ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : The Little Boy
Chapter 9
The Little Boy
หลังจากเลิกเรียนแล้ว รูบี้ได้บอกกับวิกกี้ว่าเธอจะไปที่บ้านของเต๊ะเพื่อเอากุญแจบ้านคืน วิกกี้จึงรับอาสาขับรถไปส่งรูบี้กับเต๊ะ มันเป็นช่วงเวลาที่เงียบมากในระหว่างที่พวกเขาอยู่ในรถ เพราะว่าไม่มีใครพูดอะไรกันเลย จนมาถึงบ้านของเต๊ะ
Tae: อืม! เธอรออยู่ตรงนี้แล้วกันนะ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปเอากุญแจของเธอลงมาให้เอง
Ruby: โอ.เค.
Tae: oh! ฉันเกือบลืมไป อืม! เธออยากจะดื่มอะไรบ้างไหมล่ะ
Ruby: ไม่ล่ะ ขอบคุณ
แล้วเต๊ะก็เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปเอากุญแจมาให้รูบี้ ในขณะเดียวกันที่ชั้นล่าง, รูบี้ก็เดินสำรวจไปรอบๆ
เมื่อเธอเดินออกไปที่สวน, ทันใดนั้นเธอก็พบเห็นหยดเลือดอยู่ที่สนาม เธอเดินตามรอยเลือดนั้นไปซึ่งมันทำให้เธอได้พบกับอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอถึงกับร้องหวีดขึ้นมา เมื่อเต๊ะได้ยินเสียงของเธอจึงรีบวิ่งลงมายังชั้นล่างเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น และเขาก็ต้องตกใจมากเมื่อเห็นว่ารูบี้ยืนอยู่ใกล้ๆกับเด็กชายผู้ซึ่งได้รับบาดเจ็บ
Ruby: oh! พระเจ้า เต๊ะช่วยเขาด้วยเถอะ เขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ
Tae: โอ.เค. งั้นพาเขาขึ้นไปที่ห้องของฉันก่อนแล้วกัน
Ruby: ทำไมเราไม่พาเขาไปที่โรงพยาบาลล่ะ
Tae: เอาเถอะน่า! อาจจะมีใครบางคนคิดทำร้ายเขาอยู่อีกก็ได้
Ruby: โอ.เค.! งั้นเดี๋ยวเราไปเอาน้ำกับผ้าพันแผลมาให้ เต๊ะ! นายพอจะมีเสื้อสะอาดๆมาเปลี่ยนให้เขาบ้างไหม
Tae: เขาสามารถใส่กางเกงและเสื้อ T shirt ของฉันได้
Ruby: แล้วมันจะไม่ใหญ่ไปเหรอ สำหรับเขาน่ะ
Tae: อย่ากังวลไปเลย ฉันคิดว่าเขาคงไม่มาสนใจหรอก
ดังนั้น เต๊ะกับรูบี้จึงช่วยกันทำแผลและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเด็กชายคนนั้น พอสักพักหนึ่ง เด็กชายคนนั้นก็ฟื้นขึ้น
Tae: หนูไม่เป็นไรแล้วนะ หนูชื่ออะไร?? แล้วมีอะไรเกิดขึ้นกับหนูล่ะ?? มีใครทำร้ายหนูรึเปล่า??
Little boy: ที่นี่มันที่ไหน
Tae: หนูอยู่ที่บ้านของฉันไง ไม่มีใครมาทำร้ายหนูได้หรอก
Little boy: ผมไม่อยากพูดกับคุณ ผมอยากออกไป!!
