ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (BL) White daisy and Brown guitar (Femboy)

    ลำดับตอนที่ #3 : Page 2 : Pacify

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 63


    คำเตือน : มีเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นถ้าใครกลัวแนะนำให้อ่านตอนกลางวันนะคะ (แต่มันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้นนะ) ถือว่าช่วยกันเซฟเนาะ

    --------------------------------------------------


    ปล่อยความคิดล่องลอยไปบนนภา

    หลับตาลงไม่ต้องคิดสิ่งอื่นใด

    แล้วสายน้ำจะโอบกอดเราเอาไว้เอง

    ฝ่ามือกับท่อนแขนเล็กบอบบางขึ้นลงอย่างเชื่องช้าราวกับว่าจะโผบินท่ามกลางน้ำทะเลสีครามท่อนขาขาวที่โผล่พ้นกระโปรงว่ายน้ำตัวบางเหยียดตรงพร้อมกับสายตาเหม่อมองไปที่ท้องฟ้า

    ที่ดูเหมือนอยู่ตรงหน้าแต่ไม่ว่าจะพยายามไขว่คว้าเท่าไหร่

    มันก็ไม่ถึงซะที

    "มาว่ายน้ำทั้งทีไม่ชวนพี่เลยนะ"เสียงพี่สไมล์ดังขึ้นทำให้เราหยุดตีน้ำพร้อมกับปล่อยให้ร่างดำดิ่งไปข้างใต้พร้อมกับพี่สไมล์ที่ว่ายมาข้างกัน เราอมยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับเขาที่ว่ายมาดึงเราขึ้นไปที่ผิวน้ำด้วยกัน "เป็นไงดีขึ้นไหมครับ"พี่สไมล์ถามพร้อมกับใช้มือเสยผมที่เปียกชื้นขึ้นทำให้เราเผลอมองพร้อมกับจับไหล่ของเขาเอาไว้

    "ขอบคุณนะคะ"

    พี่ไมล์ก็คงเป็นพี่ไมล์ พี่ชายที่น่ารักของเราเสมอ

    "ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เราอยากไปไกลกว่านี้ไหมล่ะ"เขาถามทำให้เราส่ายหน้าพร้อมกับเอาผมทัดหูเอาไว้ เราเองก็ว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่จะให้ออกไปน้ำลึกๆ ก็คงจะไม่ไหวเหมือนกัน "พี่ไปเถอะค่ะ หนูเล่นอยู่แถวนี้แหละ"

    "ขอโทษนะแต่พี่อยากให้เราไปด้วยกัน"

    "แต่ว่า..."เราอยากปฏิเสธแต่เห็นนัยน์ตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความจริงจังเหล่านั้นก็ทำให้เราได้แต่พยักหน้ารับก่อนพี่ไมล์จะยื่นมือมาข้างหน้า "เมล...จับมือพี่ไว้นะ"

    "ค่ะ พี่อย่าปล่อยหนูแล้วกัน"เราพูดพร้อมกับจับมือของเขาก่อนที่เราจะค่อยๆ เคลื่อนไหวไปข้างหน้าพร้อมกันกับที่เราลอยตามหลังเขาไป

    ก็อย่างที่พูดไปพี่ไมล์นะเป็นพี่ชายที่ดีมากและเป็นห่วงคนอื่นยิ่งกว่าใครทั้งหมด ภายใต้รอยยิ้มที่สดใสเหมือนฤดูร้อนและสดชื่นราวกับน้ำมะนาวที่ช่วยดับกระหายไม่ให้เราร้อนเกินไป ฝ่ามืออบอุ่นที่คอยจับเราไว้ไม่ไปไหน

    "แล้วพี่ดาวไม่มาว่ายน้ำเหรอคะ"เราเอ่ยถามขณะที่น้ำเริ่มลึกขึ้นก่อนพี่ไมล์จะหยุดลงพร้อมกับหันหน้ามาหากัน "พี่ดาวเขาเล่นเกมกับสมอล์ในบ้านนะ"

