ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รีไรท์ [Vocaloid] We are WINNERS!!!

    ลำดับตอนที่ #2 : [โวคาวินเนอร์ - CH.1] รีไรท์

    • อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 60


    [โวคาวินเนอร์ - chapter 1]

    :) MIKU PART

     

              # ณ ห้องประชุมโรงเรียนนานาชาติเอติน

     

              "มากันครบหรือยัง?"

              "ยังค่ะอาจารย์ ประธานมิคุยังไม่มา"

              "อะไรกัน...เป็นประธานนักเรียนแต่มาสายแบบนี้ได้ยังไงกัน ใช่ไม่ได้เลยจริงๆ - -*"

     

              ปึ้ง!!

     

              "แฮ่กๆ ...ขอโทษที่มาช้าค่ะอาจารย์!"

     

              'มิคุ' เด็กสาวหน้าตาน่ารัก จิ้มลิ้มซึ่งดำรงตำแหน่งประธานสภานักเรียนประจำโรงเรียนนานาชาติหญิงล้วนเอตินเปิดประตูห้องประชุมเข้ามาเสียงดังด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ ราวกับว่าไปวิ่งมาราธอนที่ไหนมา

              ก็จะไม่ให้เหนื่อยได้ไงวะ นี่วิ่งตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อมาห้องประชุม รวมๆ ระยะทางแบบลวกๆ ได้ก็คงประมาณกิโลครึ่งได้ วิ่งติดเกียร์หมามาอย่างเร็วเพราะกลัวไม่ทันประชุม ยังดีหน่อยที่วิ่งมาทัน

     

              "อืม ก็ยังดีกว่าไม่มาล่ะนะ"

              "แล้วของในมือเธอนั้นมันอะไร?" อาจารย์ยกนิ้วชี้มาที่ถุงพลาสติกในมือของฉัน

              "อ๋อ ผ้าอนามัยน่ะค่ะ :D"

              "..."

              "..."

              "เอ่อ..."

     

              อะ อ้าว...เราพูดไรผิดอ่ะ =_= ก็ผ้าอนามัยที่ซื้อตุนไว้ตั้งสามสิบห่อก่อนหน้านี้มันเพิ่งหมดไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่นา วันนี้ก็เลยออกไปซื้อมาเพิ่มอีกห้าสิบห่อทั้งแบบกลางวันและกลางคืนอย่างละครึ่ง แบกใส่ถุงพลาสติกมาเต็มสองมือเลยนะ! ฉันซื้อมาฝากน้องๆ เพื่อนๆ กันตั้งเยอะ ไม่ดีใจเหรอ

     

              "เอาของไปวางก่อนแล้วมานั่งที่เก้าอี้ซะ"

              "รับทราบค่า"

     

              ฉันเดินหอบถุงพลาสติกมาวางไว้ตรงมุมห้องด้วยท่าทีร่าเริง ก่อนจะหันขวับไปทางเพื่อนสาวสภาเอตินทั้งสี่คนที่หันมามองฉันเป็นตาเดียว แต่ทำไมสีหน้าแต่ละคนดูไม่ค่อยดีเลยล่ะ...

     

              "ยัยบ้า...ใครเขาให้ไปพูดแบบนั้นกับอาจารย์ผู้ชายล่ะ"

              "เอ้า พูดไม่ได้เหรอ นี่มันเรื่องธรรมชาติของผู้หญิ๊ง ผู้หญิงอย่างเราๆ นะ" ฉันกล่าวตอบลูกะจัง พลางจัดระเบียบชุดเสื้อผ้าของตัวเองที่หลุดลุ่ยนิดหน่อยจากการที่วิ่งติดเกียร์หมามา

              "แต่นั้นมันผู้ชายนะ เขาไม่เข้าใจอะไรแบบนี้ -_-;;"

              "พอๆ พวกเธอเลิกคุยกันได้แล้ว ประจำที่"

     

              เสียงอาจารย์สาวสุดสวยแต่โสดสนิทที่ชื่อว่าเมย์โกะพูดขึ้น ดึงสติของพวกเราห้าคนขึ้นมาจากเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่ แต่ละคนก็ต่างเดินไปนั่งประจำที่ที่ถูกจัดไว้ โดยมีฉันที่นั่งถัดจากหัวโต๊ะมาตามด้วยลูกะจังและเอียจัง ส่วนรินจังก็นั่งตรงข้ามกับฉันตามด้วยกุมิจังที่นั่งตรงข้ามกับลูกะจัง

              เมื่อนั่งประจำที่กันได้ ไม่นานนัก อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนนานาชาติเอตินแห่งนี้ก็เปิดประตูเข้ามา พวกเราสภานักเรียนทุกคนและอาจารย์ต่างพากันยืนขึ้นและโค้งให้ความเคารพท่านอาจารย์ใหญ่ ท่านโค้งตัวลงนิดหน่อย เป็นการรับเคารพจากทุกคนในห้อง แล้วยกยิ้มละมุนสไตล์ผู้ชายอบอุ่นให้ทุกคน ถือเป็นการผ่อนคลายความเครียดไปในตัว พอท่านเดินมานั่งที่หัวโต๊ะแล้วพวกเราก็นั่งลงตามท่าน

     

              "ที่เรียกมาวันนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ"พอนั่งลง อาจารย์ใหญ่ไม่รีรอช้า เปิดประเด็นเข้าสู่หัวข้อการประชุมของวันนี้เลย

              "มีเรื่องจะแจ้งให้ทราบนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับกิจกรรมการครบรอบ 60 ปีของโรงเรียนนานาชาติหญิงล้วนเอตินของเรา ซึ่งแน่นอนว่ากิจกรรมปีนี้พิเศษกว่าปีอื่นๆ แน่นอน เพราะการครบรอบในครั้งนี้เป็นการครบรอบที่มีเลขศูนย์ลงท้าย"

     

              อาจารย์ใหญ่นั่งกุมมือทั้งสองของตนเองพร้อมกับพูดยิ้มๆ และส่งสายตาใจดีไปให้ทุกคน เพื่อที่สถานการณ์จะได้ไม่ตรึงเครียดเกินไป แต่ดูเหมือนท่านจะไปสะดุดสายตากับถุงพลาสติกขนาดใหญ่ที่จู่ๆ ก็ดันมีแพ็คผ้าอนามัยหล่นออกมาจากถุงดัง ตุบ!

