ตอนที่ 25 : Chapter 23
-23-
ในเวลาเกือบตีสาม ทั้งห้องของคิมจงอินเต็มไปด้วยขวดเหล้าและสภาพของเพื่อนๆที่เหลือแค่ชานยอล เซฮุน คริส จื่อเทาเท่านั้น ที่เหลือก็ขอตัวไปนอนรอก่อน ซึ่งก็คงหลับกันไปแล้วล่ะป่านนี้
“เห้ยยยย พวกมึงงงงงงง” เสียงยานครางของอู๋อี้ฟานดังขึ้นมาพร้อมกับปลายเท้าที่สะกิดเพื่อนแต่ละคน ชานยอลผงกหัวขึ้นมาจากโซฟา ใบหน้าแดงกร่ำด้วยพิษเหล้าเบียร์เกือบลังที่หมดไปในเวลาเพียงห้าชั่วโมง
“ว่างายยยย” เซฮุนปรือตาลุกขึ้นมามองหน้าเพื่อนแต่ละคนที่สภาพไม่ต่างกับหมา หมาที่ว่านี่รวมตัวเองไปด้วยนะ กูนี่ตัวหมาเลย....
“อยากแข่งรถว่ะ อึก” คริสลากตัวไปพิงกับแผ่นหลังของเซฮุน เขาสองคนมักจะไปแข่งรถด้วยกันบ่อยๆ แน่นอนว่านักบิดหลายคนต้องรู้จักแก๊งค์นี้เป็นอย่างดี แต่สนามเดิมอยู่ๆกปิดตัวลงแบบงงๆ เซฮุนเลยต้องถ่อไปหาสนามแข่งรถที่อื่นมา จนได้แนะนำว่าสนามแข่งรถเจวายเนี่ยมีคนใช้บริการเยอะเลยว่าจะไปลองซักหน่อย
“อืออออ ตอนนี้คือพวกมึงสมควรจะแยกย้ายกันไป....นอนนนนน” ชานยอลขว้างเปลือกขนมใส่เพื่อนตัวเอง แม่นบ้างไม่แม่นบ้างแล้วแต่จังหวะและความเมา
“เออออออ กลับโว้ยยยยย” เซฮุนยันตัวขึ้นแล้วเดินโซเซประคองตัวเองไปเปิดประตูห้องนอนที่ลู่หานนอนเล่นกับคยองซู ก็พบว่าแฟนหน้าหวานได้หลับไปแล้ว
ชานยอลก็ค่อยๆคลำทางไปที่ห้องรับรองแขกที่แชรินกับแบคฮยอนขอตัวมานอนก่อน เห็นพี่สาวกับเมียตัวเองรักกันดีชานยอลก็อุ่นใจ แต่ปัญหาตอนนี้คือใครจะขับรถ....
“แบคฮยอน แชริน ตื่นๆ” ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งแหมะกับพื้น เอาคางเกยฟูกที่นอนไว้ มือก็จิ้มแก้มของแบคฮยอนที่ยังเอาแต่หลับไม่สนใจส้นตีนอะไรทั้งนั้น ส่วนแชรินก็เริ่มขยี้ตาแล้ว
“โห อีชิบหายกว่าจะกลับ แล้วกลิ่นเหล้านี่หึ่งเลย” แชรินขมวดคิ้วมองน้องชายตัวเองที่นั่งหลับตาพยักหน้าส่งๆ รับกุญแจรถมาจากมือหนาก่อนจะลากร่างควายๆที่เดินไม่ตรงทางกลับบ้าน ตามมาด้วยแบคฮยอนที่ยังไม่ตาสว่างดี
แชรินสตาร์ทรถคันหรู พยายามเรียกสติของตัวเองให้กลับมาเต็มร้อย เธอเองก็เมาเหมือนกันแต่ยังพอมีสติ ไม่เหมือนไอ้ชานยอลที่เมาเป็นหมาอยู่ข้างหลัง เห็นสภาพแล้วอยากจะถอดส้นสูงปาหัวแม่งซะจริงๆ
“แบคฮยอน คืนนี้ไปนอนบ้านใหญ่ก่อนนะ”
“ได้ฮะ” คนตัวเล็กพยักหน้ารับ เพราะถ้ากลับหอแบคฮยอนก็ต้องดูแลไอ้ชานยอลอีก งั้นขอโยนหน้าที่ไปให้พี่แชรินแล้วกันนะ ไหนๆพี่น้องเขาก็ไม่ได้เจอกันตั้งนานนี่นา....
