ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เหมือนเมืองต้องมนต์ [รีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #1 : วันที่สดใสหรือเช้าวันใหม่ที่ไม่เหมือนเดิมกันนะ

    • อัปเดตล่าสุด 23 ต.ค. 66


     

    มูลี่ไม้ไผ่ถูกดึงขึ้นเผยให้เห็นบานกระจกขาวใสวาววับ พร้อมกับแสงแดดอันอบอุ่นของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามาในร้านเบเกอรี่บ้านเกื้อกูล หญิงสาวคนนึงยืนมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง เห็นรถราสัญจรผ่านไปมาอยู่ไม่ไกล

    “เช้าที่สดใสเริ่มต้นขึ้นแล้ว”  เสียงเจื้อยแจ้วดังขึ้นอย่างกระตือรือร้น 

    ทว่าเสียงที่แสดงถึงความเอื่อยเฉื่อยก็พูดขึ้นต่อในทันที “เช้าวันใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม” น้ำมนต์ หญิงสาวตัวสูงอยู่ในเสื้อยืดตัวโคร่ง กางเกงวอร์มยาว พูดแล้วถอนหายใจอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก  ก่อนจะหันหลังให้กับภาพที่เห็นด้านนอกร้าน มาประจัญหน้ากับเด็กสาวเจ้าของเสียงเจื้อยแจ้วก่อนหน้านี้ 

    “พี่ไม่อยากไปอยู่ที่อื่นเลยพราว” น้ำมนต์พูดด้วยเสียงเบา  เพราะความกลัวว่าผู้เป็นแม่จะมาได้ยิน 

    “เอาน่าพี่มนต์ ถึงขั้นที่แม่เอ่ยปากฝากฝังเราไว้กับแม่เมย์ขนาดนั้น เขาก็คงมีธุระของตัวเองนั่นแหละ” น้ำพราว พูดพร้อมกับเดินมาลูบไหล่พี่สาวของตัวเองปรอย ๆ 

    “แล้วเรื่องอะไรล่ะ”

    “พี่ไม่รู้ แล้วฉันจะไปรู้ไหมล่ะ" น้ำพราวพูดพร้อมยักไหล่ไหว ๆ "ถ้าแม่อยากให้เรารู้เดี๋ยวก็บอกเองแหละ แต่ฉันเดาว่าแม่คงไม่อยากให้พวกเราเป็นกังวล เขาก็เลยไม่บอก ทางที่ดีเราเองก็แค่อย่าทำให้แม่เป็นห่วงก็พอแล้ว”

    “พี่น่าจะเกิดหลังพราวนะ” 

    “ทำไมอะ”

    “ก็พราวมีความคิดเป็นผู้ใหญ่กว่าพี่อีก” น้ำมนต์ตัดพ้อ พร้อมถอนหายใจพรืด ในเวลานี้ทั้งที่เธอเป็นพี่คนโต แต่กลับทำตัวไม่รู้ความยิ่งกว่าอะไร 

    น้ำพราวหลุดขำ กระทุ้งศอกใส่พี่สาวของเธอเบา ๆ “พี่อย่ามายกยอกันน่า ที่พี่มีอาการงอแงอยู่ในตอนนี้ ก็เพราะพี่เป็นเด็กติดแม่ ติดบ้านเฉย ๆ แต่ในตอนปกติพี่เป็นคนที่พึ่งพาได้สุด ๆ เลยนะ”

     ด้านพี่สาวได้ยินน้องพูดอย่างนั้นก็กำลังจะตอบกลับ ทว่าเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นก่อน ทำให้สองพี่น้องต้องยุติบทสนทนาโดยฉับพลัน "พร้อมกันหรือยังลูก ลืมอะไรกันไหม?" น้ำหอม หญิงวัยกลางคน เอ่ยถามลูก ๆ ของตัวเอง ในขณะที่กำลังเดินออกมาจากทางด้านหลังร้านพร้อมกับผู้หญิงท่าทางใจดีอีกคน 

    "ทางนี้พร้อมมากค่ะ แม่นั่นแหละ เดินทางไกลถ้าลืมของก็วุ่นวายเลยน้า" เป็นน้ำพราวที่ขานตอบน้ำเสียงสดใส เด็กสาวรีบถลาไปคล้องแขนผู้เป็นแม่ให้ไว ดูท่าทางแล้วช่างเป็นเด็กที่แก่นเซี้ยวพอตัว 

    "ตัวแสบ" น้ำหอมว่าอย่างมันเขี้ยว แล้วจึงหันไปถามลูกสาวคนโตอีกทาง

    "น้ำมนต์ล่ะลูก"

    เมื่อแม่หันมาถามอย่างใจดี น้ำมนต์ก็รีบปั้นรอยยิ้มเต็มแก้ม พูดตอบ "ไม่ลืมค่ะแม่ แต่ถ้าลืมอะไรไว้ค่อยกลับมาเอาได้ค่ะ"

