ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] Short Fictions [All x SUHO]

    ลำดับตอนที่ #7 : [All(?) x Suho]:::เผ่าพันธุ์ CH,1

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 56


    Story : [SF] เผ่าพันธุ์
    Couple: (All(?) x Suho)
    Info: ธีมเผ่าพันธุ์ปีศาจ

     



    Chapter 1




    หยดน้ำกระทบลงกับพื้นบ่อยและหนักจนเกิดเป็นหนองน้ำเล็กอยู่ตามทางเดิน เสียงฟ้าดังครอบคลุมทั้วทั้งฟ้าแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้ผู้คนที่เดินอยู่ตามท้องถนนนั้นดูบางตาแม้แต่อย่างไร ร่มหลากสีถูกหยิบขึ้นมาใช้ ผู้คนเดินผ่านกันไปมา และนั้นก็ร่วมถึงชายหนุ่มร่างบาง ผิวขาวเนียนที่ขับเข้ากับผมสีน้ำตาลลมะฮอกกานีของตนได้เป็นอย่างดี ร่างบางเดินถือร่มท่ามกลางฝนจนไปสุดถนน มือขวาที่กระชับซองสีน้ำตาลในมือเพราะกลัวจะเปียก รีบเร่งจนไปให้ถึงจุดหมายที่เห็นอยู่ข้างหน้าไม่เกิน
    50 เมตร

     

    ร่างบางเดินมาหยุดอยู่หน้ารั้วไม้ใหญ่ที่ล้อมรอบบ้านขนาดใหญ่ไว้ และเนื่องจากบ้านตรงหน้าขึ้นชื่อว่า หนึ่งในสี่ตระกูล’ ที่ทำหน้าทีปกครองเมืองแห่งนี้ไว้เลยดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่สมควรในความคิดของตนที่คิดว่าบ้านต้องใหญ่ขนาดนี้ เพราะไหนจะต้องมีสมาชิกหรือลูกน้องที่ต้องคอยควบคุมพลเมืองคนอื่นๆอีก

     

    เชิญครับ ท่านจุนมยอนชายชราคนหนึ่งเปิดประตูไม้ต้อนรับพลางทักซะสุภาพจนร่างบางถึงกลับต้องโค้ง 90 องศาด้วยความที่ตกใจและมารยาทที่ถูกสั่งสอนมาว่าต้องเคารพคนแก่กว่า ชายชรายิ้มบางและเผยมือให้อีกคนเดินเข้ามา

     

     

    “ท่านคยูฮยอนบอกไว้แล้วครับ ว่าท่านจะมา” ชายชราที่เดินนำหน้ากล่าวซึ่งร่างบางก็แค่ระบายยิ้ม รู้สึกที่ๆมามันดูไม่ค่อยเข้ากับตนสักเท่าไหร่

     

    อย่าเรียกผมว่าท่านเลยครับ มันดูไม่เหมาะ” ร่างบางกล่าว ทำให้ชายชราต้องหยุเดินและหันมามองด้วยความสงสัย

     

    “เรียกผมว่า จุนมยอน เถอะครับ” ร่างบางหรือ คิมจุนมยอน ระบายยิ้มสวยซึ่งอีกคนก็พยักหน้าอย่างเข้าใจและคิดว่าเด็กตรงหน้าดูมีมารยาทแถมยังดูเพรียบพร้อมกว่าคุณหนูของหลายๆตระกูลซะอีก

     

    ชายชราพาจุนมยอนเดินมาจนถึงห้องโถงขนาดใหญ่และให้มานั่งรอที่โซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้อง ร่างบางโค้งขอบคุณก่อนที่จะนั่งลงที่โซฟานุ่มเพื่อรอคนที่ลืมซองสีน้ำตาลทิ้งไว้ที่บ้านจนน้องชายอย่างเค้าต้องเอามาให้ และถึงจะรู้ว่าพี่ชายของตนนั้นทำงานอยู่ที่นี่มาหลายปีแต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ตนมาเหยียบที่นี่

     

    จุนมยอนนั่งมองซ้ายมองขวาเป็นเชิงสำรวจและก็กลับมานั่งมองตรง ในใจแอบรู้สึกเหมือนมีใครหลายคนแอบมองแต่เพื่อไม่ให้คนพวกนั้นรู้ตัวเลยต้องทำเป็นนั่งนิ่งเอาไว้ เพื่อรอพี่ชายตนที่ตอนนี้ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน

     

