นเหล็กดัดกับมุ้งลวดที่ยึดติดกันเอาไว้เท่านั้น จากจุดที่ยืนอยู่ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้โดยตลอด
     
    เข้ามาสิ
    ดนุพรเปิดประตูห้องอีกห้องหนึ่งออกมา แล้วก็เห็นระพีพรรณยืนสำรวจบ้านอยู่
     
    ค่ะ
     
    เธอรับคำแค่นั้น ก็เดินตามเขาเข้าไปในห้อง สภาพด้านในห้องนอนไม่ได้มีข้าวของเครื่องใช้มากนัก แต่มีขนาดที่กว้างขวางเอาการ จะเห็นได้จากมีเตียงนอนขนาดห้าฟุตถึงสองชุด ที่ถูกวางเอาไว้คนละมุมห้อง แล้วก็ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ทำแบบบิ้วอินซึ่งฝังติดไว้กับผนังเข้าไปนั่นเอง ถัดออกไปก็เป็นตู้เครื่องแป้ง แล้วก็มีประตูอีกบานหนึ่ง
     
    ระพีพรรณเดาเอาว่าคงจะเป็นห้องน้ำ ส่วนห้องอีกด้านถัดจากปลายเตียง ก็มีประตูกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ที่เปิดเอาไว้ แล้วเหล็กดัดกับมุ้งลวดก็กั้นเอาไว้เหมือนด้านนอก ทำให้สามารถเดินออกไปด้านนอกได้อีกทางหนึ่ง ระพีพรรณไม่เข้าใจว่าดนุพรให้เธอมาพบที่นี่ทำไม
     
    แต่ไม่นานร่างของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่ประตูที่มีเหล็กดัดกับมุ้งลวดกั้นเอาไว้ ด้วยเห็นภาพของหญิงสาวที่มีวัยไม่น่าจะอ่อนกว่าเธอมากนัก นั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านนอก ที่ถูกจัดเอาไว้แค่สามตัวเหมือนระเบียงหน้าบ้าน เธอเพ่งมองไปยังร่างที่นั่งหันข้างให้เธอ ก็พอจะเดาออกได้ว่านั่นน่าจะเป็นน้องสาวคนเล็กของเขานั่นเอง
     
    นี่คือดรุณี หรือยายดา น้องคนเล็กของฉัน...คงไม่ต้องให้ฉันบอกอะไรมากนะ เธอคงพอจะรู้เรื่องราวของฉันจากคนที่บ้านเธอมาบ้างแล้ว ก่อนที่เธอจะมาที่นี่ พ่อเธออาจจะขี้ขลาดที่จะเล่าความจริงให้เธอฟัง แต่ฉันเชื่อว่าลุงโป่งคงจะไม่ปิดบังเธอหรอก...เธอต้องมีหน้าที่ช่วยคุณยุพิน พยาบาลที่เธอพบเมื่อครู่นี้ดูแลยายดาด้วย ฉันให้ตารางทำงานเธอไว้กับนิตยาแล้ว
     
    เขาพูดแล้วก็ใช้มือเลื่อนประตูมุ้งลวดออกไป แล้วก็เดินไปทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้อีกตัวกับดรุณี ไม่มีคำพูดเล็ดลอดออกมาจากปากระพีพรรณ นอกจากเดินตามเขามาติด ๆ และก็ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้อีกตัวใกล้ ๆ เขา
     
    ลูก ๆ ลูกแม่ลูกแม่น่ารัก นี่ดูสิลูกของฉัน
     
    เสียงที่เปล่งออกมาจากปากของดรุณี แล้วระพีพรรณก็ต้องสลดใจกับภาพที่เห็น เพราะดรุณีนั้นมีสายตาที่เหม่อลอย ไร้ซึ่งจุดหมาย ในมืออุ้มตุ๊กตาที่มีผ้าห่อเอาไว้ แล้วก็พร่ำพูดกับดนุพรถึงลูกตัวเอง พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
     
