คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [All(?) x Suho]:::เผ่าพันธุ์ CH,2
Story : [SF] เผ่าพันธุ์
Couple: (All(?) x Suho)
Info: ธีมเผ่าพันธุ์ปีศาจ
Chapter 2
วันพระจันทร์เต็มดวง ตระกูลวูฟถือว่าวันนี้เป็นวันที่ไม่มีใครกล้าต่อกรด้วย
ยิ่งคนที่เป็นทั้งหัวหน้าตระกูล…ทั้งแรร์สปีซี่อย่าง หมาป่าสีดำหรือแบล็ควูฟ
วันนี้ถือได้เป็นวันที่มีอำนาจสูงที่สุดในบรรดาเผ่าพันธุ์ทั้งหมด
แต่ทว่า…
เจ้าของบ้านนึกสงสัยกับปฏิกริยาของคนข้างล่าง(?)ที่ดูปกติทุกอย่าง ซึ่งมันไม่ใช่…คนที่จ้องตาเค้าทุกคนจะโดนพลังของเค้าทำให้ไม่สามรถควมคุบตัวเองได้คล้ายโดนสะกดจิต
แต่คนนี้กลับไม่ได้เป็นไปตามนั้น…
“อ๊ะ! ขอโทษครับ!” จุนมยอนที่ตอนนี้เพิ่งรู้ตัวว่าจับหน้าชายหนุ่มเข้ามาซะจมูกแทบชนกันต้องปล่อยมือออก แต่พอจะลุกก็ดูเหมือนจะเพิ่งจะได้สติกลับมาว่าโดนคร่อมเอาไว้ จุนมยอนหน้าขึ้นสีระเรื่อและนั้นก็ไม่พ้นสายตาอันเชียบคมของเซฮุนแน่นอนแต่ก็เลือกที่จะทำเป็นเมินเฉย เซฮุนลุกขึ้นเต็มความสูงเพื่อให้อีกคนได้ลุก จุนมยอนเลยรีบลุกตามเช่นกัน
“เข้ามาทำอะไร?” เจ้าของบ้านถามเสียงเรียบเพราะอีกคนต้องมีจุดประสงค์อะไรเป็นแน่ถึงขนาดเข้ามาในห้องนอนที่แทบจะนับคนได้ที่เข้าแล้วไม่โดนว่ากลับออกไป
“พี่คยูฮยอนบอกว่าให้มาหาอะไรให้คุณกินน่ะครับ” ทั้งสรรพนามทั้งคำพูดสุภาพทำให้เซฮุนรู้สึกหงุดหงิดนิดหน่อยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เจ้าตัวเดินนำอีกคนให้ออกมาที่ห้องทำงานก่อนเพื่อจะได้คุยกันได้สะดวกเพราะมีไฟเปิดทิ้งเอาไว้ จุนมยอนที่ตอนนี้เห็นหน้าของอีกคนชัดขึ้น ผมสีเทาตาสีน้ำเงินเข้มดูดีกว่าเมื่อวานเยอะเลย
“คุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษรึเปล่าครับ?”
