ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กางเกงบอลหาย
Chapter 2 : กางเกงบอลหาย
ในชั่วโมงคาบโฮมรูม
       
        “เหล่าซือจ่าว อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์”  ป๋อกล่าวทักทายอ.อุดร เป็นภาษาจีน
     
จากนั้นป๋อก็เดินมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง  ซึ่งเพื่อนในกลุ่มก็รออย่างใจจดใจจ่อว่า ป๋อโดน อ.ฉัตรชัย พูดว่าในห้องฝ่ายปกครองอย่างไรบ้าง
        “อ.ฉัตรชัย เขาบอกกับฉันว่า ถ้าพรุ่งนี้  เขายังเห็นว่าผมของฉันยังดัดอยู่  เขาจะเชิญผู้ปกครองมาแน่”
        “งั้นวันนี้นายก็ต้องไปยืดผมให้ตรงอ่ะดิ ใช่ไหม”  แห้วถาม
        “ไม่อ่ะ  ฉันกะว่าฉันจะไปสกินเฮด 555”  ป๋อตอบพร้อมทั้งหัวเราะ
        “นายนี่  เดี๋ยวก็โดนภาคทัณฑ์หรอก”  ตุ้ยเตือนเพื่อน
        “อ้าว  ก็อาจารย์เขาไม่ได้บอกนี่ ว่า ให้ฉันไปยืดคืนดังเดิม  เขาบอกแค่ว่าถ้ายังเห็นฉันดัดผมอยู่อีก  ก็จะเรียกผู้ปกครองมา  ทั้งยังไม่ได้ระบุด้วยว่า จะเชิญผู้ปกครองใคร  ดังนั้น แม่ของฉันก็ไม่ต้องมา ถูกป่ะ”
        “อืม ถูกของนาย”  แห้วบอก
        “นายป๋อเพื่อนเรานี่ อย่างกับเป็นศรีธนญชัยมาเกิดเลยว่ะ  ฉลาด เจ้าเล่ห์เหมือนกันเปี๊ยบ”  โตโต้เปรียบเปรย
        “ฉันไม่ได้เจ้าเล่ห์นะเว้ย  ก็อาจารย์เขาพูดไม่ชัดเจนเองนี่” 
ป๋อพูดบอกเพื่อนๆ  หลังจากนั้นพวกเขาก็ตั้งใจฟังอ.อุดร แนะนำเรื่องการเรียนและก็การสอบเข้ามหาวิทยาลัย  ซึ่งพวกเขาเองก็เตรียมตัวกันมาบ้างแล้วช่วง ม.4 และ ม.5  แต่พอขึ้น ม.6 ก็ต้องเตรียมตัวให้มากขึ้น  แบ่งแยกเรื่องเรียน และกิจกรรมให้ดี 
พอหมดคาบโฮมรูมแล้ว  ต่อไปก็เป็นชั่วโมงภาษาไทยของ ซึ่งวันนี้ อ.วริศรา (ครูเป๊กกี้) เพิ่งจะมาสอนที่นี่เป็นวันแรก  แต่เพียงแค่วันแรก เธอก็ได้รู้แล้วฤทธิ์เดชของเด็กนักเรียนชายห้องนี้แสบ กวน ป่วนกันขนาดไหน  จนเธอไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีใครอยากมาสอนนักเรียนห้องนี้สักเท่าใดนัก
        “ดอกไม้สวยๆ สำหรับครูสวยๆครับ”  แห้วเล่นกลดีดนิ้วแล้วเสกดอกกุหลาบยื่นส่งให้ อ.วริศรา
        “นายแห้วนี่  แม้กระทั่งอาจารย์ก็ไม่เว้น  ดูสิ”  หมวยบอกให้เพื่อนๆในกลุ่มดู
        “ถ้านายป๋อเป็นศรีธนญชัยกลับชาติมาเกิด  นายแห้วกระป๋องนี่สงสัยจะเป็นขุนแผนกลับชาติมาเกิดล่ะมั้ง”  อ๋อมแอ๋มพูดเหน็บแห้ว ที่แสนจะเจ้าชู้
