ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    PN online

    ลำดับตอนที่ #15 : ศึกที่ยังไม่จบ (แก้ไขตอนท้าย)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 511
      3
      7 ก.พ. 56

     “อูย~ เจ็บจุงเบย ไอ้พวกตา“


     “เครื่องป้องกัน สนับแขนหมาป่าเหล็ก ของผู้เล่นวาซี ได้รับความเสียหายรุนแรง พลังป้องกันสูญหายไป ต้องนำไปซ่อมแซมก่อนจึงจะกลับมามีพลังป้องกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ผลของทักษะพิเศษเสริมยังคงมีอยู่ถ้าเครื่องป้องกันไม่ถูกทำลาย”

     วาซีร้องครวญครางมือทั้งสองข้างกุมหัวเอาไว้พลางดิ้นไปมาเหมือนปลาที่ถูกตีหัวก็มิป่าน 

     “เจี๊ยบบบ เลือดเต็มไปหมดเลย“

     เจ้าลูกเจี๊ยบที่โพล่ออกมาดูอาการของวาซีถึงกับตกใจเมื่อเห็นเจ้านายของมันตอนนี้ดิ้นทุรนทุรายดีนะที่มันกระโดดหลงมาอยู่ข้างๆแล้วไม่งั้นได้กลิ้งไปมาในตัวกลายเป็นลูกพินบอลอีกแน่นอน เลือดของวาซีไหล่เป็นทางทำเอาเจ้าลูกเจี๊ยบเบิกตากว้างเล็กๆของมันให้กว่างขึ้นอีกนิดหน่อยอย่างตกใจก่อน 

                จากที่มันดูแล้วนั้นบาดแผลที่ร้ายแรงที่สุดตอนนี้คือส่วนแขนที่สภาพมีแผลเหมือนโดนไฟลวกเลือดสีแดงชานไหลรินออกมาเป็นทางราวท่อประปาแตกเสื่อผ้ายังถือว่าอยู่ในสภาพดีอยู่บ้างอย่างน้อยก็แค่มีรูสองรูส่วนหัวดำๆนั้นโชคดีหน่อยอย่างน้อยก็แค่มีลูกมะนาวเกิดขึ้นบนหัวไม่ได้ถึงกับเลือดตกยางออกแต่อย่างใด

           “เจ็บเป็นบ้าเลยอ่า..”

           วาซียันกายลุกขึ้นยื่นอย่างยากลลำบากไม่ใช้เพราะขาแต่เป็นแขนที่ตอนนี้ร้อนแทบลุกไหม้เขาไม่นึกว่าพวกมันจะสามารถรวมพลังกันได้ขนาดนี้นี้ยังดีที่เขายังมีปลอกแขนเหล็กที่เป็นตัวตายตัวแทนให้เมื่อตะกี้นี้ไม่งั้นเขาคงไปรอเกิดใหม่อย่างแน่นอนแต่...ตอนนี้ก็ใกล้ตายเต็มทนแล้วละมองไปที่แทบเลือดตอนนี้ก็เหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งในสามของหลอดแล้วนี้เขาโดนแค่ครั้งเดียวยังขนาดนี้เลย


            “เจี๊ยบบ พี่ชายๆ ข้างหลังเรามีบ้านด้วยละ”

                  ในขณะที่วาซีกำลังเครียดกับสถานการณ์ที่ไม่มีทางชนะได้เลยนั้นเจ้าลูกเจี๊ยบก็ร้องเรียกให้เขาหันหลับไปดูสิ่งปลูกสร้างเบื้องหลังดวงตาของเขาเบิกกว้างนัยน์ตาสั่นระริกเต็มไปด้วยความยินดีที่อย่างน้อยตอนนี้ก็มีที่หลบภัยแล้ว


                “ดีมากเจ้าลูกเจี๊ยบ พวกเราเข้าไปกันเถอะ เดียวเจ้าพวกลูกตาบ้านั้นจะมาซะก่อน”

                “ไม่ต้องห่วงฮ่ะผม จากตรงนี้ไปเป็นคนละเขตแดนกับพวกมันแล้วมันคงไม่กล้าข้ามเขตแดนมาหรอก” เจ้าลูกเจี๊ยบว่าก่อนจะค่อยๆเดินตามวาซีที่แบกสังขารค่อยๆก้าวไปข้างหน้า “แกรู้ได้ไงว่าคนละเขตแดนกัน” วาซีเอ่ยอย่างสนใจก่อนที่เจ้าลูกเจี๊ยบจะตอบ