แล้วเด็กชายคนนั้นก็เริ่มร้องไห้และร้องโวยวาย เขาไม่ยอมที่จะฟังเต๊ะพูดเลย รูบี้ซึ่งกำลังทำอาหารอยู่ที่ชั้นล่าง เธอได้ยินเสียงเด็กร้องจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู เมื่อเธอเข้าไปที่ห้อง เธอก็พบว่าเด็กคนนั้นกำลังทุบตีเต๊ะและก็พยายามที่จะผลักเต๊ะเวลาที่เต๊ะขยับเข้ามาใกล้เขา
Ruby: นี่! หนูจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ พี่เต๊ะเขาอุตส่าห์ช่วยหนูไว้ หนูยังทำร้ายพี่เขาอีกเหรอ เขาเป็นคนเดียวที่ช่วยชีวิตหนูไว้นะ ถ้าไม่ได้เขามาช่วยป่านนี้หนูอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ไม่มีใครจะมาทำร้ายหนูได้หรอก พี่สัญญา
เมื่อเด็กชายได้ยินรูบี้พูดอย่างนั้น เขาจึงวิ่งเข้าไปกอดรูบี้ไว้ เมื่อเต๊ะเห็นดังนั้นเขาก็เริ่มที่จะยิ้มออกมาได้บ้าง เขามองไปยังรูบี้และก็มองเห็นการกระทำที่เธอนั้นมีความอ่อนโยนต่อเด็กชาย มันก็เริ่มทำให้เขาเห็นแล้วว่า รูบี้เองก็เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง
Ruby: ตอนนี้หนูบอกพี่ได้หรือยังว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับหนู
Little Boy: ผมชื่อเดวิด พ่อกับแม่ของผมเป็นคนที่รวยมาก แต่เมื่อปีที่แล้วท่านทั้ง 2 คนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผมจึงถูกส่งตัวมายังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พี่เลี้ยงที่นั่นดีต่อผมมาก แต่เด็กผู้ชายคนอื่นๆนั้นไม่เลย พวกเขาพยายามที่จะรุมทำร้ายผมตลอด ผมไม่สามารถที่จะยืนอยู่ได้ ผมตัดสินใจวิ่งหนี ในระหว่างทางผมก็สะดุดล้มลง เมื่อผมลุกขึ้นมาได้ ผมก็พยายามเดินมาจนมาถึงสวนของพวกพี่นี่แหละ และแล้วผมก็หมดสติไป
Tae: พี่เข้าใจแล้วล่ะ เดวิด! หนูสามารถอยู่ที่นี่ได้อีกประมาณ 2 3 วันนะ หลังจากนั้นพี่ก็จะพาหนูกลับไปส่งที่สถานเลี้ยงเด็ก
David: ไม่! ผมจะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว ไม่อีกต่อไป!!
Ruby: เต๊ะ! ทำไมนายพูดอย่างนั้นล่ะ นายก็รู้เหตุผลแล้วไม่ใช่หรือว่า ทำไมเขาถึงต้องหนีออกจาสถานเลี้ยงเด็กแล้วตอนนี้นายยังบอกว่าจะพาเขากลับไปอีก นายไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ
Tae: ฉัน ฉัน
David: ได้โปรด ให้ผมอยู่ที่นี่กับพวกพี่เถอะนะ พ่อแม่ของผมก็ตายหมดแล้ว ตอนนี้ผมไม่เหลือใครแล้ว อย่าส่งผมกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กนั่นอีกเลยนะครับ ผมขอร้องล่ะ
Tae: โอ.เค.! พี่จะไม่ส่งเธอกลับไปที่นัน เดวิด! หนูจะอยู่ที่นี่ก็ได้ถ้าหนูต้องการ เดี๋ยวพี่จะดูแลหนูเอง
David: เยี่ยมไปเลย! งั้นผมขอเรียกพี่เต๊ะว่า “พี่ชาย” นะ และผมขอสัญญาว่าผมจะเป็นเด็กดี
Ruby: ว่าแต่ “พี่-น้อง” คู่นี้หิวกันรึยังล่ะ ฉันทำอาหารเตรียมไว้แล้วที่ชั้นล่างนะ ทำไมพวกเราถึงไม่ลงไปกินด้วยกันล่ะ
แล้วพวกเขาก็ลงไปทานอาหารที่ชั้นล่างด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเต๊ะ ที่เขารู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมาก หลังจากนั้น เต๊ะและเดวิดก็ไปส่งรูบี้ที่บ้านของเธอ
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
The Little Boy
หลังจากเลิกเรียนแล้ว รูบี้ได้บอกกับวิกกี้ว่าเธอจะไปที่บ้านของเต๊ะเพื่อเอากุญแจบ้านคืน วิกกี้จึงรับอาสาขับรถไปส่งรูบี้กับเต๊ะ มันเป็นช่วงเวลาที่เงียบมากในระหว่างที่พวกเขาอยู่ในรถ เพราะว่าไม่มีใครพูดอะไรกันเลย จนมาถึงบ้านของเต๊ะ
Tae: อืม! เธอรออยู่ตรงนี้แล้วกันนะ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปเอากุญแจของเธอลงมาให้เอง
Ruby: โอ.เค.