        “ฉันเป็นขุนแผนกลับชาติมาเกิด  ก็ยังดีกว่าใครบางคนที่เป็นนางผีเสื้อสมุทรกลับชาติมาเกิดก็แล้วกัน”  แห้วว่าคืนบ้าง
เมื่อได้ยินดังนั้น  อ๋อมแอ๋มก็เลยฟ้องอ.วริศรา แล้วก็เอาหนังสือเรียนมาม้วนวิ่งไล่ตีแห้วไปรอบๆห้อง  จนอ.วริศรา ต้องบอกให้นั่งที่  และก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่บทเรียน นายป๋อก็เดินออกมา แล้วก็ยื่นของบางอย่างในมือให้กับอาจารย์
        “หวังว่าคงไม่ใช่ดอกกุหลาบอีกนะ”
        “ผมไม่ใช้มุขเดียวกับแห้วหรอกครับ  อาจารย์หลับตาก่อนนะครับ” 
จากนั้นนายป๋อก็เอาแมลงสาบปลอมใส่ไว้ในมือของอาจารย์  พออาจารย์ลืมตาก็ไม่ทันสังเกต  นึกว่าเป็นของจริง ก็เลยร้องกรี๊ดซะเสียงดัง  จนอาจารย์ห้องข้างๆต้องรีบลุกออกมาดู  ส่วนพวกกลุ่มนายป๋อก็นั่งหัวเราะกันจนงอหาย
        “นายนี่ไปแกล้งอาจารย์เขา  เห็นไหมวันนี้เลยเรียนได้แค่ 30 นาทีเอง” โตโต้บอก
        “พูดอย่างกับว่าพวกนายอยากเรียนพวกวิชาการงั้นแหละ”  ป๋อบอกเพื่อนๆ
        “แต่นายก็ไม่ควรไปแกล้งอาจารย์เขาอย่างนั้นนี่”  ตุ้ยรู้สึกสงสารอาจารย์
        “เอาน่า  นายป๋อเขาแกล้งไปแล้ว  คราวหลังนายก็อย่าทำอีกแล้วกัน  ม.6 แล้วนะ  อย่าให้มีเรื่องถึงห้องฝ่ายปกครองอีกเลย  เดี๋ยวจะไม่จบกัน”  แห้งเริ่มห่วงอนาคต
        “เออๆ  พรุ่งนี้ฉันจะไม่แกล้งอีกแล้ว  แต่วันมะรืนไม่แน่ เหอะๆ”  ป๋อบอก
        “เฮ้ย!  ฉันว่า ตอนนี้พวกเรารีบไปเปลี่ยนกางเกงก่อนเถอะ  เดี๋ยวก็ได้โดนอาจารย์หัวเหม่ง ทำโทษอีกหรอก”  โตโต้บอกเพื่อนๆ
อาจารย์หัวเหม่งที่ว่า นี้ก็คือ อาจารย์ทรงพล ซึ่งเป็นครูพละแสนโหด ของโรงเรียนพัฒนวิทย์  เมื่อใครทำผิด อาจารย์จะไม่ตัดคะแนน  แต่อาจารย์จะมีวิธีลงโทษอย่างอื่นแทน ซึ่งกลุ่มป๋อก็เคยโดนกันมาแล้วทั้งนั้น  ตั้งแต่วิ่งรอบสนามจนกว่าอาจารย์จะสั่งให้หยุด  แม้กระทั่งกราบลูกวอลเล่ย์บอล  พวกเขาก็เคยกราบกันมาแล้ว  เนื่องจากวันนั้นพวกเขาเอาลูกวอลเล่ย์มาเตะเล่นกัน 
        “เฮ้ย! กางเกงบอลเราหายไปไหนเนี่ย  ถ้าเครื่องแต่งกายไม่ครบ ฉันโดนลงโทษแน่ๆ”  แห้วพยายามรื้อในเป้ตนเอง ก็ไม่เจอ พยายามหารอบๆก็ไม่เจอ