                 “ก็สัตว์อสูรนะมีความสามารถในการจำแนกเขตแดนของทั้งตัวเองและเขตแดนที่เป็นของสัตว์อสูรอื่นๆโดยทั่วไปไม่ค่อยมีเผ่าพันธุ์ไหนกล้าข้ามเขตแดนนักหรอกนอกซะจากจะทำพันธะสัญญาจากมนุษย์แล้วละนะ ถึงจะกล้าไปไหนมาไหนได้” เจ้าลูกเจี๊ยบว่าเสียงเจื้อยแจ้ว วาซีพยักหน้ารับก่อนที่จะค่อยๆเข้าไปในสิ่งปลูกสร้างตรงหน้า


                   ถ้าจะให้บอกว่าหน้าตาของสิ่งปลูกสร้างนั้นเป็นยังไงละก็คงพูดได้ว่าสภาพเหมือนกับบ้านร้างในหนังผีประตูรั้วเหล็กที่ขึ้นสนิมเกรอะกรังมีเถาวัลย์เลื้อยไปมาเกือบทั่วทั้งบานประตูเหล็กที่สูงขนาดวาซีสองคนยื่นต่อกันกำแพงที่สร้างโอบล้อมไว้นั้นเตี้ยกว่าประตูที่ทำซะสูงห่างกันเกือบๆครึ่งต่อครึ่งสภาพนั้นเหมือนยังกับแถวนี้เป็นชายแดนสมัยสงครามโลกเต็มไปด้วยรอยร้าวเต็มไปหมดบางรอยถึงกับยุบลงไปเป็นหลุมก็มีแต่มันก็หน่าใช้ย่อยถ้าเทียบแล้วนั้นเหมือนเป็นเป็นแซนวิชโดยยังมีลูกกรงที่สนิมเกรอะกรังไม่แพ้บานประตูเหล็กเท่าไหร่นักและชั้นในที่เป็นกำแพงเหมือนด้านนอกอีกชั้น

                 ดวงตาสีเงินกวาดมองไปรอบๆก็พบกับพื้นดินแห้งไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดๆในอาณาบริเวณนี้จะมีก็แต่บ้านไม้สองชั้นที่อยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้นสภาพก็ไม่ได้ต่างอะไรมากไปจากตัวรั้วบ้านเท่าไหร่นักสภาพที่จะพังแหลมิพังแหลนั้นอดทำให้เขารู้สึกไม่ได้ว่าถ้าเขาแค่เคาะประตูไม่แน่บ้านอาจจะพังลงมาทั้งหลังก็เป็นได้

               แอ็ดดด

            เมื่อวาซีเดินมาถึงหน้าประตูและลองสัมผัสดูบานประตูนั้นเป็นไม้เก่าดีที่มันไม่ได้ล็อคจึงสามารถเขาไปได้โดยไม่ต้องเคาะให้บ้านพัง...

                “นี้มันบ้านผีสิงชัดๆ”

               “น่ากลัวง่า~

     วาซีเปรยออกมาอย่างหวาดๆขาทั้งสองข้างที่ได้รับคำสั่งให้เดินเข้าไปนั้นกลับไม่ทำตามดันยื่นสั่นงกๆด้วยความกลัวเล็กน้อยวาซีขมมันเอาไว้ก่อนจะทำใจดีสู้เสือค่อยๆก้าวเข้าไปอย่างช้าๆและระแวดระวังที่สุดโดยแอบก่นด่าเจ้าลูกเจี๊ยบในใจที่ไม่ยอมออกมาอยู่เป็นเพื่อนรวมชะตากรรมเล้ย

            สภาพภายในบ้านในชั้นล่างนั้นดูกว้างขว้างเป็นอย่างมากแตกต่างจากรูปลักษณ์ภายนอกโดยสิ้นเชิงที่เหมือนกับจะพังลงมาได้ทุกเมื่อแต่เมื่อเข้ามาแล้วนั้นสภาพของมันยังดูใหม่อยู่พื้นปูด้วยกระเบื้องข้าวของนั้นเหมือนบ้านไสตล์ยุโรบแต่จากสภาพที่ฝุ่นขึ้นเคอะใยแมงมุมมีให้เห็นเต็มไปหมดบ่งบอกได้ว่าไม่มีใครอยู่มานานมากแล้ว

            “เฮ้อ เอาละพักตรงนี้ละกันอูยปวดแขนเป็นบ้า..”

