คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : มื้อค่ำแห่งหน้าร้อนแรกที่น่าจดจำ
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเวลาที่เดินเร็วหรือชีวิตผมที่เดินไปโดยไม่เคยสนใจมันเลย พอรู้สึกตัวอีกทีหิมะสีขาวโพล่งที่เคยตกอยู่นอกหน้าต่างก็จางหายไป แสงแดดอุ่นๆกลับเข้ามาแทนที่ เท่าที่นับเวลาดูก็เกือบ 4 เดือนแล้วที่ผมต้องทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กับเด็กสาวความจำเสื่อมคนนี้
“ วันนี้กินอะไรดีล่ะ แอชลี ”
ผมร้องถามแอชลีที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น
“ ไข่ดาวจ้า ไข่ดาว ”
แอชลีตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงร่าเริง ที่ผมมักจะได้ยินมันในทุกๆเช้า ผมหยิบไข่สองใบออกมาจากตู้เย็น แล้วก็จัดการตอกมันใส่ลงไปในกระทะที่กำลังร้อนๆซึ่งทาด้วยเนยเพื่อไม่ให้มันติดกระทะ ก่อนจะหันไปหยิบขนมปังแผ่นใส่ลงไปในเครื่องปิ้งขนมปังที่ตั้งอยู่ไม่ไกลว่าห้องครัวแคบๆแห่งนี้
เมื่อก่อนผมไม่เคยที่จะต้องเข้าครัวเลย เพราะอยู่ตัวคนเดียว หิวเมื่อไรก็ได้บะหมี่ถ้วยกับข้าวกล่องจากร้านข้างล่างใส่ท้องเสมอๆ แต่พอต้องรับแอชลีมาอยู่ด้วย ผมเลยจำเป็นที่จะต้องทำอาหารเองแล้ว เพราะการให้เด็กสาวกำลังโตกินแต่บะหมี่ถ้วยคงจะไม่ดีแน่ๆ
“ เสร็จแล้ว ”
ผมวางจานที่มีไข่ดาวกับขนมปังปิ้งสองจานลงบนโต๊ะอาหาร ที่เมื่อก่อนเป็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยถ้วยบะหมี่เปล่าๆ แต่ตอนนี้แอชลีก็จัดการเก็บกวาดมันเสียเรียบร้อย ตามประสาผู้หญิงเจ้าระเบียบ เพราะบ่อยครั้งที่ผมต้องโดนเธอต่อว่าเรื่องความสะอาดอยู่บ่อยๆ ซึ่งมันก็แสนจะน่ารำคาญ
เราทั้งคู่จัดการกับอาหารบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมานั่งดูทีวีด้วยกัน โดยปกติแอชลีจะมักชอบนั่งบนพรมมากกว่าที่จะนั่งบนโซฟา การดูทีวีนั่นก็เป็นวิธีสอนเธออย่างหนึ่งเช่นกัน ผมมักจะอธิบายเธอถึงสิ่งต่างๆในทีวี ซึ่งมันก็ได้ผลมากเลยทีเดียว จนตอนนี้เธอสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนปกติแล้ว มีเพียงแค่...
“ แอชลี...อีกแล้วนะ!!! ”
ผมต่อว่าแอชลีแล้วก็หยิบยกทรงสีชมพูอ่อนของเธอออกมาจากห้องน้ำ เธอมักจะแขวนยกทรง ไม่ก็ชุดชั้นในไว้ในห้องน้ำเสมอ เอาทำใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่เปิดประตูไปเจอ...ให้ตายสิ
“ ขอโทษค่ะ ”
แอชลีรีบวิ่งไปหยิบยกทรงแล้วก็เอามันไปเก็บไว้ในห้องนอนซึ่งผมยกให้เธอไป ส่วนผมเองก็นอนอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก
“ อลัน นี่ลามกเหมือนกันนะ หยิบยกทรงเราน่าตาเฉยเลย คิคิ ”
แอชลียื่นหน้าออกมาจากห้องแล้วก็หัวเราะเบาๆ ทำเอาผมหน้าแดงขึ้นมาทันที
“ รีบเอาไปเก็บเลย!!!! ”
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
สิ่งแรกที่ผมอยากจะทำในหน้าร้อนแรกของปี ก็คือการได้ออกมาเดินเล่นพร้อมกับตากแสงแดดอุ่นๆ ความจริงผมก็อยากจะพาแอชลีออกมาด้วย แต่มันคงไม่ปลอดภัยแน่ๆ ถ้ามีใครที่รู้จักเธอมาเจอเข้า คงเป็นปัญหาใหญ่แน่ๆ ผมเลยบอกให้เธอเฝ้าห้องไว้ แล้วจะซื้อของมาฝาก
ผมเลี้ยวเข้าร้านหนังสือ แล้วก็หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่าน มันไม่มีอะไรที่น่าสนใจเลย...มีแค่การเมืองที่น่าเบื่อ กับข่าวซุบซิบดาราที่ไร้สาระ ผมเปิดไปยังหน้าประกาศคนหาย...ไม่มี ไม่มีข่าวเกี่ยวกับแอชลีเลยสักนิด แสดงว่าเรื่องที่เธอไม่มีญาติพี่น้องนั่นเป็นความจริง