กางเกงบอล นั้น ถือว่าเป็นกางเกงที่นักเรียนชายชั้นม.ปลายของโรงเรียนนี้จะต้องนำมาเปลี่ยนทุกครั้ง  ไม่ว่าในเทอมนั้นจะเรียนกีฬาอะไรก็ตาม  พวกผู้ชายก็ต้องนุ่งกางเกงบอลเล่น  ไม่ว่าจะเป็นเทนนิส  วอลเล่ย์บอล  บาสฯ  แม้กระทั่งเรียนเต้นแอโรบิค  ส่วนพวกผู้หญิงสบายหน่อย คือ อาจารย์อนุญาตให้แต่งชุดพละและกางเกงวอร์มมาจากบ้านได้เลย  ดังนั้น พวกผู้หญิงจึงไม่ค่อยถูกอาจารย์ทำโทษเรื่องเครื่องแต่งกายเท่าใดนัก 
        “นายลืมเอามาหรือเปล่า”  ป๋อถาม
        “ไม่ลืมแน่ๆ  ฉันจำได้ว่าฉันหยิบมันใส่ในเป้ตอนเช้า ด้วยมือของฉันเอง”  แห้วยืนยันหนักแน่น
        “งั้นมันคงตกอยู่แถวๆนี้ล่ะมั้ง  ลองช่วยกันหาดูอีกที”  ตุ้ยช่วยแห้วหา
        “ปรี๊ดดดดดด”  เสียงนกหวีดของอาจารย์ทรงพลดังขึ้น  เพื่อเรียกเข้าแถวที่สนาม
        “ตายแน่ๆฉัน”  แห้วเริ่มหน้าซีด
เมื่อทุกคนรวมตัวกันที่สนามฟุตบอลแล้ว  อาจารย์ทรงพลก็ได้กล่าวแนะนำรายวิชาที่ตัวเองจะสอนในเทอมนี้ ซึ่งก็คือ วิชาซอฟท์บอล ซึ่งก็จะใช้พื้นที่ในสนามฟุตบอลนี้แหละเรียนวิชานี้  และก่อนที่จะเริ่มเรียน อาจารย์ก็จะตรวจเครื่องแต่งกายของนักเรียนก่อนเป็นอันดับแรก  จึงทำให้วันนี้แห้วถูกลงโทษ  โดยการวิ่งรอบสนามจนกว่าอาจารย์จะสั่งให้หยุด ซึ่งแห้วก็วิ่งไปเรื่อยๆ  3 รอบ ก็แล้ว 7 รอบก็แล้ว อาจารย์ยังไม่ยอมสั่งให้หยุดสักที  จนเมื่อหมดเวลาในคาบเรียนพละนั่นแหละ  อาจารย์ถึงสั่งให้แห้วหยุดวิ่ง 
        “เฮ้อ!  อาจารย์จะฆ่าฉันให้ตายหรือไงเนี่ย  ถึงได้ให้ฉันวิ่งทั้งคาบ  โครตเหนื่อยเลย”  แห้วบ่นให้เพื่อนๆฟังหลังจากเลิกแถวแล้ว
        “เฮ้ยๆ  ฉันเจอกางเกงบอลของนายแล้ว  มันซ่อนอยู่หลังกระเป๋านักเรียนของอ๋อมแอ๋มน่ะ”  ตุ้ยบอกแห้ว
        “อืม ยัยช้างน้ำทำฉันซะ  เดี๋ยวโดนแน่” 
ในขณะที่แห้วกำลังจะเดินไปหยิบกางเกงบอลของตัวเองคืนมา  ก็ปรากฏว่า อ๋อมแอ๋มชิงคว้ากางเกงนั้นไปก่อน  จึงทำให้แห้วต้องวิ่งไล่ตามอ๋อมแอ๋มไป  แต่แล้วจู่ๆเธอก็ลื่นล้ม  แห้วจึงคว้ากางเกงกลับคืนมาได้
        “สมน้ำหน้า  อยากแกล้งฉันดีนัก  เป็นไงล่ะ กรรมเลยตามสนองทันตาเห็น”  แห้วเย้ย
ถึงแม้แห้วจะพูดเช่นนั้น  แต่ในใจก็กลับห่วงอ๋อมแอ๋ม  เมื่อเห็นว่าอ๋อมแอ๋มลุกไม่ขึ้นจริงๆ  เขาจึงรีบเข้าไปช่วยพยุง  แล้วก็พาอ๋อมแอ๋มไปส่งห้องพยาบาล จนอ๋อมแอ๋มรู้สึกซึ้งในน้ำใจของแห้ว
        “ขอบใจมากนะแห้ว”
อ๋อมแอ๋มกล่าวขอบคุณแล้ว  แล้วก็ยิ้มให้เขา  ซึ่งนั่นเป็นรอยยิ้มแรกที่ทำให้แห้วรู้สึกอบอุ่นใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