       วาซีเอ่ยก่อนจะปัดๆไปที่โซฟาตัวยาวที่บุบกำมะหยี่อย่างดีพร้อมกับค่อยๆนั่งลงไปช้าๆก่อนที่จะมองมีทั้งสองข้างของตัวเองที่ถึงตอนนี้เลือดจะหยุดไหลแล้วแต่แผลพุพองก็ยังคงส่งผลเป็นระยะๆ ทำให้เขาปวดจี๊ดๆอยู่แทบจะตลอดเวลาถ้าเป็นแบบนี้เขาต้องนอนไม่หลับแน่นอน
     

               “แผลแค่นี้เอง หนูรักษาได้นะ เจี๊ยบ “ เจ้าลูกเจี๊ยบที่เห็นทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้วไม่มีพลังงานลึกลับก็โล่งใจพลางกระโดดออกมายื่นมองดูบาดแผลของวาซีอย่างพินิจพิจารณา

                 “แกรู้วิธีรักษาหรอ เจ้างอแง” วาซีเลิกคิ้วถามออกไปอย่างอดไม่ได้เจ้าลูกเจี๊ยบเนี่ยนะจะช่วยรักษาเขาได้


                 “เจี๊ยบบ หนูไม่ได้งอแงนะ บู่ว~ มานี้เลยส่งแขนมาหน่อยสิฮ่ะ “เจ้าลูกเจี๊ยบตัวน้อยพูดแย้งอย่างขัดใจพร้อมกับทำให้แก้มป่องๆจนหน้าของมันจะกลมเป็นลูกอมสีเหลืองขนาดหย่อมๆ จนวาซีอดยิ้มขำๆไม่ได้พลางส่งมือข้างขวายื่นไปตรงหน้ามัน

                   เจ้างอแงมองพินิจพิจารณาสักพักก่อนที่จะสั่งให้เขาอยู่นิ่งๆไม่ให้กระดุกกระดิกไปไหนก่อนที่จะงอยปากน้อยๆของมันนั้นจะเปล่งแสงสีทองออกมาอย่างน่าอัศจรรย์ก่อนที่มันจะค่อยๆก้มลงฉีกเนื้อส่วนที่โดนไฟลูกออกมาที่ละแผ่นๆน่าแปลกที่เขากลับไม่รู้สึกปวดหรือแสบแม้แต่น้อยเลย

                 “สุดยอดเลย เจ้างอแง แกนี้ก็ไม่ใช้ว่าไม่มีดีนะเนี่ย” วาซีอดทึ้งไม่ได้กับความสามารถพิเศษของเจ้าลูกไก่ตัวนี้ตอนนี้แขนขวาของเขาไม่มีรอยแผลไหม้อีกแล้วถึงจะยังมีร่องรอยเหลืออยู่แต่ก็ไม่มากนักจนอดไม่ได้ที่ต้องชมมันในความดีความชอบครั้งนี้


               “แน่นอนอยู่แล้ว เจี๊ยบๆๆ มันเป็นพลังที่สืบทอดมาในสายของไก่อย่างพวกหนูอ่ะนะ พวกมนุษย์อย่างพี่ชายนะยังทำไม่ได้อย่างหนูเลยเจี้ยบๆๆ “ เจ้าลูกเจี๊ยบได้ที่เบ่งใหญ่ในความสามารถของตนเองที่จริงแล้วนั้นเป็นเพราะธาตุของมันต่างหากที่เป็นตัวกำหนดความสามารถพิเศษในการรักษาขึ้นมาอย่างเจ้าลูกเจี๊ยบนี้อยู่ในหมวดธาตุแสงและไฟเลยมีพลังในการรักษาและระงับธาตุของตัวเองได้โดยการดูดซับธาตุไฟที่แผลเข้าไป

              “ได้ที่เอาใหญ่เลยนะแกไอ้งอแงไม่รู้จักโต นี้แนะๆ “

               “ว้ากกก อย่าหยิกแก้มเซ่ เจ้าบ้า ย้ากกก”

