ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ท่านอ๋องกับโลกในนิยาย(Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 ความวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 19 มิ.ย. 64


    ร่างสูงโปร่งของชินอ๋องไป่หลี่หมิงโผล่ออกมาจากความว่างเปล่าในตรอกมืดซึ่งไม่ไกลย้านการค้านักเขาเดินออกมาจากตรอกด้วยความเนิบนาบ



    ระหว่างทางเดินผ่านร้านขายดอกไม้ด้วยความที่เป็นผู้มีพลังปราณ เขาจึงมีสัมผัสทั้ง 5 ดีกว่าคนทั่วไปมาก ทำให้ได้กลิ่นดอกไม้อย่างชัดเจน ด้วยความที่ชินอ๋องมิค่อยชอบกลิ่นดอกไม้ที่ผสมปนเปกันเสียเท่าไหร่เขาจึงต้องรีบเดินหนีจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว



    บริเวณที่ชินอ๋องเดินอยู่มีผู้คนไม่มากนักด้วยทุกคนไปรวมกันที่ย้านการค้าที่มีร้านอาหารเสียมากกว่า (จินตนาการ)



    ทำให้การเดินเล่นครั้งนี้ของเขาเป็นไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรให้รำคาญตา



    ชินอ๋องก้าวเดินอย่างไม่มีจุดมุ่งหมายไปเรื่อยๆ อย่างเอื่อยเฉื่อยก่อนจะเจอเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เขาชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้า



    "พวกมึงจะไปไหนว่ะ! "



    "เฮ้ย!! มึงทำอะไรเพื่อนกูหน่ะ!! "ชายอีกคนที่เห็นเพื่อนโดนกระชากคอเสื้อก็เดินไปผลักคนที่กระชากคอเสื้อเพื่อนอยู่แล้วปล่อยหมัดเข้าไปเต็มแรงจนคนที่โดนต่อยเลือดกลบปาก



    ตุบ!!



    เสียงไม้กระทบแผ่นหลังของคนที่ต่อยชายที่กระชากคอเสื้อเมื่อครู่



    ชายที่โดนตีด้วยไม้ยังไม่ล้มเขาหันไปถีบคนที่ตีเขาด้วยไม้อย่างแรงจนล้ม ก่อนจะพาเพื่อนของตนวิ่งหนีมาทางชินอ๋อง



    ชายสองคนวิ่งผ่านชินอ๋องไปอย่างรวดเร็วตามมาด้วยกลุ่มนักเลงอีก 6 คนที่วิ่งมาตามหลัง



    ก่อนชายร่างท้วมคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าวิ่งตรงมาทางชินอ๋องโดยที่สายตาเพ่งเลงแค่ชายสองคนที่วิ่งผ่านไปแล้ว



    "หลีกไป!! "มืออวบอ้วนของมันยกขึ้นมาเพื่อหมายจะผลักร่างสูงโปร่งของชินอ๋องที่ยืนอยู่ แต่มืออวบอ้วนของมันยังไม่ทันแตะถูกแม้แต่ชายเสื้อชินอ๋องร่างกายของมันก็กระเด็นกลับหลังไปอย่างรุนแรง



    ผลัก!!



    "อ้าก!!! "



    ชายร่างอวบอ้วนถูกอะไรบางอย่างผลักออกไปอย่างรุนแรงก่อนจะลอยหวือไปไกล กระทบกับพื้นถนนดังอัก! แล้วร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมานเลือดจากบาดแผลถลอกปอกเปิดเป็นภาพที่น่าสยดสยองอย่างมาก



    ลูกน้องที่วิ่งตามหลังมาก็มองตามร่างอวบอ้วนของหัวหน้าที่ลอยหวือไปด้านหลังก่อนจะหันกลับมามองชินอ๋องด้วยความหวาดกลัวแต่พอพวกมันเห็นใบหน้าของชินอ๋องแล้ว พวกมันกลับคิดว่าตนเห็นแค่เทพธิดาที่อยู่ตรงหน้า พวกมันรู้สึกว่าอีกฝ่ายสูงสง่างามและไม่อาจเอื้อม



    พอชินอ๋องจ้องมองด้วยสายตาเรียบนิ่งพร้อมกับแรงกดดันที่ปล่อยออกมาอย่างเงียบๆ พวกมันก็รู้สึกสะท้านเฮือกก่อนจะวิ่งหนีไปคนละทิศละทางหลังจากได้สติโดยไม่ลืมแบกหัวหน้าของพวกมันไปด้วย พวกมันได้แต่โอดครวญในใจว่า ถึงจะสวยมากแต่ถ้าน่ากลัวขนาดนั้นก็ไม่ขออยู่ต่อดีกว่า



    ผู้คนที่อยู่ในขณะแวกนั้นต่างหันมามองเหตุการณ์อย่างตะลึงพลันในใจคิดว่า ชายร่างอ้วนไม่น่าจะกระเด็นกลับหลังไปเองแน่ๆ?