@@@@@@@@@@@@@
ในชั่วโมงคาบโฮมรูม
       
        “เหล่าซือจ่าว อรุณสวัสดิ์ครับอาจารย์”  ป๋อกล่าวทักทายอ.อุดร เป็นภาษาจีน
     
จากนั้นป๋อก็เดินมานั่งที่โต๊ะของตัวเอง  ซึ่งเพื่อนในกลุ่มก็รออย่างใจจดใจจ่อว่า ป๋อโดน อ.ฉัตรชัย พูดว่าในห้องฝ่ายปกครองอย่างไรบ้าง
        “อ.ฉัตรชัย เขาบอกกับฉันว่า ถ้าพรุ่งนี้  เขายังเห็นว่าผมของฉันยังดัดอยู่  เขาจะเชิญผู้ปกครองมาแน่”
        “งั้นวันนี้นายก็ต้องไปยืดผมให้ตรงอ่ะดิ ใช่ไหม”  แห้วถาม
        “ไม่อ่ะ  ฉันกะว่าฉันจะไปสกินเฮด 555”  ป๋อตอบพร้อมทั้งหัวเราะ
        “นายนี่  เดี๋ยวก็โดนภาคทัณฑ์หรอก”  ตุ้ยเตือนเพื่อน
        “อ้าว  ก็อาจารย์เขาไม่ได้บอกนี่ ว่า ให้ฉันไปยืดคืนดังเดิม  เขาบอกแค่ว่าถ้ายังเห็นฉันดัดผมอยู่อีก  ก็จะเรียกผู้ปกครองมา  ทั้งยังไม่ได้ระบุด้วยว่า จะเชิญผู้ปกครองใคร  ดังนั้น แม่ของฉันก็ไม่ต้องมา ถูกป่ะ”
        “อืม ถูกของนาย”  แห้วบอก
        “นายป๋อเพื่อนเรานี่ อย่างกับเป็นศรีธนญชัยมาเกิดเลยว่ะ  ฉลาด เจ้าเล่ห์เหมือนกันเปี๊ยบ”  โตโต้เปรียบเปรย
        “ฉันไม่ได้เจ้าเล่ห์นะเว้ย  ก็อาจารย์เขาพูดไม่ชัดเจนเองนี่” 
ป๋อพูดบอกเพื่อนๆ  หลังจากนั้นพวกเขาก็ตั้งใจฟังอ.อุดร แนะนำเรื่องการเรียนและก็การสอบเข้ามหาวิทยาลัย  ซึ่งพวกเขาเองก็เตรียมตัวกันมาบ้างแล้วช่วง ม.4 และ ม.5  แต่พอขึ้น ม.6 ก็ต้องเตรียมตัวให้มากขึ้น  แบ่งแยกเรื่องเรียน และกิจกรรมให้ดี 
พอหมดคาบโฮมรูมแล้ว  ต่อไปก็เป็นชั่วโมงภาษาไทยของ ซึ่งวันนี้ อ.วริศรา (ครูเป๊กกี้) เพิ่งจะมาสอนที่นี่เป็นวันแรก  แต่เพียงแค่วันแรก เธอก็ได้รู้แล้วฤทธิ์เดชของเด็กนักเรียนชายห้องนี้แสบ กวน ป่วนกันขนาดไหน  จนเธอไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่า ทำไมถึงไม่ค่อยมีใครอยากมาสอนนักเรียนห้องนี้สักเท่าใดนัก
        “ดอกไม้สวยๆ สำหรับครูสวยๆครับ”  แห้วเล่นกลดีดนิ้วแล้วเสกดอกกุหลาบยื่นส่งให้ อ.วริศรา
        “นายแห้วนี่  แม้กระทั่งอาจารย์ก็ไม่เว้น  ดูสิ”  หมวยบอกให้เพื่อนๆในกลุ่มดู
        “ถ้านายป๋อเป็นศรีธนญชัยกลับชาติมาเกิด  นายแห้วกระป๋องนี่สงสัยจะเป็นขุนแผนกลับชาติมาเกิดล่ะมั้ง”  อ๋อมแอ๋มพูดเหน็บแห้ว ที่แสนจะเจ้าชู้
        “ฉันเป็นขุนแผนกลับชาติมาเกิด  ก็ยังดีกว่าใครบางคนที่เป็นนางผีเสื้อสมุทรกลับชาติมาเกิดก็แล้วกัน”  แห้วว่าคืนบ้าง