“ไม่มี อะไรก็ได้” เซฮุนตอบแทบจะทันทีและเตรียมเดินนำไปที่ประตูจนอีกคนต้องเดินตามไปเพราะถ้าเจ้าของห้องไม่อยู่ในห้องคนนอกอย่างเค้าก็ไม่รู้จะอยู่ไปทำไม คนเดินนำก็นำอีกคนไปตามทางเดินแต่ดูเหมือนจุนมยอนจะเผลอมองข้างทางมากไปหน่อยจนอีกคนต้องหยุดเดินเพื่อรอ
“ขอโทษครับ” จุนมยอนที่พอเห็นเจ้าของบ้านยืนรออยู่เลยรีบเร่งฝีเท้ามาให้ทัน ตอนแรกก็ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมเจ้าของต้องเดินออกมาส่งด้วยแต่เพราะว่าตอนนี้มันเหมือนบ้านร้างมาก ตัวเองก็ไม่รู้ทางไปห้องครัว เลยน้อมรับความใจดีที่เจ้าตัวตัดสินว่าเป็นอย่างนั้นไว้และเดินตามออกมา
“ขอถามได้มั้ยครับว่าคนอื่นหายไปไหนหมด” จุนมยอนถามออกมาโต้งๆด้วยความอยากรู้ ก็อยู่ที่อีกฝ่ายจะตอบหรือไม่ตอบก็แค่นั้น
“วันนี้วันจันทร์เต็มดวง คนอื่นจะต้องกลับบ้านกันหมด” จุนมยอนพยักหน้ารับถึงคำตอบ ถึงจะดูไม่เคลียร์แต่ก็ไม่อยากถามอะไรมาก จุนมยอนรอบมองดวงตาสวยของคนข้างๆเป็นระยะๆเพราะรู้สึกหลงใหลในสีตาอยู่มาก
มันสวยซะจนอดที่จะมองไม่ได้
เซฮุนรู้ตัวว่าอีกคนคอยมองมาอยู่ตลอด แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมดวงตาของตนนั้นถึงไม่มีผลต่อร่างบางข้างๆ ทั้งๆที่ดวงตาแบล็ควูฟอย่างเค้าช่วงจันทร์เต็มดวงแบบนี้สามารถทำให้คนที่โดนจ้องทำตามได้ทุกอย่างแต่มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะนี่
“คุณเซฮุนครับ” จุนมยอนหยุดกึกเพราะทนไม่ไหวเรียกคนข้างๆเสียงดัง เซฮุนหยุดเดินเช่นกันและหันไปมองอีกคนที่ตอนนี้มองหน้าตนจริงจังมาก
“?”
“ขอดูตาแบบใกล้ๆได้มั้ยครับ?” พอจุนมยอนพูดจบเซฮุนถึงกับขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวันเพราะเพิ่งจะเคยโดนคนขอดูตาที่มีความสามารถในการสะกดคนได้ก็ครานี้แหละ น้องชายของเพื่อนสนิทคนนี้จะแปลกเกินคนไปแล้ว
เซฮุนพยักหน้าเพราะอยากจะพิสูจน์อีกรอบเช่นกัน เซฮุนเขยิบเข้าไปใกล้อีกคนที่เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาสีดำสบเข้ากับดวงตาสีน้ำเงินเข้มอยู่พักใหญ่จนอีกคนพอใจเลยระบายยิ้มบาง เซฮุนรู้สึกว่ายิ้มที่ถูกส่งมาให้มันดูจริงใจและเชื่อถือได้เหมือนกับเพื่อนสนิทของเค้า แต่ก็ยังมีอะไรมากมายหลายอย่างที่ตนรู้สึกข้องใจเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ที่ดูยังๆก็แค่ผู้ชายเผ่าพันธุ์มนุษย์เลยทำให้เกิดความรู้สึกสนใจขึ้นมา
เซฮุนเดินนำจนมาถึงห้องครัวใหญ่ที่ตอนนี้มันดูโล่งซะจนเคว้งคว้าง จุนมยอนเดินตรงไปที่ตู้เย็นขนาดใหญ่และหลายใบ เลือกของอยู่พักใหญ่และก็หอบเอามาวางไว้ตรงโต๊ะเตรียมอาหาร เสร็จแล้วก็เดินไปหาอุปกรณ์เครื่องครัวที่ต้องการ
“เอ่อ…คุณเซฮุนครับ…” เสียงเรียกจากอีกขึ้นเรียกสติโอเซฮุนที่กำลังยืนปั้นหน้านิ่งอยู่คนเดียวให้หันไป เซฮุนมองร่างบางสลับกับกระทะและหม้อที่อยู่เหนือหัวของอีกคน และพอจะเข้าใจสถานการณ์เลยต้องเดินเข้าไปช่วย
“อันนี้ อันนี้ แล้วก็อันนี้ครับ” เสียงใสบอก เจ้าตัวก็ได้แต่หยิบตามที่อีกคนที่กล้าใช้(?)และก็กลับไปยืนที่เดิม จุนมยอนโค้งขอบคุณอย่างมีมารยาทก่อนที่จะเริ่มลงมือทำตามเมนูที่ตัวเองคิดเอาไว้
พอทำไปได้สักพักเหมือนความคิดพิเรนก็ดันเเล่นขึ้นมาในหัว…
ถ้าให้เจ้าของบ้านช่วยทำอาหารจะผิดมั้ยนะ?