รถยนต์คันหรูจอดลงที่หน้าบ้านหลังใหญ่ แชรินพยุงชานยอลคนละข้างกับแบคฮยอน หญิงสาวขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อนึกอยู่แว้บๆว่าน่าจะลืมอะไรซักอย่าง
อ่า....ให้ตายสิแชรินลืมกระเป๋าไว้ที่ห้องของจงอิน ในนั้นมีเอกสารสมัครงานอยู่ด้วย
“แบคฮยอน เดี๋ยวพี่ไปเอาของก่อนนะ” แชรินวิ่งย้อนกลับมาที่ห้องของชานยอล พร้อมกับแบมือของกุญแจรถจากน้องสะใภ้
“ตีสามเนี่ยนะ ค่อยไปเอาพรุ่งนี้มั้ยพี่” แบคฮยอนยืนเม้มปาก เขารู้สึกเป็นห่วงพี่แชรินแปลกๆ ต่อให้จะเก่งแค่ไหนยังไงซะปาร์คแชรินก็เป็นแค่ผู้หญิงคนนึง
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่กลับมานะ” แชรินคว้ากุญแจรถแล้ววิ่งลงไปข้างล่างทันที ตอนนี้ตีสามจะครึ่งแล้ว เธอขอให้จงอินยังไม่ปิดห้องเถอะนะ ในกระเป๋านั้นมีทั้งโทรศัพท์ บัตรเครดิต เอกสารสมัครงาน พูดง่ายๆเลยคือมีแต่ของสำคัญมากๆทั้งนั้น
เนื่องจากเวลานี้ไม่ค่อยมีคนขับรถมากนัก นอกจากพวกผีเสื้อราตรีที่ขับรถมาเที่ยวกัน แต่แชรินก็เหยียบเกือบมิดคันแร่งเพราะเธอเองก็อยากนอนเต็มทีแล้ว
ระยะทางที่มืดและเงียบสนิททำเอาแชรินเริ่มกลัวขึ้นมาหน่อยๆ ปลายเท้าเรียวกดคันเร่งจนมิด เสียงล้อบดกับถนนและฝุ่นที่ออกมาจากท่อไอเสียของรถไม่ได้เรียกความสนใจของเธออย่างใดเป้าหมายคือคอนโดของจงอิน รีบเอากระเป๋าและกลับบ้านให้เร็วที่สุด
รถคันสวยจอดที่ชั้นใต้ดินของคอนโด แชรินรีบขึ้นลิฟต์ไป ในใจก็ภาวนาขอให้เพื่อนน้องชายใจดีกับตัวเองสักครั้ง
“จงอิน จงอิน เอากระเป๋าให้พี่หน่อย!” เสียงแหบแหลมเอ่ยเรียกเจ้าของห้อง ไม่นานประตูก็เปิดออกตามด้วยสภาพงัวเงียของคยองซู หนุ่มน้อยพยายามยิ้มให้ถึงแม้ว่าตาจะปิดอยู่รอมร่อ แชรินผงกหัวขอโทษขอโพยก่อนจะรับกระเป๋าแชแนลสีดำสนิทมากอดไว้
“พี่แชรินฮะ เดี๋ยวให้จงอินไปส่งดีไหม ดึกมากแล้ว....” คยองซูทำท่าจะหันกลับไปเรียกจงอินแต่ก็ถูกหญิงสาวคว้าข้อมือไว้ แชรินส่ายหัวแล้วยกยิ้มให้
“ไม่เป็นไร พี่ขับรถมา ขอบคุณมากนะคะ”
“เดินทางดีๆนะครับ...” คยองซูโบกมือลาพี่สาวคนสวย แชรินยิ้มรับอีกครั้งแล้วรีบวิ่งลงมาจนถึงลานจอดรถอีกครั้ง ไม่รู้ว่าเมาหรือว่าอะไร เธอรู้สึกเหมือนถูกจ้องมาตั้งแต่วิ่งออกมาจากลิฟต์แล้ว
แชรินรีบออกตัวจากคอนโดอย่างรวดเร็ว จนมาถึงถนนใหญ่ มีรถยนต์รุ่นพอร์ช911 สีแดงสดขับตามมา พยายามไม่คิดอะไรเพราะมันก็ปกติอยู่แล้วที่จะมีคนขับบนถนนเดียวกัน แต่นี่ไม่ใช่...รถยนตร์คันสีแดงสดเปิดไฟสูงจี้ตูดบีเอ็มป้ายแดงที่เหยียบคันเร่งหนี ขับจี้กันแบบนี้ไม่ตลกแล้ว ไม่ตลกแล้วจริงๆ....
