ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คนในความลับ (รักลับๆ)

    ลำดับตอนที่ #4 : 04

    • อัปเดตล่าสุด 14 เม.ย. 60




              ประตูคอนโดถูกเปิดออกด้วยมือของเจ้าของห้อง ห้องที่เงียบสงบทำให้เธอสงสัยว่าคนที่เธอบอกให้รอไปอยู่ไหนซะแล้ว หรือว่าจะกลับไปแล้ว แต่แล้วความคิดก็ต้องหยุดลงเมื่อเธอเดินมาเห็นปลายเท้าของชายหนุ่มโผล่เลยออกมาจากโซฟากลางห้อง เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ กับโซฟา แล้วก็ต้อง ขำออกมาเบาๆเนื่องจากคนตรงหน้านี่สวมเพียงผ้าเช็ดตัวปิดส่วนล่างไว้อย่างเดียวน่ะสิ เธอก็ลืมไปว่า ไม่มีชุดให้เขาใส่ เธอก้มมองนาฬิกาข้อมือตัวเองบอกเวลา บ่ายโมงกว่าแล้ว เธอยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าเลย ปลุกแทนแล้วออกไปกินข้างนอกน่าจะดี หญิงสาวหันไปหวังจะปลุกชายตรงหน้าแต่พอเห็นเธอคงไม่ต้องปลุกแล้วแหล่ะ เพราะแทนกำลังนอนลืมตาส่งยิ้มมาให้เธออยู่

              'ลุกขึ้นไปแต่งตัว' อะไรกันมาถึงก็สั่งเลย ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ 

              'ไปไหนหรอครับ' แทนถามพร้อมกับลุกขึ้นแล้วหยิบเสื้อกับกางเกงเมื่อคืนที่วางพาดอยู่ขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว 

              'ไปกินข้าว' 

               'แต่พี่บอกมีเรื่องจะคุยกับผมนะ ลืมหรือป่าว' ชายหนุ่มรีบท้วงถามเรื่องที่ตัวเองถูกสั่งให้รอ และเป็นเรื่องที่อยากรู้เกี่ยวกับตัวของพี่แพม 

               'ไม่ได้ลืม คุยหลังกินข้าวเสร็จก็ได้นี่' แทนหันไปมองหญิงสาวที่ยืนกอดอก มองมาที่เขาอยู่เช่นกัน'ตามมา' เมื่อเห็นแทนแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเดินนำไป 

               แพทเลือกร้านอาหารที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว เป็นร้านที่แบ่งออกเป็นห้องใครห้องมัน และสั่งอาหาร มาพอสมควร ระหว่างทางที่มาร้านอาหาร บรรยากาศบนรถ ช่างเต็มไปด้วยเสียงของแทนพูดอยู่ตลอดเวลา เหมือนจะคุยคนเดียวมากกว่า จนแพทรู้ว่าแทนเรียนวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และยังเป็นเด็กเรียนดีมาก อีกทั้งยังหาเงินเรียนเองเพราะไม่อยากรบกวนพ่อแม่ แทนถือได้ว่าเป็นเด็กดีมาก และมีเสน่ห์มากๆคนนึง เพราะเวลาที่เขาพูด เขามักจะพูดไปยิ้มไป ทำให้คนคล้อยตามกับสิ่งที่เขากำลังสื่อ แต่แปลกทั้งๆที่เธอมักไม่ชอบคนพูดเยอะแต่กับเด็กคนนี้เธอชอบฟังเขาพูด ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรเธอคิดว่า มันน่าฟังไปซะทุกอย่าง 

              'นี่พี่รู้ไหมครับ ตอนผมเป็นเด็กนะ แม่บอกว่าผมน่ะดื้อสุดๆไปเลย แต่ผมไม่เห็นจำได้เลยว่าตัวเองดื้อ โตมาผมก็ไม่คิดว่าผมดื้อนะ พี่ว่าผมดื้อไหม' ระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ แทนยังคงชวนเธอคุย
     