                “ไอ้ลูกเจี๊ยบบ บ้าฉันเจ็บแขนอยู่นะเฟ้ยย เดียวจับปิ้งเลยนิ”

                “เอาเลยทำได้ก็ลองเลยสิ เจี๊ยบบบ”

                    วาซีนึกหมั่นไส้ขึ้นมาก่อนจะหยิกแก้มเจ้างอแงไปก่อนที่จะเกิดศึกตะลุมบอลกันบนโซฟาอย่างเมามันส์ก่อนที่ทั้งสองจะหมดแรงนอนแอ้งแม้งลงไปด้วยความอ่อนเพลียหลังจากสงบศึกกันเสร็จนั้นเจ้าลูกเจี๊ยบก็จัดการเอาเนื้อหนังส่วนที่ไหม้ของซ้ายของวาซีออกมาต่อ


               เมื่อวาซีเห็นว่าสงบศึกลงได้แล้วและจะพักผ่อนสักหน่อยก่อนนอนก็ขอเช็ค ‘อัพเดตล่าสุด สักหน่อยละกัน

               ผู้เล่นวาซีเลือนระดับเป็น15  ได้รับเงินรวมแล้วจากคงเดิมเป็น 3891p ค่า Nเพิ่มเป็น2300

                  ทักษะมองจุดตายเลื่อนระดับเป็น 15 (ได้รับบันทึกจุดตาย)

                   ทักษะการใช้เข็มเลื่อนระดับเป็น 13

                   ทักษะการใช้ธนู เลื่อนระดับเป็น  20 ( เพิ่มระยะมองเห็น +20เมตร )

                   ทักษะหลบหลีกว่องไวเลือดระดับเป็น ระดับ 10 (เพิ่มความเร็วพื้นฐาน+19)

                    ทักษะเอาชีวิตรอดเลือดระดับเป็น ระดับ 7 (เพิ่มความอดทน +17)

                   ทักษะทนสภาวะเลือดระดับเป็น ระดับ 3 (พลังป้องกันธาตุต่างๆ +0.9 )

                   และ ทักษะ พร่างกาย ระดับ1 (ความเร็ว +1.5)

                  ได้รับกระจกม่านตา 1 ชิ้น 

                     ผลมาจากการกำจัดสัตว์อสูรลูกตายักษ์แห่งพงไพร่ 26 ตัว  ล่าสุดเมื่อเวลา 17.32pm

              สัตว์อัญเชิญของผู้เล่นวาซี  เจ้างอแง เลื่อนระดับเป็น 12 ค่าความสนิทสนมเพิ่มขึ้นเป็น 70% ได้รับทักษะเยียวยาบาดแผลระดับต้น  และทักษะพ่นไฟ

    วาซี                                                     

    ระดับ  15                                         

    พลังชีวิต  2700/2700                   

    พลังเวทย์ 650/650                            

    positive - negative  250-2300       

    สถานะ ผู้เล่นปกติ                               

    เงิน(p) 3891 p          

     

                  เมื่อเช็คในรายละเอียดเสร็จวาซีก็อดที่จะนึกสมเพชตัวเองไม่ได้ค่าpของเขานั้นแทบจะแตกต่างจากค่าnลิบลับแบบเทียบกันไม่ติดเลยทีเดียวอย่างนี้สินะที่เขาว่าทำดีทำยากจริงๆ  วาซีอดถอนหายใจปลงๆไม่ได้ก่อนจะปิดหน้าจ่อลงความรู้สึกเหนื่อยล้าจากการเดินทางต่อสู้และฉากตื่นเต้นต่างๆนานา