“เหี้ยอะไรวะเนี่ย....” แชรินพึมพำเสียงเบาเมื่อรถคันหลังเริ่มตีเทียบขึ้นมาเป็นสองเลนส์พร้อมกับปาดหน้าตัวเองไปมาเป็นการกวนประสาทและท้าแข่งไปในตัว เรียกอารมณ์เลือดร้อนจากหญิงสาวได้ไม่ยาก
BMW คันหรูและพอร์ชขับตีคู่กันมากลางถนน เสียงเครื่องยนต์คำรามลั่นเนื่องจากการเหยียบคันเร่งของคนขับทั้งสอง ถนนกลายเป็นสียางบดเบียดเป็นรอยเต็มไปหมด
แชรินปรายตาไปมองคู่แข่ง เห็นเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่อายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับตัวเอง ผู้ชายคนนั้นเหยียบรถขึ้นมาตีคู่กันพร้อมกับเปิดกระจกรถแล้วหันไปมองแชริน ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ยอมแพ้เปิดกระจกรถของตัวเองบ้างแล้วมองหน้าไอ้หมอนี่แบบไม่หลบสายตา
จนกระทั่งเกือบถึงถนนของแถวบ้านแล้วพอร์ชคันสวยกลับข้ามเลนส์มาเบียดกับบีเอ็มจนเต็มถนน แชรินพยายามหักพวงมาลัยหนีแต่ก็ถูกเบียดจนเกือบตกถนน จนในที่สุดรถคันสีแดงสดก็ขับมาปาดหน้าขวางถนนไว้ไม่ให้หญิงสาวขับไปทางอื่น พร้อมกับร่างสูงๆของเจ้าของรถคันนั้น
แชรินแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างกล้าๆกลัวๆ ถามว่ากล้าสู้ไหมตอบเลยว่ากล้า แต่นี่มันผู้ชาย ต่อให้แชรินจะเก่งแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิง แต่หญิงสาวก็ทำใจดีสู้เสื้อ เอนหลังพิงพนักพิงร้อมกับจุดสูบบุหรี่ทำท่าทีไม่ทุกข์ร้อนอะไร มือเรียวกดปุ่มเปิดกระจกรถลางมองหน้าผู้ชายร่างสูงคนนี้ด้วยสายตาไม่สะทกสะท้าน
“ฮึ...ไงคนสวย พี่สาวไอ้ชานยอลหรอ ” แชรินไม่ตอบเพียงแค่เอียงคอทั้งที่ปากยังคาบบุหรี่แบรนด์ดังจากเมืองนอกอยู่ คิ้วสวยเลิกมองคนตรงหน้าเหยียดๆ
“หยิ่งซะด้วยแฮะ” มือหนาเอื้อมมาลูบแก้มของแชรินเบาๆอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ต้องรีบชักออกเพราะแชรินสะบัดหน้าไปอีกทางให้ปลายไฟที่บุหรี่เฉียดกับมือของคนตรงหน้า
“เก่งพอตัวนี่นา ทำไมน้องชายตัวเองถึงได้ต่างกับพี่ขนาดนี้ล่ะครับ รู้มั้ย ว่าไอ้ชานยอลน่ะหมาหมู่ น่าอายนะ เหมือนจะเก่ง...แต่ก็ไม่”
“หึ...” แชรินสะบัดเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ เธอไม่อยากจะปากดีเลยจริงๆแต่ขอเถอะนะ ให้ไอ้ชานยอลกระทืบไอ้เหี้ยนี่ให้จมตีนซักที ปากดีนัก....
“ไม่พอใจหรอ ว้า...ผมก็ขอโทษด้วยนะ แต่ดูจากการกระทำของพวกคุณแล้วเนี่ย ไม่เก่งเอาซะเลย ถ้าเจ๋งจริง พรุ่งนี้ขอ ‘เจอ’ แบบตัวต่อตัวหน่อยนะครับ อ้อ...แล้วไม่ต้องกลัวว่าพวกผมจะรุม เพราะพวกคุณก็คงเอาคนมาไม่น้อยเหมือนกัน” มือหยาบล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองแล้วหยิบกระดาษแข็งใบเล็กขึ้นมา โยนใส่ตักของแชรินพร้อมกับทำหน้าตาทาทาย
“จำชื่อผมไว้นะครับคุณแชริน....”
