คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ความเปิ่นๆขององค์หญิง
แสงไฟสีเหลืองทองจากโคมไฟตั้งโต๊ะส่องไปยังกองเอกสารที่ผมเอาออกมาจากแฟ้มเก่าๆ มันคือแฟ้มข้อมูลเก่าๆของ “งาน” ที่ผมเคยรับมา ผมนั่งมองมันอย่างพิจารณาพลางนึกภาพเรื่องราวของเหตุการณ์ในงานนั้นๆ
หลังจากจบเรื่องของแอชลี ผมก็ไม่เคยที่จะรับงานอื่นๆอีกเลย ไม่สิ...พี่เอลวิน ไม่เคยส่งงานอื่นๆมาให้ผมอีกเลยมากกว่า แต่มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ ถ้าผมยังไม่รับงานเป็นเวลานาน S ต้องสงสัยเรื่องผมแน่ๆ...
เปรี้ยงง!!!!
แสงสีขาวสว่างขึ้นแวบหนึ่งพร้อมกับเสียงคำรามจากท้องฟ้า ผมเงยหน้าขึ้นไปมองเห็นหน้าต่างบานหนึ่งที่ปิดไม่สนิท จึงเก็บเอกสารต่างๆเข้าไปไว้ในแฟ้มแล้วก็ซ่อนมันไว้ในช่องลับใต้พรมห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นที่เดียวกันกับที่ผมซ่อนปืนไว้...
ผมเกลียดฝน...เพราะมันมักจะนำโชคร้ายมาให้เสมอๆ ตอนที่เกิดเรื่องของแอชลีก็มีฝนตกเช่นกัน...ผมจึงได้แต่หวังว่าคืนนี้คงไม่มีอะไรร้ายๆเกิดขึ้น
“ อลัน... ”
เสียงของแอชลีที่ดังมาจากข้างหลัง ทำเอาผมที่กำลังเหม่ออยู่ที่หน้าต่างสะดุ้งสุดตัว ผมหันไปมองเธอ แอชลีในตอนนี้กำลังเอาผ้านวมผืนใหญ่คลุมใต้เอาไว้ เธอมองผมอย่างหวาดๆ ทำให้ผมสงสัยว่าทำหน้าตาน่ากลัวใส่เธอหรือเปล่า
“ คือคืนนี้...นอนด้วยกันได้ไหม ”
ทำไงล่ะ...อึ้งสิครับ แต่ไม่ทันที่ผมจะถามถึงเหตุผล ฟ้าก็ผ่าลงมาอีกครั้ง ครั้งนี้มันใกล้มากจนผมยังเผลอหลับตา แต่เมื่อผมลืมตาขึ้น ผ้านวมผืนใหญ่ๆก็อุดจมูกของผมแน่น...
แอชลี...กอดผม เธอกอดผมแน่นจนชักจะอึดอัด มันไม่ใช่การกอดด้วยความรักที่น่าจะดีใจหรอก เธอตัวสั่นพร้อมกับร้องไห้ออกมาเบาๆ จึงทำให้ผมเข้าใจว่าเธอกลัวฟ้าผ่านั่นเอง เลยจะชวนผมไปนอนด้วย...แล้วนี่ทำไมผมถึงรู้สึกผิดหวังนิดๆแฮะ...
“ งั้น....เดี๋ยวผมนอนบนพื้นก็แล้วกันนะ ”
ผมบอกแอชลีแล้วก็ดึงตัวเธอออก ใบหน้าของเธอแดงก่ำจากการร้องไห้ แอชลียิ้มให้ผมแล้วก็พยักหน้าตอบ ก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอน
“ เหมือนเด็กน้อยเลยแฮะ ”
ผมพูดอย่างยิ้มๆกับตัวเองในท่าทางของแอชลีที่แทบไม่ต่างกับเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ ถ้างั้นผมก็คงเป็นพี่ชายล่ะมั่ง...
ผมแบกผ้าห่มจากบนโซฟาที่นอนอยู่ทุกวันไปยังห้องนอนของแอชลี ประตูห้องเปิดอยู่...ผมแอบชะโงกหน้าเข้าไปดู แอชลียังไม่หลับ...เธอหดตัวอยู่ในผ้านวมผ้าเดิมโผล่ขึ้นมาเพียงหัวและดวงตา เพื่อมองดูว่าผมเข้ามาหรือยัง
ผมเปิดประตุแล้วก็เดินเข้ามาในห้อง ในตอนนี้แอชลีมองผมแทบจะทุกฝีก้าว เหมือนกลัวว่าผมจะหนีไปไหนอย่างงั้นล่ะ...ผมปูที่นอนที่พื้นติดกับเตียงที่แอชลีนอนอยู่ เธอขยับตัวมุดเข้าไปในผ้าห่มแล้วก็โผล่หน้าออกมาจากใต้ผ้าห่มเพื่อมองดูผม...เหมือนตัวตุ่นเลยแฮะ
“ นี่อลัน...”