    และในวินาทีต่อมา แรงสัมผัสที่ไหล่ทำให้เจ้าตัวต้องหันควับกลับไป

     

    “พี่คยูฮยอน…” เสียงร่าบางเหมือนโล่งอกที่คนที่มาทางด้านหลังคือพี่ชายของตนไม่ใช่ใครที่เค้าคิดว่าเป็นคนลอบมองเค้าอยู่ในมุมมืด

     

    เป็นอะไรไป?” คยูฮยอนถามน้องชายที่ตอนนี้ยิ้มหวาดๆส่งมาให้และไหนจะน้ำเสียงที่ดูตกใจเมื่อกี้อีกละ

     

    เปล่าครับ แค่ไม่คุ้นที่น่ะ” ร่างบางบอกปัดและยื่นซองสีน้ำตาลให้อีกคนทันทีเพราะอยากจะรีบกลับบ้านเต็มทนแล้ว

     

    “ขอบใจมาก”

     

    งั้น..ผมกลับก่อนนะ” ร่างบางพอส่งของที่พี่ชายสั่งมาเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นทันที เตรียมบ๊ายบายจนพี่ชายต้องรีบเข้ามารั้งแขนเอาไว้ก่อน

     

    “อย่าเพิ่งกลับๆ ฝนยังตกอยู่เลย” คยูฮยอนไม่ว่าเปล่าดึงน้องชายให้เดินเข้ามาภายในบ้านลึกกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ และน้องชายที่ดีไม่เคยขัดพี่ชายเลยแม้แต่น้อยก็ต้องยอมเดินตามอีกคนเข้ามาอย่างหวาดๆ ก็เพราะตระกูลใหญ่ที่ตนมาเยือนน่ะเป็นถึง “เผ่าพันธุ์วูฟเลยนี่นา ส่วนพี่ชายเค้าน่ะหรอเป็น เผ่าพันธุ์สุนัข’ ที่ขึ้นตรงต่อเผ่าพันธุ์วูฟมาร่วมหลายร้อยปี แต่ไม่ใช่ว่าเมืองที่เค้าอาศัยอยู่จะมีแค่มนุษย์แบบเค้าเพียงคนเดียวสักหน่อย

     

    เข้าไปนะ” พี่ชายที่ตัวสูงกว่าเค้าเคาะประตูสอง-สามทีและก็เปิดเข้าไป ในใจของร่างบางน่ะเห็นพี่ชายพูดแบบสบายๆด้วยเลยนึกว่าเป็นแค่ห้องเพื่อนธรรมดาแต่ที่ไหนได้

     

     

    แรงกดดันจากสายตาของชายหนุ่มผิวขาวซีดขับกับผมเทาที่ทำให้ดูน่าเกรงขามสะกดสายตาของชายหนุ่มเอาไว้ได้ดี เลือดสูบเร็วขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ รู้สึกสมองเบลอจนต้องส่ายหัวเพื่อเรียกสติคืน

     

     

    “นี่เจ้านายและเพื่อนสนิทพี่ ชื่อโอเซฮุน” พี่ชายแนะนำอีกคนให้รู้จักจนน้องชายอย่างเค้าต้องโค้งทักทายเจ้านายพี่ชายสักหน่อย และยิ่งพอได้ยินชื่อของอีกคนที่เป็นถึง ‘หัวหน้าตระกูลชายหนุ่มก็รู้สึกตกใจนิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าหัวหน้าตระกูลของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่จะดูเด็กขนาดนี้

     

    คิมจุนมยอนครับ” ร่างบางแนะนำตัวพร้อมกับส่งยิ้มให้อีกคนแบบที่ตัวเองทำบ่อยๆ จนทำให้ชายหนุ่มอีกคนดูจะอึ้งไปเล็กน้อยเพราะอาจจะเป็นครั้งแรกที่รู้สึกเกิดความสนใจคนอื่นเป็นครั้งแรก

     

     

    แต่ก็นั้นแหละไม่มีทางรู้ตัวหรอก…

     

     

     

    พรุ่งนี้ชั้นจะให้น้องชายชั้นเข้ามาช่วยงานในคฤหาสน์ ได้รึป่าว?” เสียงพี่ชายถามเพื่อนสนิทคล้ายจะวางแผนเรื่องนี้มาได้สักพักแล้ว ส่วนน้องชายที่ยืนอยู่ข้างๆก็หันควับไปทันที