จุนมยอนหัวเราะคิกคักคนเดียวก่อนจะเดินไปหาอีกคนที่สีหน้าดูเบื่อ และจุนมยอนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ไปรอที่ห้องล่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลงเดินจูงมือขาวของอีกคนให้เดิมตามมา เซฮุนขมวดคิ้วอีกครั้งและก็รู้สึกงงเพราะมีดที่ถูกส่งมาตอนนี้มันอยู่ในมือของตนที่รับมาแบบไม่ทนัตั้งตัวเรียบร้อยแล้ว
“เห็นคุณเบื่อ” เซฮุนมองมีดกับหน้าของร่างบางสลับกันไปมาและนึกขันว่าตนเพิ่งเคยโดนคนลากมาทำอะไรแบบนี้
จุนมยอนคอยสอนอีกคนอยู่ไม่ห่างถึงขนาดต้องถึงเนื้อถึงตัว และดูว่าร่างบางนั้นจะไม่หวงตัวเลยแม้แต่น้อยหรือเพราะว่าไว้ใจเจ้าของบ้านคนนี้ก็ไม่รู้เลยไม่ได้คิดอะไร จุนมยอนตักของในถ้วยให้อีกคนชิมแบบไม่ได้คิดอะไร ช้อนที่ตอนนี้จ่อปากอยู่ เจ้าของบ้านเลยต้องรับเข้าปากมาอย่างขัดไม่ได้
“อร่อยมั้ยครับ?”
เซฮุนพยักหน้ารับเพราะมันอร่อยจริงๆ มันไม่เหมือนกับของที่แม่บ้านทำให้กินและก็นะที่จริงวันจันทร์เต็มดวงแบบนี้น่ะเค้าไม่เคยกินข้าวหรอกเพราะถึงไม่กินข้าวหลายวันวูฟอย่างเค้าก็ไม่เป็นอะไร
ตกลงปลงใจกันยังไงไม่รู้เซฮุนกับจุนมยอนนั่งกินข้าวกันภายในห้องครัวกันสองคน คนที่ไม่ชอบบรรยากาศวังเวงเลยต้องเปิดประเด็นคุยตามนิสัย
“อยู่บ้านคนเดียวไม่เหงาหรอครับ?” คนครัวจำเป็นเอ่ยถามเพราะรู้สึกสงสารอีกคนที่ต้องมาอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้คนเดียวทุกวันจันทร์เต็มดวงแต่ก็นะเดือนละครั้งคงอยู่ได้แหละ
“ไม่น่ะ”
“คุณเซฮุน…”
“ตัดคุณออกไปเถอะ เรียกแบบโจคยูฮยอนก็ได้” เซฮุนบอกอีกคนเลยยิ้มรับเพราะเรียกแบบนี้ก็ดีเหมือนกันดูเหมือนเพื่อนกันมากกว่าและดูเชื่อใจกันขึ้นมากกว่าด้วย
ทั้งคู่เดินกลับมาที่ห้องโอเซฮุนอีกครั้งเพราะดูเหมือนจะไม่มีอะไรทำ จุนมยอนที่พยายามจะทำความสนิทสนมด้วยก็ได้แต่ถามอะไรไปเรื่อยเปื่อยชวนอีกคนคุยไปเรื่อย ส่วนอีกคนน่ะหรอ ตอบแบบนับคำได้แต่จุนมยอนก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะทุกคนมีนิสัยไม่เหมือนกันสักหน่อย
พอเข้ามาในห้องเซฮุนก็บอกให้อีกคนหาอะไรอ่านจากตู้หนังสือไปก็ได้ส่วนตนน่ะหรอกะจะทำงานสักหน่อย
จุนมยอนเลือกหนังสือตามชั้นวางที่มีหนังสืออยู่ร่วมร้อยเล่ม มือบางไล่หนังสือไปเรื่อยจนไปเจอเล่มนึงที่สันปกดูดึงดูดสายตาจนต้องดึงออกมาจากชั้น
“Wolves”
ริมฝีปากบางเอ่ยชื่อปกหนังสือเสียงเบาแต่ดูตื่นเต้นเพราะตนไม่เคยอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์อื่นๆมาก่อน