“ หือ? ”
“ นิยายที่นายซื้อมาให้...ช่วยอ่านให้ฉันฟังหน่อยได้ไหม ”
“ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าจะอ่านให้ฟังนะ ”
“ ไม่เอา...จะให้อ่านตอนนี้ เหมือนในทีวีไง ที่พ่ออ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนนอนไง ”
ผมเลิกคิ้วสูง...ก็ผมไม่ใช่พ่อแล้วเธอก็ไม่ใช่ลูกนี่นา ผมถอนหายใจแล้วก็ล้มตัวซุกลงไปในผ้าห่มของตน ผมได้ยินแอชลีทำเสียงไม่พอใจแล้วก็เงียบไป
เปรี้ยง!!!
เสียงฟ้าผ่าดังขึ้นอีกครั้ง แต่ก็มีเสียงที่ดังกว่า...นั่นก็คือเสียงร้องของแอชลี ผมรีบพลิกตัวเพื่อจะไปดูแอชลีที่นอนอยู่บนเตียง แต่แล้วกองผ้าห่มบนเตียงก็หล่นมาใส่ผมพร้อมกับร่างของเธอ แอชลีโผเข้ากอดผมเหมือนกับเด็กๆพลางร้องไห้เสียงดังลั่น
“ ไม่นะ...อย่ายิง!!! ”
เสียงร้องของแอชลีทำเอาผมตัวแข็งเป็นหินเลย ผมจำเสียงร้องนี่ได้ มันเป็นเสียงเดียวกับที่เธอร้องตอนที่เจอผมที่กำลังฆ่าคนตาย...ผมก้มลงมองเธออย่างหวั่นๆ นี่ผมกำลังกลัวอะไร กลัวว่าเธอจะจำได้งั้นเหรอ!? แล้วถ้าเธอจำได้ล่ะ ผมก็ต้อง....
“ อลันช่วยด้วย...เงานั้นจะยิงฉัน!!! ”
แอชลีร้องอีกครั้งแล้วก็กอดผมจนแน่น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมถึงได้รู้สึกโล่งอก เธอยังจำไม่ได้...ผมเอื้อมมือไปลูบผมสีทองของเธอพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ มือที่กอดผมไว้เริ่มคลาย กลายเป็นการโอบเบาๆ เสียงร้องไห้เริ่มเงียบลง พร้อมกับฝนที่จางหายอย่างน่าแปลกใจ
“ ขอบคุณนะ อลัน ” แอชลีกระซิบกับผมแล้วก็หลับตาช้าๆในอ้อมแขนของผม ไม่รู้ว่านานเท่าไรแต่พอรู้สึกตัวอีกทีเธอก็นอนหลับไปแล้วทั้งที่ผมยังคงลูบหัวเธออยู่ ในคืนนั้นผมเริ่มไม่แน่ใจตัวเองแล้วว่า...ผมจะฆ่าเธอได้จริงๆหรือ ถ้าเธอจำได้ว่าผมฆ่าคนตาย?
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ผมสลึมสลือตื่นขึ้นมาในตอนสาย อากาศชื้นๆจากฝนที่ตกในเมื่อคืน ช่วยทำให้เป็นคืนที่หลับสบายมากคืนหนึ่ง ผมก้มมองไปในอ้อมแขนของตน แอชลีไม่อยู่แล้ว ผ้านวมของเธอก็ถูกพับเรียบร้อยวางอยู่บนเตียง
“ ฮ้าวววว ”
ผมชูแขนทั้งสองข้างขึ้นฟ้าแล้วก็บิดขี้เกียจขณะที่เดินออกมาจากห้องนอน แอชลีเดินออกมาจากครัวพร้อมกับกาแฟหอมกรุ่นหนึ่งถ้วยในมือ
“ ตอบแทนที่เมื่อคืนยอมอยู่เป็นเพื่อน ”
เธอวางกาแฟข้างหน้าผม ผมก้มมองมันอย่างไม่แน่ใจ แอชลีถอนหายใจพร้อมกับเอามือกอดอก...
“ วันนี้ไม่มีเกลือหกใส่หรอก กินได้แน่นอน ”
แล้วเธอก็เดินกลับเข้าไปในครัว ผมหยิบช้อนชาตักกาแฟขึ้นมาแล้วก็ลองจิบดู...อืม ใช่ได้เลยนี่นา ผมเป่ามันแล้วก็จิบช้าๆแกล้มด้วยวิวอากาศแจ่มใสของยามเช้าที่ไร้ซึ่งเมฆฝน ยิ่งเพิ่มรสชาติให้แก่กาแฟมากยิ่งขึ้น
“ นี่ค่ะ!!! ”
แอชลียิ้มกว้างแล้วก็ยื่นหนังสือนิยายที่ผมซื้อให้เธอมาให้ผม ผมวางถ้วยกาแฟลงแล้วก็มองมันอย่างสงสัย แอชลียื่นมันใกล้มากขึ้นจนติดปลายจมูกผมพร้อมกับทำแก้มป่อง
“ อย่าลืมสิ เมื่อคืนบอกจะอ่านให้ฟังไง ”
ผมหยิบนิยายเล่มนั้นมาแล้วก็เริ่มเปิด ตัวหนังสือมากมายเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ พร้อมกับภาพประกอบในบางหน้า แอชลีทั้งตัวลงบนเก้าอี้ตรงข้ามผมแล้วก็มองผมอย่างใจจดใจจ่อราวกับว่ามีตัวหนังสือในนิยายเล่มนี้ติดอยู่ที่หน้าผม
“ เริ่มล่ะนะ... ”
ผมเริ่มต้นอ่านนิยายให้เธอฟัง กลิ่นหอมๆของกาแฟที่ยังอยู่ในถ้วยกับเสียงนกที่เกาะอยู่ที่หน้าต่างและความอบอุ่นจากแสงแดดที่พอเหมาะ ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก บางครั้งที่ผมละสายตาจากหนังสือมามองแอชลี เธอก็ยังจะทำท่าทางอินไปกับมันด้วย เช่นฉากระทึกใจ เธอจะเอามือทั้งสองข้างกุมไว้ที่หน้าอกแล้วก็กลั้นหายใจ หรือฉากตลก เธอก็จะหัวเราะออกมาหรือไม่ก็อมยิ้มเล็กน้อย เธอมักจะร้องไห้ออกมาทุกครั้งเมื่อถึงฉากเศร้า...