“...........”
“ลีจุนยอง เจ้าของสนามแข่งรถเจวาย ยังไงก็...ขอเชิญหน่อยนะครับ”
“เราได้เจอกันแน่ๆ”
แชรินเลิกคิ้วมองผู้ชายหน้าตาดีคนนี้ที่กำลังยืนเอามือค้ำกระจกอยู่ พร้อมกับริมฝีปากสีแดงสดที่พ่นควันบุหรี่จนฟุ้งใส่ใบหน้าหล่อจนขมวดคิ้วแน่น
“Bye , x J”
59%
ปาร์คชานยอลรู้สึกหนักหัวขึ้นมาดื้อๆหลังจากโดนเขย่าตัวโดยคนข้างๆ แบคฮยอนนั่งอยู่ข้างเตียง มือเรียวยังคงวางอยู่ที่ไหล่แกร่ง ห้องหมุนคว้างจนเขาอยากอ้วก สาเหตุคงไม่พ้นเพราะไปเมาเป็นหมาที่ห้องไอ้จงอินแหง แต่ชานยอลก็ไม่ได้มีอาการแฮงก์แบบนี้มานานมากแล้วนะ แสดงว่าเมื่อคืนเขาคงเมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลยละมั้ง
"ชานยอล ตื่นได้แล้ววววววว" คนตัวเล็กไถหน้าลงกับหมอนใบสีขาว เอียงหน้าไปมองคนข้างๆที่ยังเอาแต่นอนลืมตามองเพดานห้องอยู่ แก้มขาวๆบีบทับกับหมอนจนปากแดงๆห่อเป็นรูปวงกลม ชานยอลพลิกตัวไปมองแบคฮยอนตรงๆ มือหนาแนบแก้มย้วยๆไว้ก่อนจะส่ายไปมาก่อนจะห่อปากตัวเองกดจูบย้ำๆที่ริมฝีปากอีกคน ปลายจมูกก็เอาแต่ฟัดแต่หอมไปทั่วหน้าแฟนตัวเล็ก ต้นแขนก็ล็อกคอแบคฮยอนไว้กันคนตัวเล็กดิ้นหนีจนตกเตียง หรือบางทีชานยอลก็อาจจะหมั่นเขียวจนกดแบคฮยอนแล้วฟัดให้จมเตียงเลยก็ได้
"โอ้ยยย ลุกดิจะบ่ายแล้วเนี่ย" แบคฮยอนออกแรงดิ้นนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรในเมื่อทั้งตัวโดนชานยอลล็อกไว้หมดแล้ว ผ้าห่มผืนหนาถูกปลายเท้าตวัดขึ้นมาคลุมทั้งสองร่าง ดวงตาเรียวเบิกกว้างตกใจเมื่อภาพทัศน์มืดเพราะโดนคลุมด้วยผ้าห่ม
ชานยอลไม่พูดอะไรแต่อาศัยช่วงที่คนในอ้อมกอดตกใจล้วงมือเข้าใต้เสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งที่คาดว่าแบคฮยอนไปหยิบมาจากตู้เสื้อผ้าของตัวเองมาใส่ ซึ่งมันดูโคตรเข้ากับความตัวเล็กๆของแบคฮยอน เข้ากันจนน่าจับกระแทกให้จมเตียงเลยจริงๆ
"อ่ะๆเนียนละๆ" มือเล็กคว้าข้อมือหนาที่กำลังปัดป่ายไปทั่วแผ่นหลังของตัวเอง รอยแดงจ้ำๆยังคงอยู่ประปรายตามเนื้อขาวเนียน
"เสื้อตัวนี้กูใส่มาตั้งนานไม่เห็นจะหอมเท่าตอนมึงใส่เลยวะ" เสียงทุ้มพูดชิดซอกคอที่มีกลิ่นหอมๆของแบคฮยอนปะปนไปกับกลิ่นเสื้อของตัวเอง มันเข้ากันแบบไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
"เพราะกูหอมไง คิกๆๆ" เสียงเล็กหัวเราะพลางกระพือคอเสื้อเมื่อเริ่มร้อนหลังจากขลุกอยู่ในก้อนผ้าห่มนี้มาซักพัก เหงื่อเม็ดเล็กก็เริ่มผุดออกมา ชานยอลใช้หลังมือป้ายเหงื่อของคนตัวเล็กออก แขนหนาดึงไหล่ของแบคฮยอนจนอีกคนโดนดึงมานอนทับบนอก ก้อนผ้าห่มขยับไปมาเพราะคนสองคนที่กอดฟัดกันอยู่ในนั้น
"เออ เพราะมึงหอมไง" ชานยอลพูดแล้วเม้มริมฝีปากงับแก้มนุ่มๆของคนบนอกเล่นและออกแรงดึงเม้มจนมันยืดย้วยทั้งสองข้าง มือหนาที่วางอยู่บนสะโพกก็เริ่มเลื้อยลงมาถึงบั้นท้ายนุ่มนิ่ม ชานยอลดึงความสนใจไปทีแก้มของแบคฮยอนก่อนจะใช้ทีเผลอล้วงเข้าไปในกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวบางที่เป็นของตัวเองเหมือนกัน แต่เพราะว่าอยู่บนร่างของแบคฮยอนมันเลยน่าถอดไปซะหมด
มือหนาขยำเนื้อแน่นๆของอีกคนเป็นเชิงแกล้ง จนแบคฮยอนที่ตอนแรกยังอ้อนอยู่บนอกเริ่มไม่อยากอ้อนแล้ว เพราะกลัวว่าอ้อนจะกลายเป็นอ่อยแทน....