    นี่คือผลงานของพี่ชายชั่ว ๆ ของเธอกับพวกของมัน แล้วมันก็ลอยนวลอยู่เหนือกฏหมายด้วยอำนาจเงินพ่อเธอ
    เขาบอกเธอออกไปด้วยแววตาที่เกลียดชังระพีพงศ์ยิ่งนัก
     
    คุณดา
     
    เธอพูดได้แค่นั้น น้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความสงสาร กับภาพที่เห็นเป็นที่สุด แล้วก็จินตนาการไม่ออกว่าพี่ชายตัวเองทำไมถึงได้ใจร้ายอย่างนี้
     
    แล้วพี่พีรู้หรือเปล่าคะ ว่าคุณดาเป็นแบบนี้
     
    เธอถามเพราะความอยากจะรู้ทั้ง ๆ ที่น้ำตายังเอ่อไหลออกมา
     
    มันคงไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีหรอกนะระพีพรรณ ที่ฉันจะให้ใคร ๆ รู้ว่าน้องของฉันถูกพี่เธอกับพวกข่มขืนจนเป็นบ้าขนาดนี้
     เขาพูดออกมาด้วยความเจ็บแค้น
     
    แล้วทำไมคุณดาพูดถึงลูกหละคะ หรือว่าคุณดา....เอ่อ....
     
    เธอถามด้วยความสงสัย
     
    ใช่....ยายดาตั้งท้อง ทั้ง ๆ ที่สติไม่ดี เธอรู้ไหมว่ามันเจ็บปวดสำหรับฉันกับคุณแม่แค่ไหน ที่ต้องเห็นยายดาเป็นแบบนี้ ที่ผ่านมาฉันต้องดูแลยายดาย่างใกล้ชิด เพราะกลัวจะทำร้ายลูกที่อยู่ในท้องที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
     
    น้ำเสียงของดนุพรที่บอกเล่านั้นเจ็บปวดไม่แพ้เธอ
     
    แล้วลูกคุณดาไปไหนคะหรือว่าคุณดอน....เอ่อ....
     
    ใช่...เธอเข้าใจไม่ผิดหรอก ตาดอนก็คือลูกของยายดา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฉันต้องกล้ำกลืนเป็นทั้งพ่อ และลุงให้ตาดอนในเวลาเดียวกัน เธอคงจะจิตนาการความรู้สึก ฉันไม่ออกหรอกนะ ระพีพรรณ .....และที่ฉันให้เธอมาดูยายดา ก็เพราะว่าเธอจะได้รู้การกระทำชั่ว ๆ ของพ่อกับพี่เธอไง เขาบอก
     
    ฉันขอโทษค่ะ
    เธอพูดออกไปได้แค่นั้น
     
    ฉันไม่รับคำ ๆ นี้จากเธอหรอกนะ มันน้อยไป และต่อไปนี้ถึงเวลาที่ครอบครัวเธอจะต้องเจ็บปวดเหมือนฉันบ้าง โดยมีเธอเป็นคนถ่ายทอดต่อไปให้พี่กับพ่อเธอไง เธอจงเตรียมตัวและเตรียมใจที่จะต้องชดใช้คืนให้ฉันกับคุณแม่ และพี่ของฉันที่อยู่ในคุก กับยายดาที่ต้องเป็นแบบนี้ให้ดี ๆ ก็แล้วกัน
     
     เขาพูดใส่หน้าเธอ
     
    อาหารมาแล้วค่ะ
    เสียงยุพินดังมาจากด้านในห้อง จนทำให้ดนุพรรีบลุกไปจากเก้าอี้ แล้วยืนหันหลังให้ทั้งสองคน ส่วนระพีพรรณก็รีบปาดน้ำตาออก และทำหน้าให้อยู่ในสภาพปกติมากที่สุด
     
