ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อคุณรู้...คุณยังจะรักผมอยู่มั้ย?

    ลำดับตอนที่ #5 : มื้อค่ำแห่งหน้าร้อนแรกที่น่าจดจำ

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 51


    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวลาที่เดินเร็วหรือชีวิตผมที่เดินไปโดยไม่เคยสนใจมันเลย  พอรู้สึกตัวอีกทีหิมะสีขาวโพล่งที่เคยตกอยู่นอกหน้าต่างก็จางหายไป  แสงแดดอุ่นๆกลับเข้ามาแทนที่  เท่าที่นับเวลาดูก็เกือบ 4 เดือนแล้วที่ผมต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับเด็กสาวความจำเสื่อมคนนี้  

     

    วันนี้กินอะไรดีล่ะ แอชลี

     

     ผมร้องถามแอชลีที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น  

     

    ไข่ดาวจ้า ไข่ดาว

     

     แอชลีตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง ที่ผมมักจะได้ยินมันในทุกๆเช้า  ผมหยิบไข่สองใบออกมาจากตู้เย็น แล้วก็จัดการตอกมันใส่ลงไปในกระทะที่กำลังร้อนๆซึ่งทาด้วยเนยเพื่อไม่ให้มันติดกระทะ  ก่อนจะหันไปหยิบขนมปังแผ่นใส่ลงไปในเครื่องปิ้งขนมปังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลว่าห้องครัวแคบๆแห่งนี้  

     

    เมื่อก่อนผมไม่เคยที่จะต้องเข้าครัวเลย เพราะอยู่ตัวคนเดียว หิวเมื่อไรก็ได้บะหมี่ถ้วยกับข้าวกล่องจากร้านข้างล่างใส่ท้องเสมอๆ  แต่พอต้องรับแอชลีมาอยู่ด้วย ผมเลยจำเป็นที่จะต้องทำอาหารเองแล้ว  เพราะการให้เด็กสาวกำลังโตกินแต่บะหมี่ถ้วยคงจะไม่ดีแน่ๆ 

     

    เสร็จแล้ว

     

      ผมวางจานที่มีไข่ดาวกับขนมปังปิ้งสองจานลงบนโต๊ะอาหาร ที่เมื่อก่อนเป็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยถ้วยบะหมี่เปล่าๆ  แต่ตอนนี้แอชลีก็จัดการเก็บกวาดมันเสียเรียบร้อย   ตามประสาผู้หญิงเจ้าระเบียบ  เพราะบ่อยครั้งที่ผมต้องโดนเธอต่อว่าเรื่องความสะอาดอยู่บ่อยๆ  ซึ่งมันก็แสนจะน่ารำคาญ  

     

    เราทั้งคู่จัดการกับอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมานั่งดูทีวีด้วยกัน   โดยปกติแอชลีจะมักชอบนั่งบนพรมมากกว่าที่จะนั่งบนโซฟา  การดูทีวีนั่นก็เป็นวิธีสอนเธออย่างหนึ่งเช่นกัน  ผมมักจะอธิบายเธอถึงสิ่งต่างๆในทีวี ซึ่งมันก็ได้ผลมากเลยทีเดียว  จนตอนนี้เธอสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนปกติแล้ว  มีเพียงแค่...

     

    แอชลี...อีกแล้วนะ!!! ”

     

     ผมต่อว่าแอชลีแล้วก็หยิบยกทรงสีชมพูอ่อนของเธอออกมาจากห้องน้ำ  เธอมักจะแขวนยกทรง ไม่ก็ชุดชั้นในไว้ในห้องน้ำเสมอ  เอาทำใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่เปิดประตูไปเจอ...ให้ตายสิ

     

    ขอโทษค่ะ

     

     แอชลีรีบวิ่งไปหยิบยกทรงแล้วก็เอามันไปเก็บไว้ในห้องนอนซึ่งผมยกให้เธอไป  ส่วนผมเองก็นอนอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก  

     

    อลัน นี่ลามกเหมือนกันนะ หยิบยกทรงเราน่าตาเฉยเลย คิคิ

     

     แอชลียื่นหน้าออกมาจากห้องแล้วก็หัวเราะเบาๆ  ทำเอาผมหน้าแดงขึ้นมาทันที 

     

    รีบเอาไปเก็บเลย!!!! ” 

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

    สิ่งแรกที่ผมอยากจะทำในหน้าร้อนแรกของปี ก็คือการได้ออกมาเดินเล่นพร้อมกับตากแสงแดดอุ่นๆ  ความจริงผมก็อยากจะพาแอชลีออกมาด้วย  แต่มันคงไม่ปลอดภัยแน่ๆ ถ้ามีใครที่รู้จักเธอมาเจอเข้า คงเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ ผมเลยบอกให้เธอเฝ้าห้องไว้  แล้วจะซื้อของมาฝาก 

     

