ตอนที่ 11 : Chapter 10
-10-
แบคฮยอนรู้สึกแปลกๆตั้งแต่สองสามวันที่แล้ว โดยเฉพาะตอนไปหาชานยอล มันก็ปกตินะสำหรับสายตาติ่งไอ้ชานยอลทั้งหลายน่ะ แต่ครั้งนี้มันแปลกไปจริงๆ
“มึงเป็นอะไรเนี่ย” ชานยอลหันมามองคนข้างตัวที่นั่งหันไปหันมาทั้งที่อยู่ในรถ เป็นอะไรของมัน อยู่ๆก็กังวลอะไรก็ไม่รู้
“กูรู้สึกแปลกๆอ่ะ”
“แปลกยังไง อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาอยู่ในรถมั่งหรอ”
“บรรยากาศพ่อมึง หยุดกามสักวันนี่หัวจะล้านหรอ”
“อีเชี่ย อย่าทัก”
รถยนต์คันเล็กแต่ราคาไม่เล็กเลี้ยวเข้าจอดที่โรงจอดรถของหอ ทั้งคู่เดินตรงขึ้นห้องเนื่องจากวันนี้มีเรียนเต็มวัน เลยสูบพลังงานไปเยอะหน่อย
ทันทีที่เข้ามาถึงห้อง แบคฮยอนก็ถอดเสื้อนักศึกษาของตัวเองออกเตรียมอาบน้ำทันที เป็นจังหวะที่ออดหน้าห้องดังขึ้นมาพอดี ชานยอลเลยต้องรีบดันคนตัวเล็กให้ไปถอดเสื้อผ้าในห้องน้ำ ส่วนตัวเองจะเป็นคนไปเปิดประตูเอง แต่พอไปเปิดก็ไม่เห็นใครนะ แล้วหมาที่ไหนมันมากดวะ
“เฮียยย ก้มลงมา”
“อ้าว จินฮวาน” ชานยอลก้มลงไปมองร่างเตี้ยๆของจินฮวานที่ยืนอยู่หน้าห้อง นี่มันเตี้ยจนเขามองไม่เห็นเลยหรอวะ...
“ขอเข้าไปหน่อยดิ”
“ทำไม”
“ก็จะมาหาพี่แบคอ่ะ”
“ฮะ ?”
“มาหาพี่แบคไง ถอย อย่าขวาง” จินฮวานใช้ความเตี้ยของตัวเองมุดแทรกเข้าห้องไปหน้าตาเฉย ส่วนชานยอลก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนมองน้องรหัสของตัวเองที่มาหาที่ห้องบ่อยๆแต่ไม่เคยได้เจอซักทีเพราะคนตัวเล็กแม่งเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง
แบคฮยอนอาบน้ำเสร็จก็ใส่เสื้อคลุมอาบน้ำเดินเข้าห้องไปเพราะมองไม่เห็นว่าจินฮวานมาเลยนึกว่าเพื่อนคนอื่นของชานยอล เพราะนอกจากพวกคริสกับจินฮวานแล้ว แบคฮยอนก็ไม่รู้จักใครแล้วล่ะ
“พี่แบคคคค ~”
คนตัวเล็กที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องชะงักกึก เสียงของจินฮวานมานี่นา งั้นแสดงว่าน้องวิศวะหน้าหวานกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นงั้นสิ แบคฮยอนต้องรีบแต่งตัวออกไปคุยกับจินฮวานซะแล้ว
“น้องจินฮวาน มาไงเนี่ยเรา” เจ้าของห้องวิ่งมานัง่ติดกับแขกทันที จินฮวานยิ้มยิงฟันให้กับแบคฮยอนแล้วหยิบขนมที่ซื้อมาให้ ซึ่งแบคฮยอนก็รับไว้แถมแกะกินเลยอีกต่างหาก
ให้ตาย...นี่จินฮวานกำลังจะหักหลังคนๆนี้หรอ เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าเรื่องที่เคยดูในละครจะเกิดขึ้นกับตัวเองได้ ถ้าเขาไม่มีคลิปอะไรนั่นคงไม่มานั่งรู้สึกผิดแบบนี้หรอก จินฮวานไม่อยากทำ ไม่เลยซักนิด ถ้าเทียบกับชื่อเสียงดีๆของพี่แบคฮยอนที่เขากำลังจะทำให้มันเสื่อมเสียล่ะก็ เขาคงเลวน่าดู....