จุนมยอนเดินตรงไปยังโซฟาข้างชั้นหนังสือทันที เปิดหนังสือหน้าแรกและก็ตั้งใจอ่านแบบไม่สนใจแม้กระทั่งเจ้าของห้องที่มองมา
เซฮุนเห็นอีกคนตั้งใจอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ของตนก็เลยไม่ได้สนใจอะไรกลับไปสนใจงานต่อ
ตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆจนเซฮุนต้องมองอีกคนที่ดูท่าจะติดใจหนังสือในมือเป็นอย่างมากเพราะเล่นอ่านจนลืมเวลา และจมไปอยู่กับหนังสือร่วมสามชั่วโมง
“……จุนมยอนอ่า” เซฮุนชั่งใจอยู่นานว่าจะเรียกชื่ออีกคนดีมั้ยเพราะมันดูแปลกใหม่สำหรับเค้าอยู่มากโขที่ต้องมาเรียกชื่อคนที่เพิ่งรู้จักกันแบบสนิทสนม แต่ก็ตัวเองอีกนั้นแหละเป็นคนบอกให้อีกฝ่ายเรียกเค้าแบบไม่เติมคุณก่อน
คนโดนเรียกเงยหน้าขึ้นมามองและก็รออีกฝ่ายพูด
“เย็นแล้ว” แค่คำสั้นๆก็ทำให้ร่างบางกระเด้งตัวลุกขึ้นไปเปิดผ้าม่านทางด้านหลังเจ้าของห้องทันที
แสงสีส้มด้านนอกบ่งบอกได้ดีว่าตอนนี้อย่างต่ำก็ประมาณห้าโมงเย็นได้ จุนมยอนปิดผ้าม่านดั่งเดิมและก็เดินออกนอกห้องไปโดยไม่ได้พูดอะไรกับเจ้าของห้องสักคำ
เซฮุนมองไปที่อีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อเพราะคิดว่าอีกคนคงจะรีบกลับบ้าน
แต่ทว่า…
เสียงประตูก็ถูกเคาะและเปิดขึ้นอีกครั้ง เซฮุนเงยหน้าขึ้นมามองตั้งแต่เคาะแรกแล้ว คิดว่าคนที่เคาะก็จะคงเป็นน้องชายของเพื่อนสนิทแน่เพราะวันนี้คงไม่มีใครกล้าเข้ามาที่บ้านนอกจากผู้ชายคนนี้หรอก
จุนมยอนเดินเข้ามาพร้อมกับถาดอาหารในมือที่ทำไว้เมื่อกลางวันเพราะคาดเอาไว้อยู่แล้วว่าคงไม่มีเวลามาทำอาหารเย็นไว้ให้เลยทำไว้ก่อนและเมื่อกี้ก็ไปอุ่นมาให้อีกคน จุนมยอนเดินไปวางบนโต๊ะข้างประตูและก็ตรงมายังโต๊ะทำงานที่อีกคนนั่งอยู่
“อย่าลืมกินข้าวนะ ชั้นต้องกลับแล้ว” หลังจากเจ้าของบ้านให้เลิกพูดสุภาพน้ำเสียงก็เลยเปลี่ยนไปจากเกร็งๆตอนแรกตอนนี้ดูผ่อนคลายขึ้นกว่าเก่าแถมยังฟังดูน่ารัก(?)ขึ้นกว่าก่อนอีก เซฮุนพยักหน้าตอบรับอีกคนเพราะจากน้ำเสียงและสายตานั้นมันดูเหมือนคนที่เป็นห่วงตนด้วยความจริงใจก็เลบแอบรู้สึกดีไม่น้อย
“เดินตรงกลับบ้าน ห้ามตอบรับใครที่เรียกเด็ดขาด เข้าใจใช่มั้ย?” เซฮุนเตือนอีกเพราะเค้าไม่อยากออกจากบ้านสักเท่าไหร่ในวันแบบนี้เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ เลยได้แต่เตือนอีกคนด้วยความหวังดี
“รู้หรอกน่าว่าวันนี้วันจันทร์เต็มดวง” จุนมยอนหัวเราะนิดๆเพราะอีกคนทำตัวเหมือนพี่ชายบ๊องๆของเค้าอีกคนไปแล้ว