                    ชายหนุ่มพึ่งมีเวลาได้อยู่กับตัวเองเป็นครั้งแรกหลังจากที่เล่นเกมนี้มาเวลาแค่แป็ปเดียวเท่านั้นที่เขาเล่นแต่กับเจอแต่เหตุการณ์พิสดารเต็มไปหมดได้พบกับเจ้าลูกเจี๊ยบที่นำพาเขาไปเจอกับเรื่องต่างๆมากมายอย่างที่ในใจลึกๆแล้วนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบใจมัน คิดถึงตรงนี้โดยที่ชายหนุ่มไม่ได้รู้ตัวเลยว่าบนใบหน้าเกลี้ยงเกลานั้นรอยยิ้มน้อยๆที่มุมปากเผยอขึ้นนัยน์ตาสีเงินคู่นั้นดูอ่อนโยนลงพร้อมกับมือที่สัมผัสลูบไปบนตัวเจ้าลูกเจี๊ยบตัวน้อยอย่างแผ่วเบาหมายให้มันได้รับรู้แทนคำขอบคุณที่มันทำให้เขาได้เจอกับเรื่องราวต่างๆมากมายอย่างที่ในชีวิตนี้ของเด็กหนุ่มแทบไม่เคยเจอ


            โดยมันก็หันมามองตอบอย่างงงงวยกับท่าทีของพี่ชายคนนี้ดวงตากลมโตสีใสแจ้วชวญมองให้น่าหลงใหลอยากกอดถ้าบรรดาสาวๆทั้งหลายได้มาเห็นคงห้ามใจกันยากแน่นอนมันกำลังมองไปที่ผู้เป็นนายของมันที่นอนขวางยาวตามแนวโซฟาเข่ายันขึ้นมาไว้เป็นตางที่ว่างแขนข้างหนึ่งหลังพิงไปทีที่เท้าแขนของโซฟาตัวยาวพร้อมกับดวงตาสีเงินที่มองออกไปนอกหน้าต่างที่กลับเป็นยามราตรีอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ดวงตาคู่นั้นชั่งอ่อนโยนเหลือเกิน

               “นี้เจ้างอแง ขอบใจนะ”

                  ชายหนุ่มพูดเปรยขึ้นโดยที่มือยังคงลูบไปที่เจ้าลูกเจี๊ยบอย่างเอ็นดูแต่สายตากลับไม่ได้มองไปที่มันเลยแม้แต่น้อยด้วยนิสัยที่เป็นคนปากแข็งนั้นเองทำให้แค่พูดออกมาเขาก็รู้สึกตัวเองเขินซะแล้วให้ตายเถอะมันก็ไม่ได้มีไรซักหน่อยเจ้าลูกเจี๊ยบบ้านี้มันก็แค่ปัญญษประดิษฐ์เท่านั้นเองละน้าชายหนุ่มคิดอย่างจนใจกับตัวเองโดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตอนนี้หน้าของเขานั้นขึ้นสีระเรื่อขึ้นมาจริงๆซะแล้วอย่างน่ารักน่าชังถ้ามีสาวๆเห็นแถวนี้ต้องโดนจับ...จิ้น แน่นอนว่าเป็นเคะ

                   “ฮ่ะผม “

                 มันตอบรับตาปรื้อเมื่ออาการเคลิ้มจากสัมผัสที่นุ่มน่วนนั้นเริ่มเข้าแทรกแซงมันให้ความรู้สึกที่อบอุ่นและปลอดภัยแกมันเป็นอย่างมากก่อนที่มันจะซุกไปที่แผ่นอกของชายหนุ่มต่างหมอนก่อนที่ตัวของมันจะเปล่งแสงออกมาพร้อมกับคริสตอลอันน้อยลอยเด่นประทับลงไปอย่างแผ่วเบาบนหลังมือของชายหนุ่มก่อนจะค่อยๆฝั่งลงไปคริสตอลเปล่งแสงสีเหลืองอีกแวบหนึ่งก่อนที่ชายหนุ่มจะได้รู้ตัวเสียอีก

                “ค่าความสนิทสนมระหว่างผู้เล่นวาซีและลูกเจี๊ยบงอแง เพิ่มขึ้นเป็น 80% ได้รับความไว้ว่างใจจากสัตว์อัญเชิญ(รอยประทับคริสตอลที่หลังมือซ้าย) ได้รับทักษะพิเศษ จิตสื่อ และ อัญเชิญฉับพลัน  ค่า P เพิ่มเป็น 300

                    เสียรายงานดังขึ้นทำให้เจ้าตัวหลุดจากห้วงความคิดของตัวเองก่อนจะมองไปที่เจ้างอแงอย่างไม่เข้าใจแต่ตอนนี้เจ้าตัวยุ่งก็หลับไปซะแล้วเลยอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลังฝ่ามือซ้ายตัวเองก็พบว่ามีสิ่งแปลกปลอมเป็นคริสตอลสีเหลืองใส่กระจางขนาดเกือบหนึ่งในห้าของหลังมือติดอยู่ ก็เกิดความประหลาดใจไม่น้อย