              'ไม่นะ เธอเป็น'เด็กดี' เลยหล่ะ'
     
              'ใช่มั้ยล่ะครับ ผมนะเชื่อฟังพ่อแม่ทุกอย่าง และผมก็ยังเชื่อฟังพี่แพทด้วย' หน้าตาแบบนี้มันกวนประสาทกันอยู่ล่ะสินะ แถมยังยักคิ้วให้อีก'ผมถามเรื่องพี่ได้มั้ย'

              'ยังไม่ได้กินข้าวเลย จะคุยแล้วหรอ' ฉันเงยหน้ามองแทน แล้วอดสงสารไม่ได้ เพราะแทนคงอยากรู้มากจริงๆ'ว่ามาสิ อยากถามอะไร'

              'พี่ชื่อจริงชื่ออะไร เกิดวันที่เท่าไหร่ อายุด้วย แล้วพี่บอกผมมาด้วย ว่าพี่จะทำยังไงกับผมต่อ' หลังจากที่แพทอนุญาติ แทนก็สวนคำถามขึ้นมาทันที

              'พรลภัส ปิติวัฒนากุล 14 กุมภาพันธ์ 2529 อายุ 31 ยังบอกไม่ได้ว่าจะจัดการเธอยังไง' 

              'ทำไมยังบอกไม่ได้ล่ะ' คิ้วเข้มๆขมวดแน่น พร้อมกับทำหน้าตางงงวย

              'มันขึ้นอยู่กับเธอ ว่าเธอจะยอมหรอ ถ้าฉันบอกว่าเธอจะเป็นชู้กับฉัน เป็นคนที่อยู่เงียบๆ ของฉัน ฉันไม่ได้อยากบังคับใคร' เธอบอกด้วยท่าทางจริงจัง ชายหนุ่มมีสีหน้ากังวล คิดหนัก'ที่ฉันแต่งงานแล้วน่ะ มันเป็นความจริง แต่การที่ฉันแต่งงานไม่ได้แปลว่าฉันยินยอม' เธออธิบายให้เขาฟัง เพราะอะไรก็ไม่รู้ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องมาอธิบาย แต่มันเป็นเพราะอะไรกัน ถ้าจะบอกว่าชายหนุ่มตรงหน้าสับสน เธอก็มีอาการไม่ต่างกัน 

              'แล้วตอนนี้พี่กับสามีอยู่ด้วยกันมั้ย'

              'ไม่ ฉันออกมาอยู่คอนโด' เธอรู้ว่าคนที่อยู่ในลู่ตลอดอย่างแทนคงจะคิดหนักเลยหล่ะ ก็ข้อเสนอแบบนี้มีใครบ้างจะไม่คิดหนัก 'นี่ฉันไม่ได้บังคับเธอนะ ไม่เห็นต้องคิดมากขนาดนั้นเลย'

              'ถ้าผมยอม ผมจะได้เห็นรอยยิ้มพี่ใช่ไหม พี่จะยิ้มให้ผมเหมือนเมื่อคืนใช่ไหม ผมชอบมันมากเลย' พอฟังจบริมฝีปากของหญิงสาวแย้มออกอย่างอัตโนมัติ มันเป็นยิ้มที่เธอไม่ได้ฝืน เป็นยิ้มที่ออกมาจากใจ ซึ่งน้อยคนมากที่จะได้รับมัน 'ครับพี่ ผมยอมพี่ทุกอย่าง ผมจะเป็นเด็กดี' ชายหนุ่มยิ้มกว้างออกมาทันทีเมื่อตัดสินใจได้ ตอนนี้เขายอมจริงๆ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง จะตกนรกไหม ขอแค่มีรอยยิ้มนี้ เขาก็พร้อมจะเจอทุกปัญหา 