“พี่ ห้องน้ำอยู่ตรงไหนอ่ะ”
“อ่า...ห้องน้ำข้างนอกชานยอลอาบน้ำอยู่อ่ะ จินฮวานไปเข้าในห้องนอนก็ได้” แบคฮยอนเดินไปเปิดประตูห้องนอนให้จินฮวานไปเข้าห้องน้ำโดยไม่คิดอะไรซักนิด ผิดกับคนตัวเล็กกว่าที่กำชายเสื้อนักศึกษาตัวเองแน่น ในกระเป๋าสะพายใบเล็กมีกล้องแอบถ่ายเล็กๆอยู่
จินฮวานปิดประตูห้งอนอนแล้วกดล็อกเบาๆ ร่างบางเดินสำรวจเพื่อหามุมดีๆเพื่อที่จะ ‘แอบถ่าย’ ได้ชัดๆ จนเห็นมุมหัวเตียงที่เอาไว้วางสายชาร์จโทรศัพท์ ถ้าหันกล้องมาก็จะเห็นคนบนเตียงทันที
เอาวะ....อย่างน้อยเขาก็จะทำมันเป็นครั้งแรกและสุดท้ายในชีวิตแหละนะ
มือเล็กสั่นเทาเมื่อหยิบอุปกรณ์แอบถ่ายออกมา ลอบมองไปทางหน้าห้องยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวใดๆ จินฮวานสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้ววางกล้องตัวเล็กจิ๋วติดอยู่ที่มุมหัวเตียง ฟันบนกัดริมฝีปากล่างจนรู้สึกเจ็บ เขาไม่อยากทำ ไม่อยากยุ่งเลยด้วยซ้ำ แล้วทำไมต้องมาเกิดอะไรแบบนี้ด้วยวะ...
จินฮวานเม้มปากแน่นแล้วถอยออกมา คนตัวเล็กส่ายหัวแรงๆพลางเดินย้อนกลับไปที่หน้าห้องนั่งเล่น เปิดประตูก็เห็นพี่รหัสตัวเองกำลังแหย่พี่แบคฮยอนอยู่ ยิ่งเห็นรอยยิ้มพี่แบคฮยอนแล้วโครตรู้สึกผิดเลยอ่ะ...
“น้องออกมาแล้ว ไปแต่งตัวไอ้สัดชานยอล” แบคฮยอนผลักคนที่กำลังล็อกตัวเขาอยู่ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวยังจะเล่นอะไรไม่กลัวหลุด น้องนุ่งก็ยืนหน้าเหวออยู่เนี่ย
“แหน่ะมีเขินด้วยเว้ยเห้ย”
“เขินหน้าง ไป๊ ไปแต่งตัว”
จินฮวานยิ้มแหยๆให้รุ่นพี่หน้าสวยที่กำลังดึงมือตัวเองให้มานั่งกินขนมด้วยกันอยู่
“เอ๊อจินฮวาน พรุ่งนี้มีเรียนป่ะ”
“ไม่อ่ะพี่ พรุ่งนี้ไม่มีเรียน ทำไมอ่อ”
“ไปเที่ยว MZ กันมั้ย วันเกิดเพื่อนพี่อ่ะ” แบคฮยอนหมายถึงผับใกล้ๆมหาลัย พรุ่งนี้คณะเขายกคลาสทั้งหมดตั้งแต่ปีสองถึงปีสี่ ยกเว้นปีหนึ่ง เพราะอาจารย์ต้องไปสัมมนาอะไรไม่รู้ ช่างเหอะ
“เหยดน่าไป มีใครไปมั่งอ่ะ”
“ก็มีพี่ เพื่อนพี่ ไอ้ชานยอล ละก็น้องรหัสพี่อีกสองสามคนอ่ะ”
“โห ผมจะรู้จักใครบ้างเนี่ย เดี๋ยวไปก็หมาเลย”
“เห้ย ไม่หรอกน่า พวกพี่เฟรนด์ลี่จะตาย”
“เอางั้นหรอ...”