    คำตอบของหญิงสาวทำเอาผู้เป็นแม่ขมวดคิ้วเป็นปม สีหน้าเริ่มครุ่นคิดอะไรบางอย่างก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงอย่างใจดีเช่นเคย ทว่ามุมปากกลับมีรอยยิ้มเลศนัย "จะดีกว่าถ้าเราไม่ต้องกลับไปกลับมานะ เช็คดูเลยลูกว่าลืมอะไรไหม ยังพอมีเวลาจ้ะ"

    สิ้นประโยคข้างต้น น้ำพราวถึงกับหลุดขำออกมาเสียงดัง "แม่ก็ พี่มนต์เขาหาข้ออ้างไปอย่างนั้นเอง คนละเอียดรอบคอบแบบนี้ไม่ลืมหรอกค่ะ ถ้าเป็นหนูก็ว่าไปอย่าง"

    เมื่อเห็นว่ายัยเด็กตัวแสบร่าเริงมากกว่าปกติ น้ำหอมก็เกิดความมันเขี้ยวอีกหน เธอก็หันมาพูดแกล้งเผ็ดน้ำพราวบ้าง  "งั้นพอดีเลย เราก็เช็คพร้อมพี่เขาอีกรอบจะเป็นไรไป" 

    เด็กสาวตัวแสบได้ยินอย่างนั้นก็ตาโต หันไปหาตัวช่วยอีกทาง "น้าว่านช่วยด้วย พราวไม่ได้ลืมอะไรจริง ๆ นะ" น้ำพราวพูดแล้วทำแก้มป่องอย่างออเซาะ ว่าน หรือน้าว่าน ที่ตนเรียก ผู้หญิงที่เดินมาพร้อมกับน้ำหอมในตอนแรก เธอเป็นผู้จัดการร้านเบเกอรี่บ้านเกื้อกูล 

    ซึ่งที่เห็นว่ามีท่าทีสนิทสนมกันขนาดนี้ก็เพราะว่าน เธออยู่กับน้ำหอมมาตั้งแต่สมัยสาว ๆ ก่อนจะมีร้านเบเกอรี่นี้เสียอีก จนถึงตอนนี้ที่ทั้งคู่ต่างมีครอบครัว ว่านก็ยังอยู่คอยช่วยเหลือพร้อมทั้งทำงานกับน้ำหอมเสมอ 

    แม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่น้ำหอมกับว่านก็นับถือกันเป็นพี่เป็นน้องมาตั้งแต่ที่รู้จักกันแรก ๆ นับว่าทั้งคู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายสิบปีทีเดียว

    “จ้า ไม่ลืมอะไรก็ดีแล้ว” ว่านพูด ก่อนหันไปมองน้ำมนต์ที่อยู่อีกทางก็ยิ้มให้อย่างจนใจ "น่าเสียดายที่น้าอยู่กับครอบครัวน้าบอยเขา ไม่อย่างนั้นคงให้พวกเราไปอยู่ด้วยกันแล้ว" ด้านน้ำมนต์เองก็เข้าใจดี เธอยิ้มบางเป็นการตอบกลับคำพูดของว่าน    

    "โอเค งั้นไปส่งแม่เราที่สนามบินกันก่อน แล้วค่อยไปบ้านคุณเมย์แล้วกันเนาะ" ว่านพูดเสร็จสรรพ น้ำหอมเองก็พยักหน้าเห็นด้วย ว่านจึงหันไปชวนน้ำพราวช่วยกันยกกระเป๋าสัมภาระไปขึ้นรถในทันที   

    น้ำหอมมองน้าหลานช่วยกันยกของด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนหันมาพูดกับน้ำมนต์ที่กำลังเตรียมยกกระเป๋าอีกทาง “อ่ะ นี่ น้ำมนต์ลูก แม่ปิดบ้านแล้ว กุญแจสำรองของบ้านกับร้านเราก็เก็บไว้ด้วย เผื่อฉุกเฉินหรือลืมของสำคัญจริง ๆ ค่อยกลับมาเอานะ ส่วนกุญแจร้านอีกอันแม่ให้น้าว่านถือไว้" น้ำมนต์ยิ้มแห้ง พร้อมกับรับกุญแจมาถือไว้ 

    จากประโยคที่ผู้เป็นแม่พูดข้างต้น หญิงสาวได้ยินชัดเจนดีว่ามีจุดไหนที่เน้นเสียงกำชับหนักแน่น นั่นก็คือคำว่า สำคัญจริง ๆ ค่อยกลับมา นั่นก็แปลว่าแม่ไม่อยากให้เธอกลับมาที่บ้านเท่าไหร่นัก 

