ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : สึนะหายไป!?!?!
ซ่าๆๆๆ
�������� พายุที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้กระทบกับหน้าต่างของโรงเรียนนามิโมริเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างบางยืนมองนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย มือเรียวแตกระจกอย้่างไม่กลัวว่ามันจะพังลงมา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย� จนกระทั่งรู้สึกตัวอีกทีก็มีเด็กสาวหน้าตาน่ารัก เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนตักสั้นแต่พริ้วสลวย นัยน์ตากลมโตมอง'คาโต้'อย่างยิ้มแย้ม
�������� คาโต้เลิกคิ้วกับการที่มีคนมาทักทายเธอ ทั้งๆที่ตอนไปแนะนำตัวในห้องเรียนครั้งแรกทุกๆคนก็มองเธอราวกับเป็นปีศาจในคราบนางฟ้าเสียก็ไม่ปาน เว้นแต้มีแค่เด็กคนนี้ที่มาทักทายเธออย่างร่าเริง
�������� "ว่าไงจ๊ะ เอ่อ...คาโต้จัง...ใช่มั้ยจ๊ะ"คาโต้ยังคงตีสีหน้าเรียบขรึมแล้วพยักหน้า เด็นคนนี้จึงพูดต่อว่า
�������� "ฉันชื่อ ซาซางาวะ� เคียวโกะ ยิดีที่ได้รู้จักนะ"เคียวโกะยื่นมือมาให้คาโต้ แต่เจ้าตัวกลับมองมือของเคียวโกะนิ่งแล้วเดินผ่านเธอไปราวกับว่าเธอเป็นเพียงแค่อากาศ
��������� "อะ อ้าว"เคียวโกะที่ไม่เข้าใจกับนิสัยคาโต้ได้แต่มองตามคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนใหม่ไปอย่างงๆ คาโต้ไม่สนใจกับท่าทีของเคียวโกะได้แต่เดินฝ่าสายตาและเสียงซุบซิบนินทาของเหล่านักเรียนเป็นระยะๆ จนกระทั่งเธอเดินมาถึงห้องของ 'หัวหน้ากรรมการคุมกฎ' คาโต้ยืนมองหน้าห้องอย่างลังเลครู่หนึ่งก่อนเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะเลย
���������� ทำให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ยนโต๊ะทำงานท่ามกลางกองเอกสาร เงยหน้าขึ้นมามองแขกที่เข้ามาในห้องโดยพละการ พอรู้ว่าใครเข้ามาในห้องทำให้ร่างสูงเลิกคิ้วมองก่อนยิ้มบางๆแล้วพูดว่า
���������� "มีอะไรอย่างงั้นหรอ คาโต้"ฮิบาริพูดส่วนคาโค้ที่ยังยืนอยู่ที่ประตูกลับเงียบ แต่เดินไปนั่งที่โซฟา"ไม่ได้เจอกันตั้งนาน โหดขึ้นนะคะ"
���������� คาโต้พูดยิ้มนิดๆ ฮิบาริลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาด้านตรงข้าม "เธอเองก็เหมือนกัน นิสัยเปลี่ยนไปเยอะเลยนิ" คาโต้ยิ้มนิดๆ"ว่าแต่ช่วยเล่าให้ฟังหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นได้ไหม"
���������� พอฮิบาริเอ่ยคำถามนี้ออกไปทำให้สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยไปนิดนึงก่อนกลับมายิ้มตามเดิม "ก็นะหลังจากตอนนั้น อิเอมิสึก็ช่วยหนูเอาไว้แล้วให้รีบอร์นเป็นอาจารย์หนุตลอดมาน่ะค่ะ เลยกลายเป็นมาเฟีบไปโดยปริยาย"
����������� คาโต้หัวเราหึๆออกมา "เธอรวมกลุ่มงั้นหรอ" ฮิบาริแอบหงุดหงิดนิดหน่อยแต่ก็โล่งใจเพราะคาโต้ส่ายหน้า "หนูทำงานคนเดียวค่ะ ไม่คิดจะไปยุ่งกับพวกชั้นต่ำหรอกค่ะ"
����������� "รู้สึกว่าเรานิสัยเหมือนกันเลยนะ"ฮิบาริเอ่ยยิ้มๆ
����������� "คิก นั่นน่ะสิคะ ขนาดไม่เจอกันตั้งนาน"
����������� พอจบประโยคของคาโต้ ทั้งสองกลับเงียบและนิ่งไปนาน ฮิบาริจึงทำลายบรรยากาศความเงียบด้วยการเอ่ยถามคาโต้ ซึ่งคำถามแม้เหมือนจะดราม่าแต่คาโต้ก็ยังมีสีหน้าเรียบเฉย
����������� "รู้มั๊ย ตอนที่พี่คิดว่าเธอ...ตายไปแล้วน่ะ พี่เกือบจะชักมีดไปปาดคอเจ้าพวกนั้นเหลือเกิน"
����������� "..."