    ผมเลี้ยวเข้าร้านหนังสือ แล้วก็หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน  มันไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย...มีแค่การเมืองที่น่าเบื่อ กับข่าวซุบซิบดาราที่ไร้สาระ   ผมเปิดไปยังหน้าประกาศคนหาย...ไม่มี  ไม่มีข่าวเกี่ยวกับแอชลีเลยสักนิด  แสดงว่าเรื่องที่เธอไม่มีญาติพี่น้องนั่นเป็นความจริง  

     

    ผมพับหนังสือพิมพ์เก็บไว้ที่เดิม  แล้วก็เดินไปยังมุมนิยาย เพื่อที่จะหาหนังสือสักเล่มไปฝากแอชลีเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยเฝ้าบ้านให้  

     

    ผมหยิบหนังสือนิยายเล่มหนึ่งขึ้นมา ลวดลายสีดำและแดงทำให้มันดูโดดเด่นท่ามกลางนิยายสีสดใสเรื่องอื่นๆ  ตอนแรกผมก็คิดจะซื้อเล่มนี้  แต่แล้วพอเห็นชื่อนิยายที่เขียนว่า คดีฆาตกรรมบนเกาะร้างผมก็ตัดสินใจวางมันเก็บที่เดิม  ถึงผมจะไม่ค่อยสันทัดเรื่องนิยายที่พวกผู้หญิงชอบสักเท่าไร  แต่นิยายเรื่องนี้คงไม่เหมาะแน่ๆ   ชักรู้สึกหนักใจแล้วสิเนี่ย..

     

    เอ่อ ขอโทษนะครับ  ผมอยากจะได้นิยายให้ผู้หญิงคนหนึ่งสักเล่ม  แต่ไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องไหนดี

     

    ผมหันไปถามพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจัดหนังสือใหม่อยู่  เธอยิ้มตอบแล้วก็ยืนมองหนังสือในชั้นอยู่สักพัก แล้วก็หยิบนิยายเล่มหนึ่งมาให้ผม  มันเป็นนิยายที่ค่อนข้างมีสีสันสดใส  ที่หน้าปกเป็นรูปชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังกอดหญิงสาวหน้าตาน่ารัก โดยมีพื้นหลังเป็นชายทะเล  ผมจึงตัดสินใจเอาเล่มนี้

     

    ขอบคุณมากนะครับ

     

    ไม่เป็นไรค่ะ  แต่รับรองถ้าแฟนคุณได้อ่าน  เขาคงรักคุณมากขึ้นแน่ 

     

    เอ่อ เอ่อ...ไม่ใช่ ฟะ..แฟน

     

    ไม่ทันที่ผมจะแก้ตัวพนักงานคนนั้นก็เดินหายไปในหลังร้าน  ทำให้ผมไม่ทันแก้ข้อเข้าใจผิด 

     

    ผมจ่ายเงินให้เจ้าของร้าน  ในขณะที่กำลังรอเงินทอน ผมก็หันไปเห็นโปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่เขียนว่า

     

    งานเทศกาลประจำปี  ขอเชิญทุกท่านร่วมอธิษฐานกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับเที่ยวงานเทศกาลและดูดอกไม้ไฟ ณ ศาลเจ้าประจำเมือง   

     

    จริงสิ  ทุกหน้าร้อนจะมีงานเทศกาลนี่นา  แต่เราก็ไม่เคยไปเที่ยวเลยสักครั้งตั้งแต่มาอยู่เมืองนี้  แต่ปีนี้ก็คงไม่  เพราะผมเกลียดการที่จะต้องเจอคนเยอะๆ   ว่าแต่คืนนี้ทำอะไรกินดีนะ  ผมเอาก็ชักจะทำตัวเป็นพ่อบ้านเข้าไปทุกทีแล้วสิ

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

    ซ่าๆ.....แทบไม่น่าเชื่อว่าหน้าร้อนแรกของปีจะดันมีฝนหลงฤดูโผล่มาได้   ผมจึงรีบเร่งฝีเท้าวิ่งกลับห้องให้เร็วที่สุดก่อนที่อาหารกับหนังสือจะเปียกเสียก่อน   แต่ในที่สุดผมก็กลับมาถึงห้องด้วยสภาพเปียกปอนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้   

     

    ลูกหมาตกน้ำ

     

    เป็นคำพูดคำแรกที่แอชลีพูดกับผมเมื่อผมเปิดประตูเข้ามา  ผมหัวเราะแห้งๆแล้วก็วางข้างของลงบนโซฟา ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ตากอยู่หน้าห้องน้ำมาเช็ดให้แห้ง จะได้ไม่เป็นหวัด พร้อมกับถอดเสื้อเชิ้ตที่เปียกโยนลงไปในตะกร้าแล้วก็ไปหยิบเสื้อยืดในตู้เสื้อผ้ามาสวม   แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่น

     

    ทำ...อะไรของเธอนะ แอชลี

     