    คุณนิตยาบอกพี่ว่าเพลงจะมาช่วยพี่ดูคุณดาด้วยใช่ไหมจ๊ะ
    ยุพินถามขณะยกถาดอาหารเย็นสำหรับดรุณีมา
     
    ค่ะ แต่เพลงไม่รู้ว่าจะช่วยพี่ยุได้มากแค่ไหนค่ะ เธอตอบ
     
    ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณดาก็จะเป็นแบบนี้ตลอดค่ะ จะอาละวาดบ้างก็เฉพาะเวลาไม่พอใจอะไรเท่านั้น เพลงก็มาช่วยพี่ พาคุณดาเดินเล่นที่สวนก็ได้ค่ะหรือจะลองป้อนข้าวคุณดาก่อนดีนะ
    ยุพินบอกพร้อมกับเสนอเธอ จนทำให้ดนุพรหันมาดู
     
    ก็ได้ค่ะ วันนี้มีอะไรให้คุณดาทานคะ
    เธอถามขณะเอื้อมมือไปเปิดดูอาหารที่อยู่ในชาม ก็พบว่าเป็นแกงที่ยังร้อนอยู่ เพราะมีไอระเหยออกมา
     
    ต้มจืดเต้าหู้ไข่ กับปลากะพงผัดคื่นฉ่ายค่ะ มีผลไม้ด้วย
    ยุพินบอก
     
    คุณดาคะ ทานข้าวเถอะค่ะ
    ระพีพรรณเอื้อมมือไปจับแขนดรุณีที่ยังอุ้มตุ๊กตาเอาไว้ด้วยความหวงแหน
     
    แก ๆ แก ไอ้คนใจร้าย ออกไปๆ ออกไป ฉันเกลียดแก ๆ ได้ยินมั้ย ออกไป ๆ
     
    เสียงดรุณีดัง เกรี้ยวกราดใส่ระพีพรรณทันทีที่จ้องมองใบหน้าของเธอ พร้อม ๆ กับมือก็ฟาดลงไปที่หน้าของระพีพรรณด้วยความกลัวและโกรธ
     
    โอ้ย คุณดาอย่าค่ะ อย่า ๆ
     
    ระพีพรรณยกมือป้องกันตัวเองเอาไว้ แต่ก็ไม่ทัน เพราะถูกมือของดรุณีฟาดลงไปที่หน้าถึงสองครั้ง
     
    ว้าย...คุณดาอย่าค่ะ....คุณดำคะ
    ยุพินรีบห้ามแต่ก็ทานแรงของดรุณีที่ผลักออกไปจนแทบจะหกล้มพร้อม ๆ กับเซไปหาดนุพร
     
    คุณยุพินเป็นยังไงบ้าง
    ดนุพรรีบมาช่วยพยุงยุพิน
     
    ไม่เป็นไรค่ะ ช่วยจับคุณดาดีกว่าค่ะ ยุพินบอกเขา
     
    ไป ๆ ฉันเกลียดแก ออกไป ๆ นี่ ๆ ออกไป
     
    ดรุณีปัดถาดอาหารที่ตั้งอยู่บนโต๊ะจนกระจาย จนแกงที่ร้อน ๆ ในถ้วยหกมาถูกแขนระพีพรรณ จนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด พร้อม ๆ กับปาฝาที่ปิดถ้วยแกงมานั้นใส่เธออย่างไม่ปราณี
     
    อุ๊ย...คุณดาอย่าค่ะ
     
    ระพีพรรณร้องออกมาด้วยความเจ็บ
     
    ยายดา ๆ ....พอแล้ว ๆ พี่บอกให้พอได้ยินมั้ย
     
     ดนุพรร้องห้ามน้องสาวแล้วก็เข้ามากอดร่างเอาไว้
     
    คุณยุพินพาระพีพรรณออกไปก่อน เดี๋ยวผมจะจัดการเอง
     เขารีบบอกเพราะเขารู้อาการน้องสาวดีว่าเป็นเช่นไร
     