จะว่าไปตอนนี้ก็ไม่ต่างจากอ่อยเท่าไหร่หรอกนะ...
คนตัวเล็กที่ตอนแรกอยู่บนอกก็โดนพลิกตัวให้ไปอยู่ด้านล่างแทน ชานยอลใช้ไหล่ดันผ้าห่มออกจนแสงแดดสะท้อนผ่านม่านสีเทาดำ ใช้หมอนกดข้อมือของแบคฮยอนที่ถูกรวบตึงเหนือหัวไว้ คอเสื้อยืดข้างหนึ่งไหลลงจนหลุดจากลาดไหล่ข้างซ้าย ชานยอลมองคนใต้ร่าง ริมฝีปากกระตุกยิ้มเมื่อเห็นสายตาแบบลูกหมาอ้อนจากคนตัวเล็กแล้วมันน่าหมั่นเขี้ยวมากจริงๆ
"มองอะไรนักหนา จะจูบก็จูบดิควาย" แบคฮยอนเบ้ปากก่อนจะเป็นฝ่ายดึงหน้าคนที่เอาแต่จ้องตัวเองให้ก้มลงมาบดเบียดริมฝีปาก แบคฮยอนเกร็งเพราะสายตาที่มันมองริมฝีปากของเขานี่เเหละ เลยแก้เขินด้วยการดึงมาจูบแม่งเองซะเลย
ชานยอลท้าวแขนไว้กับพื้นเตียงพลางเอียงหน้าไปตามองศาการโอบรอบคอของแบคฮยอน ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดกันไปมาจนเกิดเสียงชื้นแฉะลั่นห้องกว้าง มือหนาข้างที่ว่างเริ่มลูบไปมา ถึงแม้ว่าแสงข้างนอกจะลอดผ่ม่านมาขนาดไหนเขาก็ไม่แคร์แล้วล่ะ แบคฮยอนเริ่มเองนี่ไม่ได้หาได้ง่ายๆนะ
ปัง!!
เสียงดังจากทางสนามทำเอาทั้งคู่สะดุ้ง เพราะมันก้องกังวาลทั่วบ้านที่เป็นห้องกระจก แบคฮยอนผลักอกคนด้านบนออก เช็ดน้ำลายที่ไหลออกมาจากมุมปากด้วยการไถหน้าลงไปบนเนื้อผ้าของชานยอล คนตัวเล็กผุดลุกนั่งก่อนจะวิ่งไปแง้มหน้าต่างดูว่าเสียงดังลั่นนั้นเกิดมาจากอะไรโดยมีชานยอลยืนช้อนหลังมองไปทิศทางเดียวกัน
ร่างสูงถอนหายใจพลางถอดเสื้อกล้ามที่ใส่นอนมาถือไว้แล้วหันมามองที่หน้าต่างกระจกต่อ มือหนาตบหน้าผากตัวเองเสียงดังเมื่อเห็นว่าต้นเหตุของเสียงมาจากอะไร
หญิงสาวผมสีเทาควันบุหรี่ ใส่เสื้อกล้ามสีดำและกางเกงยีนส์ขาสั้นพร้อมกับรองเท้าออกกำลังกายราคาแพง ความกว้างของเสื้อที่คว้านลึกถึงเอวบางโชว์รอยสักที่สีข้างและหัวไหล่ที่มีคำว่าปาร์คเหมือนกับตัวเอง มือเรียวสวยทั้งสองข้างถืออาวุธสีดำด้าน ดวงตาแววสวยจ้องมองไปที่เป้านิ่งที่ทีรอยพรุนของกระสุนที่ตำแหน่งหัวและหน้าอกไม่ต่ำกว่าห้ารู รวมถึงมีดพกกับที่ช็อตไฟฟ้าที่วางอยู่บนโต๊ะที่เอาไว้นั่งปิกนิกอีก ทำเอาชานยอลถอนหายใจหนัก