    ผมถามแอชลีที่กำลังก้มรื้อถุงกับข้าวที่ซื้อมาจากร้านค้า  เธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับหมูแฮมแผ่นเต็มปาก  ผมเกาหัวเบาๆแล้วก็คว้าถุงกับข้าวเดินไปที่ครัวโดยไม่วายที่จะต่อว่าแอชลี

     

    ให้ตายสิ  เล่นกินกับข้าวแบบนี้แล้วฉันจะทำอะไรให้กินล่ะ

     

    ผมมองดูกับข้าวที่เหลือพลางนึกถึงเมนูอาหารที่พอจะทำได้   แต่แล้วแอชลีก็เดินมาสะกิดผม ที่มุมปากของเธอยังมีเศษหมูแฮมติดอยู่นิดหน่อย...

     

    ทำได้ไหม...

     

    เธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบาจนผมไม่ได้ยิน เลยถามกลับไปอีกครั้ง

     

    ว่าไงนะ

     

    ใบหน้าแอชลีเริ่มแดง แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองผมแบบตาต่อตา ทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ  นี่เธอกำลังจะทำอะไรกันแน่...

     

    ฉันขอทำ...ทำอาหารได้ไหม!!! ”

     

    ผมอ้าปากค้างในคำพูดของแอชลี เพราะปกติเธอไม่เคยที่จะเอ่ยปากพูดเกี่ยวกับการทำอาหารด้วยซ้ำ  แถมยังชอบวิจารณ์อาหารที่ผมทำอีก แต่ทำไมวันนี้เธอถึงได้พูดแบบนี้ออกมา

     

    ทำเป็นเหรอ ?”

     

    เป็นสิ  ฉันทำเป็น  รับรองอร่อยกว่าของอลันแน่นอน

     

    ผมเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย  แต่ก็ไม่แน่  เธออาจจะทำอาหารอร่อยกว่าผมก็ได้  ความทรงจำส่วนหนึ่งของเธออาจจะช่วยให้เธอทำอาหารเป็น  อย่างน้อยเธอก็เป็นผู้หญิง เรื่องเข้าครัวคงไม่เป็นรองผู้ชายแบบผมแน่ๆ 

     

    งั้นลองดูนะ  ฉันจะไปอาบน้ำ   

     

    ผมปล่อยให้เธอทำอาหารตามลำพัง แล้วก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับปรับน้ำให้อุ่นขึ้น  อา...ไม่มีอะไรสบายกว่าการได้อาบน้ำอุ่นๆหลังจากวิ่งตากฝนที่แสนหนาวอีกแล้ว   

     

    หลังจากนั้นไม่นานอาหารหน้าตาน่ากินมากมายก็ตั้งเรียงอยู่บนโต๊ะรอต้อนรับผม  ถึงแม้จะคิดว่าเธอคงทำอาหารเก่ง แต่...แบบนี้มันเก่งกว่าที่คิดไว้เยอะเลย  

     

    เชิญชิมได้เลยจ้า

     

    แอชลีพูดอย่างภูมิใจพร้อมกับยื่นมีดกับส้อมให้ผม    อย่างนี้สิถึงจะคุ้มกับที่เดินฝ่าสายฝนเปียกปอนไปซื้อกับข้าวมา แถมยังไม่ต้องทำเองอีก  เอาล่ะ....ทานล่ะนะ!!!

     

    .....

     

    ทันทีที่ตักคำแรกเข้ามา  โลกทั้งโลกก็หยุดหมุนทันที  รสชาติ...แบบนี้มัน  ห่วยสุดๆ!!!   ผมแทบจะคายมันออกตรงนั้น ถ้าไม่เห็นใบหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความภูมิใจของแอชลีที่กำลังรอคำชมจากผม... ผมฝืนใจกลืนมันลงคอจนน้ำตาแทบไหลออกมา  แล้วก็ยิ้มให้แอชลีพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เธอ 

     

    ว้าว!!! จริงเหรอ  งั้นเอาส่วนของฉันไปด้วยนะ  พอดีตอนทำอาหารมือมันปัดไปโดนเกลือหกหมดเลย  กะจะเททิ้งแล้วเชียว ดีใจที่อลันยังกินได้  ทานเยอะๆนะ เดี๋ยวฉันไปอุ่นบะหมี่ถ้วยมากินก็แล้วกัน

     

    เท่านั้นล่ะ ทำเอาผมอึ้งไปพักใหญ่ๆเลย ขนาดคนทำเองยังกินไม่ได้  แล้วผมจะเหลือเหรอ  แต่ก็เพราะดันเอ่ยปากไปแล้วยังไงก็คงต้องรับผิดชอบกับอาหารผิดพลาดบนโต๊ะนี้ให้หมด  ทำให้มื้อค่ำในวันนี้เป็นมื้อที่ผมจะต้องจดจำไปตลอดชีวิต  ชักคิดถึงบะหมี่ถ้วยแล้วสิเรา...

     

    = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×