    เพลงมากับพี่มา...โอย...ดูสิ แขนโดนน้ำแกงแล้ว ไปเถอะไปข้างนอกพี่จะใส่ยาให้เดี๋ยวแขนพองกันพอดี
     
    ยุพินเข้าไปพยุงระพีพรรณที่ยืนงงกับเหตุการณ์อยู่ แล้วก็รีบพาออกไปนอกห้อง ปล่อยให้ดนุพรรับมือกับดรุณีตามลำพัง
     
    ™™™
     
    เพลงรอตรงนี้นะคะ พี่ไปดูยาที่ตู้ยาก่อน
     
    ยุพินพาระพีพรรณมานั่งเก้าอี้ที่ห้องนั่งเล่นด้านนอก แล้วก็รีบผละไปหายาที่ตู้ยา ทิ้งให้ระพีพรรณทนเจ็บปวดกับแขนที่ถูกน้ำแกงราด และก็ที่ตรงหน้าผากก็รู้สึกเจ็บแปลบ ๆ พลันก็นึกได้ว่าคงจะโดนฝาชามกระเบื้องที่ปิดแกงมา แล้วถูกดรุณีปาใส่นั่นเอง แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่าความรู้สึกที่สงสารและสลดใจของระพีพรรณที่มีต่อดรุณี อันเนื่องมาจากการกระทำของพี่ชายตัวเองไม่ได้
     
    พี่พี ๆ ทำกับเขาได้ยัง
    เธอรำพึงอยู่คนเดียวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินออกมา
     
    มาแล้วจ๊ะเพลง โชคดีนะคะที่ในตู้ยามียาสามัญอยู่ครบเลย สงสัยพยาบาลคนก่อนเขาจะหามาไว้ พี่ว่าคุณดาคงจะไม่ได้ทำกับเพลงแค่คนเดียวหรอกมั้ง ก่อนที่พี่จะมา คุณนิตยาก็บอกว่าอาละวาดพยาบาลคนก่อน จนอยู่ไม่ไหวค่ะมายื่นแขนมาพี่จะใส่ยาให้
     
     ยุพินเดินเข้ามาพร้อมยาในมือ แล้วก็รีบทายาให้ระพีพรรณ
     
    ขอบคุณค่ะพี่ยุ
    เธอบอกออกไป แต่ใบหน้าบ่งบอกว่ายังไม่หายตกใจ
     
    อุ๊ย...ดูสิคะ ตรงหน้าผากมีเลือดไหลออกมาด้วยค่ะ หัวแตกด้วยหละเจ็บหรือเปล่าคะ พี่จะไปเอาที่ทำแผลก่อนนะคะ เมื่อกี้พี่ไม่เห็นค่ะ     
     
    ยุพินมองไปที่หน้าของระพีพรรณแล้วก็เห็นเลือดที่ค่อย ๆ ไหลออกมาจากชายผม แต่ก็ไม่ทันจะได้ลุกเดินไปไหน ดนุพรก็เปิดประตูออกมาก่อน
     
    คุณดำเป็นยังไงบ้างคะ
     
    ยุพินถามด้วยความเป็นห่วง
     
    ไม่มีอะไรแล้วหละครับคุณยุพิน ต้องขอโทษด้วยช่วงนี้ยายดาเป็นแบบนี้บ่อย
     
    เขาบอกและก็เดินมานั่งลงที่เก้าอี้
     
    ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ คุณดำไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ ยุมีหน้าที่มาดูแลคุณดา งั้นยุขอตัวไปดูก่อนนะคะ ฝากคุณดำช่วยทำแผลให้เพลงด้วยค่ะ หัวแตกสงสัยจะถูกของที่คุณดาปาใส่ค่ะ
     