"ย่าห์ ซีแอล!!!!" ชานยอลเปิดกระจกระเบียงแล้วตะโกนสุดเสียงไปถึงสนามหญ้าหน้าบ้าน แชรินสะดุ้งนิดหน่อย นิดหน่อยในที่นี้คือการหันมาพร้อมกับเล็งปืนมาหาชานยอลที่ยืนทำหน้าเหวี่ยงอยู่ ชายหนุ่มชี้หน้าพี่สาวตัวฮาร์ดคอร์ของตัวเองพลางคบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิด
"อะไร!!" เสียงแหลมตะโกนย้อนกลับมา แชรินปามีพกในมือลงพื้นหญ้าเต็มแรงจนมันปักดินนิ่ง หงุดหงิด ! แชรินหงุดหงิดมากที่ชานยอลมารบกวนเวลาว่างที่เหมาะกับการทำงานอดิเรกอย่างการยิงเป้าและปามีดของเธอ
ปกติแชรินจะฝึกการใช้อาวุธแบบนี้มากกว่าการป้องกันตัวแบบระยะประชิด แต่เพราะว่าคืนนี้เธอมีนัดดวลกับผู้ชายปากหมาคนเมื่อคืน ไม่รู้ว่าดวลในที่นี้คืออะไร แต่แชรินต้องเตรียมตัวไว้ก่อน เพราะแค่ไอ้พวกนั้นเป็นผู้ชาย แค่นั้นจริงๆ
"มีงจะเล่นอะไรแต่เช้าเนี่ย กูจะนอน!"
"เช้าส้นตีนอะไร นี่บ่ายแล้วไอ้โง่!"
ชานยอลนิ่งไปนิดหน่อย นาฬิกาในจอโทรศัพท์บอกเวลาเกือบบ่ายสองโมง น้่นหมายความว่าชานยอลแพ้แชรินอย่างราบคาบเลยคราวนี้
"ว่าแต่..พี่แชรินจะฝึกทำไมวะ จบบริหารมาไม่ใช่หรอ..." แบคฮยอนเอ่ยถาม เขาไม่ชินกับผู้หญิงแบบนี้เลย เอาจริงๆแบคฮยอนก็ไม่ชินกับพี่แชรินนั่นแหละ..
"นั่นสิ ครั้งนี้เหมือนจะลองเล่นแบบไม่มีอาวุธด้วย นี่พี่กูจะไปมีเรื่องกับใครวะ"
"สงสั้ยมั้ย ?"
"อืม"
"ถามสิถาม หยุดโง่!" แบคฮยอนหันมาหยิกเอวชานยอลพลางชี้ไปที่พี่แชริน ชานยอลยักไหล่แล้วโยนเสื้อกล้ามลงตะกร้าก่อนจะวิ่งลงไปหาพี่สาว ซึ่งคนตัวเล็กก็ต้องเดินตามไปแบบช่วยไม่ได้
พวกเรานี่ทำตัวเหมือนเด็กประถมเลยเนอะ : )
แบคฮยอนนั่งๆนอนๆอยู่ที่พื้นสนามหญ้า แดกร่มๆกับลมเย็นๆแบบนี้มันฟินดีนะ ไหนจะสองพี่น้องปาร์คที่มัวแต่เถียงกันเรื่องมีดนี่อีก
"อันนี้มันมีดกู อย่ามาตอแหลนะ!" แชรินดึงแขนแน่นๆของชานยอลที่กำลังถือมีดเล่มมันวาวเล็งไปที่แอปเปิ้ลบนโต๊ะที่ห่างไปเกือบสิบเมตร ถึงแม้ว่ามืออีกข้างจะโดนแชรินฉุดกระชากยังไงชานยอลก็ยังคงปักมีดได้แม่นเหมือจับวางอยู่ดี
"มีดกูไอ้สัด ของมึงมันสีขาว!" ชานยอลขมวดคิ้วเถียง ถึงแม้ว่าจะต้องเล็งเป้าก็อยากตอบพี่สาวอยู่ดี
"ของกูมันสีดำ!"