����������� "พี่เสียใจมากนะ ทำไมน้องไม่เห็นส่งข่าวมาบอกพี่สักคำน่ะ"
����������� "ก็นะ...เพื่อความปลอดภัยของเราทั้งสองน่ะ อิเอมิสึบอกกับหนูว่าเจ้ากลุ่มโจรนั้นน่ะ มันเป็นพวกที่เกลียดตระกูลเรามาก จนกระทั่งหยิบมีดขึนมาปาดคอคนในบ้านเราเลยล่ะ"
������������ คาโต้หยิบกาแฟขึ้นมาจิบ ซึ่งไม่รู้ว้่าไปชงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพูดราวกับกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ ฮิบาริมองบุคลิกของน้องสาวที่เปลี่ยนไปมากแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ก่อนจะถูกทำลายลงด้วยเสียงเปิดประตู
������������ สึนะจำต้องเดินมาเรียกฮิบาริเพราะถูกรีบอร์นบังคับมา พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับพี่น้องตระกูลฮิบาริอยู่กันพร้อมหน้า ทันทีที่สึนะมองทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่ขนจะลุกวาบ ก็ช่วยไม่ได้นี่นาคนนึงเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแรงที่สุด ส่วนอีกคนนึงพึ่งสาดกระสุนใส่เมื่อวานเต็มแอ๊ก เป็นใครก็ต้องขนลุกทั้งนั้นแหละ!!(แกคนเดียวมั้งที่คิดแบบนี้กับสามีน่ะ แอ๊บ:ไรท์เตอร์โดนถีบเต็มแรง)
������������� "มีอะไรเจ้าสัตว์กินพืช"ฮิบาริเอ่ยเสียงเรียบแต่เยือกเย็น ทำใหสึนะเกือบขยับปากไม่ออก"คือ...รีบอร์น...ให้มาตามน่ะครับ"
������������� "ฉันจะไปด้วย พนันได้เลยว่าเรื่องที่จะคุยด้วยเนี่ยเกี่ยวกับฉันแน่ๆ" คาโต้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที ส่วนฮิบาริมองตามหลังคาโต้ครู่หนึ่งก่อนลุกขึ้นเดินมาหาสึนะ เจ้าตัวจึงถอยหลังอย่างกล้าๆกลัวๆ
������������� "ฉันไม่รวมกลุ่มหรอกนะ"พ้อมควักท่อนฟาออกมา สึนะจึงได้แต้ถอยกรูดไปติดกำแพง"เหวอ!!!เดี๋ยวสิครับคุณฮิบาริ คือ คือว่ารีบอร์นเขาบอกว่าต้องไปน่ะครับ ผะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาบกวนคุณแล้วให้คุณไปรวมกลุ่มหรอกนะคร้าบบบ"
������������� สึนะร่ายยาวพร้อมกับพนมมือขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ตัวเองยังชีวิตอยู่ต่อ(พี่เขาเว่อร์นะค่ะรีดเดอร์ทั้งหลาย//เหล่มอง)(ก็แกแต่งไม่ใช่รึ!!!:รีดเดอร์)
������������� "หึ เพราะเจ้าหนูเป็นคนบอกฉันถึงยอมทำตาหรอกนะ"ฮิบาริเก็บท่อนฟาแล้วเดินผ่านสึนะไป ส่วนสึนะที่ถอนหายใจโล่งอกว่าตนเองยังไม่ถูกขย้ำ จู่ๆแหวนวองโกเล่ที่ตนเองสวมอยู่นั้นกลับร้องวาบขึ้นมาทำเอาสึนะแถบอยากจะถอดมันออก แต่หันไปจะถอดมันออกแหวนก็หยุดร้อนทันที สึนะจึงได้แต่เกาหัวอย่างงงๆ
������������� แม้ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่แหวนเป็นแบบนี้ แต่ครั้งนี้แหวนมันกลับร้อนมากกว่าเดิมราวกับมันพยายามจะจิกกัดเนื้อของสึนะให้หลอมละลายไป สึนะที่ยังยืนงงกับแหวนตนเองอยู้นั้นก็นึกขึนได้ว่าต้องรีบไปไม่งั้นโดนรีบอร์นยำเละแน่ จึงวิ่งออกไปราวกับติดจรวด...