              สี่สาวสภานักเรียนหันมามองฉันทันที...อะไร ฉันทำอะไรผิดอ่ะ (;w; )

     

     

              "อะแฮ่ม พวกเธอก็น่าจะรู้กันดีเรื่องที่ 'โรงเรียนนานาชาติชายล้วนมาร์ติน' เองก็มีวันครบรอบวันสถาปนาโรงเรียนตรงกับของโรงเรียนเราน่ะ" จะสถาปนาตรงกันก็ไม่แปลกหรอก...เพราะคนที่สร้างทั้งสองโรงเรียนนี้เขาเป็นสามีภรรยากันนี้ ถ้าจะให้เล่ามันก็คงยาวเอามากๆ เอาเป็นว่าพวกท่านทั้งสองรักกันมากและอยากมีโรงเรียนเป็นของตัวเองก็เลยสถาปนาขึ้นมาพร้อมกันไปเลย คู่กัน =_=

              "ตามธรรมเนียมแล้ว ในปีที่มีการครบรอบที่ลงท้ายด้วยศูนย์จะจัดกิจกรรมฉลองที่พิเศษกว่าปีอื่นๆ ซึ่งการครบรอบ 60 ปีนี้ก็มาตกอยู่ที่รุ่นของพวกเธอ"

              “จากกิจกรรมฉลองครบรอบที่ลงท้ายด้วยศูนย์ของรุ่นก่อนๆ เราได้จัดกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนมาร์ติน ปีนี้เองก็เช่นกัน เราจะจัดกิจกรรมฉลองการครบรอบร่วมกับพวกเขาอีกครั้ง ถ้าถามว่าทำไมถึงจัดร่วมกัน มันเป็นธรรมเนียมน่ะนะ ไม่งั้นมันก็คงไม่ถือว่าพิเศษหรอก จริงไหม

              “กิจกรรมนี้เรายังไม่ได้แพลนที่ชัดเจนมากเสียเท่าไหร่ แต่ทางคณะอาจารย์ก็ได้คิดไว้แล้วล่ะว่าจะทำให้ไปในทิศทางไหน ยังไงเราก็ต้องประชุมกับทางคณะอาจารย์และสภาของโรงเรียนมาร์ตินเสียก่อน บอกไว้ก่อนเลยว่านี่เป็นกิจกรรมที่ทำนอกสถานที่

             

              พอได้ยินคำว่า เป็นกิจกรรมที่ทำนอกสถานที่พวกเราสภาสาวทั้งห้าคนก็หูผึ่งทันที ว่าไงนะ นอกสถานที่งั้นเหรอ ที่ไหนกันนะ ชักตื่นเต้นขึ้นมาแล้วสิ

              อาจารย์ใหญ่หยุดพูดแล้วหันไปทางอาจารย์ชิโระซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชาพละของเด็กเกรด 11 ให้เปิดจอมอนิเตอร์ให้พร้อมกับภาพที่ฉายออกมา เป็นภาพของสถานที่ที่หนึ่ง คาดว่าน่าจะเป็นสถานที่ที่อาจารย์ให้ไปทำกิจกรรมนั้นน่ะแหละ

              ซึ่งดูจากในภาพแบบผิวเผินแล้วก็ต้องอุทานออกมาเบาๆ เลยว่า เชรด... พวกเราตาลุกวาวกันทุกคน

     

              "สวยมากเลยใช่มั้ยล่ะ"

              "ว้าว! น้ำทะเลสีใสมากอ่ะ น่าเล่นจังเลยค่ะ > <"

              "ฮ่าๆ พวกเธอได้เล่นแน่นอนจ้ะ ตั้งตารอกันได้เลย"

              เอาล่ะ เรามาเข้าเนื้อหาหลักๆ กันดีกว่านะ เรามีงานอยากให้พวกเธอไปทำ คือการคัดเลือกนักเรียนหญิงของเราจำนวน 20 คนตั้งแต่เกรด10 ถึง 12 รวมพวกเธอ 5 คนเข้าไปด้วยกลายเป็น 25 คนเพื่อไปทำกิจกรรมฉลองการครบรอบครั้งนี้ อ๋อ ชื่อกิจกรรมนี้น่ะก็คือ กิจกรรมสานสัมพันธ์นะ จำไว้ด้วยล่ะ

              “ให้เริ่มคัดคนตั้งแต่วันพรุ่งนี้เลยนะ ส่วนวิธีการน่ะ พวกเธอจะทำยังไงก็ได้ ฉันไว้ใจพวกเธอ ฉันรู้ว่านักเรียนของเรามีคุณภาพทุกคน แต่ก็ขอคนที่ดีๆ หน่อยก็แล้วกัน เอาล่ะ ขอจบเรื่องนี้ไว้เพียงเท่านี้ก็แล้วกัน ถ้ามีอะไรคืบหน้า ฉันจะรีบแจ้งให้พวกเธอทราบเลยนะ

              ค่ะ

              “โอเค ต่อไปเป็นการประชุมเรื่อง...

     

              .

     

              .

     

              .

     

              #ห้องนั่งเล่นของสภาเอติน

     

              นี่ๆ อาจารย์เขาบอกใช่ม่ะ ว่ากิจกรรมฉลองการครบรอบก่อตั้งโรงเรียนปีนี้เราต้องทำร่วมกับโรงเรียนมาร์ตินน่ะ

              “อ่า ใช่แล้วล่ะ ทำไมเหรอ

     

              กว่าจะประชุมเสร็จ ก็กินเวลาไปราวๆ สองชั่วโมง ขณะนี้เป็นเวลาสองทุ่มกว่าๆ พวกเราห้าคนต่างพากันไปอาบน้ำอาบท่าแล้วมารวมตัวกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่นของสภา ที่นี้เป็นห้องพักที่ไว้ใช้นั่งเล่นกันชิวๆ ของสภานักเรียนโรงเรียนเรา มีเพียงแค่สภาเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเข้ามาใช้ห้องนี้ (แหง่ล่ะ ก็มันเป็นห้องของสภานี่นา ชื่อก็บอกอยู่)

              กุมิจังเดินเช็ดผมที่เพิ่งสระเข้ามาในห้องแล้วถามคำถามฉันที่กำลังรินน้ำดื่มใส่แก้วอยู่ คนอื่นๆ ก็กำลังหมกมุ่นอยู่กับกิจกรรมของตัวเอง

     

              “เปล่าหรอกค่ะ หนูก็แค่สงสัยว่าพี่กาคุโปะเขาจะได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วยหรือเปล่าน่ะ

              “พี่ว่าเขาได้เข้าร่วมอยู่แล้วล่ะ กาคุโปะคุงก็เป็นหนึ่งในสภาของมาร์ตินนี่ สภาอย่างเรายังต้องไปเข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่มีเงื่อนไขเลย มีเหรอที่ฝั่งนั่นจะไม่ทำแบบเรา อึก อึก... ฉันว่าแล้วยกน้ำขึ้นดื่ม

              จริงด้วยแหะ แต่เพื่อความแน่ใจ ลองโทร.ไปถามพี่แกดีกว่า

              “คิดถึงพี่ชายก็บอกมาดีๆ แหม ทำมาเป็นพูดโทร.ไปเช็กเพื่อความแน่ใจ

              “พี่มิคุอ่า รู้ทันอีกแล้ว ก็คนมันไม่ได้คุยกันมาตั้งหลายเดือน มันก็คิดถึงเป็นธรรมดาอ่ะ

              “จ้าาา แม่คนติดพี่ ติดพี่แบบนี้ระวังจะหาแฟนไม่ได้นะยัยหนู

              “ง่าาาาฉันใช้นิ้วดันหัวกุมิจังไปด้านหลังเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว

              “ว่าแต่คนอื่นเขา ตัวเองเถ้อะ หาแฟนได้สักคนรึยังจ๊ะ หื้ม?

