ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC EXO] ขัดใจ (chanbaek)

    ลำดับตอนที่ #21 : HOT PARTY (Happy ' B Day ) 100% + CUT

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.1K
      19
      9 พ.ค. 58

    Welcome To The HOT PARTY !!!

     

     

     

     

     

     

     

     

    ปาร์ตี้หรอ ? แบคฮยอนน่ะขาปาร์ตี้เลย ใครจะชวนไปไหนไปหมดขอแค่ขึ้นชื่อว่าปาร์ตี้

     

    “ฮัลโหล ว่าไงลู่หาน ?” มือเรียวกดรับสายที่โชว์เบอร์ว่าเป็นเพื่อนรักคนสวยของตัวเอง ก่อนจะกรอกเสียงลงไป

     

    ”แต่งตัวหรือยัง ? ”

     

    “เรียบร้อยละ เดี๋ยวลงไปรอหน้าคอนโดนะ” แบคฮยอนพูดจบแล้วกดตัดสายไปทันทีก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง วันนี้เขามีนัดกับลู่หานน่ะ เห็นว่าวันเกิดใครนะ ?

     

     

     

     

     อ๋อ...ปาร์ค ชานยอล

     

     

    นายแว่นหนาๆนั่นอ่ะนะ เหอะ

     

     

     

     

     

    บนรถ

     

    “เอาชุดนอนมาเปลี่ยนหรือเปล่าน่ะ” ทันทีที่ขาก้าวไปในรถลู่หานที่นั่งอยู่ประจำตำแหน่งคนขับ   เพราะปาร์ตี้วันนี้มันเป็นธีมชุดนอน

     

    “นี่ไง” แบคฮยอนก้มลงหาชุดที่เตรียมมาจากบ้านโชว์ให้ลู่หานดู เป็นชุดนอนเสื้อแขนสั้นกับกางเกงขาสั้นสีแดงสด

     

    “ดีมาก” ลู่หานโน้มคอแบคฮยอนมาจุ๊บแก้มเบาๆก่อนจะขับรถต่อ แบคฮยอนก็ไม่ได้เขินอะไรหรอกนะ เพราะทั้งสองคนสกินชิพกันจนชินไปแล้ว บางครั้งไปเที่ยวแล้วมีคนมาหม้อหนึ่งในสองคนนี้ก็มักจะจุ๊บปากโชว์หรือไม่ก็หอมแก้มโชว์ความหวานให้คนคนนั้นเห็น จนตอนนี้คนอื่นนี่คิดว่าแบคฮยอนกับลู่หานเป็นแฟนกันหมดแล้ว แต่ยังเถียงกันอยู่ว่าระหว่างลู่หานกับแบคฮยอนใครจะเป็นรุกหรือรับ เพราะรูปร่างหน้าตาทั้งคู่นี่ไม่เหมาะแก่การขึ้นคร่อมเลยซักคน

     

    “แล้วที่จัดปาร์ตี้นี่ที่ไหนอ่ะ ? ” แบคฮยอนหันไปถามเพื่อนหน้าสวยข้างๆ

     

    “อ่า คอนโดของครอบครัวปาร์คล่ะมั้ง ชั้นบนสุดที่มีสระว่ายน้ำอ่ะ เห็นบอกว่าชานยอลเพิ่งจะกลับมาจากแคนาดา ”

     

    “ชานยอลที่ใส่แว่นหนาๆห้องเออ่ะนะ จะหล่อสักแค่ไหนเชียว ตอนนั้นโครตเฉิ่มอ่ะ ” แบคฮยอนพูดแล้วหัวเราะ เขาจำได้ว่าตอนอยู่ม.ปลายนายนั่นโครตติ๋มอ่ะ  แล้วก็ย้ายไปเรียนต่อมหาลัยที่แคนาดากับพี่ชายแล้วก็น้องชายอีกคน กลับมาแล้วคงเฉิ่มเหมือนเดิมทั้งบ้านนั่นแหละ

     

    “ไม่แน่นะ มึงอาจจะหลงเสน่ห์เขาก็ได้ ระวังโดนลากขึ้นเตียง” ลู่หานหันมายกยิ้มล้อๆให้กับเพื่อน

     