������������ ทางด้านจุดนัดพบของเหล่าวองโกเล่ซึ่งแน่นอน ต้องเป็นดาดฟ้าแน่ พวกผู้พิทักษของวองโกเล่ ซึ่งได้แก่ ยามาโมโตะ โกคุเดระ เรียวเฮ โคลม(ตอนนี้คือตอนที่โคลมย้ายเข้ามาเรียนแล้วนะ)สึนะและฮิบาริ� รวมทั้งวองโกเล่คนอื่นๆได้แก่ รีบอร์นและคาโต้ เมื่อรีบอร์นเห็นว่าทุกคนมากันครบแล้วจึงได้พูดขึ้น
������������� "ที่ฉันเรียกทุกคนมาก็คือเรื่องของคาโต้น่ะนะ"พอพูดจบ สายตาทุกคู่ก็หันไปมองคาโต้ทันทีแต่เจ้าตัวไม่รู้สึกอะไรเลย
������������� "ไม่ใช่สักหน่อยรีบอร์น ถ้าเรื่องของฉันก็พูดไปแล้วนิ"คาโต้มองรีบอร์นแบบตำหนิเล็กๆ
������������� "ฉันได้ยินมาว่าบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบ มีปัญหากับแหวนอย่างงั้นหรอ" คาโค้หันไปพูดกัยสึนะ สึนะจึงพยักหน้า
������������� "แล้วเธอเกี่ยวอะไรด้วยมิทราบหา!?!? เรื่องนี้ก็ให้คนที่เป้นมือขวาของรุ่นที่สิบอย่างฉันจัดการสิ"โกคุเดระเอยขึ้นมาอย่างหัวเสีย คาโต้หันไปมองแล้วเลิกคิ้ว แต่ก็หันกลับไปคุยกับสึนะต่อราวกับว่าโกคุเดระเป็นเพียงแค่แมลงันที่บินผ่านหน้าเธอไป ทำเอาเจ้าตัวที่ถูกเมินแอบหงุกหงิดเล็กน้อย(ใครว่าเล็กน้อยฟะ!!!:โกเคะ เอ้ย โกคุตะโกน)
������������� "ฉันขอดูแหวนหน่อยสิ"คาโต้เดินไปหาสึนะแล้วทำท่าจะถอดแหวนโดยที่สึนะยังไม่ทันตั้งตัว แต่พอคาโต้สัมผัสกับแหวนนั้นทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงพุ่งออกมาจากแหวนคลุมร่างของคาโต้และสึนะ
������������� "รุ่นที่สิบ//สึนะ//ซาวาดะ//บอส!!!!"
������������� "คาโต้!!!!!!"
������������� ทันทีที่แสงนั้นดับลงสึนะและคาโต้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที ทำเอาทุกคนมนเหตุการณ์ถึงกับอึ้ง
������������ "เกิดอะไรขึ้นน่ะ!!!แล้วรุ่นที่หายไปไหน!?!?"โกคุเดระและคนอื่นๆกระวนกระวายที่อยู่ๆเพื่อนรักของเขาก็หายไปต่อหน้าต่อตา ส่วนฮิบาริก็หันขวัยไปถามรีบอร์นทันที
������������ "เกิดอะไรขึ้นกับคาโต้"
���������
� � � � � �� "ไม่มีอะไรหรอกน่า พวกนายไม่ต้องกังวลไปอีก'สักพักใหญ่ๆ'สองคนนั้นก็กลับมาเอง อ๋อใช่แต่ไม่รับประกันนะว่าทุกคนรึเปล่า"
������������ คำพุดของรีบอร์นทำให้ทุกคนถึงกับค้างเติ่ง ไม่ครบทุกคนงั้นหรอแสดงว่าต้องมีอะไรแน่!! ทุกคนคิดเหมือนกัน แม้ตอนนี้ทุกคนจะดูตื่นตระหนก แต่รีบอร์นกลับยิ้มเหมือนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุก
������������ แต่เพราะอาการของทุกคนที่ยังคงกระวนกระวายอยู่รีบอร์นจึงเอ่ยขึ้นมาว่า
������������ "เอาเป็นว่า เดี๋ยวพวกนายก้ได้ตามสองคนนั้นไปละกัน แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่น่ะนะ"
����������� ทางด้านของสึนะและคาโต้ หลังจากถูกแสงประหลาดพาวาบมาทีีไหนสักแห่งทั้งสองคนล่วงตกลงมาบนต้นไม้ ด้วยทักษะของคาโต้ทำให้ตีลังกากลับแล้วลงพื้นอย่างสวยงาม ส่วนสึนะหรอ เหอะๆ กำลังสนุกกับการห้อยต่องแต่งอยู่บนต้นไม้
�����������
����������� คาโต้ยืนขึ้นสำรวจไปรอบๆตัวแล้วหันมาสะดุดกับสถานที่ตนเองยืนอยู่ 'นี่มัน...' คาโต้นิ่งไปสักพักนึงก่อนจะโดนเสียงเล็กตะโกนขึ้นมาแทรกโสตประสาท ทำเอาเจ้าตัวหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิดนิดๆ
��������
���������� "คุณคาโต้คร้าบบบ ช่วยผมหน่อยสิคร้าบบบบ."สึนะทีโหนตัวอย่างสนุกสนาน(?)ตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดฤทธิ์ คาโต้มองสึนะอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะหยิบมีดขึ้นมาแล้วขว้างไปตรงเสื้อที่เกี่ยวอยู่กับต้นไม้ ส่งผลให้เสื้อขาดหร้อมกับสึนะที่ร่วงลงมาหัวโขกพื้นเสียงดัง
��������� "โอยย"สึนะลูบหัวตัวเองก่อนหันไปมองรอบๆ
��������� "ที่นี่ทีไหนเนี่ย"สึนะพูด
��������� "ปราสาทวองโกเล่"คาโต้พูดนิ่งๆ
��������� "หา นี่เราอยู่ที่อิตาลีงั้นหรอ?"