    เล่นเกมกับสมอล์งั้นเหรอ พี่ดาวเนี่ยนะ

    "แล้วเมลเถอะไม่ชอบลงทะเลไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไมถึงได้มาอยู่คนเดียวแบบนี้ หืม"พี่ไมล์ถามพร้อมกับลูบหัวเราแผ่วเบาทำให้เราเผลอดันหัวขึ้นไปให้แนบชิดกว่าเดิม ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลาเราอยู่ใกล้พี่ไมล์แล้ว

    เราจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าเราจะปลอดภัยแน่ๆ

    "จะอ้อนอะไรพี่เนี่ยตัวเล็ก"เขาพูดเมื่อจะชักมือออกแต่เราก็เอามือของเขาจับหัวเราไว้ดังเดิมก่อนจะยิ้มออกมาแต่ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรเสียงคลื่นน้ำก็ดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือปริศนาที่ดึงเราดำดิ่งไปใต้น้ำด้วยกัน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม และโครงหน้าที่ละม้ายคล้ายพี่ไมล์ราวกับฝาแฝด

    แต่ที่แตกต่างก็คงเป็นสายตาที่มองมา

    "มอล์ เธอแกล้งพี่อีกแล้ว"เราโวยวายทันทีที่ขึ้นมาผิวน้ำได้สำเร็จพร้อมกับสายตาแพรวพรายที่มองมาพร้อมกับฝ่ามือที่เสยผมอย่างลวกๆ "จะไม่ให้ผมแกล้งพี่แล้วจะให้ผมแกล้งใคร"

    "เธอก็ไปแกล้งพี่ไมล์สิ"

    "ไม่เอาอะแกล้งพี่ไมล์ สู้แกล้งหินยังสนุกกว่าเลย"

    "พี่ได้ยินนะสมอล์"พี่ไมล์ทำหน้าตานิ่งๆ ใส่แต่เขาเองก็ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ทำให้เราอมยิ้ม เห็นสมอล์ชอบกวนแบบนี้ใครจะรู้ล่ะว่าเขาน่ะขี้หวงพี่ไมล์แบบสุดๆ เลยล่ะ

    "แล้วพี่ดาวล่ะ"

    ขนาดพี่ดาวเรืองเขายังเคยวางก้ามขู่ให้เลิกยุ่งกับพี่ไมล์เลย

    "ทำกับข้าวอยู่"

    แต่จะให้เขาทำได้ยังไงล่ะคะในเมื่อพี่ไมล์น่ะเขาคลั่งรักพี่ดาวเรืองมาก

    "งั้นพี่เข้าบ้านก่อนนะ"ทุกคนเห็นไหมคะขนาดยังพูดไม่จบนะเนี่ย พอรู้ว่าพี่ดาวอยู่คนเดียวก็รีบวิ่งทิ้งน้องไปเลยนะคะ

    สงสัยตำแหน่งพี่ชายที่แสนดีคงสั่นคลอนเร็วๆ นี้แล้วล่ะ

    "พี่เมล..ผมชอบนะ"สมอล์พูดขึ้นพร้อมกับดึงแก้มเราจนยืดออกจากกันแล้วยิ้มตาหยี

    "ยิ้มบ่อยๆละกันนะคุณ"พูดจบเขาก็ลูบหัวเราไปอีกทีพร้อมกับหัวเราะคิกคัก

    สมอล์...เราเป็นพี่เธอนะหยุดทำเหมือนเราเป็นน้องซะที

    หลังจากขึ้นจากน้ำเราก็ไปอาบน้ำชำระล้างร่างกายก่อนจะออกมากินข้าวเย็น นี่ก็วันที่สามแล้วหลังจากเรามาพักผ่อน

    แต่ก็มีอีกหนึ่งสิ่งที่เปลี่ยนไป...