              “ลูกะจัง!” พูดแทงใจดำที่สุด =^=

              “ฮะๆๆ โทษทีๆ มันพลั้งปากไปหน่อย

              “พลั้งได้ถูกจุดมากนะ เดี๋ยวปั๊ดกระโดดกัดหัวเลยนิ

              “ว๊ายๆ กลัวจังเลยค่ะท่านประธาน

              งั้นเดี๋ยวหนูโทร.ไปหาพี่กาคุโปะนะ

              “เอาสิๆ เดี๋ยวพี่คุยด้วย เปิดลำโพงคุยเลย

              “ได้ค่ะ

     

              กุมิจังน่ะมีพี่ชายแท้ๆ ที่อายุห่างกันหนึ่งปีอยู่ที่โรงเรียนมาร์ตินอยู่คนหนึ่ง รุ่นเดียวกับฉันและฉันก็ค่อนข้างสนิทกับเขาอยู่พอสมควรเลย กุมิจังหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมากดเบอร์แล้วกดโทร.ออกพร้อมกับกดเปิดลำโพงและเพิ่มระดับเสียงจนสุดหลอด

              ตรู๊ดดด...ตรู๊ดดด

     

              (โมชิโมชิ)

              “อ่ะ โมชิโมชิ พี่กาคุโปะะะะะ คิดถึงจังเลยอ่ะ คิดถึ๊ง คิดถึงพี่ชายที่สุดเลยค่า > <”

              (ฮะๆ จะคิดถึงอะไรขนาดนั้นฮึ พี่ก็คิดถึงแกเหมือนกันนะ)

              “แล้วนี่ทำอะไรอยู่เหรอคะ หนูรบกวนพี่รึเปล่า คุยได้ไหม

              (พี่เพิ่งอาบน้ำเสร็จน่ะ ว่าจะไปอ่านหนังสือต่อ แต่คุยได้นะ พี่ก็ว่าจะหาเวลาว่างๆ โทร.ไปหาแกอยู่พอดีเลย แล้วแกทำอะไรอยู่ล่ะ)

              หื้ม งั้นเหรอคะ พวกหนูก็เพิ่งประชุมเสร็จแล้วกลับมาอาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวเข้านอนกัน ยังอยู่ห้องนั่งเล่นสภาอยู่เลย

              (อยู่กันทุกคนเลยเหรอ)

              “อ่า ใช่แล้ว นี่หนูเปิดลำโพงคุยกับพี่อยู่นะ เนี่ย พี่มิคุก็มายืนฟังด้วย พี่เขาอยากคุยกับพี่อ่ะ

              “ไงกาคุโปะคุง ไม่ได้คุยกันตั้งนานแหนะ

              (ไม่ได้เจอกันนานกว่านะ ได้ข่าวว่าเธอเป็นประธานสภางั้นเหรอ)

              “โห ระดับนี้แล้ว เก่งใช่ไหมล่ะ

              (เออครับ เก่งมากครับ)

              (ไอ้กั๊ก คุยกับใครวะ)

              (น้องกู)

             

              จู่ๆ ในสายของกาคุโปะคุงก็มีเสียงปริศนาอีกเสียงโพล่งขึ้นมา คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นเพื่อนเขานั่นแหละ

     

              เออใช่พี่กาคุโปะ อาจารย์ที่โรงเรียนพี่เขาได้คุยเรื่องกิจกรรมฉลองการครบรอบการก่อตั้งโรงเรียนรึยังอ่ะ

              (อ๋อ คุยแล้วล่ะ ทำไมล่ะ)

              “ไม่มีอะไรหรอก หนูแค่ได้ยินมาว่าโรงเรียนเอตินต้องไปทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนมาร์ติน แล้วพวกหนูที่เป็นสภา 5 คนก็ต้องเข้าร่วมโดยไม่มีเงื่อนไขและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลยจะถามพี่ว่า พี่เองก็โดนเหมือนกันใช่ไหม

              (ฮึ ไม่เหลือครับน้อง เดี๋ยวเราก็ได้เจอกัน)

              “นั่นไง ว่าแล้วเชียวกุมิจังตบโต๊ะฉาด ไม่ผิดไปจากที่คาดเดาไว้เลย

              “อ่ะ แต่ฉันได้ยินมาว่ามันเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์อะไรสักอย่าง นี่มันหมายความว่ายังไงเหรอ ทางนั้นเขาได้บอกรายละเอียดอะไรบ้างไหมฉันถามกาคุโปะคุงไปอีกคำถามหนึ่ง

              (ก็บอกอยู่แค่ว่าเป็นกิจกรรมที่ต้องไปทำร่วมกับโรงเรียนเอตินนอกสถานที่อ่ะ)

              (..เห็นว่าจะจับคู่บัดดี้อะไรสักอย่างด้วยนิ)

              (เออใช่ เขาจะให้จับคู่บัดดี้กันด้วย แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจับยังไง เดี๋ยวพวกอาจารย์ก็คงแจ้งอีกทีแหละมิคุจัง)

              “เอ๋!? จับคู่บัดดี้กับพวกผู้ชายน่ะเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก

     

              รินจังที่อยู่อีกฟากห้องได้ยินแบบนั้นก็ตะโกนเสียงดังระดับ 120 เดซิเบลขึ้นมา รินจังน่ะเป็นโรคไม่ถูกกับผู้ชาย เรียกว่าไงล่ะ เป็นโรคเกลียดผู้ชายอะไรทำนองนั้นน่ะ

     

              (โอ้ นั่นเสียงรินจังใช่ไหมนั่น ยังเสียงแหลมเหมือนเดิมเลยนะ)   