    “ลองดู” แบคฮยอนยักไหล่ เขาไม่อะไรอยู่แล้ว เรื่องอย่างว่าน่ะทำไมจะไม่เคย แต่ไม่ค่อยบ่อยเท่านั้นเอง มีปาร์ตี้ที่ไหนแล้วมีคนถูกใจแบคฮยอนก็ไปต่อ แต่ไม่ได้ทำทุกงานหรอกน่า

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “แบค ถึงงานแล้ว” ลู่หานสะกิดเพื่อนตัวเล็กของตัวเองที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่

     

    “ห้ะ ถึงแล้วหรอ อายไลเนอร์ฉันจางหมดแล้ว  ” แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์แล้วคว้ากระเป๋าเครื่องสำอางแล้วหยิบอายไลเนอร์กับดินสอเขียนคิ้วมาเติมให้เฉี่ยวกว่าเดิมก่อนจะยื่นไปให้ลู่หาน

     

    “แล้วเราต้องเปลี่ยนเป็นชุดนอนเลยป่ะวะ ?” ลู่หานรับเครื่องสำอางไปเติมหน้าแล้วถามแบคฮยอน

     

    “น่าจะยังนะ เห็นคนอื่นใส่ชุดปกติไป คงจะให้เปลี่ยนก่อนถึงงานล่ะมั้ง แล้วเมื่อไหร่มึงจะกรีดตาเสร็จล่ะเนี่ย ” แบคฮยอนชี้ไปที่คนอื่นๆที่กำลังเดินเข้าไปในคอนโดที่มีป้ายต้อนรับเข้าปาร์ตี้ขนาดใหญ่อยู่ แล้วหันไปบ่นเพื่อนตัวเองที่แต่งหน้าไม่เสร็จสักที

     

    “เออ เสร็จแล้วๆ เอาลิปมาป้ะ ” ลู่หานพูดแล้วค้นหาลิปทาปากในกระเป๋าของแบคฮยอน

     

    “เดี๋ยว กูยังไม่ได้ทาเลย” แบคฮยอนดึงกระเป๋ากลับมาแล้วหยิบลิปมันที่ออกสีชมพูหน่อยมาทาที่ปากบางๆของตัวเองก่อนจะยื่นให้เพื่อน

     

    “เอ้าแบค มึงแทททูตัวบีที่หลังหูด้วยหรอ” ตอนที่หันไปสายตาของลู่หานก็เห็นตัวอักษร B สีดำอยู่หลังหูของแบคฮยอน

     

    “เออ สวยป่ะ”

     

    “คือดีอ่ะมึง ไปเร็วๆ เอาชุดนอนไปด้วย” ลู่หานพูดจบแล้วเปิดประตูรถออกไปทันที ตามด้วยแบคฮยอน ก่อนที่จะเดินคู่กันเข้างานไปทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ในงาน

     

     

    หลังจากร่างเล็กทั้งสองถึงงานแล้วก็โทรเรียกเพื่อนตัวเองเพื่อบอกพิกัดงานเพราะว่านัดกันไว้ว่าจะมาเจอกันที่นี่เลย

     

    “อี้ กูอยู่โต๊ะข้างๆบาร์เทนเดอร์นะ เออเร็วๆ อีลู่ยืนอ่อยอยู่ตรงเคาท์เตอร์น่ะ เห็นยัง เร็วๆเลย ” แบคฮยอนยืนเท้าเอวโทรเรียกเพื่อนที่กำลังเดินเข้างานมา ฝ่ายอี้ชิงเมื่อเห็นเป้าหมายแล้วก็สาวเท้าเข้ามาทันที

    “มึง คนอย่างกับหนอน ผู้ชายแม่งก็มองตามอย่างกะจะแดก กูนี่จะกรี๊ดอยู่แล้ว” ทันทีที่ถึงโต๊ะอี้ชิงก็บ่นออกมาทันที

     

    “พูดอะไรดูสารร่างตัวเองนิดนึงอ่ะอีดอก” ลู่หานหันมาเบะปากใส่เพื่อน ก็ดูสิ มันใส่เสื้อกล้ามสีขาวคว้านลงมาแทบจะถึงเอวอยู่ละ จะไม่ให้มีคนมองได้ยังไง

     