“ใช่ ไปนะๆ น้องพี่มันอยากเจอเราด้วย” คิมฮันบินไงล่ะ
“ห้ะ ใครเขาอยากเจอผมกัน”
“ไปเถอะ เดี๋ยวก็รู้”
“อ่า...กี่โมงครับ”
แบคฮยอนชูกำปั้นร้องเยสเสียงดัง คนตัวเล็กยิ้มกว้างโชว์รีเทนเนอร์สีแดงสดใส่รุ่นน้องที่โดนแอทแทคจนหน้าแดง นี่ขนาดจินฮวานแค่ปลื้มนะเนี่ย ถ้าพวกวิศวะปีเขาโดนพี่แบคแอทแทคแบบนี้รับรองมีตายอ่ะ
“สองทุ่มเจอกันหน้าผับ”
จินฮวานพยักหน้ารับพร้อมกับขอตัวกลับบ้านตัวเองทันที บ้าน..ที่เหมือนไม่ใช่บ้าน มันเป็นที่ที่จินฮวานเกลียด เกลียดที่จะเจอมินอา เกลียดทุกอย่างแม้แต่พ่อตัวเอง.....
.........................
เวลาหนึ่งทุ่มครึ่งแบคฮยอนก็ไปอาบน้ำอีกรอบ วันนี้เขาได้เสื้อใหม่มาแหละเป็นเสื้อกล้ามแขนกุดเว้าด้านข้างจนถึงเอวและกางเกงขยีนส์สีควันบุหรี่ พร้อมร้องเท้าผ้าใบคู่สีดำที่เลือกมาจากทั้งตู้ คนตัวเล็กมานั่งประจำการที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มือเรียวกรีดอายไลเนอร์ลงกับเปลือกตาบางทั้งสองข้าง คอนแทกเลนส์สีเทาตัดกับสีผมสีชมพูอ่อน ริมฝีปากบางอมชมพูทาทับด้วยลิปกลอสสีส้ม ใต้ตาข้างซ้ายมีรูปดาวเล็กๆที่ติดมาจากแทททูสองสามดวง แบคฮยอนกระพริบตาสองสามรอบตรวจสอบใบหน้าของตัวเอง น้ำหอมราคาแพงถูกพรมฟุ้งแต่ไม่ฉุนจนน่าเกลียดเกินไป
ต่างจากชานยอลที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์เท่านั้น แค่นี้ร่างสูงก็ถือว่าการแต่งตัวไปผับเป็นอันเรียบร้อยแล้ว
ทั้งสองคนเดินคู่กันมา ตรงไปที่โต๊ะของเพื่อนตัวเองทันที จริงวันนี้เป็นวันเกิดจุนมยอน และชานยอลเกิดอยากจะมาด้วย ก็เลยหอบกันมาอย่างที่เห็นนี่แหละ
“อ้าวแบค เหลือมึงคู่สุดท้ายแล้ว ละไหนบอกว่าคนมาเยอะ”
“เอ้า ก็เยอะนี่...เดี๋ยวนะ” แบคฮยอนนับคนที่นั่งอยู่...ตอนนัดกันมันมีสิบสองคนนี่หว่า..หายไปไหนสอง ใครเบี้ยว !!
“เห้ย....กูลืมจินฮวาน ชานยอลเอาโทรศัพท์มาดิ๊”
“อยู่กับมึงอ่ะ”
“เอ้าหรอ เดี๋ยวกูโทรตามน้องแปปนึง”
ไม่นานคิมจินฮวานก็มา แต่คงจะไม่แปลกใจเท่าไหร่ถ้าไม่มีฮันบินพ่วงมาด้วย หน้าตาของจินฮวานดูไม่สดใสนัก ดวงตาเรียวเล็กหม่นแสง คิ้มขมวดกันแทบตลอดเวลา
“จินฮวาน หน้าตาไม่ค่อยสบายเลยนะ พี่บังคับเรามาหรือเปล่า”
“ห้ะ เปล่าๆ ไม่เป็นไรพี่ ผมไม่เป็นไร”
“ทำไมเงียบๆล่ะ”
“ไม่รู้จักใครเลย จะให้ผมคุยเรื่องอะไรเล่า”
“ก็...งั้น..ฮันบิน คุยกับจินฮวานหน่อย”
“ไปสั่งเหล้ากันหน่อยมั้ย”
จินฮวานหันไปตามเสียงทุ้มทะเล้นข้างๆ เห็นมนุษย์ร่างสูงเบ้าหน้าดีหนึ่งอัตราถ้วนกำลังยื่นหน้ามาใกล้อยู่ อ่า..นี่ฮันบินใช่มั้ย
“ไปดิ”
ทั้งสองคนเดินมาถึงเคาท์เตอร์บาร์เทนเดอร์ ฮันบินดึงมือจินฮวานให้นั่งข้างๆตัวเอง สมองเรียบเรียงคำพูดอะไรบางอย่างพร้อมกับสั่งเครื่องดื่มให้คนข้างๆด้วย
“นี่..คิมจินฮวาน...”