��������� "ใช่"คาโต้พยักหน้า สึนะลุกขึ้นปัดฝุ่นแล้วหันไปมองรอบๆ
��
���������� "เอ๋ ทำไมผมรู้สึกว่าที่นี่มันแปลกๆล่ะ"สึนะเอ่ยแล้วหันไปมองซ้ายขวาอย่างไม่หยุด คาโต้หันมามองสึนะ 'ลางสังหรณ์สุดยอดงั้นหรอ?'
���������� "เรียกฉันว่า คาโต้ ธรรมดาไม่ต้องมี คุณ เข้ามาด้วย ว่าแต่ที่นายบอกว่าที่นี่มันแปลกๆหมายความว่าไง"คาโต้ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
��������� "ไม่รู้สิ แต่คือมันไม่เหมือนกับที่ฉันมาตอนแรกน่ะ"สึนะบอกพลางเกาหัว
��������� "ฉันออกไปสำรวจรอบๆละกัน นายจะตามมาหรือไม่ห็เรื่องของนาย" คาโต้ออกนำเดินโดยมีสึนะวิ่งตาม 'เดินเร็วชะมัดเลย' สึนะคิดในใจ
���������� หลังจากที่ทั้งสองคนเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งพบกับกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง คาโต้หลบหลังกำแพงที่ใกล้ที่สุด ส่วนสึนะหลบตามคาโต้ยื่นคอมองสังเกตุการณ์คนกลุ่มนั้นอย่างเงียบๆ กลางกลุ่มนั้นมีชายคนหนึ่งมีเรือนผมสีแดง ใบหน้ามีรอยสักเหมือนเพลิงไหม้กำลังเดือดดาล ดูเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่รอบๆกำลังช่วยเหลือหรืออะไรสักอย่าง
�������
���������� บนเรือนผมนั้นมีเศษใบไม้ติดอยู้เต็มไปหมด คาโต้มองขึ้นไปข้างบนเห็นว่ามีหน้าต้างจึงสันนิษฐานว่า 'ตกลงมาชัวร์' ชายคนนั้นยืนอยู่ตรงนั้นไม่นานเขาวิ่งเข้าในปราสาทอย่างรวดเร็ว
���������� "เอ๋ คนๆนั้หน้าเหมือนโกคุเดระคุงเลย"สึนะพูดขึ้น คาโต้แทบอยากจะเอาหัวโขกกำแพงให้ตายคาตรงนี้เลย ทั้งๆที่สึนะเคยเจอกับผู้พิทักษ์วายุรุ่นแรกเต็มๆสองตา(แบบวิญญาณอ่านะ:ไรท์)แล้วแท้ๆ กลับจำไม่ได้ แม้คาโต้จะไม่เคยเจอแบบสึนะแต่เธอก็เคยไปอ่านประวัติของวองโกเล่มาผ่านๆแล้ว(เพราะรีบอร์นบังคับให้อ่าน)เธอจึงจำได้
���������� ขณะที่คาโต้ทำสีหน้าเซ็งสุดๆส่วนสึนะกำลังทำท่าครุ่นคิดเหมือนกับว่าใบหน้านั้นคุ้นๆอยู่หลังกำแพง ตอนนั้นเองก็มีมือที่ไหนก็ไม่รู้มาจับไหล่ของสึนะ สึนะตกใจสุดกู่รีบวิ่งไปเกาะหลังคาโต้ ส่วนคาโต้ที่แปลกใจกับท่าทีของสึนะจึงไปทางที่สึนะวิ่งมาพบว่า คนที่มจับไหล่ก็คือ...
.........................................................................................................................................................