              “พี่กาคุโปะคะ ทำไมต้องจับบัดดี้ด้วยอ่ะ รินไม่เอาด้วยได้ป่ะรินจังรีบวิ่งมาตะโกนใส่โทรศัพท์ ฉันว่ากาคุโปะคุงคงต้องมีสะดุ้งเพราะเสียงแหลมๆ ดังๆ ของเธอบ้างอ่ะ

              (ได้ไงล่ะ ถ้าเราไม่ทำเดี๋ยวก็โดนเตะออกจากสภาหรอก)

              “โห่ ไรหว้าาาา

              (ฮะๆๆ อะไรจะเกลียดผู้ชายขนาดนั้นรินจัง)

              “ก็คนมันไม่ชอบนี่นา

              (เฮียกั๊ก! กูยืมไดร์เป่าผมหน่อยนะ)

              (โอ้ย! อยู่ใกล้แค่นี้มึงจะตะโกนหาพระแสงอะไรวะไอ้เลน)

              (ก็กลัวมึงไม่ได้ยิน แล้วนี่คุยโทรศัพท์กับใครอยู่)

              (น้องกู)

              (อ๋อ ที่อยู่เอตินคนนั้นน่ะเหรอ)

              (เออ น้องกูก็มีคนเดียวป่ะวะ ถ้าไม่ใช่อยู่เอตินแล้วจะอยู่ไหน)

              (ก็เปล๊า กูก็นึกว่าเฮียกำลังคุยกับพี่สาวผมชมพูคนนั้นอยู่ซะอีก)

              (เห้ย ลามปามล่ะมึง-)

              “อ่ะ พี่กาคุโปะ ถึงเวลาต้องวางสายแล้วสิ แบตโทรศัพท์หนูจะหมดแล้ว

              (..อาๆ งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันทีหลังแล้วกันนะ)

              “ค่า คิดถึงพี่น้า

              (พี่ก็คิดถึงแก งั้นแค่นี้แหละนะ เอาโทรศัพท์ไปชาตแบตเถอะ)

              “โอเคค่า แค่นี้น้า ฝันดีค่า จุ๊บๆ

              (ฝันดีครับ)

     

              ตรู๊ดๆๆ

             

             

    [VOCAWINNER]

     

     

              #วันต่อมา

              #เวลา 17 : 10 น.

     

              สวัสดีค่ะน้องๆ และเพื่อนๆ ทุกคน ในวันนี้ที่พวกเรา 5 คนเรียกทุกคนมารวมตัวกันก็เพื่อแจ้งเกี่ยวกับกิจกรรมฉลองครบรอบการก่อตั้งโรงเรียนของเราที่กำลังจะจัดขึ้นในไม่ช้านี้ กิจกรรมของปีนี้จะค่อนข้างพิเศษนะ เพราะเราจะได้ทำกิจกรรมร่วมกับโรงเรียนนานาชาติชายล้วนมาร์ติน เป็นกิจกรรมนอกสถานที่ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่นัก ถ้าฉันได้ข้อมูลอะไรมาจะรีบแจ้งให้พวกเธอทราบนะ

              “หลายคนอาจจะงงๆ นะคะ ไม่ต้องห่วงไปค่ะ คือฉันก็อยากจะบอกเหมือนกันว่าฉันเองก็งงมากๆ เหมือกนันแหละ ^^;; เพิ่งจะได้ยินเรื่องนี้มาเมื่อวานนี้เอง มันอาจจะกะทันหันและดูมัดมือชกไปหน่อยนะที่จับพวกเธอมาทำกิจกรรมอะไรแบบนี้ มันก็เป็นอย่างที่อธิบายไปเมื่อกี้แหละ ถ้าใครไม่พอใจหรือไม่ต้องการร่วมกิจกรรมก็สามารถบอกฉันได้นะ ฉันจะได้ตัดชื่อออกแล้วคัดเลือกคนอื่นแทน

              “เอาล่ะ ใครมีคำถามอะไรไหมเอ่ย?

              “…”

              “ไม่มีสินะ งั้นเดี๋ยวฉันจะลากพวกเธอทุกคนเข้ากรุ๊ปไลน์นะ เพื่อที่ว่ามีข่าวสารอะไรใหม่ๆ มาจะได้แจ้งให้ทราบทางไลน์กันไปเลย

              “เอาล่ะทุกคน แยกย้ายกันไปได้จ้ะ ขอบใจมากนะที่สละเวลามาหาพวกเรา

     

              ฉันยกยิ้มหวานให้ทุกคน เป็นอันเสร็จไปแล้วนะครับกับการคัดเลือกนักเรียนเพื่อทำกิจกรรมในครั้งนี้ การคัดเลือกนักเรียน 20 คนจากนักเรียนแปดร้อยกว่าคนนี่มันลำบากจริงๆ แหะ ยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรซะอีก แต่พวกเรา 5 คนก็สามารถเลือกมาได้จนได้ เกณฑ์การคัดเลือกก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็ดูๆ จากในใบข้อมูลนักเรียนว่าเหมาะสมหรือเปล่า สภาของเราช่วยกันคัดเลือกนักเรียนกันทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับนอน ฉันมั่นใจล่ะนะ ว่านักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกมาดีทุกคนตามคำบัญชาการของท่านอาจารย์ใหญ่

             

              ทีนี้ก็เหลือแค่เอารายชื่อไปให้อาจารย์สินะ

              “ใช่แล้วล่ะ งั้นเดี๋ยวฉันขอตัวเอารายชื่อไปส่งให้อาจารย์ก่อนก็แล้วกันนะ

              “โอเค ถ้าอย่างนั้นพวกฉันสี่คนกลับหอก่อนนะ

              “โอเคจ้ะ

              “อ่ะ เดี๋ยวฉันไปด้วยดีกว่านะมิคุ

              “ได้สิลูกะจัง

     

              ฉันกับลูกะจังแยกกับน้องๆ พากันมาส่งรายชื่อนักเรียนที่ห้องพักครู ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะว่าต้องส่งให้ครูคนไหน ฉันเลยตัดสินใจว่าจะเอาไปให้อาจารย์เมย์โกะดีกว่า

              เราสองคนเดินลัดเลาะตามทางมา เวลาตอนนี้ก็เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีมืด ฉันไม่ค่อยชอบท้องฟ้ามืดๆ แบบนี้เลยแหะ รีบเดินเอาไปส่งแล้วรีบเดินกลับดีกว่า

     

              “มิคุจัง ฉันว่าจะไปแวะดูห้องชมรมซะหน่อยน่ะ เธอจะไปด้วยกันไหม หรือจะกลับไปก่อน

              “เดี๋ยวฉันกลับไปก่อนดีกว่า จะกลับไปนั่งทำการบ้านแล้วก็อ่านหนังสือต่ออีกหน่อยแล้วค่อยไปอาบน้ำนอน

