ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PN online

    ลำดับตอนที่ #5 : หนีหมาป่าปะกับดัก...

    • อัปเดตล่าสุด 20 ม.ค. 56


    โดนสัตว์อสูรพูดตอกยังไม่พอยังต้องมาเจอเจ้าแม่ไก่อายไลเนอร์เขลอะใต้ตาบวกกับเจ้าพวกหมาป่าที่ไม่ลดละความพยายามที่จะจัดการวาซีให้ได้ตามมาเป็นขบวนจนพื้นที่โดยรอบสั่นสะเทือน ไปหมดทำลายบรรยากาศที่พึ่งผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่มโมงที่เงียบสงบพังทลายสิ้นไม่เหลือไว้ซึ่งเค้าเดิมแม้แต่น้อย

       วาซีที่วิ่งมาโดยอาศัยการนำทางจากเจ้าลูกเจี๊ยบที่ค่อยชี้ทางถูกๆผิดๆให้จนเขาวิ่งจนเหนื่อยหอบแทบไม่มีแรงเหลือทักษะศรกระจายดาวถูกปล่อยใช้เป็นระยะๆเมื่อพวกหมาป่าล้อมเขาไวได้จนมีบางตัวถึงกับล้มตายลงไปก็มี แต่เจ้าแม่ไก่เนี่ยสิแทบไม่ระแคะระคายเลยทีเดียว

           “นั้นไงๆ รังของแม่หนูนะ “

        ในที่สุดวาซีก็เจอกับทางสว่างที่สุดของการเดินทางที่เขารอค่อยมานานจะได้สลัดเอาเจ้าตัวนำโชคออกไปจากเขาสักที

       เมื่อเขาเห็นรังสีทองอร่ามขนาดใหญ่พอให้คนเป็นสิบเขาไปนอนเกลือกกลิ้งก็ยังคงมีที่ใช้ส่อยอีกมากโขนั้นความรู้สึกที่ใกล้จะถึงจุดหมายพลักดันให้แรงที่หมดไปกลับมาเต็มอีกครั้งพร้อมกับออกแรงเฮือกสุดท้ายพุ่งไปด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่เขาจะทำได้

        “ย้ากกกก เข้าไปละน้า”

       เมื่อมาถึงวาซีไม่รอช้ากระโดดลงไปอย่างกับนักกระโดดไกลมืออาชีพสองเท้ากดเต็มแรงก่อนจะสปริงตัวเข้าไปอย่างเต็มกำลังหวังเพื่อพบกับ....

      ฟุบ! “เฮ้ยยยไม่ใช้ฟางอ่อเนี่ย ว้ากกก “

         วาซีผู้แสนอัพโชคไม่ได้รู้เลยว่ารังนี้นั้นบอบบางแค่ไหนก่อนที่ตัวเขาที่กระโจนเข้ามาอย่างเต็มแรงจะร่วงหล่นลงไปข้างล่างของรังแม่ไก่ทะลุเส้นฟางบางๆหล่นลงมาที่หลุมซึ่งดูเหมือนจะลึกซะเหลือเกินจนประสาทรับรู้ทั้งห้าของเขาดับไป  

     

       “อะ...อืม ที่ไหนที่ไหนเนี่ย”

     วาซีค่อยๆฟื้นตัวขึ้นมาอาการมึนงงจากการที่ตกลงมาจากที่สูงนั้นยังคงมีอยู่ภาพเบื้องหน้ายังคงเป็นสีดำดูเรื่อนรางเหมือนสมองยังไม่สามารถจูนได้ภาพสั่นไหวไปมาเหมือนใครกำลังเขย่าตัวของเขาอยู่

        วาซีก้มลงหลับตาเอามือทั้งสองข้างนวดขมับตัวเองไปมาให้หายจากอาการที่น่าปวดหัวนี้ซะก่อนที่เขาจะค่อยๆยั่นกายลุกขึ้นทรงตัวยื่นมองสถานที่ที่เขาตกลงมาเมื่อเขามองขึ้นไปก็พบว่ามองไม่เห็นอะไรเลยนอกจากโพล่งที่ขนาดกว้างสองคนยื่นได้หรือก็คือทางที่เขาตกลงมาคงลึกน่าดูเลยทีเดียวและเขาก็โชคดีมากด้วยที่ตกลงมายังกองฟางขนาดหย่อมๆที่น่าจะเป็นผลมาจากตอนที่แม่ไก่ทำรังนั้นฟางก็หล่นลงมาเรื่อยถึงได้มีความบางขนาดนั้น