ผมพับหนังสือพิมพ์เก็บไว้ที่เดิม แล้วก็เดินไปยังมุมนิยาย เพื่อที่จะหาหนังสือสักเล่มไปฝากแอชลีเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยเฝ้าบ้านให้
ผมหยิบหนังสือนิยายเล่มหนึ่งขึ้นมา ลวดลายสีดำและแดงทำให้มันดูโดดเด่นท่ามกลางนิยายสีสดใสเรื่องอื่นๆ ตอนแรกผมก็คิดจะซื้อเล่มนี้ แต่แล้วพอเห็นชื่อนิยายที่เขียนว่า “คดีฆาตกรรมบนเกาะร้าง” ผมก็ตัดสินใจวางมันเก็บที่เดิม ถึงผมจะไม่ค่อยสันทัดเรื่องนิยายที่พวกผู้หญิงชอบสักเท่าไร แต่นิยายเรื่องนี้คงไม่เหมาะแน่ๆ ชักรู้สึกหนักใจแล้วสิเนี่ย..
“ เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมอยากจะได้นิยายให้ผู้หญิงคนหนึ่งสักเล่ม แต่ไม่รู้ว่าจะเอาเรื่องไหนดี ”
ผมหันไปถามพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังจัดหนังสือใหม่อยู่ เธอยิ้มตอบแล้วก็ยืนมองหนังสือในชั้นอยู่สักพัก แล้วก็หยิบนิยายเล่มหนึ่งมาให้ผม มันเป็นนิยายที่ค่อนข้างมีสีสันสดใส ที่หน้าปกเป็นรูปชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังกอดหญิงสาวหน้าตาน่ารัก โดยมีพื้นหลังเป็นชายทะเล ผมจึงตัดสินใจเอาเล่มนี้
“ ขอบคุณมากนะครับ ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ แต่รับรองถ้าแฟนคุณได้อ่าน เขาคงรักคุณมากขึ้นแน่ ”
“ เอ่อ เอ่อ...ไม่ใช่ ฟะ..แฟน ”
ไม่ทันที่ผมจะแก้ตัวพนักงานคนนั้นก็เดินหายไปในหลังร้าน ทำให้ผมไม่ทันแก้ข้อเข้าใจผิด
ผมจ่ายเงินให้เจ้าของร้าน ในขณะที่กำลังรอเงินทอน ผมก็หันไปเห็นโปสเตอร์ขนาดใหญ่ที่เขียนว่า
“ งานเทศกาลประจำปี ขอเชิญทุกท่านร่วมอธิษฐานกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับเที่ยวงานเทศกาลและดูดอกไม้ไฟ ณ ศาลเจ้าประจำเมือง ”
จริงสิ ทุกหน้าร้อนจะมีงานเทศกาลนี่นา แต่เราก็ไม่เคยไปเที่ยวเลยสักครั้งตั้งแต่มาอยู่เมืองนี้ แต่ปีนี้ก็คงไม่ เพราะผมเกลียดการที่จะต้องเจอคนเยอะๆ ว่าแต่คืนนี้ทำอะไรกินดีนะ ผมเอาก็ชักจะทำตัวเป็นพ่อบ้านเข้าไปทุกทีแล้วสิ
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ซ่าๆ.....แทบไม่น่าเชื่อว่าหน้าร้อนแรกของปีจะดันมีฝนหลงฤดูโผล่มาได้ ผมจึงรีบเร่งฝีเท้าวิ่งกลับห้องให้เร็วที่สุดก่อนที่อาหารกับหนังสือจะเปียกเสียก่อน แต่ในที่สุดผมก็กลับมาถึงห้องด้วยสภาพเปียกปอนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ ลูกหมาตกน้ำ ”
เป็นคำพูดคำแรกที่แอชลีพูดกับผมเมื่อผมเปิดประตูเข้ามา ผมหัวเราะแห้งๆแล้วก็วางข้างของลงบนโซฟา ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ตากอยู่หน้าห้องน้ำมาเช็ดให้แห้ง จะได้ไม่เป็นหวัด พร้อมกับถอดเสื้อเชิ้ตที่เปียกโยนลงไปในตะกร้าแล้วก็ไปหยิบเสื้อยืดในตู้เสื้อผ้ามาสวม แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องนั่งเล่น
“ ทำ...อะไรของเธอนะ แอชลี ”
ผมถามแอชลีที่กำลังก้มรื้อถุงกับข้าวที่ซื้อมาจากร้านค้า เธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับหมูแฮมแผ่นเต็มปาก ผมเกาหัวเบาๆแล้วก็คว้าถุงกับข้าวเดินไปที่ครัวโดยไม่วายที่จะต่อว่าแอชลี
“ ให้ตายสิ เล่นกินกับข้าวแบบนี้แล้วฉันจะทำอะไรให้กินล่ะ ”
ผมมองดูกับข้าวที่เหลือพลางนึกถึงเมนูอาหารที่พอจะทำได้ แต่แล้วแอชลีก็เดินมาสะกิดผม ที่มุมปากของเธอยังมีเศษหมูแฮมติดอยู่นิดหน่อย...