“หืม ?”
“นายรู้จักมินอามั้ย ?”
“หึ...”
“.....”
“ยัยนั่นน่ะหรอ...อย่าพูดชื่อให้ได้ยิน ฉันเกลียดมัน”
จินฮวานที่เริ่มเมาแล้วก็เล่าเรื่องทุกอย่างตั้งแต่พ่อกับแม่ใหม่ รวมถึงเรื่องที่ตัวเองเกลียดมินอาด้วย แต่คนตัวเล็กไม่ได้เล่าเรื่องคลิปของตัวเองหรอกนะ...มันน่าอายเกินไป....ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกับหมอนี่...ทำไม...จินฮวานถึงถูกชะตาจังนะ แถมยังเล่าเรื่องแย่ๆให้ฟังอีก......
“อืม...นายเกลียดมินอาใช่มั้ย ทั้งที่พ่อแม่แต่งงานกันอ่ะนะ”
“อย่าพูดแบบนี้ ฉันรังเกียจ”
“อ่า..โทษที ฉันมีอะไรจะบอกเหมือนกันนะ” ฮันบินคว้าแก้วของตัวเองกระดกเข้าปาก เว้นจังหวะนิดหน่อยให้คนตัวเล็กหันมามอง หมอนี่หล่อจริงๆนะเนี่ย...
“...?”
“ฉันเคยมีอะไรกับมินอา”
“อะไรนะ !” จินฮวานเขยิบตัวหนีทันที โอเค...ฮันบินรู้แล้วล่ะว่าคนตัวเล็กเกลียดพี่สาวต่างสายเลือดขนาดไหน
“ใจเย็นสิ หันมาคุยกันก่อน”
“......”
“ฉันก็โดนยัยนั่นถ่ายคลิปไว้เหมือนกัน...เข้าใจใช่มั้ย”
“ให้ตายสิ มินอา !!”
“เพราะฉะนั้น..ถ้าเราจะร่วมมือกัน...ตลบหลังยัยปีศาจนั่น”
“ดีสิ เห็นด้วยมากๆ”
“งั้น...ไปวางแผน ‘ที่ห้องฉัน’ ก่อนมั้ย ?”
ด้วยความเมาและการเก็บกดมาตั้งนาน จินฮวานเลยเลือกที่จะตอบตกลงไปโดยไม่ลังเล ไหนๆก็มีพวกแล้วนี่ เขาก็ไม่ต้องไปทำให้พี่แบคเสียหายด้วย
“นำไปเลยคิมฮันบิน ~”
ชานยอลนั่งมองแบคฮยอนคุยกับเพื่อนๆ ถึงแม้จะแอบหงุดหงิดสายตารอบข้างที่มองมายังกลุ่มของคนตัวเล็กนิดหน่อย แต่ก็ปล่อยไปเหอะ แบคฮยอนมันไม่ได้เล่นด้วยอยู่แล้ว
“อ้าว ตีหนึ่งแล้วหรอวะ” จุนมยอนยกนาฬิกาขึ้นมาดู ทุกคนดูยังโอเค แต่มันก็ดึกมากแล้วแหละ
“งั้นหมดขวดนี้” ลู่หานยกขวดเหล้าราคาแพงที่เหลืออยู่ไม่มากขึ้นมา ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย เพราะคยองซูนั้นที่บ้านไม่ค่อยอยากให้กลับดึกเท่าไหร่นักถึงแม้จะตีหนึ่งแล้วก็เถอะ
ร่างบางรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนในกระเป๋า เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นโทรศัพท์ของชานยอล แบคฮยอนขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ใคร
นานะ....แฟนเก่าของชานยอล คนนี้เป็นคนแรกที่ทิ้งชานยอลไป...และมันก็ฝังใจอยู่จนถึงทุกวันนี้