"ขาว!"
"ดำ!"
"กูบอกว่าสีขาว อันที่มีคริสตัลลายขาวดำน่ะของมึง ของกูมันดำล้วน!" ชานยอลยกมีดเหนือหัวพลางใช้อีกมือนึงผลักแชรินออก ถึงแม้หญิงสาวจะกระโดดแย่งขนาดไหนก็ไม่ถึงอยู่ดีแหละ
ความสูง 187 กับ 162 ก็ไม่ได้ต่างกันมากนี่นา.......
"อันนี้พ่อซื้อให้ กูจำได้ว่าสีดำของกูอ้ะ!"
"ก็อันนี้แหละพ่อซื้อให้ แต่ซื้อให้กูโว้ย!!!"
"สีดำมันของกูนี่!'
"แชริน ตั้งสติไอ้สัด ของมึงสีดำและลายคริสตัลขาว ส่วนดำล้วนเนี่ยของกู" ชานยอลพูดพลางชูมันขึ้นมา ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพ่อจะสลักชื่อของแต่ละคนไว้ที่กล่องสำหรับเก็บ
"แบคฮยอน มึงวิ่งไปในห้องกูนะ แล้วไปหามาดิ๊ว่ากล่องสีดำกับน้ำเงินที่วางคู่กันเป็นชื่อใคร ไม่สิ เอามานี่เลยดีกว่า"
คนตัวเล็กวิ่งไปหยิบของตามที่ชานยอลบอก สนิทกันมานานจนรู้ว่าห้องทำานขอฃพ่อไอ้ชานยอลน่ะเก็บขอฃไว้ตรงไหน จะมีตู้แยกสีขาวกับน้ำตาลไว้ สละกเป็นตัวอักษรสีทองว่า Chaerin กับ Chanyeol
ของลูกสาวจะเป็นสีขาว ส่วนชานยอลจะเป็นน้ำตาลหรือไม่ก็ดำ และแน่นอนว่าสองตู้นี้คือตู้เก็บอาวุธที่คุณปาร์คซื้อมาเก็บไว้ให้ลูกสาวกับลูกชายฝึกไว้ป้องกันตัว
และแน่นอนว่าทั้งคู่ใช้ของพวกนี้ได้ถนัดแทบทุกอันเลยแหละ!
ไม่ต้องแปลกใจนะว่าทำไมถึงซื้อของแบบนี้ให้ลูก คนเป็นนายพลก็แน่นอนว่าศัตรูต้องเยอะ และท่านนายพลปาร์คก็ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการให้ลูกฝึกใช้อาวุธแม่งซะเลย
แบคฮยอนหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงกับสีน้ำเงินออกมาที่สนามหญ้า แชรินวิ่งมาเปิดกล่องของตัวเองดูก็พบว่มีดพกทุกเล่มของตัวเองล้วนเป็นสีขาวลายคริสตัลดำอย่างที่ชานยอลบอกทั้งนั้น แถมยังมีสลักว่า PCL ที่ด้ามมีดด้วย ส่วนของชานยอลก็จะเป็นคำว่า PCY เหมือนกัน
ตอนนี้ทั้งคู่กำลังฝึกการป้องกันตัวแบบระยะประชิด แชรินมองหน้าชานยอลนิ่ง ทั่งคู่หักข้อมือและหมุนคอไปมาเป็นเชิงยืดเส้นยืดสาย ก่อนที่หญิงสาวจะวิ่งพุ่งมาไม่ให้ชานยอลตั้งตัว
แบคฮยอนนั่งมองภาพตรงหน้าด้วยความลุ้น ภาพชายหญิงที่หน้าเหมือนกันอย่างกับแฝดกำลังออกแรงหวังจะให้อีกฝ่ายล้มก่อน พลางนึกคิดว่าอะไรที่ทำให้ทั้งคู่ทำแบบนี้ ทำไมถึงต้องเล่นอะไรแผลงๆกันให้เจ็บตัวด้วย
ทำไมแบคฮยอนต้องรู้สึกเป็นห่วงแบบแปลกๆด้วยล่ะเนี่ย....