              “โอเคจ้ะ งั้นแยกกันตรงนี้นะ

     

              หลังจากที่ส่งรายชื่อเสร็จ ลูกะก็ขอปลีกตัวไปดูห้องชมรม มันเป็นหน้าที่ของลูกะจังอยู่แล้วที่ต้องไปสำรวจดูความเรียบร้อยของโรงเรียน บางทีฉันเองก็ไปช่วยเธอเดินเช็กดูบ้าง ก็นะ เป็นประธานนักเรียนเนี่ย นอกจากการพิจารณาเอกสารต่างๆ ของโรงเรียนแล้วก็แทบไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้เลย แต่ก็ใช่ว่ามันจะง่ายหรอกนะ ลำบากอยู่พอตัวเลย อย่าให้เล่าเลยดีกว่า เดี๋ยวจะยาว

              ฉันใช้เส้นทางเดินกลับทางเดียวกับตอนขาไป อ่ะ ฉันว่าฉันแค่เดินเอาเอกสารไปให้อาจารย์แป๊บเดียวเองนะ ตอนนี้ 5 โมงครึ่งแล้วสิ   รีบกลับก่อนดีกว่า ท้องฟ้าก้เริ่มเปลี่ยนสีแล้วสิ

     

              ปะ- ประธานมิคุค่า!!”

              “ว๊าย!? มีอะไรจ๊ะหนูๆ เสียงดังมาเชียว พี่ตกใจหมด

     

              จู่ๆ เด็กเกรด 10 2 คนก็วิ่งมาจากไหนไม่รู้ ส่งเสียงเรียกฉันซะดังกึกก้องไปทั่ว ตัวก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก ไม่จำเป็นต้องตะโกนขนาดนั้นก็ได้ลูก พี่ตกใจนะ =_=

     

              “คะ คือว่า เหมือนจะมีพวกนักเรียนชายจากมาร์ตินปีนรั้วกั้นหลังโรงเรียนเข้ามาน่ะค่ะ

              “ห๊า!? ว่าไงนะนักเรียนชายจากมาร์ตินปีนรั้วเข้ามางั้นเหรอ แย่ล่ะสิแบบนี้

              หนูได้ยินมาแบบนั้นน่ะค่ะ หนูก็เลยอยากให้พี่ไปดูให้หน่อย

              “พี่ว่าเรื่องนี้ควรบอกอาจารย์มากกว่า-

              “ไม่ได้นะคะ ยังบอกอาจารย์ไม่ได้!”

              “ทะ ทำไมล่ะ?โอ้ย น้องจะตะโกนใส่พี่ทำไมเนี่ย หูพี่จะแตกแล้ว

              “เอ่อ.. พวกหนูไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่น่ะค่ะ พี่ช่วยไปดูให้หน่อยนะคะ อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาเปิดโรงอาบน้ำของเกรด 10 แล้วด้วย

     

              น้อง 2 คนดึงมือฉันไปกุมกันคนละข้าง พร้อมกับส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ แล้วแบบนี้จะให้ฉันปฏิเสธได้ยังไง ถ้ามีนักเรียนชายของฝั่งนั้นปีนรั้วกั้นเข้ามาจริงๆ ก็อันตรายแล้วล่ะ พวกที่ปีนเข้ามาคงไม่พ้นพวกหมาป่าที่หิวโหยเนื้อหนังผู้หญิงแน่ๆ แล้วที่น้องพูดเมื่อกี้อีก อีกครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาเปิดโรงอาบน้ำแล้ว ซึ่งโรงอาบน้ำอยู่ใกล้ๆ กับรั้วกั้นหลังโรงเรียนพอดี ขืนปล่อยไว้คงได้โดนทำอะไรอนาจารใส่แน่ๆ

              น่าอัศจรรย์จริงๆ นะ  ที่คนๆ หนึ่งจะสามารถปีนรั้วสูงกว่าห้าเมตรเข้ามาได้น่ะ ไม่รู้หรอกนะว่าปีนเข้ามาเพราะอะไร แต่แบบนี้ยกโทษให้ไม่ได้เด็ดขาด อย่าเข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้นักเรียนของฉันนะ

              ฟิ้วววว

             

              อ้ะ...

     

              ซวยแล้วไง มัวแต่มุ่งมั่นที่จะเข้ามาจับเขาจนลืมดูสภาพแวดล้อมด้านข้างไป ตอนนี้เป็นเวลาเกือบๆ หกโมงเย็น แต่ว่าท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนตอนนี้เที่ยงคืนแล้ว แย่ล่ะสิ ฉันยิ่งเป็นประเภทไม่ค่อยถูกกับบรรยากาศเงียบๆ มืดๆ อึ้มครึ้มแบบนี้เสียเท่าไหร่ด้วย แถมด้านข้างทางเดินนี่ยังเป็นป่าโปร่งอีก จะมีอะไรโผล่มาหรือเปล่าก็ไม่รู้...

              แซ่กๆ

             

              กรี๊ด!!”

     

              แม่แหก! ตกใจหมดเลย! ก็แค่กระรอกวิ่งเข้าพุ่มไม้เอง นี่ฉันตกใจอะไรเนี่ย โอ้ย...ใจแม่จะวาย นี่เพิ่งเดินมาได้ยังไม่ถึงครึ่งทางเลยนะ ฮื่อ คิดถูกคิดผิดวะเนี่ยที่รับปากน้องเขามา แล้วแถมยังเดินมาคนเดียว ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือมาเลยอีก ตายแน่มิคุ ตายแน่ๆๆ

     

              นี่ๆ เขาว่ากันว่าหลังโรงเรียนน่ะ มีต้นไม้ยักษ์กินคนอยู่ด้วยนะ

              ‘เอ๋ จริงเหรอ น่ากลัวอ่ะ

     

              อ้ะ! เดี๋ยวสิ ทำไมหัวสมองฉันถึงนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะ ตำนานต้นไมยักษ์กินคนที่เคยได้ยินสมัยอยู่เกรด 11อ๊ากกกกก หัวสมองช่วยหยุดจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องนี้ที ฉะ ฉันต้องไปจัดการกับพวกผู้ชายที่ปีนรั้วเข้ามานะ

              ฟิ้วววว

              อึ๋ย!! ลมพัดมาได้ถูกจังหวะเหมาะเหมงไปอีก ขนฉันลุกหมดแล้ว ฮื่อออ T_T อะไรเนี่ยยัยมิคุ เธอเป็นถึงประธานนักเรียนสภาเอตินเลยนะ จะมากลัวในสิ่งที่มองไม่เห็นแบบนี้ได้ยังไงกันเล่า มันมีจริงซะที่ไหนกันเล่า อย่าไปกลัวนะ เดินเข้าไปสิ อีกนิดเดียวก็จะถึงบริเวณรั้วแล้ว

              ตุบ!