“อย่าลืมกินข้าวนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาตรวจดู” จุนมยอนชี้ย้ำๆไปที่ถาดอาหาร ยิ้มกว้างอีกทีและก็เดินออกจากห้องไป อยากจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าของห้องหรอกนะ แต่มันอาจจะดูไม่ดีถ้าคนที่เพิ่งรู้จักกันมาอยู่ร่วมกันเพราะเจ้าของบ้านอาจจะยังไม่ไว้ใจตนก็ได้
เซฮุนเผลอยิ้มออกมาแบบไม่คาดคิด กระแอ่มเบาๆคล้ายจะเตือนสติตัวเองอีกทีและก็ทำงานต่อและกะจะกินอาหารที่อีกคนทำไว้ให้ทีหลัง
เช้าวันต่อมา คยูฮยอนกับจุนมยอนเดินออกจากบ้านมาพร้อมกัน ทั้งคู่ออกมาตั้งแต่เช้าเพื่อที่จะไปคฤหาสน์ของโอเซฮุนตามปกติ เมื่อวานคยูฮยอนถามน้องชายซะละเอียดยิบว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเหมือนรู้อย่างงั้นแหละว่ามันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นจนอีกคนต้องเค้นถามแต่คยูฮยอนก็แค่ปัดไป จุนมยอนเลยไม่ได้ถามอะไรอีกเพราะพี่ชายคนนี้คงไม่กล้าส่งน้องชายไปเสี่ยงอันตรายอะไรหรอก
ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ๆก็เถอะ…
ช่วงแรกๆจุนมยอนก็สงสัยว่าทำไมคนทั้งบ้านถึงเป็นเผ่าพันธุ์สุนัขรวมทั้งพ่อและแม่ของเค้าด้วยแต่เค้าคนเดียวกับเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ และถ้าถามว่าทำไมถึงได้รู้ก็เพราะว่าเค้าคนเดียวที่ไม่มีความสามารถเหนือธรรมชาติแบบคนอื่นเลยน่ะสิ! เค้าไม่ใช่คนโง่ที่ไม่รู้อะไรหรอกนะ และพอถามที่บ้านไปตรงๆด้วยความจริงจังก็เลยรู้มาว่าพ่อแม่เอามาฝากไว้เพราะต้องหนีอะไรสักอย่างไป ส่วนพ่อแม่คนปัจจุบันก็เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อแม่ของเรา แต่ก็นะเพราะโตมากับพ่อแม่คนปัจจุบันนี้เลยไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่ถึงจะจำหน้าพ่อแม่จริงๆไม่ได้
และก็ไม่ได้เสียใจด้วย แค่รู้ว่าต้องตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงเรามาก็พอ
ทั้งคู่เดินตรงเข้ามาที่ห้องของเจ้าของบ้านทันทีที่มาถึง คยูฮยอนเคาะประตูและก็เปิดเข้ามาตามปกติ
“ฮัวโหล! โอเซฮุนนน” คยูฮยอนทักอีกคนที่มองมาอย่างปลงๆเพราะเล่นทักแบบนี้มาตั้งแต่มาทำงานแรกๆยันปัจจจุบันก็ไม่เปลี่ยนแปลง จุนมยอนที่เดินตามเข้ามาก็มองถาดอาหารที่วางไว้ตรงโต๊ะที่เดิมเป็นอย่างแรก ยิ้มพอใจเสร็จก็หันมาทักอีกคนทันที
“หวัดดี เซฮุนน่า” จุนมยอนส่งยิ้มหวานไปให้จนพี่ชายต้องหันมามองค้อนเพื่อนสนิทที่แค่พยักหน้ารับ