��� เอาล่ะ จบไปอีกตอนแล้ว(บิดขี้เกียจ) เราหวังว่าฟิคนี้จะทำให้ทุกคนสนุกกันทั่วหน้านะ (หวังจริงๆ) เดี๋ยวตอนใหม่เราจะมาลงให้นะ(อีกสักพัก) ส่วนตอนนี้ก็ขอจบไปก่อนละกันทายเอาเองนะว่าใครมาจ๊ะเอ๋กับสึนะและคาโต้นะ^^ ตอนนี้เราขอลาไปก่อน...อ๊ะๆอย่าลืมคอมเม้นต์นะจ๊ะ ไม่งั้นเดี็ยวเราไม่ลงต่อนะ โอเคแล้วเจอกันตอนหน้านะ บาย
����������������
����������������
�������� พายุที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างบ้าคลั่ง ทำให้กระทบกับหน้าต่างของโรงเรียนนามิโมริเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างบางยืนมองนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย มือเรียวแตกระจกอย้่างไม่กลัวว่ามันจะพังลงมา นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย� จนกระทั่งรู้สึกตัวอีกทีก็มีเด็กสาวหน้าตาน่ารัก เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนตักสั้นแต่พริ้วสลวย นัยน์ตากลมโตมอง'คาโต้'อย่างยิ้มแย้ม
�������� คาโต้เลิกคิ้วกับการที่มีคนมาทักทายเธอ ทั้งๆที่ตอนไปแนะนำตัวในห้องเรียนครั้งแรกทุกๆคนก็มองเธอราวกับเป็นปีศาจในคราบนางฟ้าเสียก็ไม่ปาน เว้นแต้มีแค่เด็กคนนี้ที่มาทักทายเธออย่างร่าเริง
�������� "ว่าไงจ๊ะ เอ่อ...คาโต้จัง...ใช่มั้ยจ๊ะ"คาโต้ยังคงตีสีหน้าเรียบขรึมแล้วพยักหน้า เด็นคนนี้จึงพูดต่อว่า
�������� "ฉันชื่อ ซาซางาวะ� เคียวโกะ ยิดีที่ได้รู้จักนะ"เคียวโกะยื่นมือมาให้คาโต้ แต่เจ้าตัวกลับมองมือของเคียวโกะนิ่งแล้วเดินผ่านเธอไปราวกับว่าเธอเป็นเพียงแค่อากาศ
��������� "อะ อ้าว"เคียวโกะที่ไม่เข้าใจกับนิสัยคาโต้ได้แต่มองตามคนที่คิดว่าเป็นเพื่อนใหม่ไปอย่างงๆ คาโต้ไม่สนใจกับท่าทีของเคียวโกะได้แต่เดินฝ่าสายตาและเสียงซุบซิบนินทาของเหล่านักเรียนเป็นระยะๆ จนกระทั่งเธอเดินมาถึงห้องของ 'หัวหน้ากรรมการคุมกฎ' คาโต้ยืนมองหน้าห้องอย่างลังเลครู่หนึ่งก่อนเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะเลย
���������� ทำให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ยนโต๊ะทำงานท่ามกลางกองเอกสาร เงยหน้าขึ้นมามองแขกที่เข้ามาในห้องโดยพละการ พอรู้ว่าใครเข้ามาในห้องทำให้ร่างสูงเลิกคิ้วมองก่อนยิ้มบางๆแล้วพูดว่า
���������� "มีอะไรอย่างงั้นหรอ คาโต้"ฮิบาริพูดส่วนคาโค้ที่ยังยืนอยู่ที่ประตูกลับเงียบ แต่เดินไปนั่งที่โซฟา"ไม่ได้เจอกันตั้งนาน โหดขึ้นนะคะ"
���������� คาโต้พูดยิ้มนิดๆ ฮิบาริลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาด้านตรงข้าม "เธอเองก็เหมือนกัน นิสัยเปลี่ยนไปเยอะเลยนิ" คาโต้ยิ้มนิดๆ"ว่าแต่ช่วยเล่าให้ฟังหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นได้ไหม"
���������� พอฮิบาริเอ่ยคำถามนี้ออกไปทำให้สีหน้าของหญิงสาวเปลี่ยไปนิดนึงก่อนกลับมายิ้มตามเดิม "ก็นะหลังจากตอนนั้น อิเอมิสึก็ช่วยหนูเอาไว้แล้วให้รีบอร์นเป็นอาจารย์หนุตลอดมาน่ะค่ะ เลยกลายเป็นมาเฟีบไปโดยปริยาย"
����������� คาโต้หัวเราหึๆออกมา "เธอรวมกลุ่มงั้นหรอ" ฮิบาริแอบหงุดหงิดนิดหน่อยแต่ก็โล่งใจเพราะคาโต้ส่ายหน้า "หนูทำงานคนเดียวค่ะ ไม่คิดจะไปยุ่งกับพวกชั้นต่ำหรอกค่ะ"
����������� "รู้สึกว่าเรานิสัยเหมือนกันเลยนะ"ฮิบาริเอ่ยยิ้มๆ
����������� "คิก นั่นน่ะสิคะ ขนาดไม่เจอกันตั้งนาน"
����������� พอจบประโยคของคาโต้ ทั้งสองกลับเงียบและนิ่งไปนาน ฮิบาริจึงทำลายบรรยากาศความเงียบด้วยการเอ่ยถามคาโต้ ซึ่งคำถามแม้เหมือนจะดราม่าแต่คาโต้ก็ยังมีสีหน้าเรียบเฉย
����������� "รู้มั๊ย ตอนที่พี่คิดว่าเธอ...ตายไปแล้วน่ะ พี่เกือบจะชักมีดไปปาดคอเจ้าพวกนั้นเหลือเกิน"
����������� "..."