     

              กรี๊ด!!”

     

              …อะ อะไรกัน! ก็แค่เสียงลูกโอ๊คหล่นจากต้นเฉยๆ เอง ฉันนี่ก็ขวัญอ่อนจริง กะอีแค่นี้ก็กรี๊ดซะเสียงดังลั่น โอ๋ๆ ขวัญเอ้ยขวัญมา อย่าไปกลัวเลยนะ (ปลอบใจตัวเอง)

              นี่กลัวจนเยี่ยวจะเล็ดแล้วนะเว้ย! เมื่อไหร่จะเดินไปถึงสักทีหว้าาาาา TTOTT

              หมับ!!

     

              “กรี๊ดดดดดดด- !!?

     

              #อีกด้านหนึ่ง

              #ห้องนั่งเล่นของสภา เวลา 18 :05 น.

              :) [LUKA PART]

     

              กลับมาแล้ว

              “ยินดีต้อนรับกลับค่า

              “เฮ้อ ร้อนจัง อยากอาบน้ำเต็มทนแล้ว

              “อ้าว พี่ลูกะไม่ได้กลับมาพร้อมพี่มิคุเหรอคะเอียจัง เดินถือกองเอกสารเข้ามาในห้อง โห เอกสารเยอะจัง

              “หื้อ มิคุกลับมาก่อนฉันอีกนะ เธอยังไม่มาเหรอ

              “ยังเลยนะคะ เนี่ย อาจารย์เมย์โกะเขาเรียกหาตัวพี่มิคุอยู่ แต่ไม่รู้ว่าพี่แกอยู่ไหน โทรไปหาก็ไม่รับ ส่งแชทไปก็ไม่ตอบ ติดต่อไม่ได้เลย พวกเราคิดว่าพี่มิคุอยู่กับพี่ลูกะซะอีก

               ไม่นะ ฉันแยกกับมิคุนานแล้วด้วย แยกกันก่อนหกโมงอีก แล้วตอนนี้หกโมงห้านาทีแล้ว...

              “อ่ะ พี่ลูกะจะไปไหนเหรอคะ

              “ถามได้ ก็ไปตามหายัยมิคุไง!”

             

              อา โธ่เว้ย ยัยนั่นหายไปไหนกันนะ มันแปลก แปลกมากๆ ยัยมิคุไม่เคยหายไปไหนโดยไม่บอกพวกเรา ไหนใครมันบอกจะกลับไปทำการบ้านแล้วอ่านหนังสือต่อไง เดี๋ยวนี้หัดเป็นเด็กเลี้ยงแกะงั้นเหรอ

             

              อา แล้วจะให้เริ่มหาจากตรงไหนก่อนล่ะเนี่ย

             

              ฉันมองไปรอบๆ ตัวด้วยหน้าตาที่เคร่งเครียด อย่างยัยมิคุน่ะจะหายไปอยู่ที่ไหนได้กัน? ถ้าไม่ใช่ข้างนอกโรงเรียนหรือดันไปหลงอยู่ในที่แปลกๆ อะไร แต่จะให้ออกไปตามอยู่ข้างนอกโรงเรียนก็คงไม่ได้และยัยนั้นก็คงจะไม่มีทางออกไปได้หรอก เพราะว่าโรงเรียนเอตินของเราเขาไม่ให้ออกไปข้างนอกหลังห้าโมงเย็นเป็นต้นไป แล้วจะให้ไปหาในที่แปลกๆ งั้นเหรอ? ที่แปลกๆ ในโรงเรียนเรามันจะมีก็แค่ไอ้ป่าที่อยู่ด้านหลังโรงเรียนเท่านั้นแหละ แถมที่นั้นก็มีตำนานแปลกๆ อะไรก็ไม่รู้ด้วยนะ ยัยมิคุคงไม่เข้าไปในนั้นหรอก

             

              อ่ะ พวกเธอสองคนทำไมมาอยู่ตรงนี้ล่ะ เกรด 10 ต้องไปอาบน้ำกันสิฉันเดินตามทางมาเรื่อยๆ ก็เจอกับเด็กเกรด 10 2 คนกำลังยืนทำหน้าสีหน้าวิตกกังวลกันอยู่ ทั้งๆ ที่นี่เป็นเวลาอาบน้ำของเด็กเกรด 10 ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้กันนะ

              “พะ พี่ลูกะ

              “เป็นอะไรกันสองคนท่าทางวิตกกังวลหนักกว่าเดิมเมื่อฉันเดินเข้ามาทัก เด็ก 2 คนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

              คะ คือว่า...ไม่มีอะไรหรอกค่ะ

              “งั้นเหรอ ว่าแต่พวกเธอเห็นยัย- ประธานมิคุกันบ้างไหม

              “ปะ ประธานมิคุน่ะเหรอคะ ก็...เห็นอยู่นะคะ

              “เห็นที่ไหนเหรอ

              “ทะ ทางป่าหลังโรงเรียนน่ะค่ะ

              “ห๊า ป่าหลังโรงเรียนงั้นเหรอ ยัยนั้นไปทำอะไรกัน พวกเธอเห็นนานหรือยัง

              “พะ พวกหนูเองก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ถะ ถ้าอย่างนั้นพวกหนูขอตัวนะคะ!”

              “อ้าว อะไรกันเด็กพวกนี้ แปลกๆ แหะ...

     

              ฉันเลิกสนใจน้องเกรด 10 เมื่อกี้แล้วรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังป่าหลังโรงเรียน ยัยนั้นไปที่นั้นทำไมกันนะ ปกติแทบไม่เดินเฉียดเลยด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ ยิ่งในเวลาท้องฟ้าเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีดำแบบนี้ยิ่งแล้วใหญ่เลย

              ฉันเดินเข้ามาในเขตป่าหลังโรงเรียนแล้ว ที่นี้มืดชะมัด ยัยมิคุจะเป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอพไฟฉาย ใช้ความสว่างส่องนำทาง บรรยากาศวังเวงดีชะมัด ถ้ายัยนั้นอยู่ที่นี้จริงๆ ก็น่าเป็นห่วงมาก

             

              มิคุจัง! เธออยู่ไหนน่ะ ถ้าได้ยินเสียงฉันช่วยขานตอบรับมาหน่อย!”

              “…”

     

              ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...