เมื่อได้ยินดังนั้น  อ๋อมแอ๋มก็เลยฟ้องอ.วริศรา แล้วก็เอาหนังสือเรียนมาม้วนวิ่งไล่ตีแห้วไปรอบๆห้อง  จนอ.วริศรา ต้องบอกให้นั่งที่  และก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่บทเรียน นายป๋อก็เดินออกมา แล้วก็ยื่นของบางอย่างในมือให้กับอาจารย์
        “หวังว่าคงไม่ใช่ดอกกุหลาบอีกนะ”
        “ผมไม่ใช้มุขเดียวกับแห้วหรอกครับ  อาจารย์หลับตาก่อนนะครับ” 
จากนั้นนายป๋อก็เอาแมลงสาบปลอมใส่ไว้ในมือของอาจารย์  พออาจารย์ลืมตาก็ไม่ทันสังเกต  นึกว่าเป็นของจริง ก็เลยร้องกรี๊ดซะเสียงดัง  จนอาจารย์ห้องข้างๆต้องรีบลุกออกมาดู  ส่วนพวกกลุ่มนายป๋อก็นั่งหัวเราะกันจนงอหาย
        “นายนี่ไปแกล้งอาจารย์เขา  เห็นไหมวันนี้เลยเรียนได้แค่ 30 นาทีเอง” โตโต้บอก
        “พูดอย่างกับว่าพวกนายอยากเรียนพวกวิชาการงั้นแหละ”  ป๋อบอกเพื่อนๆ
        “แต่นายก็ไม่ควรไปแกล้งอาจารย์เขาอย่างนั้นนี่”  ตุ้ยรู้สึกสงสารอาจารย์
        “เอาน่า  นายป๋อเขาแกล้งไปแล้ว  คราวหลังนายก็อย่าทำอีกแล้วกัน  ม.6 แล้วนะ  อย่าให้มีเรื่องถึงห้องฝ่ายปกครองอีกเลย  เดี๋ยวจะไม่จบกัน”  แห้งเริ่มห่วงอนาคต
        “เออๆ  พรุ่งนี้ฉันจะไม่แกล้งอีกแล้ว  แต่วันมะรืนไม่แน่ เหอะๆ”  ป๋อบอก
        “เฮ้ย!  ฉันว่า ตอนนี้พวกเรารีบไปเปลี่ยนกางเกงก่อนเถอะ  เดี๋ยวก็ได้โดนอาจารย์หัวเหม่ง ทำโทษอีกหรอก”  โตโต้บอกเพื่อนๆ
อาจารย์หัวเหม่งที่ว่า นี้ก็คือ อาจารย์ทรงพล ซึ่งเป็นครูพละแสนโหด ของโรงเรียนพัฒนวิทย์  เมื่อใครทำผิด อาจารย์จะไม่ตัดคะแนน  แต่อาจารย์จะมีวิธีลงโทษอย่างอื่นแทน ซึ่งกลุ่มป๋อก็เคยโดนกันมาแล้วทั้งนั้น  ตั้งแต่วิ่งรอบสนามจนกว่าอาจารย์จะสั่งให้หยุด  แม้กระทั่งกราบลูกวอลเล่ย์บอล  พวกเขาก็เคยกราบกันมาแล้ว  เนื่องจากวันนั้นพวกเขาเอาลูกวอลเล่ย์มาเตะเล่นกัน 
        “เฮ้ย! กางเกงบอลเราหายไปไหนเนี่ย  ถ้าเครื่องแต่งกายไม่ครบ ฉันโดนลงโทษแน่ๆ”  แห้วพยายามรื้อในเป้ตนเอง ก็ไม่เจอ พยายามหารอบๆก็ไม่เจอ
กางเกงบอล นั้น ถือว่าเป็นกางเกงที่นักเรียนชายชั้นม.ปลายของโรงเรียนนี้จะต้องนำมาเปลี่ยนทุกครั้ง  ไม่ว่าในเทอมนั้นจะเรียนกีฬาอะไรก็ตาม  พวกผู้ชายก็ต้องนุ่งกางเกงบอลเล่น  ไม่ว่าจะเป็นเทนนิส  วอลเล่ย์บอล  บาสฯ  แม้กระทั่งเรียนเต้นแอโรบิค  ส่วนพวกผู้หญิงสบายหน่อย คือ อาจารย์อนุญาตให้แต่งชุดพละและกางเกงวอร์มมาจากบ้านได้เลย  ดังนั้น พวกผู้หญิงจึงไม่ค่อยถูกอาจารย์ทำโทษเรื่องเครื่องแต่งกายเท่าใดนัก 