    ยุพินบอกแล้วก็เดินหายเข้าไปในห้อง ทิ้งให้ทั้งสองเผชิญหน้ากันตามลำพัง และมันก็ทำให้ระพีพรรณรู้สึกอึดอัดนัก ที่ต้องอยู่เผชิญหน้ากับเขา
     
    เธอรอตรงนี้นะ ฉันจะไปเอาที่ทำแผลก่อน
    เขาบอก
     
    ไม่เป็นอะไรค่ะ ดิฉันไม่เจ็บมาก เดี๋ยวจะรอพี่ยุทำให้ก็ได้ค่ะ คุณจะได้ไม่ลำบาก ขอบคุณค่ะ
     
    เธอบอกเขาออกไป เพราะรู้ดีว่าคนอย่างเขาคงจะไม่ใคร่เต็มใจทำให้เธอนัก
     
    อย่ามาอวดดีกับฉัน บอกให้รอก็รอ ฉันไม่ชอบต้องพูดซ้ำ
     
    เขาพูดแล้วก็เดินหายไป ปล่อยให้ระพีพรรณมองตามเขาด้วยสายตาที่ไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เพราะไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหนกันแน่ ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วก็จัดการสำรวจแผลที่หน้าผากเธอที่มีเลือดไหลซิบ ๆ ออกมา
     
    อุ๊ย...
     
    เธอรู้สึกเจ็บที่แผลจากสำลีที่เขากำลังซับเลือดออกให้
     
    แค่นี้ไม่ตายหรอก ยังไกลหัวใจเธออีกเยอะ
     
    เสียงเขาค่อนข้างจะดุ แต่เธอก็รับรู้ถึงความอ่อนนุ่มได้จากมือที่เขาค่อย ๆ เช็ดเลือดออกให้จากแผล ระพีพรรณให้นึกแปลกใจว่าผู้ชายที่ดูจะปากร้าย หน้าดุ และสายตาไม่เคยมองเธออย่างเป็นมิตร จะทำอะไรที่นุ่มนวลเป็นกับเขาด้วย
     
    ใบหน้าคมเข้มของเขา ในเวลาที่ไม่ได้ปั้นหน้าดุใส่เธอนั้น น่ามองไม่น้อย ไม่ต้องเดาเธอก็พอจะเข้าใจว่า คงจะมีสาวหลาย ๆ คน มาเข้าคิวให้เขาเลือกเป็นคู่ชีวิตไม่น้อยเป็นแน่ กับความหล่อเหลาของเขา เธออยากจะรู้นักว่ากับผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เธอ เขาจะยังคงปั้นหน้ายักษ์ใส่อย่างนี้หรือไม่หญิงสาวต้องรีบละสายตาจากใบหน้าคมเข้มของเขา หลังจากที่เขาใช้ผ้าก๊อตปิดแผลให้เสร็จแล้ว
     
    ขอบคุณค่ะ
    เธอบอกเขา
     
    ไม่เป็นไร ฉันแค่ยังไม่อยากให้เธอตายตอนนี้เท่านั้นเอง มันง่ายไป เธอยังจะต้องเจออะไรอีกหลายอย่างจากฉัน
     เขาอดที่จะพูดกระทบเธอไม่ได้
     
    ฉัน...เอ่อ...ฉันขอโทษแทนพี่พีกับคุณพ่อด้วยค่ะ
    เธอบอกเขาด้วยความสำนึกผิดอีกครั้ง
     
    ฉันบอกแล้วไงว่ามันน้อยไปสำหรับคำ ๆ นี้....เธอกลับไปได้แล้ว ฉันไม่อยากจะเห็นหน้าเธอ
     
    เขาบอกและก็ลุกพรวดขึ้นไปยืนหันหลังให้เธอ จนคนถูกไล่ไม่รู้จะทำยังไงต้องรีบเดินออกมาจากเรือนกุหลาบด้วยความรู้สึกผิด ดนุพรกลับมานั่งที่เดิม พร้อม ๆ กับเอามือกุมศีรษะด้วยความสับสนและเจ็บแค้นระคนกันไป
     