����������� "พี่เสียใจมากนะ ทำไมน้องไม่เห็นส่งข่าวมาบอกพี่สักคำน่ะ"
����������� "ก็นะ...เพื่อความปลอดภัยของเราทั้งสองน่ะ อิเอมิสึบอกกับหนูว่าเจ้ากลุ่มโจรนั้นน่ะ มันเป็นพวกที่เกลียดตระกูลเรามาก จนกระทั่งหยิบมีดขึนมาปาดคอคนในบ้านเราเลยล่ะ"
������������ คาโต้หยิบกาแฟขึ้นมาจิบ ซึ่งไม่รู้ว้่าไปชงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพูดราวกับกำลังพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ ฮิบาริมองบุคลิกของน้องสาวที่เปลี่ยนไปมากแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ก่อนจะถูกทำลายลงด้วยเสียงเปิดประตู
������������ สึนะจำต้องเดินมาเรียกฮิบาริเพราะถูกรีบอร์นบังคับมา พอเปิดประตูเข้าไปก็พบกับพี่น้องตระกูลฮิบาริอยู่กันพร้อมหน้า ทันทีที่สึนะมองทั้งสองคนก็อดไม่ได้ที่ขนจะลุกวาบ ก็ช่วยไม่ได้นี่นาคนนึงเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแรงที่สุด ส่วนอีกคนนึงพึ่งสาดกระสุนใส่เมื่อวานเต็มแอ๊ก เป็นใครก็ต้องขนลุกทั้งนั้นแหละ!!(แกคนเดียวมั้งที่คิดแบบนี้กับสามีน่ะ แอ๊บ:ไรท์เตอร์โดนถีบเต็มแรง)
������������� "มีอะไรเจ้าสัตว์กินพืช"ฮิบาริเอ่ยเสียงเรียบแต่เยือกเย็น ทำใหสึนะเกือบขยับปากไม่ออก"คือ...รีบอร์น...ให้มาตามน่ะครับ"
������������� "ฉันจะไปด้วย พนันได้เลยว่าเรื่องที่จะคุยด้วยเนี่ยเกี่ยวกับฉันแน่ๆ" คาโต้ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที ส่วนฮิบาริมองตามหลังคาโต้ครู่หนึ่งก่อนลุกขึ้นเดินมาหาสึนะ เจ้าตัวจึงถอยหลังอย่างกล้าๆกลัวๆ
������������� "ฉันไม่รวมกลุ่มหรอกนะ"พ้อมควักท่อนฟาออกมา สึนะจึงได้แต้ถอยกรูดไปติดกำแพง"เหวอ!!!เดี๋ยวสิครับคุณฮิบาริ คือ คือว่ารีบอร์นเขาบอกว่าต้องไปน่ะครับ ผะ ผมไม่ได้ตั้งใจจะมาบกวนคุณแล้วให้คุณไปรวมกลุ่มหรอกนะคร้าบบบ"
������������� สึนะร่ายยาวพร้อมกับพนมมือขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ตัวเองยังชีวิตอยู่ต่อ(พี่เขาเว่อร์นะค่ะรีดเดอร์ทั้งหลาย//เหล่มอง)(ก็แกแต่งไม่ใช่รึ!!!:รีดเดอร์)
������������� "หึ เพราะเจ้าหนูเป็นคนบอกฉันถึงยอมทำตาหรอกนะ"ฮิบาริเก็บท่อนฟาแล้วเดินผ่านสึนะไป ส่วนสึนะที่ถอนหายใจโล่งอกว่าตนเองยังไม่ถูกขย้ำ จู่ๆแหวนวองโกเล่ที่ตนเองสวมอยู่นั้นกลับร้องวาบขึ้นมาทำเอาสึนะแถบอยากจะถอดมันออก แต่หันไปจะถอดมันออกแหวนก็หยุดร้อนทันที สึนะจึงได้แต่เกาหัวอย่างงงๆ
������������� แม้ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่แหวนเป็นแบบนี้ แต่ครั้งนี้แหวนมันกลับร้อนมากกว่าเดิมราวกับมันพยายามจะจิกกัดเนื้อของสึนะให้หลอมละลายไป สึนะที่ยังยืนงงกับแหวนตนเองอยู้นั้นก็นึกขึนได้ว่าต้องรีบไปไม่งั้นโดนรีบอร์นยำเละแน่ จึงวิ่งออกไปราวกับติดจรวด...