        “นายลืมเอามาหรือเปล่า”  ป๋อถาม
        “ไม่ลืมแน่ๆ  ฉันจำได้ว่าฉันหยิบมันใส่ในเป้ตอนเช้า ด้วยมือของฉันเอง”  แห้วยืนยันหนักแน่น
        “งั้นมันคงตกอยู่แถวๆนี้ล่ะมั้ง  ลองช่วยกันหาดูอีกที”  ตุ้ยช่วยแห้วหา
        “ปรี๊ดดดดดด”  เสียงนกหวีดของอาจารย์ทรงพลดังขึ้น  เพื่อเรียกเข้าแถวที่สนาม
        “ตายแน่ๆฉัน”  แห้วเริ่มหน้าซีด
เมื่อทุกคนรวมตัวกันที่สนามฟุตบอลแล้ว  อาจารย์ทรงพลก็ได้กล่าวแนะนำรายวิชาที่ตัวเองจะสอนในเทอมนี้ ซึ่งก็คือ วิชาซอฟท์บอล ซึ่งก็จะใช้พื้นที่ในสนามฟุตบอลนี้แหละเรียนวิชานี้  และก่อนที่จะเริ่มเรียน อาจารย์ก็จะตรวจเครื่องแต่งกายของนักเรียนก่อนเป็นอันดับแรก  จึงทำให้วันนี้แห้วถูกลงโทษ  โดยการวิ่งรอบสนามจนกว่าอาจารย์จะสั่งให้หยุด ซึ่งแห้วก็วิ่งไปเรื่อยๆ  3 รอบ ก็แล้ว 7 รอบก็แล้ว อาจารย์ยังไม่ยอมสั่งให้หยุดสักที  จนเมื่อหมดเวลาในคาบเรียนพละนั่นแหละ  อาจารย์ถึงสั่งให้แห้วหยุดวิ่ง 
        “เฮ้อ!  อาจารย์จะฆ่าฉันให้ตายหรือไงเนี่ย  ถึงได้ให้ฉันวิ่งทั้งคาบ  โครตเหนื่อยเลย”  แห้วบ่นให้เพื่อนๆฟังหลังจากเลิกแถวแล้ว
        “เฮ้ยๆ  ฉันเจอกางเกงบอลของนายแล้ว  มันซ่อนอยู่หลังกระเป๋านักเรียนของอ๋อมแอ๋มน่ะ”  ตุ้ยบอกแห้ว
        “อืม ยัยช้างน้ำทำฉันซะ  เดี๋ยวโดนแน่” 
ในขณะที่แห้วกำลังจะเดินไปหยิบกางเกงบอลของตัวเองคืนมา  ก็ปรากฏว่า อ๋อมแอ๋มชิงคว้ากางเกงนั้นไปก่อน  จึงทำให้แห้วต้องวิ่งไล่ตามอ๋อมแอ๋มไป  แต่แล้วจู่ๆเธอก็ลื่นล้ม  แห้วจึงคว้ากางเกงกลับคืนมาได้
        “สมน้ำหน้า  อยากแกล้งฉันดีนัก  เป็นไงล่ะ กรรมเลยตามสนองทันตาเห็น”  แห้วเย้ย
ถึงแม้แห้วจะพูดเช่นนั้น  แต่ในใจก็กลับห่วงอ๋อมแอ๋ม  เมื่อเห็นว่าอ๋อมแอ๋มลุกไม่ขึ้นจริงๆ  เขาจึงรีบเข้าไปช่วยพยุง  แล้วก็พาอ๋อมแอ๋มไปส่งห้องพยาบาล จนอ๋อมแอ๋มรู้สึกซึ้งในน้ำใจของแห้ว
        “ขอบใจมากนะแห้ว”
อ๋อมแอ๋มกล่าวขอบคุณแล้ว  แล้วก็ยิ้มให้เขา  ซึ่งนั่นเป็นรอยยิ้มแรกที่ทำให้แห้วรู้สึกอบอุ่นใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
@@@@@@@@@@@@@
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น