    แกจะใจอ่อนไม่ได้นะไอ้ดำ พวกมันทำกับคนในครอบครัวแกยังไงบ้าง แกต้องจำเอาไว้
    เสียงเขาพูดอยู่คนเดียว พร้อมกับแววตาที่อ่อนโยนเมื่อสักครู่ก็เปลี่ยนมาเป็นแววตาที่แข็งกร้าวเข้ามาแทนที่
     
    แล้วภาพของแม่ พี่ชายและน้องสาวที่ต้องทนอยู่ในห้องแถวเก่า ๆ ที่ผนังเป็นอิฐก่อและฉาบด้วยปูนส่วนหลังคาก็มุงสังกะสีทั้งหมด รวมกับคนงานครอบครัวอื่น ๆ ที่กำพลให้ไปใช้เป็นที่ซุกหัวนอนหลังจากยึดทุกอย่างไปจากแม่ของเขาหมดแล้ว ก็ผุดขึ้นมาในความทรงจำของเขาอีกครั้ง
     
    ดำมาแล้วเหรอลูก ไหนบอกว่าอาทิตย์นี้จะไปทำงานที่ออฟฟิศคุณลุงไพศาลไงลูก
    ลัดดาร้องทักลูกชายที่เดินเข้ามาในห้อง
     
    ก็จะไปอยู่ครับแม่ แต่ผมแวะมาดูแม่กับยายดาก่อน แล้วนี่พี่เด่นยังไม่กลับเหรอครับแม่
     
     เขาถามหาพี่ชายที่ตอนนี้ไปทำงานบัญชีให้กำพลแล้ว หลังจากที่เมื่อก่อนทำงานก่อสร้าง
     
    ยังเลยลูก แต่อีกหน่อยก็คงจะมามั้ง....อ้าว...นั่นไงมาแล้ว
    ลัดดาบอกหลังจากที่เด่นณรงค์เปิดประตูห้องเข้ามา
     
    พี่เด่นมาแล้วเหรอ หอบอะไรพะรุงพะรังมาเชียว เงินเดือนออกแล้วเหรอ...แต่...เอ...นี่ก็เพิ่งจะวันที่ยี่สิบห้าเอง แล้วเอาเงินที่ไหนซื้อมาหละนี่
     
     เขาทักพี่ชายเพราะเห็นข้าวของที่เขาหิ้วมาเต็มสองมือ
     
    เปล่าหรอก พอดีพี่ได้เงินพิเศษจากลูกค้ามา...เป็นไงบ้างดำ กินอะไรมาหรือยัง นี่พี่ได้ข้าวของมาเยอะแยะเลยดูสิ
    เขายื่นถุงหิ้วที่ด้านในมีข้าวสารถุงละห้ากิโลสองถุง แล้วก็อาหารกระป๋องอีกหลายอย่างที่บรรจุอยู่อีกถุงหนึ่ง
     
    โอ้โห....ทำไมเด่นซื้อมาเยอะจังหละลูก มีขนมด้วย แม่ว่าตั้งแต่เด่นไปทำงานที่ออฟฟิศนี่ ลูกได้เงินพิเศษจากลูกค้าบ่อยจังเลยลูก เดือนที่แล้วก็หอบมาตั้งเยอะ แล้วก็ช่วงที่เด่นบ่นไม่มีเงินด้วย แม่ว่าเราน่ะ เก็บเงินเอาไว้บ้างก็ดีนะลูก เมื่อวานยังเห็นบ่นบอกว่าไม่มีเงินอยู่เลย
     
    ลัดดาบอกลูกชายหลังจากที่ได้เห็นข้าวของแล้ว
     
    ครับแม่...งั้นวันนี้แม่ผัดปลากระป๋องใส่คะน้าหรือตำลึงให้เด่นกับน้องกินนะแม่นะ
     เด่นณรงค์บอกมารดา
     