������������ ทางด้านจุดนัดพบของเหล่าวองโกเล่ซึ่งแน่นอน ต้องเป็นดาดฟ้าแน่ พวกผู้พิทักษของวองโกเล่ ซึ่งได้แก่ ยามาโมโตะ โกคุเดระ เรียวเฮ โคลม(ตอนนี้คือตอนที่โคลมย้ายเข้ามาเรียนแล้วนะ)สึนะและฮิบาริ� รวมทั้งวองโกเล่คนอื่นๆได้แก่ รีบอร์นและคาโต้ เมื่อรีบอร์นเห็นว่าทุกคนมากันครบแล้วจึงได้พูดขึ้น
������������� "ที่ฉันเรียกทุกคนมาก็คือเรื่องของคาโต้น่ะนะ"พอพูดจบ สายตาทุกคู่ก็หันไปมองคาโต้ทันทีแต่เจ้าตัวไม่รู้สึกอะไรเลย
������������� "ไม่ใช่สักหน่อยรีบอร์น ถ้าเรื่องของฉันก็พูดไปแล้วนิ"คาโต้มองรีบอร์นแบบตำหนิเล็กๆ
������������� "ฉันได้ยินมาว่าบอสวองโกเล่รุ่นที่สิบ มีปัญหากับแหวนอย่างงั้นหรอ" คาโค้หันไปพูดกัยสึนะ สึนะจึงพยักหน้า
������������� "แล้วเธอเกี่ยวอะไรด้วยมิทราบหา!?!? เรื่องนี้ก็ให้คนที่เป้นมือขวาของรุ่นที่สิบอย่างฉันจัดการสิ"โกคุเดระเอยขึ้นมาอย่างหัวเสีย คาโต้หันไปมองแล้วเลิกคิ้ว แต่ก็หันกลับไปคุยกับสึนะต่อราวกับว่าโกคุเดระเป็นเพียงแค่แมลงันที่บินผ่านหน้าเธอไป ทำเอาเจ้าตัวที่ถูกเมินแอบหงุกหงิดเล็กน้อย(ใครว่าเล็กน้อยฟะ!!!:โกเคะ เอ้ย โกคุตะโกน)
������������� "ฉันขอดูแหวนหน่อยสิ"คาโต้เดินไปหาสึนะแล้วทำท่าจะถอดแหวนโดยที่สึนะยังไม่ทันตั้งตัว แต่พอคาโต้สัมผัสกับแหวนนั้นทันใดนั้นก็มีแสงสีแดงพุ่งออกมาจากแหวนคลุมร่างของคาโต้และสึนะ
������������� "รุ่นที่สิบ//สึนะ//ซาวาดะ//บอส!!!!"
������������� "คาโต้!!!!!!"
������������� ทันทีที่แสงนั้นดับลงสึนะและคาโต้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที ทำเอาทุกคนมนเหตุการณ์ถึงกับอึ้ง
������������ "เกิดอะไรขึ้นน่ะ!!!แล้วรุ่นที่หายไปไหน!?!?"โกคุเดระและคนอื่นๆกระวนกระวายที่อยู่ๆเพื่อนรักของเขาก็หายไปต่อหน้าต่อตา ส่วนฮิบาริก็หันขวัยไปถามรีบอร์นทันที
������������ "เกิดอะไรขึ้นกับคาโต้"
���������
� � � � � �� "ไม่มีอะไรหรอกน่า พวกนายไม่ต้องกังวลไปอีก'สักพักใหญ่ๆ'สองคนนั้นก็กลับมาเอง อ๋อใช่แต่ไม่รับประกันนะว่าทุกคนรึเปล่า"
������������ คำพุดของรีบอร์นทำให้ทุกคนถึงกับค้างเติ่ง ไม่ครบทุกคนงั้นหรอแสดงว่าต้องมีอะไรแน่!! ทุกคนคิดเหมือนกัน แม้ตอนนี้ทุกคนจะดูตื่นตระหนก แต่รีบอร์นกลับยิ้มเหมือนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสนุก
������������ แต่เพราะอาการของทุกคนที่ยังคงกระวนกระวายอยู่รีบอร์นจึงเอ่ยขึ้นมาว่า
������������ "เอาเป็นว่า เดี๋ยวพวกนายก้ได้ตามสองคนนั้นไปละกัน แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่น่ะนะ"
����������� ทางด้านของสึนะและคาโต้ หลังจากถูกแสงประหลาดพาวาบมาทีีไหนสักแห่งทั้งสองคนล่วงตกลงมาบนต้นไม้ ด้วยทักษะของคาโต้ทำให้ตีลังกากลับแล้วลงพื้นอย่างสวยงาม ส่วนสึนะหรอ เหอะๆ กำลังสนุกกับการห้อยต่องแต่งอยู่บนต้นไม้
�����������
����������� คาโต้ยืนขึ้นสำรวจไปรอบๆตัวแล้วหันมาสะดุดกับสถานที่ตนเองยืนอยู่ 'นี่มัน...' คาโต้นิ่งไปสักพักนึงก่อนจะโดนเสียงเล็กตะโกนขึ้นมาแทรกโสตประสาท ทำเอาเจ้าตัวหันกลับไปมองอย่างหงุดหงิดนิดๆ
��������
���������� "คุณคาโต้คร้าบบบ ช่วยผมหน่อยสิคร้าบบบบ."สึนะทีโหนตัวอย่างสนุกสนาน(?)ตะโกนร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดฤทธิ์ คาโต้มองสึนะอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะหยิบมีดขึ้นมาแล้วขว้างไปตรงเสื้อที่เกี่ยวอยู่กับต้นไม้ ส่งผลให้เสื้อขาดหร้อมกับสึนะที่ร่วงลงมาหัวโขกพื้นเสียงดัง
��������� "โอยย"สึนะลูบหัวตัวเองก่อนหันไปมองรอบๆ
��������� "ที่นี่ทีไหนเนี่ย"สึนะพูด
��������� "ปราสาทวองโกเล่"คาโต้พูดนิ่งๆ
��������� "หา นี่เราอยู่ที่อิตาลีงั้นหรอ?"