        “จิ้บๆ ฟื้นแล้วหย๋อ “  เจ้าลูกเจี๊ยบโผล่หน้าขาวซีดออกมาจากเสื้อของเขา

    “แกตามลงมาด้วยทำไมฮ่ะ กลับไปหาแม่อายไลเนอร์ของแกไป “ วาซีตกใจเป็นอย่างมากที่เขาเห็นเจ้าลูกเจี๊ยบยังจะตามเขามาราวีถึงตอนนี้อีกมันเคยเป็นตัวดวงดีซะที่ไหนละ

    “แง ก็หนูกระโดดออกมาไม่ทันนิน่า ก็เลยร่วงมาด้วยนี้ไง อีกอย่างหนูเป็นลูกไก่นะบินเป็นที่ไหนเล่า จิ๊ เจ็บใจใช้ซี้หนูมันเป็นนกบินไม่ได้นิ ”  เจ้าลูกเจี๊ยบบ่นเหมือนวาซีไปจี้ป่มมันเข้าให้จนเขาต้องนั่งโอ๋เจ้าลูกเจี๊ยบแทนสะงั้น

      “อ่าๆเดียวหาทางออกแล้วก็กลับไปก็ได้นะไม่พูดละๆ”

      “จริงน่ะ “เจ้าลูกเจี๊ยบถามเสียงเต็มไปด้วยความหวัง 

      “จริงสิ “ ฉันอยากอยู่กับแกซะทีไหนละ

      “จะไม่จับหนูย่างกินนะ ถ้าคุณหิว “

     “งั้นก็ก่อไฟแป็ปละกัน เดียวเป็นลูกไก่ย่างแน่ “

     “แว้กกกก “

     วาซีพูดด้วยความอ่อนใจก่อนที่จะเลิกสนใจเจ้าลูกเจี๊ยบที่นอนดิ้นทุรนทุรายงอแงด้วยกลัวว่าจะกลายเป็นไก่ย่างหันไปมองสถานที่รอบตัวซึ่งเมื่อเขาเปิดแผนที่ดูก็ไม่ปรากฏในแผนที่แต่อย่างใดขึ้นว่า unknow วาซีเริ่มไม่ไว้ใจในสถานที่เขามองไปรอบๆ

      พบว่าตัวเองอยู่ที่ห้องเล็กๆห้องหนึ่งเมื่อลองสัมผัสดูแล้วจะพบว่าพื้นทำจากหินอ่อนเกลี้ยงเกลาสัมผัสของพื้นเย็นเชียบอากาศภายในหนาวเย็นเหมือนไม่ได้ผ่านการโดดแสงแดดมานาน วาซีเริ่มคาดเดาว่าที่นี้คงจะเป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งอย่างแน่นอน

       มันหน้าจะมีที่ให้แสงสว่างน้ะ วาซีคิดในใจก่อนที่จะค่อยๆเดินสำรวจภายในห้องด้วยการคล่ำไปตามผนังของห้องที่ว่างเปล่าเขาคิดว่าถ้าเป็นตามแบบในหนังละก็มันต้องมีที่หรือกลไกในการเปิดเพื่อให้มีแสงเข้าแน่นอน

      คลิ๊ก! “บิงโก!

     วาซีร้องออกมาอย่างดีใจเมื่อมีของเขาไปสัมผัสอะไรบางอย่างได้ก่อนที่ดวงไฟจะสว่างโร่ขึ้นมาเผยให้เห็นสภาพภายในห้องที่เขาคิดว่ามันเป็นหินอ่อนนั้นไม่ใช้เลยกลับเป็นกระจกใสที่มองเห็นแต่ความมืดดำและลึกลงไปไม่มีที่สิ้นสุดเหมือนทางลงไปยังดินแดนนรก


            ใจของวาซีหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันใดความดีใจที่หาที่เปิดเจอที่ให้แสงสว่างเจอดับวูบและอยากนึกตีมือตัวเองที่ดั้นไปเจอในสิ่งที่ไม่อยากเจอแบบนี้เขายอมมองไม่เห็นยังดีกว่าความที่เป็นโรคกลัวความสูงอยู่แล้วเจอแบบนี้เข้าไปถึงกับขาอ่อนกันเลยทีเดียว

      “เจี๊ยบบบ  มือของพี่ชาย จับหัวกะโหลกไว้อยู่นะ น่ากลัวจัง “ เจ้าลูกเจี๊ยบร้องขึ้นเมื่อหันไปมองเล่นเอาวาซีตกใจไปด้วยเช่นกันมือของเขาตอนนี้สอดอยู่ในปากของหัวกะโหลกสีขาวเกลี้ยงเกลาเป็นเงาวาววับบ่งบอกถึงอายุของของได้เป็นอย่างดีว่าอยู่มานาน