    “อ่า...ขอโทษนะครับ รบกวนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนเลยนะครับ งานจะเริ่มแล้ว” นั่งเล่นไปซักพักบาร์เทนเดอร์หนุ่มก็โน้มตัวลงมากระซิบชิดใบหูของแบคฮยอน ซึ่งคนตัวเล็กก็พยักหน้ารับแล้วลากเพื่อนอีกสองคนไปเปลี่ยนชุดนอนทันที

     

     

     

     

     

    “อื้อหือ แรด” ทันทีที่แบคฮยอนก้าวออกมาจากห้องน้ำเสียงของอี้ชิงก็ดังขึ้นมาทันที คนตัวเล็กยักไหล่แล้วมองไปที่เพื่อนของตัวเองบ้าง

     

    “แหม ลายเสือเลยหรออีดอก” แบคฮยอนชี้ไปที่ชุดนอนแขนยาวขายาวของอี้ชิงที่เป็นลายเสือ มันคงจะเรียบร้อยกว่านี้ถ้าคอเสื้อไม่กว้างจนแทบจะเห็นหน้าอกอยู่แล้ว ก่อนจะไล่สายตาไปมองลู่หานที่อยู่ในชุดนอนเสื้อกางเกงขาสั้นแบบตัวเองแต่ลายคิตตี้ ผิดกับแบคฮยอนที่เป็นสีแดงสดทั้งชุดไม่มีลาย

     

    “ไปได้แล้วพวกมึง ” ลู่หานตัดบทก่อนจะยื่นมือไปโอบเอวเพื่อนทั้งสองเดินออกไปพร้อมกันทันที

     

     

     

     

     

     

    “โอ้โห ตื๊ดสัด” ทันทีที่ขาก้าวมาในบริเวณงานอีกครั้งนึงแบคฮยอนก็ต้องร้องโอ้โห เพราะมันต่างกับตอนเมื่อกี๊ลิบลับ

     

    “สวัสดีค่ะทุกคน ตอนนี้ถึงเวลาเปิดงานแล้วนะคะ ” พิธีกรสาวที่อยู่ในชุดนอนกระโปรงสีดำที่ยืนอยุ่บนเวทีพร้อมกับเสียงเพลงที่เงียบลงแล้วถูกแทนที่ด้วยเสียงของเธอบนเวที เรียกสายตาของคนในงานได้ไม่ยาก

     

    “ฉันชื่อโชอานะคะ เป็นพิธีกรของงานนี้ และตอนนี้ก็ได้เวลาเปิดงานแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญเจ้าของงานขึ้นมาเลยค่า” เธอพูดแล้วผายมือต้อนรับคนที่กำลังเดินขึ้นมาบนเวที

     

    โอ้โห โอ้โห โอ้โหวววววววววววววววววววววววววววว

     

    แบคฮยอนกำลังอึ้งแบบอึ้งมากๆหลังจากเห็นคนที่กำลังเดินขึ้นบนเวทีมา

     

    หล่ออ่ะ....

    หล่อมากเลยอ่ะ..

    หล่อชิบหายเลยอีเหี๊ย.......

     

     

    ร่างสูงทั้งสองที่กำลังยืนอยู่บนเวทีส่งยิ้มไปให้คนที่มาร่วมงานด้านล่าง ทำเอาสาวๆและเก้งกวางทั้งหลายถึงกับระทวยกันเลยทีเดียว ซึ่งแบคฮยอน ลู่หาน และอี้ชิงก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน

     

    “อ่า ปาร์คอี้ฟานครับ อายุยี่สิบสอง” คนที่ใส่เสื้อกล้ามสีดำโชว์รอยสักลายแมงป่องที่ต้นแขนด้านซ้ายที่มีกล้ามเนื้อพอประมาณพูดขึ้นมาก่อนแล้วขยิบตาวิงค์ใส่คนข้างล่าง เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่ยาก

     

    “ปาร์คเซฮุน”  คนที่ยืนข้างๆที่ใส่เสื้อกล้ามสีขาวโชว์ลายสักรูปตัวเอสที่ต้นแขนเหมือนกัน พูดนิ่งๆแล้วยื่นไมค์คืนให้พี่ชาย

     