              'รอยยิ้มของเธอน่ะ ฉันก็ชอบมันนะ' เธอจะรู้ไหมว่าเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเอามากๆ เอาเถอะ ชีวิตมันต้องมีออกนอกลู่บ้างล่ะนะ
    .
    .
    .
    .
    .
    [แทน]
               หลังจากวันนั้น นี่ก็ 4 เดือนเข้าไปแล้วที่ผมกับพี่ติดต่อกันเรื่อยๆ ผมส่งข้อความหาพี่ทุกวัน พี่ตอบมานะ แต่ก็ไม่ได้ยาวอะไรตามสไตร์ แค่นั้นผมก็ดีใจแล้ว ผมก็ยังทำงานที่บาร์อยู่เหมือนเดิม พี่แพมก็จะมานั่งดื่มบ้าง แต่ไม่ได้บ่อยเหมือนเมื่อก่อน 

              ความสัมพันธ์ของเราเป็นไปด้วยดี ดีมากเลยหล่ะ ถึงพี่แพมจะเป็นคนพูดไม่เก่ง ไม่ค่อยแสดงอะไรออกมา แต่มีเรื่องนึงที่พี่จะบอกบ่อยๆ คือ ถ้าพี่เขาจะไปกับทางสามีพี่เขาจะบอกผม ถึงจะเป็นประโยคสั้นๆ เช่น 'ไปกินข้าวกับนนท์' ผมก็จะเข้าใจพี่เพราะผมดูก็รู้ว่าพี่เขาไม่อะไรกับสามีจริงๆ แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ บางทีผมก็หวงพี่ขึ้นมา ผมทำอะไรไม่ได้ก็ต้องเป็นเด็กดี 

              แต่มีเรื่องนึงที่ผมไม่ชอบเลย คือพี่แพทชอบซื้อของให้ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า นาฬิกา รองเท้า และล่าสุด สดๆร้อนๆ มือถือใหม่ แต่พอทำท่าจะไม่รับพี่แกหันมาจ้องนิ่งๆ อะไรก็ไม่รู้ ขัดไม่ได้เลย จะบอกว่าตัวเองสายเปย์ล่ะสิ ชิ พูดแล้วขึ้น 

              'น้องๆ' ผมเงยหน้าขึ้นตามเสียง แล้วเจอกับผู้ชาย แต่ดูยังไงก็ไม่น่าจะใช่ผู้ชาย ก็ริมฝีปากที่แดงเถือกขนาดนั้น

              'ผมหรอครับ' 

               'น้องนั่นแหละ นี่สนใจไปถ่ายแบบกับพี่มั้ย' เอาอีกล่ะ ผมชินซะแล้วล่ะ มีคนมาชวนผมบ่อยมาก ผมกำลังจะอ้าปากปฏิเสธ แต่พี่แกสวนขึ้นมา'Charme นิตยสาร ในเครือ ปิติวัฒนากุล ที่ทำช่องโทรทัศน์ดังอยู่น่ะ' บริษัทพี่แพทนี่ น่าสนใจแฮะ หมายถึงเจ้าของนะไม่ใช่นิตยสาร'อ่ะนี่นามบัตรพี่ เก็บไว้ล่ะ'

              'ผมสนใจ ผมจะต้องทำอะไร วันไหนครับ' ผมรีบถามออกไปทันทีที่รู้ว่าบริษัทพี่แพท

              'คิดถูกแล้วจ้ะ พี่ชื่อ วินนี่ นะ แล้วเราล่ะชื่ออะไร'

               'แทนครับ'

              'วันจันทร์หน้าน่ะ ส่วนเรื่องอื่นพี่จะโทรไปบอกอีกที อ่ะเอาเบอร์มา' ผมบอกเบอร์ไปอย่างอัตโนมัติ ตื่นเต้นเมื่อได้รู้จะไปบริษัทพี่แพท

              'ขอบคุณนะครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×