    ตั้งแต่วันนั้นที่เราพลั้งปากบอกว่ากลัว เราก็ไม่ได้ยินเสีนงรพีอีกเลย

    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกันแต่เราก็เริ่มรู้สึกผิดว่าถ้าเสียงที่ได้ยินนั้นหากไม่ใช่ภูตผีวิญญาณตนอื่น หากเป็นรพีจริงๆ เขาจะเสียใจไหมที่เราคิดแบบนั้นออกไป

    ทั้งที่ตอนมีชีวิตรักกันแทบเป็นแทบตาย พอตอนตายกลับหวาดกลัวและผลักไสไล่ส่งขนาดนี้

    "พี่เมล...อิ่มแล้วเหรอครับ"เสียงสมอล์ทักถามทำให้เราพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะไปล้างจานพร้อมกับเปิดประตูเข้าห้อง

    กลิ่นหอมของดอกไม้แห้งเป็นสิ่งแรกที่เราได้กลิ่นแต่พอลองสูดดมดีๆ ทำให้เราเบิกตากว้างพร้อมกับเริ่มมองไปรอบๆ ตัว

    "รพี..."ถ้าเราไม่ได้โหยหาเขาจนกระทั่งคิดไปเอง สิ่งที่เรากำลังเจออยู่คงเป็นตัวที่ยืนยันได้ดี ถึงจะมองไม่เห็น แต่สายลมที่พัดจนผ้าม่านพลิ้วไหวพัดเอาเส้นผมยาวสยาย มันเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้แห้งก็จริงแต่มันมีกลิ่นหนึ่งที่ชัดเจนขึ้นมา

    ดอกมะลิ

    กลิ่นประจำตัวของรพี

    แต่เมื่อไม่นานสายลมก็หยุดนิ่งพร้อมกับกลิ่นที่เจือจางหายไปราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

    ก๊อก ก๊อก

    เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เราหลุดออกจากภวังค์พร้อมกับค่อยๆ เปิดประตูให้สมอล์ "ใครทำอะไรพี่..."เขาเอ่ยทักพร้อมกับปิดประตูแล้วลูบหัวเราเอาไว้ "สมอล์.."

    "รพีเขา...รพี.."

    "ทำไมพี่พีทำไม..."

    "พี่ได้กลิ่นรพี"เราพูดออกมาพร้อมกับสมอล์ที่ดึงตัวเราเข้าไปกอดเอาไว้ "พี่ใจเย็นๆ ก่อนนะ"เขาพูดพร้อมกับเราที่กำลังสะอึกสะอื้นก่อนน้ำตาจะค่อยๆ แห้งเหือดไปแล้วผละออกจากอ้อมกอดของเขา "พี่พอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม คนเก่งของผม"

    "พี่โตกว่าเธอนะ"เราพูดออกมาก่อนจะจับมือเขาแล้วนั่งที่เตียงพร้อมกับเริ่มเล่าลำดับเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอ "พี่คิดว่าพี่เจอพี่รพี"เขาพูดทำให้เราพยักหน้ารับ

    "แค่ได้กลิ่นพี่ก็มั่นใจว่าเป็นเขาแล้วเหรอ"คำพูดของสมอล์ทำให้เราเริ่มคิดหนัก นั้นสินะเราไม่ได้เห็นว่าเป็นเขาซะหน่อย

    แค่ได้กลิ่นมันยืนยันอะไรไม่ได้หรอก

    "แต่ผมว่าพี่ควรห่างจากเรื่องพี่รพีก่อนนะ"

    "..."

    "พี่ควรมีความสุขกับการมาเที่ยวไม่ใช่มานั่งเศร้ากับอดีตแบบนี้"

    ใช่...สมอล์พูดถูก

    เราควรมีความสุขกับปัจจุบัน กับพี่ไมล์ พี่ดาว สมอล์ไม่ใช่จมปลักอยู่กับอดีตที่ผ่านมาใช่ไหม ถึงแม้ว่าอดีตนั้นจะทำให้เรามีความสุขแค่ไหน

    สุดท้ายมันก็เป็นแค่อดีตอยู่วันยังค่ำ...

    "ผมรู้ว่าพี่ชอบอยู่คนเดียวแต่พี่ควรหาใครสักคนมาอยู่เคียงข้างพี่ได้แล้วนะ"

    "..."

    "ใครสักคนที่จะสามารถดูแลพี่ไปตลอด"

    "อะไร ทำไมเราถึงอยากให้พี่มีแฟนจังคะ"กับเรานะพูดบ่อยมากส่วนกับพี่ไมล์ก็ไปกีดกันเขาสุดฤทธิ์

    รอให้ถึงที่ตัวเองบ้างแล้วจะรู้สึกว่าแฟนนะมันไม่ได้หากันง่ายๆ เหมือนวันไนต์ที่เธอชอบหรอกนะ

    "ตั้งแต่พี่รพีเสียไป พี่เองก็ดูยิ้มน้อยลง เวลาอยู่กับผมอยู่กับไมล์น่ะไม่เท่าไหร่"

    "...."