    ด้วยความที่มีเรื่องที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นทำให้ประชาชนในระแวกนั้นต่างเข้ามามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว



    ชินอ๋องได้แต่ถอดถอนหายใจอย่างนึกรำคาญ เขาลืมไปว่าโลกนี้ไม่มีพลังปราณทำให้ทุกคนเห็นว่ามันเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติจนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเต็มไปหมด เขาจึงตัดสินใจใช้ช่วงเวลาที่ผู้คนต่างถกเถียงกันเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแทรกตัวออกมาจากบริเวณนั้นอย่างแนบเนียน ก่อนจะใช้วิชาตัวเบากลับคฤหาสน์โดยที่ไม่มีใครทันเห็น



    พอชินอ๋องมาถึงคฤหาสน์ก็เก็บตัวในห้องหยิบหนังสือมาอ่านฆ่าเวลาเพื่อรอทานอาหารกลางวัน เขาเริ่มจะชอบทานอาหารของโลกนี้เสียแล้วมันเลิศรสกว่าอาหารโลกเดิมของเขามาก



    1ชั่วยามหรือ 2ชั่วโมงผ่านไป



    เสียงเคาะประตูที่หน้าห้องก็ดังขึ้น



    ก้อกๆ!!



    "คุณหนูคะ มาทานข้าวเที่ยงได้แล้วค่ะ"เขาผงะไปเล็กน้อยเมื่อเมื่อได้ยินคำว่า'คุณหนู' จะฟังกี่ครั้งต่อกี่ครังก็ไม่ชินเอาเสียเลย



    "อืม"



    หลังจากขานตอบไปร่างสูงโปร่งก็เดินเอาหนังสือไปเก็บในชั้นแล้วเปิดประตูห้องนอนเพื่อออกไปทานข้าว



    เขานั่งหลังตั้งตรงตามแบบฉบับเชื้อพระวงศ์จ้องมองอาหารตรงหน้าด้วยสายตาที่เปล่งประกายที่เห็นได้ยากยิ่งถ้าคนที่โลกเดิมที่คุ้นเคยและรู้จักกับชินอ๋องดีมาเห็นคงคิดว่าตนฝันกลางวันหรือสมองกระทบกระเทือนเป็นแน่ แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว....



    เขาชอบโลกในยุคนี้มากเพราะจะกินอาหารที่ชอบของตนเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่ต้องกังวล กับการวางยาพิษรอบปลงพระชนม์ ที่โลกเดิมของเขาแม้จะมีของโปรดมาวางตรงหน้าแต่ก็ต้องทานอย่างละเล็กละน้อยเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการโดนวางยาพิษในอาหารได้โดยง่าย จึงทำให้การทานอาหารแต่ละครั้งทานได้ในปริมาณที่ไม่มากและต้องไม่ให้ใครรู้ว่าตนโปรดปรานอาหารจานใดบ้าง



    แต่โลกนี้เขากลับสามารถทานของโปรดเท่าไหร่ก็ได้โดยไม่ต้องระแวงเรื่องการวางยาพิษ มันช่างดีเหลือเกิน



    ชินอ๋องใช้เวลาในการทานอาหารถึงครึ่งชั่วยาม (1ชั่วโมง) เพื่อค่อยๆ ระเลือดระลิ้มชิมรสอาหาร อย่างช้าๆ เพื่อสัมผัสกับรสชาติอาหาร ยามที่เนื้อหมูที่หั่นกันเป็นชิ้นเล็กพอดีคำเข้าปากเขารู้สึกถึงความนุ่มละมุนลิ้น รสชาติหวานเค็มตัดกับมันหมูอันน้อยนิดแผ่กำซาบไปทั่วโพลงปากจนแทบจะเผลอกลืนลิ้นลงไปด้วย



    เขาคิดว่าอาหารของยุคนี้มันดียิ่งนัก รสเลิศยิ่งกว่าในวังหลวงที่เขาเคยทานเสียอีก



    หลังจากทานอาหารเสร็จชินอ๋องก็เดินไปยังสวนหลังบ้านที่มีน้ำพุจำลองประดับอยู่กลางสวนเพื่อย่อยอาหาร เขาเลื่อนสายตาไปชมวิวทิวทัศน์รอบข้างอย่างเฉยชาก่อนจะเดินไปดูผักที่ปลูกอยู่ไม่ไกลนัก



    ชินอ๋องเดิรเล่นอยู่สวนหลังบ้านได้สักพักก็ใช้วิชาตัวเบาไปทางป่าตรงสถานที่เดิมเพื่อปรับสมดุลย์ลมปราณ



    แต่ การมาครั้งนี้ของเขากลับเจอเข้ากับช้างป่า3ตัวที่น่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูก พวกมันเล่นน้ำอยู่ไม่ไกลจากก้อนหินขนาดใหญ่ที่ประจำของเขามากนัก แต่เขากลับหาได้สนใจไม่ยังกระโดดไปยืนบนหินอย่างสง่างามเช่นเดิมแล้วเตรียมจะนั่งลง



    พอช้างเห็นชินอ๋องพวกมันก็เอาตัวมาบังลูกของมันไว้แล้วร้องออกมาก่อนจะจ้องมองชินอ๋องเขม็ง พวกมันหวาดระแวงชินอ๋อง!



    แต่มีหรือชินอ๋องจะสนใจพวกมัน เขายังคงนั่งลงทำสมาธิเพื่อปรับสมดุลย์ลมปราณเช่นเดิมโดยไม่สนใจพวกมันอีก



    ช้าง 3 ตัวนั้นเห็นว่าคนที่พวกมันเจอไม่สนใจพวกมันและไม่มีอันตรายใดๆจึงกลับไปเล่นน้ำต่อเช่นเดิม แต่ครั้งนี้สายน้ำกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก 







          ✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️✂️ 


    ช่วยคอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยน้าาาาา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×