Tae: oh! ฉันเกือบลืมไป อืม! เธออยากจะดื่มอะไรบ้างไหมล่ะ
Ruby: ไม่ล่ะ ขอบคุณ
แล้วเต๊ะก็เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปเอากุญแจมาให้รูบี้ ในขณะเดียวกันที่ชั้นล่าง, รูบี้ก็เดินสำรวจไปรอบๆ
เมื่อเธอเดินออกไปที่สวน, ทันใดนั้นเธอก็พบเห็นหยดเลือดอยู่ที่สนาม เธอเดินตามรอยเลือดนั้นไปซึ่งมันทำให้เธอได้พบกับอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอถึงกับร้องหวีดขึ้นมา เมื่อเต๊ะได้ยินเสียงของเธอจึงรีบวิ่งลงมายังชั้นล่างเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น และเขาก็ต้องตกใจมากเมื่อเห็นว่ารูบี้ยืนอยู่ใกล้ๆกับเด็กชายผู้ซึ่งได้รับบาดเจ็บ
Ruby: oh! พระเจ้า เต๊ะช่วยเขาด้วยเถอะ เขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ
Tae: โอ.เค. งั้นพาเขาขึ้นไปที่ห้องของฉันก่อนแล้วกัน
Ruby: ทำไมเราไม่พาเขาไปที่โรงพยาบาลล่ะ
Tae: เอาเถอะน่า! อาจจะมีใครบางคนคิดทำร้ายเขาอยู่อีกก็ได้
Ruby: โอ.เค.! งั้นเดี๋ยวเราไปเอาน้ำกับผ้าพันแผลมาให้ เต๊ะ! นายพอจะมีเสื้อสะอาดๆมาเปลี่ยนให้เขาบ้างไหม
Tae: เขาสามารถใส่กางเกงและเสื้อ T shirt ของฉันได้
Ruby: แล้วมันจะไม่ใหญ่ไปเหรอ สำหรับเขาน่ะ
Tae: อย่ากังวลไปเลย ฉันคิดว่าเขาคงไม่มาสนใจหรอก
ดังนั้น เต๊ะกับรูบี้จึงช่วยกันทำแผลและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้กับเด็กชายคนนั้น พอสักพักหนึ่ง เด็กชายคนนั้นก็ฟื้นขึ้น
Tae: หนูไม่เป็นไรแล้วนะ หนูชื่ออะไร?? แล้วมีอะไรเกิดขึ้นกับหนูล่ะ?? มีใครทำร้ายหนูรึเปล่า??
Little boy: ที่นี่มันที่ไหน
Tae: หนูอยู่ที่บ้านของฉันไง ไม่มีใครมาทำร้ายหนูได้หรอก
Little boy: ผมไม่อยากพูดกับคุณ ผมอยากออกไป!!