    จ๊ะลูก....งั้นเด่นไปอาบน้ำก่อนนะลูกมาเหนื่อย ๆ ดำด้วย แม่จะทำกับข้าวให้กิน แล้วยายดาอยู่ไหนนี่ไม่เห็นมาเลย เลิกเรียนแล้วก็หายหน้าไปเลย
     ลัดดาบ่นถึงลูกสาวที่ตอนนี้มีอายุแค่เก้าขวบ
     
    ยายดาวิ่งเล่นอยู่กับคุณเพลงครับแม่ อีกหน่อยคงจะมา เด่นณรงค์บอก
     
    ทำไมให้ยายดาไปเล่นกับพวกมันหละพี่เด่น ไม่เจ็บหรือไงที่เขาทำกับเรา
     ดนุพรเป็นเดือดเมื่อได้ยินชื่อคนพวกนี้
     
    โถ่...ดำ ยังไม่เลิกโทษพวกเขาอีกเหรอ ที่เขาทำกับเรา มันก็เป็นสิทธิ์ของเขานะ ก็ในเมื่อมันหลุดจำนองไปแล้ว พี่ว่าเลิกโกรธเกลียดพวกเขาซักทีเถอะ โดยเฉพาะคุณเพลงน่ะ เขาเป็นเด็กน่ารักนะ ใจดี มีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนอื่นจะตายไป ไม่เหมือนพ่อกับพี่ชายเขาหรอก แต่จะว่าไปแล้ว คุณกำพลเขาก็ไม่ได้แย่ไปทุกเรื่องหรอกนะแม่ เขาเลี้ยงลูกน้องดี ถึงจะงกไปหน่อยก็เถอะ ดูอย่างลุงโป่งสิ อยู่กับเขามาตั้งนานแล้วแกยังไม่ไปไหนเลย
     
     เด่นณรงค์พยายามที่จะไม่ให้น้องกับแม่มีอคติกับเจ้านาย เพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะไปผูกในเจ็บ
     
    แต่มันก็ได้ชื่อว่าแย่งของ ของเราไป มันร่ำรวยอยู่บนความเดือดร้อนคนอื่น ดูสิมันขูดเลือดขูดเนื้อคนแค่ไหน กับดอกเบี้ยเงินกู้ที่แพงลิบลับ พอใครไม่มีเงินไปไถ่คืนมันก็ยึด แล้วพี่เด่นยังจะไปมองว่ามันดีอีกเหรอ
     ดนุพรไม่วายจะเกลียดชังกำพล
     
    แล้วแต่ดำก็แล้วกัน งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ
     เด่นณรงค์บอกแล้วก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้แม่กับน้องมองหน้ากันด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจในความคิดของเขา
     
     
    อ้าว...ดำจะไปแล้วเหรอไม่รอกินข้าวก่อนหละ
     เด่นณรงค์ถามดนุพรหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว
    ไปแล้วพี่เด่น จะไปทำงานบ้านคุณลุงไพศาล ผมแค่แวะมาดูแม่กับพี่เท่านั้นเอง ปีหน้าผมก็จะเอ็นท์แล้วพี่ หาเงินเก็บเอาไว้เป็นค่าเทอมก่อน แม่ก็ไม่ค่อยมีให้ และผมก็ไม่อยากจะกวนด้วย ดีนะที่ผมมีเพื่อนดีและมีคุณลุงไพศาลช่วย ถ้าไม่อย่างนั้นก็คงจะแย่ แล้ว ว่าแต่พี่เด่นเถอะ จะเรียนต่อหรือเปล่า จบแค่ ม.ปลายน่ะ จะทำอะไรได้แค่ไหนดนุพรบอกและถามเขา
     
    เอาไว้ก่อนเถอะ พี่ยังไงก็ได้ แค่ให้แม่กับน้องสบาย ไม่ว่าจะให้ทำอะไร ทำยังไง ลำบากแค่ไหน พี่ก็จะทำ
     เขาบอกน้องและแม่
     