เวลาสามทุ่มในขณะที่คนตัวเล็กกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่ ชานยอลเดินออกมาจากห้องแต่งตัวด้วยเสื้อกล้ามสีดำสนิทและกางเกงยีนส์สีเทาควันบุหรี่ ในมือหนาควงกุญแจรถพลางทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะค่อยๆเดินมาช้อนหลังคนที่นั่งอยู่บนเตียง
ต้นแขนหนาโอบเอวบางไว้ เอาคางเกยไหล่เล็กพลางกดจูบเบาๆ ชานยอลไล่หอมตั้งแต่ท้ายทอยด้านหลังไปถึงแก้มนิ่ม ไม่มีคำพูดใดทั้งนั้น มีเพียงแค่สัมผัส...สัมผัสที่แบคฮยอนรู้สึกได้ถึงความรักจริงๆ
"ทำไมแต่งตัวแบบนี้ จะไปไหน?" คนตัวเล็กมองเงาสะท้อนในโน้ตบุค เห็นชานยอลแต่งตัวแบบนี้แล้วรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้
"ไปกินเหล้ากับไอ้เทา เดี๋ยวกูมา"
"อ๋อ อย่ากลับดึกมากนะ กูเป็นห่วง..." แบคฮยอนเอนตัวพิงอกอีกคนไว้ มือเรียวลูบแก้มชานยอลเบาๆก่อนจะหันหน้าไปกดจูบข้างมุมปาก
ร่างสูงซบหัวลงกับซอกคอของแบคฮยอนอีกครั้ง กดจูบเบาๆสองสามครั้งก่อนจะพิงไว้นิ่งๆ ปล่อยให้ความอบอุ่นเป็นตัวแปรของความรู้สึก เป็นจังหวะที่แชรินเดินมารอที่หน้าประตูพอดี หญิงสาวสวมเสื้อกล้ามเหมือนเมื่อบ่าย แต่มีแจ็กเก็ตหนังครึ่งตัวคลุมไว้และกางเกงยีนส์ขาสั้นสีเดียวกับชานยอล ทั้งคู่พยักหน้าให้กันก่อนที่แชรินจะเดินแยกออกไปก่อน
"แบคฮยอน ไม่ว่าจะเป็นยังไง..."
"หืม.."
"ไม่ว่ากูจะเป็นยังไง ไม่ว่ากูจะอยู่ที่ไหน จำไว้นะ..."
"......"
"จำไว้....ว่ากูรักมึง รักมากจนบรรยายออกมาไม่ได้แล้ว"
"ทำไมพูดแบบนี้..?" แบคฮยอนขมวดคิ้วสงสัย
"ให้มึงรู้ไว้ก็พอ ว่าในนี้..." ชานยอลใช้มือทาบกับมือเรียวที่วางอยู่บนแป้นพิมพ์ยกขี้นมากดจูบเบาๆก่อนจะทาบกับตำแหน่งหัวใจของตัวเอง
"......"
"ว่าในหัวใจดวงนี้ เป็นของมึง ไม่รู้ว่าความรักของกูมันจะได้ครึ่งที่มึงรักกูหรือเปล่า แต่จำไว้...ว่ากูรักมึงที่สุด รักมึงมากจริงๆ...."
100%
Comment & Hashtag
#ฟิคเสี้ยนชบ
TALK
เเฮลโหลว อิสมี...
ฮื่ออ พักนี้เราหายไปนาามากเลย คือสอบค่ะ ตอนนี้สอบเสร็จแล้ว เดี๋ยวเราจะอัพให้บ่อยๆเลยนะยูววววว แต่เหมือนว่ารีดเดอร์จะหายไปไหนดันหมดก็ไม่รู้ คอมเม้นกับแท็กเงียบเเบบ เงียบจนน้ำตาจะไหล 55555555 คอมเม้นเยอะมาไวนะคะบอกเลย เริ้ปปป
ปล. x เป็นคำแสลงนะคะ แปลว่าไอ้โง่ก็ได้ หรือไม่ก็อารมณ์ประมาณเหยียดๆแบบดูถูกๆอ่ะค่ะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อัลไลหลอออจากเกิดไยขึ้นนนนนนไม่น่ะ!!!!!
อย่ามาพูดอะไรแบบนี้เด้ แง้งงงงงงงง
อันเดวววววววว๊!!!!!! ไม่นะไรท์อย่าม่านี่ขอเลยที่บอกจะไปกินเหล้ากะจื่อนี่โกหกชิป้ะ? หรือจะเอา-จื่อมันไปด้วย ไปทำไร? ไปกระทืบ-...-ไรนะ? คิมจินยอง จุนยองไรสักอย่างช่างมันแต่มันต้องเปนอย่างที่สองชัวร์ป้าบๆอ๊ากกกกกม่ายยยยยย