    ทำไมให้มนุษย์อย่างเค้ามาทำงานในสถานที่ที่มีแต่เผ่าพันธุ์อื่นด้วย ไม่เข้าใจว่าพี่ชายของตนคิดอะไรอยู่เลยได้แต่เงียบเอาไว้เพื่อที่จะถามในภายหลัง

     

    “ตามใจ” โอเซฮุนตอบสั้นๆเป็นเชิงอนุญาติและลอบมองชายหนุ่มผิวขาวที่ยืนอยู่ข้างเพื่อนสนิทของตนเองที่ตอนนี้ได้แต่กระพริบตาปริบๆส่งมาให้

     

    ขอบใจมาก!” คยูฮยอนบอกและก็ลากน้องชายที่โค้งให้อีกคนแทบไม่ทันและก็หมุนตัวตามแรงจูงพี่ชายไป จนสุดสายตา โอเซฮุนก็ยังไม่เลิกมองประตูที่สองพี่น้องออกจากห้องไปแล้ว ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกเหมือนข้องใจกับน้องชายของเพื่อนสนิท

     

     

     

     

    ทางด้านคยูฮยอนที่เดินมาส่งน้องชายถึงหน้ารั้วคฤหาสน์ ก็ไม่อยากจะปล่อยให้น้องชายกลับคนเดียวสักเท่าไหร่ บอกให้อีกคนรอจนกว่าเค้าจะกลับแต่อีกคนก็ยังรั้นที่จะกลับด้วยเหตุผลที่ว่าต้องกลับไปเตรียมกับข้าว ทั้งๆที่ที่บ้านก็มีคนทำให้อยู่แล้ว แต่น้องชายเค้าก็ชอบจังเลยไอ่พวกงานคนใช้เนี่ย

     

    กลับดีๆนะ เข้าใจป้ะ?” คยูฮยอนถามเสียงสูงทำให้ชายหนุ่มถึงกับยิ้มขัน

     

    ครับๆ ท่านพี่คยูฮยอน ผู้ชายอย่างคิมจุนมยอนซะอย่าง” ร่างบางเดินหมุนตัวพร้อมกับร่มสีเทาคันเดิมเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ส่วนเรื่องที่จะให้มาทำงานน่ะ เอาไว้ค่อยเคลียร์แล้วกัน…

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ขอโทษนะครับ” เสียงจุนมยอนเคาะและประเปิดตูเข้าไปยังห้องเดิมที่มาเมื่อวานแล้ว และนี่ก็เป็นที่ๆแรกที่พี่ชายสั่งให้มาอีกต่างหาก

     

     

    เมื่อวานพอคยูฮยอนกลับมาแล้วเท่านั้นแหละก็เจอคำถามจากอีกคนไปเป็นชุด และคำตอบน่ะหรอก็เหมือนตอบไปอย่างงั้นไม่รู้ว่าวางแผนอะไรไว้อยู่ในใจ จุนมยอนที่คิดว่าพี่ชายน่าจะหวังดีเลย ตกปากรับคำมาช่วยงานภายนคฤหาสน์ของพวกเผ่าพันธุ์ที่ดูน่ากลัวในความคิดของตน

     

    จุนมยอนค่อยๆเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของโอเซฮุนที่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ซะอย่างงั้น คนตัวเล็กพยายามย่างเท้าเข้ามาลึกหน่อยเพื่อสอดส่องหาอีกคน แต่กลับไม่มีวี่แววเลยแม้แต่น้อย เพราะพี่ชายของตนบอกให้มาหาเจ้าของบ้าน ให้ถามว่าอยากกินอะไร เพื่อที่จะได้ไปทำมาให้ถูกเพราะโอเซฮุนน่ะ เป็นคนกินยาก!

     

    จุนมยอนหันซ้ายหันขวาก็เจอกับประตูอีกบานนึงที่คิดว่าน่าจะเป็นห้องนอนล่ะมั้ง? เจ้าตัวก็ไม่อยากจะเสียมารยาทเข้าห้องนอนคนที่เพิ่งรู้จักกันหรอกนะแต่ว่าเพราะต้องหาข้าวให้อีกคนนึงกินเลยต้องเดินไปเคาะประตูอย่างจำใจ เคาะไปได้สอง-สามทีแต่ไม่มีเสียงตอบเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป

     

     

    ความมืดคือสิ่งแรกที่สัมผัสได้ต่อมาคือความเย็นเยือกที่ไล่ตั้งแต่เท้าขึ้นมาจนถึงศีรษะ