เวลาที่ผมอ่านหนังสือให้เธอฟัง มันเหมือนกับโลกทั้งใบหยุดหมุนไป เข็มนาฬิกาหยุดเดิน เราทั้งสองถูกตัดออกจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงพูดคุยของคนที่เดินอยู่ข้างถนนด้านล่าง มีเพียงเสียงหัวเราะของหญิงสาวและเสียงเล่าเรื่องราวของผม
ไม่รู้ว่านานเท่าไรนะ แต่พอผมวางหนังสือลงเพื่อพักสายตา...แอชลีก็ฟุบหลับไปเสียแล้ว ให้ตายสิบอกให้ผมอ่านหนังสือให้ฟัง ส่วนตัวเองก็หลับไปซะงั้น ว่าแต่ใบหน้ายามหลับของเธอช่างดูราวกับเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆยิ่งนัก
ผมหยิบแผ่นกระดาษเบาๆขึ้นมาคั่นหนังสือที่อ่านค้างไว้ แล้วก็ซดกาแฟที่เย็นชืดจนหมด ก่อนจะมองดูแอชลีแล้วก็รีบลุกขึ้นวิ่งไปในห้องครัวพลางพูดกับตัวเองอย่างขำๆ
“ ผู้หญิงอะไรเวลานอนก็น่ารักดีหรอก....แต่มีน้ำลายยืดออกมาแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันแฮะ ฮ่าๆ ”
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ตกเย็นล่ะครับ กว่าที่เจ้าหญิงนิทราของผมจะลืมตาตื่นขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะได้กลิ่นอาหารเย็นที่ผมทำก็ได้ล่ะมั่ง...ที่ปลุกเธอขึ้นมา
“ ไปล้างหน้าก่อน เดี๋ยวมากินข้างเย็นกัน ”
ผมสั่งแอชลีที่เพิ่งตื่นขึ้นมา เธองัวเงียเดินไปยังห้องน้ำ ก่อนจะเซไปชนตู้เสื้อผ้าเสียงดังลั่น ทำเอาผมตกใจ แต่พอหันไปดู เธอก็ยังคงเดินต่อไป แถมยังมีโบนัสชนราวแขวนผ้าขนหนูและประตูห้องน้ำให้อีกด้วย จนผมชักจะแน่ใจแล้วว่าเธอก็เป็นหญิงเหล็กคนหนึ่ง
“ อย่าหลับในห้องน้ำนะ ”
ผมพูดแซวแอชลี เธอส่งเสียงออกมาจากห้องน้ำเพื่อบอกว่า “ค่ะ” ถึงแม้เธอจะเป็นคนที่ค่อนข้างจุกจิก แต่เธอก็แสดงความซุ่มซ่ามให้เห็นอยู่เหมือนกัน
15 นาที ผ่านไป.... แอชลีก็ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำ ผมที่นั่งรอกินข้าวอยู่ที่โต๊ะจึงลุกขึ้นไปดู...ประตูห้องน้ำเปิดอยู่ ผมจึงยื่นหน้าเข้าไปดูในห้องน้ำ...
“ เฮ้ย!!! ”
แอชลีครับ....แอชลีนั่งหลับพิงชักโครกอยู่ พร้อมกับส่งเสียงกรนเบาๆโดยที่มีแปรงสีฟันเสียบอยู่ในปาก...โอ้พระเจ้าช่วย แต่แล้วแอชลีก็ก็ขยับหัวเล็กน้อย ทำให้หัวของเธอไหลตรงไปในชักโครก!!!
หมับ!!!
Save!!!
ผมเอื้อมมือไปคว้าหัวเธอได้ทันก่อนที่จะปักลงไปในโถส้วม...โธ่ ขืนช่วยไม่ทัน นางฟ้าของผมคงกลายเป็นตัวตลกไปแน่ๆ ไม่อยากจะนึกภาพเลย ทำไมการเลี้ยงดูเธอมันลำบากแบบนี้นะ แอชลี
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ความคิดเห็น