    "แต่เวลาพี่อยู่คนเดียว พี่ก็มักจะคิดถึงเขา ผมพูดถูกใช่ไหม"ใช่...เธอพูดถูกทุกอย่างเลยสมอล์

    เธอนะชักจะรู้จักเราดียิ่งกว่าเรารู้จักตัวเองอีกนะ

    เราคุยกันอีกสักประโยคก่อนจะแยกย้ายโดยที่สมอล์เองก็ต้องกลับไปทำงานของเขาส่วนเราก็กำลังนั่งเขียนไดอารี่เล่มโปรด

    ถึงปัจจุบันจะมีเทคโนโลยีต่างๆ มีแอปพลิเคชันมากมายแต่สิ่งเหล่านั้นมันก็แทนสมุดกับปากกาเวลาจดบันทึกเรื่องราวไม่ได้อยู่ดี

    ตัวอักษรถูกขีดเขียนถึงเป็นข้อความพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าว่าโลกใบนี้มันหมุนไปแค่ไหน

    และถ้าเป็นไปได้...เราก็อยากให้เธอได้มาเห็นได้มามองด้วยกัน

    มันคงจะดีไม่น้อยเลยนะถ้ามีโอกาสนั้น

    แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก...

    เราปิดสมุดไดอารี่ลงพร้อมกับเหม่อมองไปยังกรอบรูปที่มีภาพของเราอยู่ในนั้น

    เพราะนี่มันคือชีวิตจริงไม่ใช่ละครหรือหนังที่จะมีโอกาสอีกครั้งที่จะบอกลาหรือแก้ไขเรื่องราวต่างๆ ให้จบลงด้วยดีซะหน่อยแต่จะทำยังไงได้ในเมื่อเราปักใจเชื่อไปแล้วว่าเธอยังอยู่

    ยังอยู่รอบๆ ตัวเรา...

    สายลมที่พัดผ่านพร้อมกับท้องฟ้าที่เริ่มมืดมิดทำให้เราหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมใส่เพื่อออกไปนั่งรับลมข้างนอกเสียหน่อย

    "นั่งแค่แป๊บเดียวนะเดี๋ยวจะไม่สบาย"พี่ไมล์บอกแบบนั้นทำให้เราพยักหน้ารับ ถึงเราจะป่วยบ่อยแต่ก็ใช่ว่าเราจะอ่อนแอขนาดนั้นซะหน่อย

    รพีตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ

    เธอจะยังชอบถ่ายรูปอยู่ไหม เธอจะยังนั่งเขียนไดอารี่อยู่หรือเปล่า

    และเรื่องของเราเธอจะยังจำมันได้อยู่ไหม

    ในวันนี้เธออาจจะอยู่ไกลแสนไกลในที่ที่เราไม่สามารถหาเธอเจอหรือไม่

    เธออาจจะนั่งอยู่เบื้องหน้าเราก็ได้แค่เรามองไม่เห็นเธอก็เท่านั้นเอง

    "พี่สาวคะ มืดแล้วไม่กลับบ้านเหรอ"เสียงเด็กสาวในชุดว่ายน้ำสีดำเอ่ยทักพร้อมกับถือลูกบอลในมือ ใบหน้าขาวจิ้มลิ้ม นัยน์ตากลมโต ปากนิดจมูกหน่อย เสริมให้เด็กคนนี้ดูน่ารักน่าชัง "ยังค่ะ แล้วหนูยังไม่กลับอีกเหรอคะ"เราเอ่ยถามทำให้น้องส่ายหน้าจนหางม้ายุ่งเหยิง "หนูยังกลับไม่ได้หรอกค่ะ"

    "..."

