พอเพียงของผม - พอเพียงของผม นิยาย พอเพียงของผม : Dek-D.com - Writer

    พอเพียงของผม

    เป็นพล็อตเรื่องหนังสั้นเกี่ยวกับความพอเพียง

    ผู้เข้าชมรวม

    519

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    519

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  2 ก.ค. 56 / 18:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เป็นพล็อตเรื่องหนังสั้นเกี่ยวกับความพอเพียงที่ผมและเพื่อนช่วยแต่งขึ้นมา แต่ดูเหมือนว่าจะส่งไม่ทัน และคอดว่าคงไม่ได้เลยเอามาลงครับ 
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      -ลูกจะใช้ชีวิตอย่างพอเพียงนะ

      -ความพอเพียงคืออะไรครับแม่

      -ก็ประมาณว่า อ่อ รู้จักเก็บอดออม ประหยัด เพื่ออนาคตลูกจะได้สบาย

      -ครับแม่

      ผมตื่นขึ้นหลังจากฝันจบลง แต่มันไม่ใช้ฝันชะที่เดียวเพราะมันคือความทรงจำของผมในอดีต ตอนผมอายุ5ขวบซึ่งผมก็ได้ทำตามมาโดยตลอด หลังจากเหตุการณ์นั้นก็น่าจะผ่านมา สัก20ปีแล้ว ตอนนี้ผมจบหมอ จากการเป็นหมอ3ปีผมก็ลาออก มาซื้อห้องแถว3ชั้นมาเปิดคลินิกยา เพราะจะได้อยู่ใกล้กลับแม่ ต่อนี้จะบอกว่าหน้าที่การงานผมมันคงก็ได้ ผมอยากได้อะไรผมก็ทำได้แล้ว

      -แม่อ่านหนังสือเล่มนั้นอีกแล้ว หรอ

      แม่เป็นครอบครัวคนเดียวของผม ส่วนพ่อเขาเสียไปตั้งแต่ผมยังเล็ก แม่มักจะชอบมานั่งตรงหลังบ้าน  เพราะบอกว่ามันสบายดี นอกจากนี้ยังจะอ่านหนังสือเล่มเดิมตลอดรู้สึกว่าจะเป็นหนังสือเกี่ยว ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

      -แม่ชอบมันนะ มันทำให้ลูกมีวันนี้ด้วยสิ

      -ครับ แม่ก็ดูแลตัวเองดีๆนะแม่

      หลังจากพูดคุยกับแม่สักพัก ผมก็อาบน้ำ กินข้าว เตรียมตัวทำงาน  สำหรับตัวผมคิดว่าแม่เป็นคนแปลกทั้งที่แม่สอนให้ประหยัดอดออม เพื่ออนาคตจะได้สบาย แต่เมื่อผมมีมันแล้ว ผมก็อยากให้แม่ได้รับบ้างแต่แม่ไม่เคยสนใจสิ่งที่ผมให้เอาแต่คอยบอกว่า แม่อยู่อย่างนี้ก็พอแล้ว เมื่อการเตรียมตัวเสร็จ ก็เปิดร้านกันเลย โดยปกติแล้วลูกค้าส่วนใหญ่ จะมีทุกอาทิตย์ เพื่อรับยาไปกินตามเวลา หน้าที่ของผมก็จะมีค่อยแนะนำยาตามอาการ และจัดยาให้ตามสั่ง

      ตึง!

      เสียงเหมือนมีอะไรตกจากหลังบ้าน ทำให้ผมต้องว่างมือจากลูกค้า และรีบไปดูหลังร้านทันที

      -แม่! เกิดอะไรขึ้น

      สิ่งแรกที่ผมนึกได้ในตอนนี้คือว่าแม่ จะเป็นอะไรไม

      -แม่! แม่!