“ ทำได้ไหม... ”
เธอพูดด้วยเสียงแผ่วเบาจนผมไม่ได้ยิน เลยถามกลับไปอีกครั้ง
“ ว่าไงนะ ”
ใบหน้าแอชลีเริ่มแดง แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองผมแบบตาต่อตา ทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่เธอกำลังจะทำอะไรกันแน่...
“ ฉันขอทำ...ทำอาหารได้ไหม!!! ”
ผมอ้าปากค้างในคำพูดของแอชลี เพราะปกติเธอไม่เคยที่จะเอ่ยปากพูดเกี่ยวกับการทำอาหารด้วยซ้ำ แถมยังชอบวิจารณ์อาหารที่ผมทำอีก แต่ทำไมวันนี้เธอถึงได้พูดแบบนี้ออกมา
“ ทำเป็นเหรอ ?”
“ เป็นสิ ฉันทำเป็น รับรองอร่อยกว่าของอลันแน่นอน ”
ผมเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย แต่ก็ไม่แน่ เธออาจจะทำอาหารอร่อยกว่าผมก็ได้ ความทรงจำส่วนหนึ่งของเธออาจจะช่วยให้เธอทำอาหารเป็น อย่างน้อยเธอก็เป็นผู้หญิง เรื่องเข้าครัวคงไม่เป็นรองผู้ชายแบบผมแน่ๆ
“ งั้นลองดูนะ ฉันจะไปอาบน้ำ ”
ผมปล่อยให้เธอทำอาหารตามลำพัง แล้วก็เดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับปรับน้ำให้อุ่นขึ้น อา...ไม่มีอะไรสบายกว่าการได้อาบน้ำอุ่นๆหลังจากวิ่งตากฝนที่แสนหนาวอีกแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานอาหารหน้าตาน่ากินมากมายก็ตั้งเรียงอยู่บนโต๊ะรอต้อนรับผม ถึงแม้จะคิดว่าเธอคงทำอาหารเก่ง แต่...แบบนี้มันเก่งกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
“ เชิญชิมได้เลยจ้า ”
แอชลีพูดอย่างภูมิใจพร้อมกับยื่นมีดกับส้อมให้ผม อย่างนี้สิถึงจะคุ้มกับที่เดินฝ่าสายฝนเปียกปอนไปซื้อกับข้าวมา แถมยังไม่ต้องทำเองอีก เอาล่ะ....ทานล่ะนะ!!!
“ ..... ”
ทันทีที่ตักคำแรกเข้ามา โลกทั้งโลกก็หยุดหมุนทันที รสชาติ...แบบนี้มัน ห่วยสุดๆ!!! ผมแทบจะคายมันออกตรงนั้น ถ้าไม่เห็นใบหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความภูมิใจของแอชลีที่กำลังรอคำชมจากผม... ผมฝืนใจกลืนมันลงคอจนน้ำตาแทบไหลออกมา แล้วก็ยิ้มให้แอชลีพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เธอ
“ ว้าว!!! จริงเหรอ งั้นเอาส่วนของฉันไปด้วยนะ พอดีตอนทำอาหารมือมันปัดไปโดนเกลือหกหมดเลย กะจะเททิ้งแล้วเชียว ดีใจที่อลันยังกินได้ ทานเยอะๆนะ เดี๋ยวฉันไปอุ่นบะหมี่ถ้วยมากินก็แล้วกัน ”
เท่านั้นล่ะ ทำเอาผมอึ้งไปพักใหญ่ๆเลย ขนาดคนทำเองยังกินไม่ได้ แล้วผมจะเหลือเหรอ แต่ก็เพราะดันเอ่ยปากไปแล้วยังไงก็คงต้องรับผิดชอบกับอาหารผิดพลาดบนโต๊ะนี้ให้หมด ทำให้มื้อค่ำในวันนี้เป็นมื้อที่ผมจะต้องจดจำไปตลอดชีวิต ชักคิดถึงบะหมี่ถ้วยแล้วสิเรา...
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
ความคิดเห็น