    'สมกับเป็นแม่จริง ๆ' น้ำมนต์คิดในใจ ทั้งชื่นชมผู้เป็นแม่ ทั้งโอดครวญอย่างชอกช้ำเพราะแม่ดันรู้ทันความคิดของเธอ หญิงสาวมองไปยังประตูหลังร้าน เบื้องประตูบานนั้นเป็นบ้านอันแสนอบอุ่นของเธอ ก่อนจะกวาดสายตามองรอบ ๆ ร้านเบเกอรี่อย่างอาลัยอาวรณ์ จนน้ำหอมอดจะยิ้มเอ็นดูลูกสาวไม่ได้

    “บ้านกับร้านมันไม่หายไปไหนหรอกน่า ไว้แม่จะรีบกลับมา แล้วพวกเราตั้งเตาหมูกระทะกันใ้ต้ต้นคูณนะ” 

    น้ำมนต์เบะปากคล้ายคนอยากจะร้องไห้อย่างไม่ปิดบัง ทำเอาผู้เป็นแม่หลุดยิ้มส่ายหัวเล็ก ๆ ก่อนเดินมาลูบศีรษะลูกสาวคนโตปรอย ๆ 

    “เดินทางปลอดภัยนะแม่ ไว้โทรคุยกันนะ” ว่าจบน้ำมนต์ก็โผเข้ากอดผู้เป็นแม่แน่น ทำเอาน้ำหอมหลุดขำพรืด แต่ก็กอดตอบลูกสาวของตนอย่างรักใคร่ ทว่าบรรยากาศกำลังซึ้ง ๆ ก็พลันหายวับไปในไม่กี่วินาทีต่อมาที่น้ำหอมพูดจบประโยค

    “เรื่องเมื่อตอนเด็ก น้องเมืองเขาจำไม่ได้หรอกลูก เราเองก็อย่าไปคิดมากสิ” 

    “แม่!” น้ำมนต์ผละออกจากอ้อมกอดในทันที เธออ้าปากพะงาบ ๆ สีหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออย่างรวดเร็ว 

    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ล้อเล่นจ้ะ แม่ล้อเล่น” แม้จะพูดว่าล้อเล่น แต่เสียงหัวเราะกลับดังกระหึ่มขนาดนี้ น้ำมนต์ยืนมองแผ่นหลังของคนที่ทิ้งระเบิดเอาไว้แล้วรีบเดินหัวเราะร่วนออกไปอย่างพูดอะไรไม่ออก 

    ผู้เป็นแม่คนนี้รู้แม้กระทั่งอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้เธองอแงไม่อยากไปอยู่บ้านของแม่เมย์…นั่นก็คือเรื่องเมื่อตอนเด็กของเธอในบ้านหลังนั้น

    ไม้เมือง คือชื่อของเด็กชายคนนั้นที่เธอจำได้ไม่เคยลืม หนำซ้ำภาพในวันนั้นก็ยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ ราวกับย้ำเตือนว่ามันเคยเกิดขึ้นจริง และตัวเธอเองก็ไม่มีทางที่จะลบมันออกจากความทรงจำได้อย่างแน่นอน 

      “ขอให้หมอนั่นไม่อยู่บ้าน สาธุ สาะู สาธุ” หญิงสาวว่าพร้อมกับพนมมือยกใส่หัวรัว ๆ

    และในเวลาต่อมา สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็ทำให้เธอเริ่มสงสัยว่า หรือตัวเองนั้นจะเป็นคนบาปเกินไป สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงไม่รับฟังคำขอของเธอกันนะ…

    ………………….

    สวัสดีค่ะ จูลีลี่ ค่ะ ><

    ด้านล่างนี้คือลิงก์ช่องทางอื่น ๆ ในการติดตามหรือพูดคุยกับจูนะคะ

    facebook : https://shorturl.asia/NdB4W

    dekd : https://shorturl.asia/q17Gb

    readAwrite : https://shorturl.asia/jUx1L

    twitter : https://twitter.com/julieforwrite

    ขอให้ผู้ที่ผ่านมาจรรโลงใจในการนิยาย ถ้ามีความสุขแม้แต่เล็กน้อยเราก็ยินดีอย่างมาก แต่หากอ่านแล้วเกิดความทุกข์ ไม่สบายใจจูก็ขออภัยไว้ก่อนด้วยนะคะ

    ทุกคนสามารถร่วมพูดคุยแสดงความคิดเห็นได้เลยน้า เพียงแต่ใช้ถ้อยคำที่ไม่หยาบคายเกินไป ไม่พาดพิงถึงผู้อื่นในทางเปรียบเทียบ หรือสร้างความเสียหายทางด้านจิตใจหรืออื่น ๆ นะคะ

    จูลีลี่ขอขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมมาก ๆ เลยค่ะ ขอบคุณค่ะ <3

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×