      แม่ของผมนอนอยู่แบบไม่ได้สติอะไรเลย ผมจึงยกแม่ขึ้นรถ และรีบไปโรงพยาบาล ผมรู้อยู่ว่าแม่เป็นโรคหัวใจ แต่อยากให้เป็นอะไรไปนะ แม่ ผมยังไม่พร้อมที่จะเสียแม่ตอนนี้

      นี้ผมมาอยู่บนเตียงโรงพยาบาลได้ไงเนีย แล้วทำไมมันปวดหัวอย่างนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ผมมองดูรอบๆ เพื่อจะมีคนที่ผมพอจะถามได้บางนะ นั้นไงพยาบาล

      -คุณพยาบาลมาที่นี้หน่อยครับ

      -ค่ะ

      -นี้ผมมาอยู่ที่นี้ได้ไงครับ แล้วแม่ของผมเป็นยังไงบ้างครับ

      -อ่อ คือว่าเสียใจด้วยนะคะแม่ของคุณเสียชีวิตแล้วค่ะด้วยโรคหัวใจ แล้วพอคุณรู้คุณก็หมดสติไป

      -อะไรกันไม่จริงใช้ไมครับเรื่องของแม่ผม คุณพยาบาล

      -ขอโทษค่ะ แม่ของคุณเสียแล้วจริง ร่างของท่านยังอยู่ในห้องดับจิต ถ้าคุณอยากเห็นเดียวดิฉันจะทำเรื่องให้นะคะ

      -ต้องขอรบกวนด้วยนะครับ

      อย่างน้อย ผมก็จะดูให้เห็นสองตาว่าแม่ตายแล้วจริงๆใช้ไม

      ผมกลับมาบ้านอย่างหมดอาลัยตายอยากหลังไปพบร่างแม่ที่ไร้ชีวิตท่านไม่สามารถตอบอะไรผมได้ ที่นั่นให้เวลาผมมากพอเท่าที่ผมต้องการ เพราะผมเคยเป็นหมอเก่า จากนั้นผมก็ตั้งสติได้ และทำใบมรณะบัตรของแม่ ทั้งที่ในใจยังไม่เชื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

      อีกไปกี่วันผมก็จะจัดงานศพของแม่ แม่เคยบอกไว้ว่าถ้าแม่ตายไม่ต้องจัดงานอะไรให้ยิ่งใหญ่มากหรอกนะ เชิญคนที่รู้จักก็พอแล้ว ผมก็จะทำตามนั้น   ผมได้มาที่หลังบ้านเพื่อจัดการทุกอยางให้เรียบร้อย แล้วก็ได้ไปเจอกับหนังสือที่แม่อ่านประจำผมเลยเก็บมัน แล้วเอาไปอ่าน เพื่อจะรู้บ้างว่า ทำไมแม่ถึงชอบอ่านหนังสือเล่มนี้

      --ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์--

      งานศพของแม่ก็ผ่านไป ผมก็กลับมาทำงานตามปกติ หนังสือของแม่ที่ผมอ่าน เนื้อหามันก็ไม่ต่างอะไรกับที่ผมเรียมมาสมัยเด็กเลย มีสามห่วงสองเงื่อนไข การจัดสรรค์บ้าน แล้วก็ปรัชญาอื่นๆ

      -นี้เธอรู้หรือเปล่าเรื่องที่ ไอ้นาย มันตายแล้วแทบไม่มีใครไปงานศพมันเลย

      เสียงของคนที่อยู่นอกร้านคุยกับผมว่างๆก็เลยฟังเล่นไปเล่นๆ

      -ไม่ใช้แค่ไม่มีคนไปนั้นรู้สึกว่ามันจะไม่คอยมีเพื่อน เพราะเอาแต่ทำงานเก็บเงินไม่สนใจคนรอบข้างก็เลยไม่มีเพื่อน

      เดียวสิทำไม่การกระทำของนายกับเรามันเหมือนกันเลย นี้แสดงว่าถ้าเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจะเป็นแบบนายหรอ แต่เดียวเราทำไปก็เพราะอยากให้แม่สบายไม่ใช้หรอ แต่นี้เราไม่มีแม่แล้ว เราจะหาเงินไปทำไม