       มือของวาซีแข็งถือไม่กล้ารีบด่วนตัดสินใจทำอะไรหรือเพราะความตื่นตระหนกก็ไม่ทราบนั้นเองเขากลื่นน้ำลายเอื้อกลงคออย่างยากลำบากพยายามไม่มองลงไปเบื้องล่างขาสั่นผับๆก่อนจะค่อยๆมองไปรอบๆห้องเพื่อหาทางรอดก่อนที่จะพบเส้นทางแห่งแสงสว่างทางเดียวที่เขารอดได้อยู่ห่างไปแค่ไม่ก็ช่วงเท้าเท่านั้นเอง

      ใจเย็นๆ เราต้องรอด รอบขอบไว้ๆ วาซีพูดเตือนสติตัวเอง

      “ตายแน่ๆ แม่จ้า พี่คนนี้ทำหนูตายนะอย่าลืมไปฆ่าเขาละ ฮือๆ “ เจ้าลูกเจี๊ยบพร่ำเพ้อถึงผู้เป็นแม่โดยไม่ได้สนใจรังสีอมหิตที่แผ่ออกมาจากพี่คนนั้นของเจ้าลูกเจี๊ยบแม้แต่น้อย

      “แกช่วยพูดไรให้มันสร้างสรรค์หน่อยดิ้ เดียวปัดจับทิ้งไว้ตรงนี้เลยนิ” วาซีอดที่จะเถียงกลับไปไม่ได้ก่อนที่เขาจะรวบร่วมสติพยายามวิเคราะห์สถานการณ์ที่กำลังประสบอยู่

       “เอาละจะไปละน้ะจับไว้ละ “ วาซีพูดเสียงเครียดบ่งบอกถึงความจริงจังเจ้าลูกเจี๊ยบเขาไปซ่อนตัวในเสื้อของเขาหุบปากเงียบ วาซีเพ่งมองไปทีทางออกก่อนที่มือของเขาจะค่อยๆดึงออกมาช้าๆ

       พลุบ ! “เฮ้ย”

     ไวดุจสายฟ้าฟาดลงมายังธรณีจากหัวกะโหลกธรรมดาน้ำหนักเบานั้นแปลงเปลี่ยนเป็นดังทำขึ้นจากโลหะมิใช่จากแคลเซียมทั่วไปก่อนที่ข้อมือของวาซีจะหลุดออกมาทั้งหมดซะอีกวาซีรู้ทันทีว่านี้เป็นกับดักแน่นอนเพราะถ้าหัวกะโหลกที่หนักเกือบๆห้าสิบกิโลนี้หล่นลงโดนพื้นกระจกทีเขาเชื่อว่ามันคงไม่หน่าแน่นอนเขาคงได้ร่วงลงไปแน่

    เพล้ง!

       ทันทีหัวกะโหลกหล่นลงกระทบกับกระจกก็เป็นดังคาดกระจกนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆทันกับที่วาซีกระโจนตัวไปทางเส้นทางเดียวที่สามารถออกจากห้องนี้ไปได้แต่ก็ยังช้าไปอยู่ก้าวหนึ่งก่อนที่เขาเขาจะเหยียบเอาเศษแก้วใช้เป็นที่ดันตัวครั้งสุดท้ายทำให้คว้าหมับเข้ากับขอบของทางเดินห้อยตัวรุ่งริ้งไปมาพอดิบพอดีก่อนที่เขาจะขอบคุณสวรรค์ที่ยังให้เขารอดมาได้พร้อมกับรวบร่วมแรงยันตัวขึ้นมานั่งหอบหายใจอยู่ตรงทางเดิน

      “แฮ่ก... รอดมาแล้ว~

      “ผู้เล่นวาซี ได้รับทักษะปีนป่ายระดับ2 (เพิ่มความเร็วระหว่างปีน+2)

       ผู้เล่นวาซี ได้รับทักษะเอาชีวิตรอดระดับ 2 (เพิ่มความอดทน +5) “

     วาซีพูดเสียงอ่อนก่อนพร้อมกับระบบประกาศทักษะติดตัวใหม่ของเขาแต่เขาก็แทบไม่ได้ฟังอยู่แล้วด้วยรู้สึกตัวเองมองเห็นดาวระยิบระยับไปหมดทีเสียงวิ้งแสบแก้วหูจนไม่อยากรับรู้ใดๆทั้งสิ้นอันเกิดจากความเหนื่อยเขาจึงนั่งลงพักหลับก่อนอยู่ตรงทางระหว่างที่นั้นเอง 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×