    “อ่า คุณชานยอลอยู่ไหนคะเนี่ย” พิธีกรสาวพูดแล้วมองหาเจ้าของชื่อที่แบคฮยอนคิดว่าตอนนี้คงจะหาชุดนอนแขนยาวขายาวอยู่ อาจจะมีแว่นมาด้วยเพื่อเพิ่มความติ๋มในตัวเอง

     

    “ไฮสาวๆ ปาร์คชานยอลมาแล้ว” เมื่อได้ยินเสียงใหญ่ๆของใครอีกคนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นปาร์ค ชานยอล แบคฮยอนก็หันไปมองด้วยหน้าเนือยก่อนที่ตาเรียวที่มีอายไลเนอร์จะเบิกโพลงให้กับภาพตรงหน้า

     

     

    ผู้ชายตัวสูงๆ ดั้งโด่ง ตาโต ปากอิ่ม ผิวขาว ผมสีบลอนด์เขียว ใส่เพียงแค่กางเกงผ้ายืดสีดำตัวเดียว ท่อนบนเปลือยเปล่า มีรอยสักรูปนกฟีนิกซ์ที่หน้าอกข้างขวา หน้าท้องและช่วงแขนมีมัดกล้ามแน่นๆ ทำเอาแบคฮยอนถึงกับกัดปากเลยทีเดียว

     

     

    โอ๊ยยย พี่น้องบ้านนี้นี่มันหล่อกันทุกคนเลยโว้ยยยยยย

     

     

    “แบค นี่ไงชานยอลอ่ะ ไอ้เหี้ยหล่อขึ้นเยอะเลยมึง ” ลู่หานพูดแล้วสะกิดไปที่แบคฮยอนรัวๆก่อนจะชี้ไปที่ชานยอลที่กำลังยืนชนแก้วอยู่กับผู้หญิงคนนึง

     

    “แบค แม่งหล่อขึ้นจริงด้วย อ้าว...” อี้ชิงทำท่าจะหันมาสะกิดแบคฮยอนแต่กก็พบแค่ความว่างเปล่า เพราะตอนนี้เจ้าของชื่อมันเดินไปทางนู้นแล้ว

     

     

     

     

     

    แบคฮยอนยังคงเดินมุ่งหน้าไปยังโต๊ะของชานยอลที่กำลังนั่งอยู่กับพี่น้องของตัวเอง ต่างคนก็ต่างมีผู้หญิงมานั่งด้วย แล้วแบคฮยอนแคร์ป่ะละ ก็ไม่ .ยักไหล่เกร๋ๆ

     “ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยฮะ ? ” คนตัวเล็กยืนอยู่ข้างหน้าพูดขึ้นแล้วส่งยิ้มไปให้

     

    “อ่า เชิญครับ” ชานยอลลดมือที่โอบไหล่หญิงสาวข้างๆลง เธอหันมามองด้วยความไม่พอใจอยู่แว๊บนึง แต่พอเห็นสายตานิ่งๆของชานยอลก็ต้องหันไปมองทางอื่นแทน

     

    “ขอบคุณครับ” แบคฮยอนก้าวขาไปที่ข้างๆของชานยอล แต่ก้าวไปไม่เท่าไหร่ก็ถูกมือใหญ่ของอีกคนคว้าที่เอวไว้ก่อน

     

    “ตรงนั้นมันเบียดนะ” ชานยอลพูดยิ้มๆแล้วรั้งเอวแบคฮยอนให้มานั่งตักตัวเองก่อนจะกระซิบข้างใบหูที่มีแททูตัวบีอยู่ข้างหลัง ก่อนจะกดจูบลงบนตัวอักษรสวยๆนั่น

     

    “ชานยอล กูยังนั่งอยู่ตรงนี้นะ” คริสปาน้ำแข็งไปใส่น้องชายตัวเองแล้วพูดขำๆ

     

    “ยังไม่ชินอีกหรอวะคริส” ชานยอลชะเง้อหน้าผ่านไหล่ของแบคฮยอนออกมาพูด แต่คำพูดของคนที่เป็นเก้าอี้ให้ตัวเองนี่ถึงกับทำแบคฮยอนขมวดคิ้วแน่นเลยทีเดียว

     

     

     

    ชินหรอวะ ? งั้นแสดงว่าต้องทำแบบนี้บ่อยแน่ๆเลย

     