“อะไรๆ ให้มาเฝ้าวันเดียว สนิทกันไปถึงไหนเนี๊ย” คยูฮยอนแอบแขวะเพื่อนสนิทที่ตอนนี้ก็แค่ทำเป็นไหวไหล่ไม่สนใจ คนถามก็ถามไปงั้นแหละเพราะรู้ว่ามันไม่มีอะไรหรอก
“พี่คยูไม่ต้องไปทำงานหรอครับ?” จุนมยอนที่เห็นอีกคนมัวแต่คุยเรื่องที่มันฟังดูไร้สาระกับเพื่อนสนิทที่ยอมฟัง(?)ได้ไง เลยทักขึ้น ซึ่งพี่ชายก็หันหน้ามายิ้มซะกว้างงงงง
“ยังไม่ทำอ่ะ”
แป่ว
“ถ้าเซฮุนไม่ว่าอะไร ผมก็พูดอะไรไม่ได้หรอกเน๊อะ” จุนมยอนคล้ายจะประชดพี่ชายหน่อยๆปิดท้ายด้วยหัวเราะนิดๆจนทำให้พี่ชายถึงกับยิ้มแห้งเพราะเหมือนน้องด่าว่าอู้งานยังไงก็ไม่รู้
“แล้วให้ชั้นทำอะไรอ่ะ?” จุนมยอนถามเจ้าของห้องที่มองดูพี่น้องคุยกันอยู่นาน
“อ่านหนังสือรอไปก่อน ถ้ามีอะไรให้ทำเดี๋ยวเรียก” จุนมยอนพยักหน้ารับทันทีเพราะแค่มาช่วยงานตามที่พี่ชายบอก ตอนนี้เลยต้องทำตามเจ้าของบ้านไปก่อนเพราะคงยังหางานจริงๆให้ตนทำไม่ได้คนตัวเล็กเดินไปหยิบหนังสือเล่มเก่าที่ยังคงวางที่บนโซฟาตัวเดิม เปิดหน้าที่จำได้ว่าอ่านค้างไว้เมื่อวานและก็บรรจงอ่านโดยไม่สนใจพี่ชายกับเพื่อนพี่ชายว่าจะคุยเรื่องไร้สาระหรือมีสาระก็แล้วแต่
คยูฮยอนที่เห็นอีกคนอ่านหนังสือไปแล้วเลยคุยกับเพื่อนสนิทค่อมีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างเหมือนที่น้องชายคิดไม่มีผิด จนกระทั่งถึงเวลาที่ตนคืดว่าน่าจะไปทำงานได้แล้ว
“จุนมยอนอ่า” คยูฮยอนเรียกน้องชายตัวเองที่ตอนนี้หันมามอง
“ตามพี่มา จะให้ไปเอาของมาให้เซฮุนมัน” จุนมยอนพยักหน้ารับเพราะมีอะไรมาให้ทำสักที
สองพี่น้องเดินออกไปทำให้ห้องที่เงียบตอนนี้ก็กลับมาเงียบอีกครั้ง และคนที่ทำให้ห้องเสียงดังได้ก็มีอยู่แค่สองคนในบ้านนี้เท่านั้นแหละ
และไม่ทันที่จะนินทาถึงอีกคนที่เป็นหนึ่งในคนที่ชอบทำเสียงดังไปถึงสิบนาที ประตูก็เปิดออกพร้อมกับเสียงดังๆของคนนั้นแหละ
“โอเซฮุนนนนน!” เสียงลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของชื่อวิ่งเข้ามาพร้อมกับเสียงตื่นเต้น ผมสีแดงเข้มไหวไปตามความแรงลมตอนวิ่งเข้ามา สองมือตบโต๊ะดังปังด้วยความตื่นเต้น
___________________________________
ญาติผมสีแดงคนนั้นคือใครเอ่ย!?
คำใบ้: ตอนหน้าออกมาใหม่อย่างต่ำสองคน โฮะโฮะ
เป็นไงมั่งค่ะ ชอบกันป้ะ
คือแบบตอนแรกอ่านจะไม่สนุกเพราะออกมาแค่โอเซฮุน แต่หลังๆเริ่มทยอยออกมาแล้วค่ะ
ได้ตอดจุนมยอนกันไม่น้อยหน้า กร๊ากก
ไรเตอร์กลับมาคึกอีกครั้งเพราะคอมเมนท์จริงๆนะ
เข้ามาเช็คมีคนมาคอมเมนท์ก็ชื่นใจ อยากแต่งต่ออยากเอามาลง
เอาไว้ตามต่อตอน 3 นะคะแล้วจะดูว่าคนอ่านเยอะอ้ะป่าว
*ส่งจูบรัวๆ*
ความคิดเห็น