    ผมก็เหมือนกันครับพี่เด่น ถ้าผมเรียนจบและได้ทำงาน ผมจะทำให้ฐานะเรากลับมารวยเหมือนตอนที่คุณพ่อยังอยู่ให้ได้
    เขารีบบอกออกไปด้วยความมุ่งมั่น
     
    โถ่..ลูกแม่ แค่นี้ลูกก็ช่วยแม่ได้มากแล้วหละจ๊ะ แม่ขอบใจลูกมาก ๆ นะ แม่รักลูกจ๊ะ แม่ขอโทษนะที่ทำให้พวกเราทุกคนลำบาก ถ้าแม่เข้าไปช่วยคุณพ่อทำงานแต่แรก แม่ก็คงจะบริหารงานได้ไม่ยาก และก็ไม่ต้องถูกเขายึดสมบัติอย่างนี้หรอกลูก
     
    ลัดดาเข้ามาโอบกอดลูกชายทั้งสองเอาไว้ด้วยความรักและตื้นตัน
     
    แม่ครับ....เราสัญญากันแล้ว ว่าเราจะไม่พูดถึงมันนะครับ แม่ทำดีที่สุดแล้วครับ ผมเองเป็นพี่คนโตกลับช่วยแม่ได้แค่นี้ เอาไว้ถ้ามีโอกาส ผมจะกู้ฐานะพวกเราให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมนะครับ กินข้าวเถอะครับ นี่ยายดายังไม่กลับอีกเหรอครับแม่
    เด่นณรงค์บอกมารดาและเปลี่ยนเรื่องทันที
     
    มาแล้วค่ะพี่เด่น
     เด็กหญิงผมเปียสองข้าง ที่ยังอยู่ในชุดนักเรียนรีบส่งเสียงหลังจากที่เปิดประตูห้องเข้ามา
     
    พี่ดำสวัสดีค่ะ
     ดรุณีวิ่งเข้ามากอดพี่ชายเอาไว้ด้วยความคิดถึง เพราะนาน ๆ ทีพี่ชายจะมาหาสักครั้ง
     
    ว่าไงเราไปซนที่ไหน ไม่เห็นช่วยคุณแม่ทำงานเลย อย่าเล่นมากนะ กลับบ้านแล้วก็ดูหนังสือด้วย
    ดนุพรก้มลงไปลูบหัวน้องสาวด้วยความรัก
     
    ดารู้แล้วน่าพี่ดำ แม่คะดาหิวจังเลยค่ะ เด็กน้อยบอกผู้เป็นแม่
     
    ไปอาบน้ำก่อนสิเรา เด่นณรงค์บอกน้อง
     
    แม่ครับงั้นผมไปนะ พี่เด่นไปก่อนนะสวัสดีครับแม่ พี่เด่นสวัสดีครับ
     ดนุพรยกมือไหว้ลามารดาและพี่ แล้วก็หายออกไปจากห้องทันที
     
     
    คุณดำยังไม่กลับอีกเหรอคะ ยุนึกว่ากลับแล้วก็เลยไม่ได้ออกมาดูค่ะ
     
    เสียงยุพินเรียกเขาให้ตื่นจากความหลังที่เจ็บปวดเพื่อมาพบกับความเป็นจริง
     
    ผมกำลังจะกลับพอดี ยายดาเป็นยังไงบ้างครับ เขาไม่วายที่จะห่วงน้อง
     
    ดีขึ้นแล้วค่ะ แต่สงสัยยุต้องให้คนยกอาหารมาให้ใหม่ค่ะ ยังไม่ได้กินอะไรเลย เธอบอก
     
    งั้นผมจะบอกเด็กให้ จะให้เอามาให้คุณยุด้วยเลย จะได้ไม่ต้องไปอีก เขาบอกแล้วก็ลุกจากไป
     
    ™™™
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×