               ตึก ตึก ตึก

                      แต่ความประหลาดใจและอยากที่จะตรวจสอบว่ามันคืออะไรก็ถูกตัดทิ้งไปทันทีเมื่อเสียงของบางอย่างดังก้องไปทั่วทั้งบ้านร้างหลังนี้ทำให้ความคิดที่จะตรวจสอบคริสตอลที่หลังมือถูกถีบตกไปในทันทีเมื่อเทียบกับสิ่งที่กำลังเดินไปมาในบ้านร้างแห่งนี้นั้นจะมีใครได้อีกละนอกจากพวกเขาแค่หนึ่งคนกับหนึ่งสัตว์อสูร

                    “เฮ้ยเจ้างอแงตื่นๆมาอยู่เป็นเพื่อนกันก่อนดิ อย่าพึ่งหลับๆ” ชายหนุ่มเขย่าตัวเจ้าลูกเจี๊ยบไปมาแต่ดูมันไม่มีที่ท่าว่าจะตื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เสียงที่เดินตึกตึก ไปมาในบ้านก็ยิ่งดังใกล้เข้ามาทุกทีภายในใจของชายหนุ่มการเต้นของหัวใจเริ่มรั่วเร็วขึ้นอย่างแทบทะลุกระโดดออกนอกหน้าต่างปีนข้ามรั่วหนีไปได้ในทันใดถ้าไม่ติดว่ามีซี่โครงค่อยรั้งมันเอาไว้อ่ะนะ

                 “นี้ถ้าแกไม่ตื่นนะ ฉันจะจับแกทำไก่ย่างแน่” ชายหนุ่มขู่และได้ผลทันใด “ว้ากกก อย่านะๆ หนูยอมแล้ว ฮือๆ “เจ้าลูกเจี๊ยบรีบกระเด้งตัวตื่นขึ้นมาจากภวังค์ทันใดก่อนที่จะเจอกับหน้าของเจ้านายมันที่ยิ้มอย่างพอใจในผลงานคราวนี้ที่แกล้งมันได้มันก็ส่งสายตาค้อนขวับเข้าให้อย่างเคืองๆแต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่สนซะแล้วเพราะเสียงที่เหมือนบางอย่างกกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆนั้นเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดีกว่าแน่นอน


                 “แก ไปดูสินั้นอะไร อาจจะเป็นหนอนก็ได้น่ะ “ ชายหนุ่มพูดปากสั่นๆอย่างเก็บอาการตื่นกลัวไว้แทบไม่อยู่ก่อนจะพูดต่ออีกประโยคเสริมเข้าไปว่า “แกชอบไม่ใช้หรอ “ เจ้าลูกเจี๊ยบถึงกับค้อนวงโตให้อีกรอบหนึ่งอย่างจนใจกับมุขที่เจ้านายของมันเล่นได้ไม่ดูเวล่ำเวลาเล้ยจนมันอยากจะจิกปากเจ้านายของมันให้รู้แล้วรู้รอดกันไป

                   ตึก ตึก ตึก!

                   บทสนทนาหยุดลงทันใดเมื่อเสียงนั้นเหมือนจะหยุดลงที่หน้าประตูทางเข้าเหมือนกำลังรอจังหวะหรืออะไรบางอย่างอยู่โดยที่หนึ่งคนหนึ่งสัตว์อสูรเองหัวใจสั่นไหวจังหวะการเต้นนั้นแทบจะเกินสามร้อยครั้งต่อนาทีจนหัวใจจะวายตายสายตาไม่กล้าละไปจากริมประตูแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวมือของวาซีนั้นเย็นเชียบกำทรานฟิลมีดไว้ข้างๆกายด้วยมือที่สั่นระริกไม่ให้