              โอ๊ยยยย ยัยนั้นหายหัวไปไหนกันนะ อย่าให้แม่เจอตัวนะ จะด่าให้หูชาไปข้างเลย! โทษฐานที่ทำให้เป็นห่วงขนาดนี้ จริงๆ เลย!

     

              มิคุจัง!”

     

              ลองตะโกนเรียกอีกรอบก็ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ ลองโทรไปหาน้องๆ ดีกว่า เผื่อยัยมิคุจะกลับไปแล้ว

              แซ่กๆ

              อ๊ะ! เสียงคนเดินอยู่ด้านหลังเรา

     

              มิคุ?

              “ไม่ใช่มิคุจังหรอก

             

              !?!

              สะ เสียงนี้มัน

     

              นายกาคุโปะ!? มาอยู่ที่นี้ได้ยังไงกัน!”

     

              #อีกด้านหนึ่ง

              :) [MIKU PART]

     

              ฮื่อออ นะโมตัสสะภะคะวะโต อย่าได้มาหลอกหลอนหนูเลยค่ะ หนูจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้นะค่า ฮื่ออออ

              “ใจเย็นๆ สิ ผมไม่ใช่ผีนะ

              “ไม่จริงอ่ะ คนดีๆ ที่ไหนเขาจะโผล่มาตอนนี้กัน ฮื่อ Y_Y”

              “เธอดูดีๆ สิ หันหน้ามา

              “มะ ไม่!”

     

              เป็นโรงเรียนหญิงล้วนแท้ๆ แต่ดันมีผีผู้ชายซะงั้น แถมไอ้ผีนั้นยังจับแขนฉันไว้แน่นอีกต่างหาก หนีไปไหนไม่ได้เลย แรงเยอะชะมัด ฉันไม่กล้าหันไปมองเลย ฮื่อ นี่ฉันต้องฝันอยู่แน่ๆ เลย ตื่นสิมิคุ ตื่นได้แล้ว >_<;;

     

              นี่ บอกให้หันมาไง

              “ไม่เอาาาา ไม่เอาด้วยหรอก ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ

              “ได้ไงล่ะ มันอันตรายนะ

              “คุณผีอันตรายแถมน่ากลัวกว่าอีกค่ะ

              “บอกแล้วไงว่าไม่ใช่ผี!”

              “ไม่เชื่ออออ TOT”

              “งั้นเธอก็หันมามองหน้าฉันสิ

              “ม่ายยยย

              “นี่ มิคุ!”

     

              แว๊ก!! อีผีนี้มันรู้ชื่อฉันได้ยังไง มันจับตัวฉันหมุนให้หันมาเผชิญหน้าตรงๆ กับมัน โอ๊ย ผีเดี๋ยวนี้มันอัพเดทเวอร์ชั่นเป็นแบบนี้แล้วเหรอ น่ากลัวมากเว่อร์ ฮื่อ

     

              นี่ ลืมตาสิ -_-”

              “มะ ไม่ >_<;;” ฉันหลับตาปี๋ หลับตาชนิดที่ว่าน่าจะเป็นการหลับตาที่หลับแน่นที่สุดในชีวิตฉันแล้ว ไม่กล้าลืมตาขึ้นมองเลย

              “ฉันบอกให้ลืมตาไงมิคุ

              “ไม่! แล้วรู้ชื่อฉันได้ยังไงกัน ผีแน่ๆ ต้องเป็นผีแน่ๆ

              “เพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้วยัยบ็อง ลืมตาดูก่อนเถอะแล้วค่อยพูด

              “มะ ไม่

     

              “มิคุจัง!”

     

              “อ่ะ! เสียงลูกะจังนี่นา

     

              อ่ะ แย่แล้ว เผลอลืมตา O_O

              เอ๊ะ?

     

              “OAO” ดวงตาสีเขียวมรกตนี่มัน...

              “…”

              “กรี๊ด!!!  ผู้ชาย!!”

     

              มะ ไม่ใช่ผี! แต่เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ฉันรีบผลักตัวเขาออกด้วยแรงทั้งหมดที่มีจนตัวเองล้มก้นจ้ำม้ำกับพื้นเต็มๆ ถึงท้องฟ้าจะมืดแล้ว แต่ฉันก็พอดูออกว่านี่เป็นคน เป็นผู้ชายสวมเครื่องแบบนักเรียน...เดี๋ยวนะ นั่นมันชุดเครื่องแบบนักเรียนของมาร์ตินไม่ใช่เหรอ แต่ว่ามาร์ตินไม่ใช่เสื้อคลุมแบบนี้นี่ รูปแบบของเสื้อคลุมคล้ายเสื้อคลุมของฉันเลย

              มองหน้าไม่ชัดเลย ตามันมัวๆ ไปหมด

     

              “ดะ เด็กมาร์ตินงั้นเหรอชิบแล้ว หรือว่าจะเป็นคนที่น้องเกรด 10 2 คนนั้นบอกมา!? ที่ว่าปีนรั้วข้ามมา

              “...

              “ปีนรั้วเข้ามางั้นเหรอ

              “เปล่านิ ไม่ได้ปีน

              “เป็นไปไม่ได้! เด็กจากมาร์ตินจะมาอยู่ที่เอตินได้ยังไง ถ้าไม่แหกกฎ ปีนรั้วเข้ามาน่ะ

              “ฮึ เดี๋ยวก็รู้ ฉันว่าเราเสียเวลากันมามากแล้ว กลับกันดีกว่านะ

              “หะ-ห๊า?เขาพูดแล้วยื่นมือมาตรงหน้าฉัน

              “เดี๋ยวค่อยคุยกันก็แล้วกัน ฉันว่าเรารีบกลับกันดีกว่า เพื่อนๆ เธอคงห่วงกันแย่ อาจารย์เมย์โกะก็ด้วย

              “ดะ เดี๋ยว อะไรเนี่ย ฉันงงไปหมดแล้วนะ อีตานี้รู้จักอาจารย์เมย์โกะด้วยเหรอ แล้วกลับกันดีกว่าที่ว่านี่กลับไปไหน?

              ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอก สัญญา

     

              มือใหญ่ยังคงแบอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันมองไล่ตั้งแต่ปลายนิ้วกลางของเขาขึ้นไปยังใบหน้าของเขา ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด ฉันปัดมือของเขาออกแล้วลุกขึ้นยืนทันที หยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา ก็เป็นอันต้องตกใจหนักกว่าเก่าเพราะว่ามีสายมิสคอลจากลูกะจัง เอียจังแล้วก็อาจารย์เมย์โกะรวมกันมากกว่าสิบสาย ฉันปิดเสียงและระบบสั่นโทรศัพท์ไว้ก็เลยไม่ได้ยิน ตอนนี้ทุกคนคงเป็นห่วงเรากันมาก รีบกลับดีกว่า เปิดแอพไฟฉายให้แสงสว่างนำทาง

     

             

    [VOCAWINNER]

             

     

              #ห้องทำงานของสภาเอติน

              #18 : 20 น.