    “พูดไรกันเนี่ย คนสวยเขาเขินแล้วนะ” เซฮึนขมวดคิ้วพูดขึ้นมาเรียบๆแล้วหันไปนั่งจิบเหล้าที่มีสาวๆชงให้ต่อ

     

    “ว่าแต่หน้าคุ้นๆนะ” ชานยอลไล่สายตามองใบหน้าของร่างเล็กแล้วหรี่ตามอง

     

    “แบคฮยอน ห้องบี แค่นี้จำฉันไม่ได้รึไงตาแว่นห้องเอ” แบคฮยอนพูดออกมาแล้วมองหน้าชานยอลกลับ

     

    “โอ๊ะโอ ตอนนั้นฉันยังเฉิ่มอยู่เลยให้ตายเถอะ โครตพลาด” ชานยอลทิ้งตัวลงบนพนักพิงโซฟาแล้วดึงเอวแบคฮยอนมาติดกับหน้าอกของตัวเอง คนตัวเล็กก็พิงแผ่นอกของเก้าอี้สุดหล่อพร้อมกับทำหน้าเหนือใส่ผู้หญิงที่นั่งข้างๆชานยอลด้วย

     

    “ว้า ทำไมฉันไม่ไปทักนายตั้งแต่เข้างานล่ะเนี่ย เสียดายจัง เกือบโดนแย่งแล้ว” แบคฮยอนหันหน้ากลับไปหาชานยอลแล้วซบหน้าลงกับคอของร่างสูงเป็นเชิงอ้อนๆ

     

    “ใครจะมาแย่งฉันล่ะ หืม ? ” ชานยอลพูดแล้วเลิกคิ้วใส่คนตัวเล็กก่อนจะเอามือไปจับแททูของแบคฮยอนเบาๆ

     

    “ชอบหรอ ? ” คนตัวเล็กที่รู้สึกได้ถึงสัมผัสตรงหลังใบหูก็ผงกหัวขึ้นมามอง

     

    “อือ อยากลองเปลี่ยนมั้ย ? ”

     

    “เปลี่ยนอะไรอ่ะ ?”

     

    “เปลี่ยนตรงนี้ให้เป็นตัว  C แทน” ชานยอลใช้มือชี้ไปที่แททูของแบคฮยอนแล้วยิ้ม

     

    “งั้นเพิ่มตรงนี้ให้เป็นตัว B มั้ยละ” แบคฮยอนชี้ไปที่หลังหูของชานยอลให้อยู่ตำแหน่งเดียวกับตัวเองแล้วจิ้มเบาๆเป็นเชิงว่าติดตรงนี้นะ

     

    “งั้นฉันก็ต้องเป็นของนายอ่ะดิ”

     

    “ฉันก็เป็นของนายเหมือนกันแหละน่า” แบคฮยอนขมวดคิ้วบ่น

     

    “นายนี่น่ารักดีนะ ฮ่าๆ” ชานยอลพูดแล้วหัวเราะ

     

    “เอ่อ...ฉันชวนเพื่อนมานั่งนี่ได้มั้ย ?” แบคฮยอนบอกอีกคนเสียงอ่อนแล้วช้อนตามองอ้อนๆ

     

    “กี่คนอ่ะ ? ” ชานยอลถามแล้วมองไปรอบๆเพื่อหาเพื่อนของคนตัวเล็ก

     

    “สองคน”

     

    “มาดิ” หลังจากได้รับอนุญาต แบคฮยอนก็ลุกไปตาเพื่อนของตัวเองมาทันที ไม่นานก็มีร่างที่เล็กพอๆกับแบคฮยอนอีกสองคนเดินตามมา ชานยอลใช้สายตาประเมินแล้วถึงได้รู้ว่า แก๊งค์นี้แม่งเด็ดจริง.....