     

     

    จุนมยอนเดินเข้ามาภายในห้องคล้ายจะสำรวจหน่อยๆ เดินมองซ้ายทีขวาทีอย่างระมัดระวัง ตู้ โต๊ะ เตียง โซฟาถูกไว้วางอย่างลงตัวเข้ากับห้องขนาดใหญ่นี้ได้ดีเท่าที่พอจับสังเกตุได้ ร่างบางพยายามเดินหาสวิตซ์ไฟภายในห้องแต่หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอเพราะความมืดภายในห้องที่ไม่มีแม้แต่แสงเล็ดรอดเข้ามา จุนมยอนที่กะจะเดินไปเปิดม่านข้างเตียงนอนที่ตนพบเห็นเพราะตาเริ่มชินกับความมืดแต่พอมือแตะผ้าม่านเท่านั้นแหละ เสียงประตูห้องนอนที่เปิดอ้าไว้ก็ปิดลงตังปังจนร่างบางต้องหันไปมองแต่ก็คิดว่าคงจะเป็นลม เลยกลับมาสนใจม่านในมือต่อ มือบางเตรียมดึงม่านให้ออกจากกันแต่ไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีตัวก็เหมือนถูกกระชากไปทางด้านหลัง

     

    โอ๊ยย” ร่างบางครางเพราะเจ็บที่หัว ถึงจะรู้ว่าล้มลงมาที่เตียงแต่ก็ยังเจ็บอยู่ดี และพอลืมตาขึ้นมาเท่านั้นแหละก็เจอกับร่างของเจ้าของบ้านที่ตอนนี้คร่อมตัวเองเอาไว้ จุนมยอนเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่ไม่ยักกะส่งเสียงออกมาสักแอะ

     

     

    ภายในความมืดนั้นสีตาของคนข้างบนจะเด่นชัดซะจนร่างบางเผลอจ้องซะนาน

     

     

    นัยตาสีน้ำเงินเข้มตรงหน้าจ้องมายังอีกคนไม่ลดละแอบหงุดหงิดที่อีกคนกล้าเข้ามาในห้อง แต่ก็กลับเอ๊ะใจในเวลาต่อมาว่าทำไมอีกคนถึงไม่กระดุกกระดิกแม้แต่น้อยเอาแต่จ้องเค้ากลับแบบไม่เกรงกลัว

     

    ต่างคนต่างไม่พูดอะไร โอเซฮุนก็รอดูปฏิกริยาของอีกคนที่ตอนนี้นอนนิ่งอยู่นานพอสมควร และดูเหมือนมือบางนั้นก็เลื่อนมาจับเข้าที่ข้างแก้มทั้งสองข้างจนเซฮุนทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่เคยมีใครทำแบบกับตนมาก่อน

     

    จุนมยอนจับหน้าคนข้างบนมาใกล้ๆเพราะอยากจะเห็นสีของนัยตาให้ชัดขึ้น โดยลืมไปเลยว่าโดนคร่อมอยู่

     

    ตาสวยจังจุนมยอนเอ่ยเสียงเบาแต่เพราะอยู่กันแค่สองคนทำให้เซฮุนได้ยินทุกถ้อยคำ จนตอนนี้นิ่งไปเหมือนอีกคนก่อนหน้านี้ และไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งๆที่อีกคนสบตากับเค้าแต่ดูเหมือนจะไม่เสียความเป็นตัวของตัวเองไป

     

     

    เพราะนี่มันวันพระจันทร์เต็มดวง วันที่หมาป่าอย่างโอเซฮุนจะมีอำนาจสูงสุด

     

     



    ____________________________________________


    เอามาให้ชิมกันเฉยๆ แบบไม่รู้ว่าชอบกันรึป่าว

    คืออันนี้ถ้าไม่ชอบขอบอกเลยว่าจะเอาออกจากลิสค่ะแล้วแต่งเรื่องเก่ากับเรื่องอื่นต่อไป

    คือเรื่องนี้มีเขียนไว้นานแล้วแต่เป็นแบบนอมอล

    ไรเตอร์อยากอ่านออลโฮเลยปรับเปลี่ยนซะเลย

    จะเอามาให้ชิมสักสองสามตอนแล้วจะดูว่าชอบไม่ชอบนะค่ะ

    เจอกันเมื่อคึกอีกครั้งเพราะคอมเมนท์ *ส่งจูบ*
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×