             

              เธอหายไปไหนมาเนี่ยห๊ะมิคุ!? รู้ไหมว่าครูเป็นห่วงเธอขนาดไหน

              “ขอโทษค่ะ พอดีว่ามีเด็กนักเรียนแจ้งหนูว่าพบเด็กมาร์ตินปีนรั้วเข้ามา หนูก็เลยเข้าไปในป่าคนเดียว...

              “ตอนมืดๆ แบบนี้เนี่ยนะ เธอคิดอะไรอยู่เนี่ย ไม่เคยได้ยินตำนานต้นไม้กินคนหลังโรงเรียนเหรอ

              “เคยสิค่ะ แล้วหนูก็กลัวด้วย แต่มันเข้าไปแล้วอ่ะ...

              “เฮ้อ ยังดีล่ะนะที่ออกมาได้

              “เดี๋ยวค่ะอาจารย์เมย์โกะ หนูมีคำถามที่ข้องใจมานานแล้วค่ะ

              อะไรล่ะ

              ไอ้เจ้าบ้านี้มันเป็นใครคะครู!?

             

              นอกจากจะลักลอบเข้าโรงเรียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วยังทำตัวไม่มีมารยาท ไม่มีกาลเทศะเดินทั่วห้องทำงานของพวกฉันอีก! ตอนนี้ฉันกลับมาที่ห้องทำงานของสภา เข้ามาก็เจอทุกคนอยู่ในห้องกันพร้อมหน้าพร้อมตา รวมไปถึงกาคุโปะคุงที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน กำลังนั่งคุยสนุกสนานอยู่กับน้องสาวตัวเอง ไม่พอ ไอ้ผู้ชายคนนั้นที่ฉันเจอในป่ายังเดินตามฉันเข้ามาในห้องหน้าตาเฉย เดินทั่วห้อง สอดส่องแม่งทุกอย่าง จบด้วยการนั่งที่โต๊ะทำงานของประธานนักเรียน หน็อยแน่! มันจะไม่ดูหยามกันไปหน่อยเหรอ แล้วอาจารย์เมย์โกะก็ไม่ว่าอะไรเลยสักคำ นี่มันหมายความว่ายังไงกันเนี่ย ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ

     

              อ้าว เห็นเดินมาด้วยกันก็นึกว่าจะรู้จักกันแล้ว นี่ยังไม่บอกเธออีกเหรอ

              “โทษที ลืมน่ะ

              “นั่น! พูดกับอาจารย์ก็ไม่มีหางเสียง ท่าทางไม่ให้ความเคารพกันเลยสักนิด อาจารย์คะ ไอ้นี่มันเป็นใคร แล้วให้เข้ามาได้ยังไง

              “ใจเย็นก่อนสิมิคุ นี่น่ะเป็น-

              “เดี๋ยวผมแนะนำตัวเองเองดีกว่าครับอาจารย์

              “เอางั้นเหรอ

     

              ผู้ชายคนนั้นเปลี่ยนท่าจากที่นั่งเท้าคางอยู่ตอนแรกเป็นท่านั่งพิงพนักพิงเก้าอี้สบายๆ เห็นแล้วยิ่งกระตุกต่อมโมโหของฉันเข้าไปใหญ่ คิดว่าหน้าตาดีแล้วจะทำอะไรก็ได้เหรอย่ะ!?

             

              สวัสดีประธานมิคุ ผมชื่อมิคุโอะ เป็นตัวแทนจากโรงเรียนนานาชาติชายล้วนมาร์ตินให้มาทำเรื่องบางอย่างที่โรงเรียนนานาชาติหญิงล้วนเอตินแห่งนี้ ผมไม่ได้ปีนรั้วหลังโรงเรียนคุณเข้ามาหรอกนะ ที่เห็นผมอยู่แถวนั้นก็เพราะว่าไปผมไปเดินเล่นชมนกชมไม้ แต่พอดีเดินเพลินไปหน่อย รู้ตัวอีกทีก็มืดซะแล้ว

              “ตัวแทน?

              “ครับ กาคุโปะเองก็เหมือนกัน มันก็เป็นตัวแทนมาในครั้งนี้เหมือนผม

              “จริงรึเปล่ากาคุโปะคุงฉันหันขวับไปจ้องเขม็งใส่กาคุโปะคุง  

              “ใช่แล้วล่ะ

              “ตัวแทนมาทำเรื่องอะไน ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ

              “เซอร์ไพร์สยังไงล่ะครับประธาน ^^”

              “ห๊า ไม่ตลกนะอีตาบ้า แล้วนั่นมันใช่ที่ๆ นายควรจะนั่งงั้นเหรอ

              “ทำไมล่ะ ที่ตรงนี้มันสำหรับประธานนี่ ผมอยากนั่ง ก็เลยมานั่ง แปลกตรงไหน

              “จะทำตามใจชอบแบบนั้นไม่ได้นะย่ะ =_=*”

              “หู้ว ทำหน้าดุอีกแล้ว

     

              อ๊ากกกก!! ฉันละอยากจะกระโดดกัดหัวอีตามิคุโอะอะไรนี่ ท่าทางกวนประสาทที่สุดเลย แล้วชื่อนายนี่จะคล้ายชื่อฉันไปไหนกันนะ

     

              ฮึ่ย ฉันกลับหอล่ะ อยู่ที่นี้แล้วอารมณ์เสียชะมัดเลย

              “ฉันกลับด้วยลูกะจังที่นั่งเงียบมานาน พอได้ยินฉันพูดแบบนั้นก็ผุดตัวลุกขึ้นทันที

              อ้า พวกหนูกลับด้วยๆรวมไปถึงรินจังกับเอียจังด้วย

              เอ๋ จะกลับกันหมดเลยเหรอก็มีแต่กุมิจังนี่แหละที่ยังอยากอยู่ต่อ ดูท่าจะอยากคุยกับพี่ชายมากเลยนะ

              อ่า

              “ง่า แต่นานๆ ทีหนูจะได้เจอพี่กาคุโปะนะคะ (;^;)”

              “เดี๋ยวเราก็คงได้เจอกันอีกแน่นอนสาวๆ

             

              ฉันไม่สนใจคำพูดของใครทั้งนั้น เปิดประตูเดินออกจากห้องมาพร้อมกับสมาชิกสภาคนอื่นที่เดินตามหลังมา



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×