��������� "ใช่"คาโต้พยักหน้า สึนะลุกขึ้นปัดฝุ่นแล้วหันไปมองรอบๆ
��
���������� "เอ๋ ทำไมผมรู้สึกว่าที่นี่มันแปลกๆล่ะ"สึนะเอ่ยแล้วหันไปมองซ้ายขวาอย่างไม่หยุด คาโต้หันมามองสึนะ 'ลางสังหรณ์สุดยอดงั้นหรอ?'
���������� "เรียกฉันว่า คาโต้ ธรรมดาไม่ต้องมี คุณ เข้ามาด้วย ว่าแต่ที่นายบอกว่าที่นี่มันแปลกๆหมายความว่าไง"คาโต้ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ
��������� "ไม่รู้สิ แต่คือมันไม่เหมือนกับที่ฉันมาตอนแรกน่ะ"สึนะบอกพลางเกาหัว
��������� "ฉันออกไปสำรวจรอบๆละกัน นายจะตามมาหรือไม่ห็เรื่องของนาย" คาโต้ออกนำเดินโดยมีสึนะวิ่งตาม 'เดินเร็วชะมัดเลย' สึนะคิดในใจ
���������� หลังจากที่ทั้งสองคนเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งพบกับกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง คาโต้หลบหลังกำแพงที่ใกล้ที่สุด ส่วนสึนะหลบตามคาโต้ยื่นคอมองสังเกตุการณ์คนกลุ่มนั้นอย่างเงียบๆ กลางกลุ่มนั้นมีชายคนหนึ่งมีเรือนผมสีแดง ใบหน้ามีรอยสักเหมือนเพลิงไหม้กำลังเดือดดาล ดูเหมือนว่าคนที่ยืนอยู่รอบๆกำลังช่วยเหลือหรืออะไรสักอย่าง
�������
���������� บนเรือนผมนั้นมีเศษใบไม้ติดอยู้เต็มไปหมด คาโต้มองขึ้นไปข้างบนเห็นว่ามีหน้าต้างจึงสันนิษฐานว่า 'ตกลงมาชัวร์' ชายคนนั้นยืนอยู่ตรงนั้นไม่นานเขาวิ่งเข้าในปราสาทอย่างรวดเร็ว
���������� "เอ๋ คนๆนั้หน้าเหมือนโกคุเดระคุงเลย"สึนะพูดขึ้น คาโต้แทบอยากจะเอาหัวโขกกำแพงให้ตายคาตรงนี้เลย ทั้งๆที่สึนะเคยเจอกับผู้พิทักษ์วายุรุ่นแรกเต็มๆสองตา(แบบวิญญาณอ่านะ:ไรท์)แล้วแท้ๆ กลับจำไม่ได้ แม้คาโต้จะไม่เคยเจอแบบสึนะแต่เธอก็เคยไปอ่านประวัติของวองโกเล่มาผ่านๆแล้ว(เพราะรีบอร์นบังคับให้อ่าน)เธอจึงจำได้
���������� ขณะที่คาโต้ทำสีหน้าเซ็งสุดๆส่วนสึนะกำลังทำท่าครุ่นคิดเหมือนกับว่าใบหน้านั้นคุ้นๆอยู่หลังกำแพง ตอนนั้นเองก็มีมือที่ไหนก็ไม่รู้มาจับไหล่ของสึนะ สึนะตกใจสุดกู่รีบวิ่งไปเกาะหลังคาโต้ ส่วนคาโต้ที่แปลกใจกับท่าทีของสึนะจึงไปทางที่สึนะวิ่งมาพบว่า คนที่มจับไหล่ก็คือ...
.........................................................................................................................................................
��� เอาล่ะ จบไปอีกตอนแล้ว(บิดขี้เกียจ) เราหวังว่าฟิคนี้จะทำให้ทุกคนสนุกกันทั่วหน้านะ (หวังจริงๆ) เดี๋ยวตอนใหม่เราจะมาลงให้นะ(อีกสักพัก) ส่วนตอนนี้ก็ขอจบไปก่อนละกันทายเอาเองนะว่าใครมาจ๊ะเอ๋กับสึนะและคาโต้นะ^^ ตอนนี้เราขอลาไปก่อน...อ๊ะๆอย่าลืมคอมเม้นต์นะจ๊ะ ไม่งั้นเดี็ยวเราไม่ลงต่อนะ โอเคแล้วเจอกันตอนหน้านะ บาย
����������������
����������������
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น