                   “....มันคงมะ...ว้ากกกก(เจี๊ยบบบบบ) ทรานซิส กรงขังด้ายเข็ม  “ ยังไม่ทันที่วาซีจะพูดจบตามสิ่งที่ใจตัวเองได้คิดไว้เจ้าสิ่งประหลาดนั้นก็โพล่พรวดออกมาทันใด ก่อนที่สติจะแตกนั้นทักษะที่เข้าว่างไว้ล่วงหน้าเพื่อดักตัวไรก็ทำงานขึ้นนั้นก็คือกรงขังด้ายเข็มเส้นสลิงที่เข้าวางไว้ระหว่างประตัวนั้นบังเกิดสายสลิงขึ้นพร้อมกับที่ร่างของสิ่งประหลาดนั้นจะติดแหง่กแต่มันกลับมีตัวที่ซ้อนอยู่ข้างในพุ่งทะล่วงตรงดิ่งมาทางเขาในความมือนี้นั้นชายหนุ่มจับมีดดาบในมือก่อนจะทิ่มมีดลงมาส่งผลให้ร่างนั้นลงไปนอนจมกองเลือดตายในที่สุดโดยมีมีดทรานฟิลปักอยู่

                “เฮ้ยเจ้าลูกเจี๊ยบ เสกลูกไฟดิ  “ วาซีพูดขึ้นก่อนจะหยิบเอาเชิงเทียนที่มีเทียนเล่มหนึ่งขึ้นมาไว้วก่อนที่เจ้าลูกเจี๊ยบจะพ้นไฟดวงน้อยๆออกมาก่อนที่แสงสว่างจะส่องไปเท่าห้องเผยให้เห็นร่างของเจ้ากระต่ายตัวขาวที่ตอนนี้นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นข้างโซฟาตัวยาวของเขาโดยมือสังหารก็คือมีดทรานฟิลของเขานั้นเอง

                “ผู้เล่นวาซีกำจัด หีบกระต่ายต้องห้าม ระดับ 35 ได้รับค่าประสบการณ์ 320 ค่า p เพิ่มเป็น2350 หูกระต่ายหนึ่งคู่(อุปกรณ์ตกแต่ง) ผลจากการฆ่าได้รับภารกิจเปิดผนึกซองจดหมายในหีบ “

                  เมื่อมองตรงไปข้างหน้าตรงเส้นสลิงที่วาซีวางดักทางไว้แล้วนั้นก็คลายข้อสงสัยเรื่องชื่อหีบกระต่ายไปได้เพราะต้องนั้นมีหีบใบหนึ่งขนาดพอเหมาะกับเจ้าร่างกระต่ายที่นอนหน้าคว่ำเลือดท่วมตรงหน้าเขาหีบออกจะดูเกาคร่ำครึไปบ้างภายในบุกำมะหยี่สีแดงและยังมีเมื่อสังเกตมองดีๆนั้นข้างในยังมีจดหมายซองขาวที่ยังคงถูกผนึกไว้อย่างดีอีกหนึ่งซอง

     

             “แกว่ามันคืออะไรเจ้าลูกเจี๊ยบ” วาซีเอ่ยถามอย่างสงสัยก่อนที่เจ้าลูกเจี๊ยบจะตอบว่า “ก็ซองจดหมายก็ลองไปเปิดดูดิ “  วาซีขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันดวงตาสีเงินหรี่ลงเล็กน้อยเพ่งมองไปที่เจ้าซองจดหมายนั้นที่เหมือนมีแรงดึงดูดเชื้อเชิญเขาซะเหลือเกินให้เปิดมันดู แต่อีกใจกลับพยายามร้องเรียกส่งเสียงเตือนว่ามันอาจจะเป็นกับดักก็เป็นได้น่ะ

               แต่คิดไปก็เท่านั้นสู้เดินไปหาความจริงเลยดีกว่า เมื่อชายหนุ่มคิดได้ดังนั้นก็ค่อยๆยางสามขุมเข้าไปช้าๆอย่างไม่ระมัดระวังทุกอย่างก้าวยิ่งสภาพโดยรอบที่เงียบกริบไร้ซึ่งเสียงสรรพสิ่งใดเหมือนกับว่ากำลังจ้องมองดูและลุ้นไปกับเขาด้วยเช่นเดียวกัน