     

    “เอ่อ....ฮาย  มีที่ว่างตรงไหนมั้ยอ่ะ” คนที่หน้าสวยๆ ตาโตๆ ปากแดงๆ เดินตามแบคฮยอนมาถึงก็ยกมือขึ้นทักทายคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทันที

     

    “ว่างๆ ตรงนี้ว่าง” เซฮุนที่เงียบที่สุดในโต๊ะโพล่งขึ้นมาเสียงดังก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงไล่หญิงสาวข้างๆตัวออกแล้วดึงลู่หานมานั่งแทน

     

    “อ้าวลู่ แล้วกูล่ะ....” อี้ชิงที่ตามมาทีหลังเอาแต่ยืนมองเพื่อนตัวเองทั้งสองคนไปนั่งกับผู้ชายที่เบ้าหน้าโครตหล่อแล้วไม่สนใจกูซักนิด

     

    “เอ่อ...นั่งนี่ก็ได้” คริสพูดแล้วเขยิบตัวให้มีที่ว่างพอที่จะให้อี้ชิงนั่งได้

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ชานยอล...” แบคฮยอนพูดแล้วสะกิดคนตัวสูงเบาๆ

     

    “ฮ้ะ ? ว่า ?”

     

    “เดี๋ยวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พูดพร้อมกับลุกขึ้น แต่ก็ถูกมือหนารั้งแขนไว้ซะก่อน แบคฮยอนหันกลับมาแล้วเลิกคิ้วถาม

     

    “ไปเข้าที่ห้องฉัน ชั้นบนคนมันเยอะ”

     

    “จะไปรู้มั้ยล่ะว่านายอยู่ห้องไหน ?”

     

    “งั้นเดี๋ยวไปด้วย” เมื่อพูดจบชานยอลก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเอามือโอบเอวคนตัวเล็กไว้ทันที

     

    “ชานยอลมึงไปไหนอ่ะ ?” คริสหันมาถามน้องชายของตัวเอง

     

    “พาแบคฮยอนไปเข้าห้องน้ำก่อน เดี๋ยวกูมา” พูดจบก็พาแบคฮยอนเข้าประตูที่เชื่อมดาดฟ้ากับคอนโดเข้าไปทันที

     

     

     

    ห้อง 0605

    “นี่ เลขห้องนายนี่เหมือนวันเกิดฉันเลยนะ” แบคฮยอนยืนมองป้ายแล้วพูดออกมายิ้ม

     

    “หือ ? งั้นพรุ่งนี้ก็วันเกิดนายอ่ะดิ”

    “ใช่แล้วววววว เข้ายังอ่ะ ปวดฉี่” แบคฮอนพยักหน้ารับแล้วยืนบิดไปบิดมา

     

    “อ๋อ เข้าไปดิ ถ้าออกมาแล้วไม่เจอแสดงว่าฉันอยู่ที่ห้องทำงานนะ ประตูสีดำนั่นอ่ะ” ชานยอลชี้ไปทางประตูสีดำที่ติดกับห้องใหญ่ซึ่งแบคฮยอนคาดว่ามันน่าจะเป็นห้องนอนของอีกคนนึง แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาสังเกตอะไรมาก จึงรีบเดินไปเข้าห้องน้ำไวๆ

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากทำธุระเสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องน้ำ มองหาร่างสูงๆของใครอีกคนนึงแต่ก็มองไม่เห็น  จนนึกขึ้นได้ว่าชานยอลน่าจะอยู่ที่ห้องทำงานแน่ๆ ขาสั้นๆมันก็ก้าวตามความคิดไปแล้ว

     

    แกร๊ก

     

    “ชานยอล....” แบคฮยอนเข้าไปก็เห็นชานยอลกำลังสูบบุหรี่อยู่ ผู้ชายหน้าตาหล่อๆ นั่งถอดเสื้อ มีรอยสักตรงหน้าอก ปล่อยควันสีขาวกลิ่นมินต์ออกมาจากปาก อาจจะดูดิบๆ แบดๆ แต่แม่งโครตดูดีเลยเหอะ

     

     

    “อ้าว เสร็จแล้วหรอ ? ”  ชานยอลเงยหน้าขึ้นมามองก่อนจะขยี้บุหรี่ที่เพิ่งสูบไปได้แค่ครึ่งมวนทิ้ง

     

    “โครตหล่อเลยรู้ตัวป่ะ ?” แบคฮยอนแซวยิ้มๆแล้วจิ้มๆแก้มของชานยอลเล่น

     

    “ไม่เห็นรู้เลย” ชานยอลยักไหล่สบายๆแล้วนั่งพิงพนักเก้าอี้ทำงานต่อ

    “นี่อ่อยอยู่นะเนี่ย” แบคฮยอนเท้าเอวแล้วพูดติดตลก  ปล่อยให้ร่างสูงขำกับการกระทำที่ตรงไปตรงมาของตัวเอง

     

    “นี่เรียกอ่อยแล้วหรอ?”