แบคฮยอนเดินแยกออกมาเพื่อรับโทรศัพท์ให้ ทันทีที่ฝ่ายนั้นได้ยินว่าเป็นเสียงของเขาก็พูดแค่สองสามประโยคแล้วตัดสายไปทันที แหงสิ ทำไมแบคฮยอนจะไม่รู้ล่ะว่านานะจะมาขอชานยอลรีเทิร์น แต่เขาไม่ยอมหรอกนะบอกเลย อย่าให้บอกนะว่าเธอแอบคบใครลับหลังชานยอลมั่งน่ะ แม่ง คิดแล้วโกรธว่ะ
โกรธที่นานะพูดว่าจะกลับมาทวงชานยอลคืน และโกรธที่เธอบอกว่าตอนนี้ยังติดต่อกับชานยอลอยู่....ให้ตาย..แบคฮยอนอยากจะขว้างโทรศัพท์เครื่องนี้ให้แตกไปข้างจริงๆ
“ชานยอล กลับยัง” แบคฮยอนเดินตามอีกคนมาที่ห้องน้ำ
“อือ กลับ” ชานยอลตอบกลับคนตัวเล็กแล้วเดินโอบเอวแบคฮยอนออกไปทันที
ทั้งคู่ถึงหอในเวลาตีหนึ่งสี่สิบห้า ชานยอลนิ่งจนแบคฮยอนเริ่มเอะใจว่าเป็นอะไร แต่ก็ยังไม่กล้าถาม พอๆกันกับแบคฮยอนที่ยังหงุดหงิดเรื่องของนานะ สองคนที่เดินคู่กันมาโดยไร้บทสนทนายิ่งทำให้บรรยากาศดูอึดอัดกว่าเดิม...
ปัง !
เสียงปิดประตูดังลั่นจนแบคฮยอนสะดุ้ง เขาไม่เข้าใจว่าชานยอลเป็นอะไร ทำไมไม่พูดตรงๆ มาทำแบบนี้แล้วแบคฮยอนจะรู้มั้ยว่าควรจะแก้ปัญหายังไง
“ชานยอล...” คนตัวเล็กเริ่มบทสนทนาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แบคฮยอนแค่กลัว...กลัวว่าถ้าพูดอะไรออกไปตอนนี้ชานยอลอาจจะโกรธมากกว่าเดิม
ร่างสูงเพียงแค่หันมาเลิกคิ้วใส่แล้วเดินออกไปสูบบุหรี่ที่หน้าระเบียง ปล่อยให้คนตัวเล็กกัดปากชั่งใจอยู่นานว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าไปพูดตอนนี้อาจจะทะเลาะกัน แต่จะให้อึดอัดแบบนี้แบคฮยอนอยู่ไม่ได้หรอกนะ จมูกรั้นสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆพร้อมกับก้าวขาไปหาคนที่ยืนอยู่ตรงระเบียงทันที
“มึงเป็นไร”
“ป่าว”
“ชานยอล ป่าวแล้วทำไมมึงแปลกไปงี้ล่ะ มึรู้ป่ะว่ากูเครียดนะเว้ย เป็นเหี้ยไรก็บอกกูดิ”
“กูยังไม่อยากหาเรื่องทะเลาะกับมึงตอนนี้ว่ะแบคฮยอน” ชานยอลคิดอย่างนั้นจริงๆเขาไม่อยากหาเรื่องทะเลาะกับแบคฮยอนจริงๆ แต่คำพูดของนานะมันทำให้แบคฮยอนคิดมาก ทำให้เขากลัวว่าเธอจะกลับมาหาชานยอลจริงๆ
“มึงนั่นแหละเป็นอะไร...”
“.......”
“แบค กูไม่รู้นะว่ามึงเป็นอะไร ถ้ามึงยังเห็นกูเป็นเพื่อนอยู่ก็บอกกันมาดิวะ”
เพื่อน....