    "คุณแม่ยังไม่มานะคะ"ถึงจะดูแปลกใจเล็กน้อยแต่ถ้าจะปล่อยให้เด็กตัวจ้อยนี่อยู่คนเดียวก็กระไรอยู่ "หนูชอบเล่นบอลเหรอคะ"เราเอ่ยถามทำให้เธอพยักหน้ารับพร้อมกับยิ้มกว้างก่อนแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้า "ชอบ ชอบมากเลยค่ะ แต่หนูไม่รู้จะเล่นกับใคร"เสียงเศร้าสร้อยพร้อมกับใบหน้าซึมๆ ทำให้เราเริ่มใจอ่อน

    "งั้นหนูมาเล่นกับพี่ไหมล่ะ"

    "พี่สาวพูดจริงๆ เหรอคะ"เด็กน้อยดูเหมือนไม่เชื่อแต่พอเราพยักหน้ารับก็ทำให้เธอยิ้มออกมา

    ถือซะว่าเล่นกับเธอจนกว่าคุณแม่จะกลับละกัน..

    "แล้วพออธิบายให้พี่ได้ไหมว่ามันเล่นยังไง"เราถามเมื่อน้องเริ่มโยนบอลมาให้แต่เราก็ยืนเฉยๆ จนน้องมาแย่งบอลกลับไปแทน"ถ้าพี่สาวอยากชนะก็ต้องแย่งบอลจากหนูไปให้ได้สิคะ"เธอพูดพร้อมกับเริ่มวิ่งหนี "พี่ว่าหนูเข้ามาดีกว่านะคะ"เราพูดเมื่อรู้สึกว่าน้องเริ่มวิ่งเข้ามาเกือบถึงทะเลแต่ดูเหมือนว่าเด็กน้อยจะไม่รู้สึกอะไร

    "พี่สาวกลัวเหรอคะ"เธอถามพร้อมรอยยิ้มที่เริ่มจางหาย "พี่เปล่า พี่แค่..."

    "พี่สาวไม่อยากเล่นกับหนูเหรอ"เด็กหญิงเริ่มพูดด้วยเสียงสั่นๆ ทำให้สเมลค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ "คือพี่..."

    "พี่สาวไม่อยากเล่นกับหนู"เธอพูดพร้อมกับค่อยๆ เดินถอยหลังไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะทำในสิ่งที่ไม่คาดคิด

    ร่างของยัยหนูค่อยๆ หายไปกับผืนน้ำในขณะที่เรากำลังตกใจจะไขว่คว้าเด็กตรงหน้าเอาไว้

    สายน้ำก็ท่วมหัวเอาเสียแล้ว....

    เราพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาผิวน้ำแต่ก็เหมือนถูกมือที่มองไม่เห็นดึงเอาไว้ไม่ว่าจะพยายามหนีเท่าไหร่ก็หนีไม่ออก

    และกำลังที่ลมเฮือกสุดท้ายจะหมดลงก็มีฝ่ามือของใครสักคนที่ดึงเราขึ้นมาตากเงื้อมมือของพญามัจจุราช

    ราวกับเทพบุตรที่มาฉุดเอาจากขุมนรก

    เราไอค่อกแค่กออกมาเล็กน้อยเมื่อเผลอกลืนเอาน้ำทะเลเข้าไปพร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัวและกำลังจะเงยหน้าไปขอบคุณที่ช่วยชีวิตเราเอาไว้ก็เจอกับแผ่นหลังสีแทนที่ใส่เพียงกางเกงว่ายน้ำตัวเล็ก

    "ไม่มีใครบอกคุณหรือไงว่าดึกดื่นป่านนี้เขาห้ามออกมาที่ทะเล"

    ก็ไม่นะสิพูดออกมาได้ ถ้าเกิดเรารู้ว่าท้องทะเลที่สวยงามเหมือนสวรรค์สร้างในตอนกลางวันจะกลายเป็นดั่งนรกในตอนกลางคืนแบบนี้

    เราคงไม่ออกมานั่งรับลมแบบนี้หรอก

    +++++

    Talk : สิ่งที่เราไม่เห็นใช่ว่ามันจะไม่มี

    Talk 2 : ถ้าใครยังไม่เคยอ่านเรื่องของพี่ไมล์กับพี่ดาวแนะนำเลยนะคะ ชื่อเรื่องว่า Smile coffe & Tea lemon หรือ #ชาของคุณยิ้ม นะคะ

    @Choloris_


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×