     

    “ดูถูกกันนี่”

     

    “เปล่าซะหน่อย”

     

    “ชานยอล จะบอกอะไรให้นะ...”

     

    “ว่า”

     

    “ฉันเป็นคนที่ติดเที่ยว ติดเพื่อน ร่างกายฉันก็ไม่บริสุทธิ์นะ แต่ก็ไม่ได้มั่วอะไรมากมายขนาดนั้น” แบคฮยอนพูดอย่างใจเย็นแล้วยืนมองร่างสูง

     

    “อ่าฮะ” ชานยอลพยักหน้าเข้าใจแล้วรอฟังต่อ

     

     “ฉันก็คิดว่าจะเป็นแบบนั้นไปเรื่อยๆแต่พอมาเจอนายเท่านั้นแหละ อยู่ๆก็รู้สึกอยากหยุดไปเลย”

     

    “...............”

     

    “ไม่รู้ดิ อยากหยุดที่นายอ่ะ แบบ...โอ๊ยอธิบายไม่ถูกอ่ะ คืออยากให้ปาร์ค ชานยอลเป็นคนสุดท้ายแล้วไง อยากอยู่กับนายตลอดไปเลยอ่ะ ทั้งๆที่เราเพิ่งจะเจอกันด้วยซ้ำ”

     

    “อืม...ฉันก็ยอมรับนะว่าฉันเป็นคนเจ้าชู้ เมื่อก่อนนี่ฟันดะไม่เลือกหน้า ตอนแรกก็คิดจะวันไนท์แสตนด์กับนายนั่นแหละ แต่พอมาเจอแบบนี้ก็เขินๆว่ะ” ชานยอลพูดแล้วก้มหน้าซ่อนริ้วแดงๆไว้ โอ๊ยให้ตายเหอะ ชาตินี่ไม่คิดจะมีเมียกะเขาเลยนะ แต่พอมาเจอแบบนี้ก็ใจสั่นอยู่เหมือนกัน

     

    “นี่ จะฟันอย่างเดียวเลยรึไง”

     

    “แค่คิดเฉยๆไง”

     

    “โอเค ฉันจะหยุดที่นายนะ จะมาเป็นคนสุดท้ายในชีวิตฉันป่ะ ? ” แบคฮยอนยืนกอดอกแล้วมองไปที่ชานยอลเป็นเชิงว่าถ้าไม่ตกลงนี่มึงตายอ่ะ

     

    “เห้ย นี่มัดมือชกอย่างงี้เลยอ่อ”

     

    “ตอบมาก่อน”

     

    “ครับ ปาร์ค ชานยอลจะหยุดที่แบคฮยอนครับ ไม่มีใครอีกแล้วครับ คนนี้คนสุดท้ายในชีวิตแล้วครับ” ชานยอลยกมือยอมแพ้แล้วพูดเสียงดัง

     

    “ดีมากเลยแฟน”

     

    “เป็นแค่แฟนอ่อ ? ”

     

    “เอ้า จะให้เป็นอะไรเล่า”

     

    “เป็นเมีย...” ชานยอลพูดแล้วยักคิ้วทำหน้าเหนือใส่แบคฮยอน ทำเอาคนที่โดนท้าถึงกับความอดทนหมดสิ้นกันไปเลยทีเดียว

     

     

     

    CUT

    เพจเฟสบุค VaLent

    ไบโอทวิตเตอร์ @Tanyaaa2001



     

    บางครั้ง.....ความรักมันก็ไม่ได้เริ่มจาก 0 เสมอไป อาจจะเริ่มที่  100 แต่อยู่ที่ว่าคนสองคนนั้นจะทำให้มันเพิ่มขึ้นหรือลดลง เท่านั้นเอง   แต่ตอนนี้เท่าที่รู้ ของขวัญวันเกิดของแบคฮยอนชิ้นนี้มันคงจะวิเศษที่สุดในชีวิตเลยล่ะ J

     

    HappyBaekhyunDay   J

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TALK

     

    จบอย่างนี้นี่แหละ มาช้าแล้วยังห่วยอีก ซอรี่นะยูวววว เลิฟทุกคนขร่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×