อ่า..แบคฮยอนไม่คิดว่าตัวเองจะอ่อนไหวกับคำพูดแบบนี้นะ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกหน้าชาๆอย่างนี้ล่ะ ที่ผ่านมาคือเพื่อนใช่มั้ย โอเค..เข้าใจละ
“เออ ก็เป็นเพื่อนมึงไง !” คนตัวเล็กไม่รู้ว่าตัวเองโกรธชานยอลทำไมทั้งที่ความจริงมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ก็เพื่อนไง...ผิดที่เขาเองนั่นแหละที่ดันไปหวั่นไหวกับมันเข้า
แบคฮยอนพลิกตัวกลับมาทันที เขาไม่อยู่ตรงนี้แล้ว ถ้ารู้ว่าคุยกันแล้วทะเลาะกันแบบนี้แบคฮยอนไม่อยู่หรอกนะ ยิ่งอารมณ์ของชานยอลยิ่งแปลกๆอยู่ ไม่รู้ใครไปทำอะไรมัน
แล้วชานยอลจะรู้รึเปล่าว่าแบคฮยอนเป็นอะไร รู้ไหมว่าแบคฮยอนเกลียดความรู้สึกแบบนี้ขนาดไหน ความรู้สึกที่ต้องมาเป็นคนแบกรับปัญหาเงียบๆเพียงคนเดียว ความรู้สึกที่หาทางออกไม่ได้...ความรู้สึกแย่ๆแบบนี้
คนตัวเล็กเดินไปอาบน้ำล้างเครื่องสำอางออก น้ำที่สาดใส่ใบหน้านั้นรวมกันกับน้ำตาที่ไหลออกมา แบคฮยอนทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้เงียบๆ พยายามห้ามตัวเองไม่ให้รู้สึกเกินเลยกับชานยอล..
จริงๆแบคฮยอนควรจะหยุดตั้งแต่ที่มินอากับชานยอลเลิกกัน เขาควรหยุดเกมประสาทบ้าๆนี่ซักที ทั้งที่ตัวเองเป็นคนเริ่มแท้ๆ แต่ทำไมรู้สึกว่ามันแย่ขนาดนี้...ทำไมแบคฮยอนถึงต้องรั้งชานยอล ทั้งที่รู้ว่ายังไงก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ข้อตกลงคือต่างคนต่างมีสิทธิ์ไปหาคนอื่นได้ มันก็ไม่ผิดถ้าชานยอลจะกลับไปหานานะ...ผู้หญิงที่มันรักมาก ถึงแม้เธอจะทิ้งมันไปก็ตาม
แบคฮยอนควรจะหายไปจากชีวิตของชานยอลดีมั้ย...
ควรหยุดปัญหานี้ด้วยการไปให้พ้นๆหน้าของชานยอลดีมั้ย...
เวลาเกือบชั่วโมงที่คนตัวเล็กจมอยู่ในห้องน้ำ แบคฮยอนสูดหายใจเข้าลึกๆ ออกมาแต่งตัวที่หน้าห้องน้ำเหมือนเดิม พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เพียงแค่ได้ยินเสียงกรุ๊งกริ๊งจากปลอกคอของพุงพุงก็ทำเอาเขาน้ำตาไหลมาซะงั้น
คนตัวเล็กเหลือบตาไปมองก็เห็นว่าชานยอลกำลังคุยโทรศัพท์อยู่..และเดินออกไปไม่แม้แต่จะหันมามองเขาด้วยซ้ำ แค่นี้แบคฮยอนก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าชานยอลไปไหน
ถามว่าเสียใจมั้ย แบคฮยอนบอกเลยว่ามันเป็นอาการหวงมากกว่า หวง..แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีสิทธิ์ แต่แบคฮยอนก็ยอมนะถ้าชานยอลจะไปหาความสุขจากคนอื่นที่ให้มันได้มากกว่าเขา
ทำไมถึงเจ็บแบบนี้นะ.....
แบคฮยอนก้มลงไปอุ้มลูกแมวน้อยแล้วกอดมันแน่น ซุกหน้าลงกับขนฟูๆของพุงพุงแล้วปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมา พุงพุงจะรู้สึกแบบเขามั้ยนะ พุงพุงจะคิดมั้ยว่าทำไมแบคฮยอนถึงได้อ่อนแอขนาดนี้....
แล้วพุงพุงจะรู้มั้ยว่าแบคฮยอนรักชานยอลมากขนาดไหน ทั้งที่ไม่มีิทธิ์แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ....
Comment & Hashtag
#ฟิคเสี้ยนชบ
TALK
แต่งไปหน่วงไป โอ่ยยย จี๊ดหัวใจมากนี่พูดเลย TT
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หน่วงจังไรท์😭
ทำให้กูฟิน....แล้วทิ้งให้กูค้าง.....
คืออะไร........
เป็นคนเดียวที่ร้องให้ตามป่ะ??
นี่มันเพื่อนตรงไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
อิชานนนนนนมุงงงงงงงงงงงง มาให้ตบกะโหลกที
อยุ่ดีดีมาเงียบใส่แบคอัลไลมุงงงงงงง มาเกรี้ยวกราดใส่แบคทำไม อิผี!!!!
#เราอินเกินไปขอโทษที55555????????????????