       ผมนั่งคิดเรื่องนี้อยู่หลายวัน ว่าผมจะต้องใช้ชีวิตอย่างไงดี แล้วผมก็ได้ไปเห็นหนังสือของแม่ที่ว่างอยู่บนโต๊ะ ผมก็เลยอยากจะลองใช้ชีวิตอย่างพอเพียง จะได้รู้สิ่งแม่เขาชื่นชอบว่ามันคืออะไร ผมเลยลองไปหาหมู่บ้านที่อยู่ในเศรษฐกิจพอเพียงจากอินเตอร์เน็ต ทำไมผมถึงรู้ว่าต้องหามันก็เพราะว่าผมเจอในหนังสือ มันคือหมู่บ้านที่เข้าโครงการเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง ที่นั้นผมน่าจะหาคำตอบของการใช้ชีวิตพอเพียงอย่างแท้จริง  ผมใช้เวลาในการหาหมู่บ้าน และทำเรื่องที่จะไปอยู่ที่นั้นเลยจะลองใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ใช้หาความหมายที่แท้จริงของ พอเพียง เมื่อผมได้ที่อยู่แล้วก็เก็บข้าวของที่จำเป็นเช่นชุด ของใช้ส่วนตัว และเงิน พอที่จะย้ายออก ส่วนยาที่ผมเก็บไว้ผมก็เอาไปบริจาคให้กับโรงพยาบาล ข้าวของที่ผมไม่เอาไปก็ไว้ที่นี้  และห้องแถวนี้ผมก็จะประกาศขายไปซะ วันพรุ่งนี้ผมจะได้ไปหมู่บ้านนั้น ซะที่

       รุ้งเช้าขึ้นผมเตรียมตัว ตรวจสอบของต่างๆ ปิดร้าน และออกเดินทางไปหมู่บ้าน ซึ่งที่นี้ถ้าขับรถไป จะต้องใช้เวลาเกือบ สิบชั่วโมง

      มาถึงชะที่หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ผมออกมาตอนเจ็ดโมง ถึงที่นี้ประมาณ บ่ายสี่โมงครึ่ง เมื่อมาถึงก็มีคนของผู้ใหญ่บ้านมาต้อนรับ และผ่านไปยังบ้านที่ผมชื้อไว้ บ้านที่ผมซื้อไว้เป็นบ้านทรงสูงมีสวนอยู่หลังบ้านประมาณ100ตารางเมตร บ้านของผมอยู่ประมาณกลางหมู่บ้าน มีเพื่อนบ้านอยู่คนหนึ่ง ชื่อลุงวัย เขามาช่วยผมทำความสะอาดบ้าน  และให้ไปกินข้าวเย็นบ้านเขา เพราะรู้ว่าผมคงเตรียมอาหารเย็นไม่ทัน  เมื่อทานข้าวเย็นเสร็จผมก็ขอบใจทุกอย่างที่ลุงวัยที่ช่วยอะไรหลายอย่าง

      ผมได้นอนกับบ้านหลังใหม่อย่างง่ายดายเพราะคงเหนื่อยจากการเดินทาง

      เช้าวันใหม่ในบ้านหลังใหม่ คนของผู้ใหญ่บ้านมาแนะนำ สถานที่ต่างในหมู่บ้าน ลักษณะของหมู่บ้านจะเป็นบ้านสองบ้านตรงข้ามกับ และข้างหลังจะเป็นสวนเล็กๆ จะเป็นลักษณะนี้ไปตลอดทางเดิน ปลายทางจะเป็นวัด กับโรงสีข้าวร้านค้าพันธุ์พืช ร้านขายสัตว์ วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ และถัดจากวัดไปข้างๆ จะเป็นป่ายาง กับนาข้าวของหมู่บ้าน หลังจากจบการแนะนำหมู่บ้านเขาก็เริ่ม ปลูกผัก และขุดบ่อเลี้ยงปลา คุณลุงวัยเขาว่างก็เลยมาช่วยกันทำจนงานเสร็จไปโดยดี หลังจากนั้นทั้งผมและลุงวัยมีอะไรก็จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เช่น ถ้าผมทำอะไรไม่เป็นก็จะไปถามลุงวัย ถ้าลุงวัยจะทำอะไรที่เกินกำลังก็จะไปช่วยเหลือ

      --หนึ่งปีผ่านไป--

      ตอนนี้ผมสามารถอยู่ด้วยตัวเองได้แล้ว การใช้ชีวิตของผมที่ผ่านมาอย่างมีความสุขจากการได้รู้จักกับคนที่ใจดี มีอะไรก็สามารถบอกกันได้ ช่วยเหลือกันได้โดยไม่ว่า หรือหวังค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิน ตอนนี้ผมสามารถตอบได้แล้วว่า

      ‘’ความพอเพียงของในหลวงไม่ใช้แค่ให้เราพึ่งตนเองได้ แต่สามารถที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้เช่นกัน และเราก็จะมีคนที่คอยช่วยเหลือเราต้องที่เรายากลำบากได้ และชีวิตของเราก็สามารถอยู่ได้โดยไม่ยึดติดกันเงินทองมากจนขาดมันไม่ได้’’

       

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×