แล้วเด็กชายคนนั้นก็เริ่มร้องไห้และร้องโวยวาย เขาไม่ยอมที่จะฟังเต๊ะพูดเลย รูบี้ซึ่งกำลังทำอาหารอยู่ที่ชั้นล่าง เธอได้ยินเสียงเด็กร้องจึงรีบวิ่งขึ้นไปดู เมื่อเธอเข้าไปที่ห้อง เธอก็พบว่าเด็กคนนั้นกำลังทุบตีเต๊ะและก็พยายามที่จะผลักเต๊ะเวลาที่เต๊ะขยับเข้ามาใกล้เขา
Ruby: นี่! หนูจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ พี่เต๊ะเขาอุตส่าห์ช่วยหนูไว้ หนูยังทำร้ายพี่เขาอีกเหรอ เขาเป็นคนเดียวที่ช่วยชีวิตหนูไว้นะ ถ้าไม่ได้เขามาช่วยป่านนี้หนูอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ไม่มีใครจะมาทำร้ายหนูได้หรอก พี่สัญญา
เมื่อเด็กชายได้ยินรูบี้พูดอย่างนั้น เขาจึงวิ่งเข้าไปกอดรูบี้ไว้ เมื่อเต๊ะเห็นดังนั้นเขาก็เริ่มที่จะยิ้มออกมาได้บ้าง เขามองไปยังรูบี้และก็มองเห็นการกระทำที่เธอนั้นมีความอ่อนโยนต่อเด็กชาย มันก็เริ่มทำให้เขาเห็นแล้วว่า รูบี้เองก็เป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง
Ruby: ตอนนี้หนูบอกพี่ได้หรือยังว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับหนู
Little Boy: ผมชื่อเดวิด พ่อกับแม่ของผมเป็นคนที่รวยมาก แต่เมื่อปีที่แล้วท่านทั้ง 2 คนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผมจึงถูกส่งตัวมายังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พี่เลี้ยงที่นั่นดีต่อผมมาก แต่เด็กผู้ชายคนอื่นๆนั้นไม่เลย พวกเขาพยายามที่จะรุมทำร้ายผมตลอด ผมไม่สามารถที่จะยืนอยู่ได้ ผมตัดสินใจวิ่งหนี ในระหว่างทางผมก็สะดุดล้มลง เมื่อผมลุกขึ้นมาได้ ผมก็พยายามเดินมาจนมาถึงสวนของพวกพี่นี่แหละ และแล้วผมก็หมดสติไป
Tae: พี่เข้าใจแล้วล่ะ เดวิด! หนูสามารถอยู่ที่นี่ได้อีกประมาณ 2 3 วันนะ หลังจากนั้นพี่ก็จะพาหนูกลับไปส่งที่สถานเลี้ยงเด็ก
David: ไม่! ผมจะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว ไม่อีกต่อไป!!
Ruby: เต๊ะ! ทำไมนายพูดอย่างนั้นล่ะ นายก็รู้เหตุผลแล้วไม่ใช่หรือว่า ทำไมเขาถึงต้องหนีออกจาสถานเลี้ยงเด็กแล้วตอนนี้นายยังบอกว่าจะพาเขากลับไปอีก นายไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอ
Tae: ฉัน ฉัน
David: ได้โปรด ให้ผมอยู่ที่นี่กับพวกพี่เถอะนะ พ่อแม่ของผมก็ตายหมดแล้ว ตอนนี้ผมไม่เหลือใครแล้ว อย่าส่งผมกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กนั่นอีกเลยนะครับ ผมขอร้องล่ะ
Tae: โอ.เค.! พี่จะไม่ส่งเธอกลับไปที่นัน เดวิด! หนูจะอยู่ที่นี่ก็ได้ถ้าหนูต้องการ เดี๋ยวพี่จะดูแลหนูเอง
David: เยี่ยมไปเลย! งั้นผมขอเรียกพี่เต๊ะว่า “พี่ชาย” นะ และผมขอสัญญาว่าผมจะเป็นเด็กดี
Ruby: ว่าแต่ “พี่-น้อง” คู่นี้หิวกันรึยังล่ะ ฉันทำอาหารเตรียมไว้แล้วที่ชั้นล่างนะ ทำไมพวกเราถึงไม่ลงไปกินด้วยกันล่ะ
แล้วพวกเขาก็ลงไปทานอาหารที่ชั้นล่างด้วยกัน นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเต๊ะ ที่เขารู้สึกอบอุ่นและมีความสุขมาก หลังจากนั้น เต๊ะและเดวิดก็ไปส่งรูบี้ที่บ้านของเธอ
&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&&
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น