               เมื่อเดินไปถึงชายหนุ่มก็พึ่งรู้ว่าวิชา กรงขังลวดเข็มนี้ก็ไม่เลวเลยที่เดียวเมื่อสังเกตดูรอบๆตัวของหีบสีทมิฬที่ดูสภาพทนทานนั้นยังเกือบขาดทะลุวิ้นเลยด้วยซ้ำไปและเขาก็ได้อ่านศึกษาประวัติมาแล้วเมื่อตะกี้นี้ด้วยความเอื้ออำนวยจากทักษะ มองจุดตาย ที่สามารถบันทึกความสามารถของศัตรูได้จากการปะทะกันเมื่อกี้นี้ทำให้ได้ข้อมูลของสัตว์อสูรตัวนี้มาด้วยความที่ตัวของมันนั้นอ่อนแอมากจึงต้องมีหีบค่อยปกป้องมัน หลักการนั้นคล้ายๆกับเจ้าลูกตาบินได้นั้นแต่ดูท่าเจ้านี้จุดอ่อนจะเยอะกว่าแถมไม่กันเวทด้วย แต่เจ้าหีบนี้ก็แข็งแกร่งใช้ย่อย ไม่งั้นมีหรือเจ้ากระต่ายบ้าเลือดนี้จะย่อมเอาตัวมันที่อ่อนแอบุกออกมาจัดการเขานะ นับว่าชายหนุ่มโชคดีจริงๆ

                      คิดไปก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อยก่อนที่จะหยิบซองสีขาวที่อยู่ภายในกล่องขึ้นมาพินิจพิจารณาก็พบว่าเป็นแค่ซองขาวๆไซส์ขนาดมาตรฐานทั่วไปเท่านั้นแต่สัญชาตญาณของเขากลับส่งสัญญาณเตือนตลอดเวลาจนเจ้าลูกเจี๊ยบหมดความอดทนกับเจ้านายของมันที่บทจะใจกล้าบ้าบิ่นก็หกล้าซะบทจะกลัวคิดมากก็...นะ สงสัยมันต้องเรียกสติสักหน่อย

                “ เจี๊ยบๆ จะจ้องมันให้ทะลุเลยไหมฮ่ะ เจ้านาย” เจ้าลูกเจี๊ยบดัดสำเนียงให้ดัดจริตพูดจิกกัดเป็นนกได้อย่างสมฐานะของมัน และ วิธีของมันก็ได้ผลทันตาเจ้านายของมันหันมาค้อนขวับก่อนจะเอ่ยตอบออกไปอย่างประชดประชันว่า “ ก็อยากให้มันทะลุอยู่อยากรู้ว่าข้างในมันมีไรโดยที่ไม่ต้องทำให้มันขาดอ่ะนะ “

             “อุปกรณ์พิเศษ กระจกม่านตาแห่งพงไพร่ ทำงานอัตโนมัติ ทำการสแกนภายใน ภาพจถูกส่งผ่านม่านตาของผู้ใช้เองเท่านั้น “

                  คำพูดพล่อยๆที่คิดจะพูดประชดเจ้าลูกเจี๊ยบนั้นกลับกลายเป็นความจริงขึ้นมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจเมื่อจู่ๆไอเทมที่เขายังไม่ทันได้ตรวจสอบเลยว่ามันสามารถทำอะไรได้นั้นจู่ๆระบบก็จัดแจงเสร็จเรียบร้อยโดยที่เจ้าตัวนั้นยังคงมึนๆอยู่ก่อนที่ภาพเบื้องหน้านั้นจะวูบลงชั่วขณะแต่ก็แค่พริบตาเดียวเท่านั้นก่อนที่ภาพรอบตัวจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่คราวนี้เขากลับสามารถมองทะลุผ่านสิ่งของได้ตามที่มองเห็นจะมีเป้าชี้เป็นเส้นขึ้นมาพร้อมกับมีคำว่า see อยู่ เมื่อเข้าจ้องอันไหนไว้ของสิ่งนั้นก็จะทะลุให้มองเห็นทันที

                   “หึ ขอบใจแกมากนะเจ้าลูกเจี๊ยบ “ วาซีเอ่ยอย่างวางมาดก่อนจะส่งยิ้มเย้ยหยั่นไปให้มันโดยที่มันนั้นก็ยังคงงงอยู่ว่าเจ้านายของมันเป็นอะไรหรือจะเพี๊ยนไปแล้วกันน่ะ เพราะมันไม่ได้รับรู้ด้วยว่าตอนนี้เจ้านายของมันสามารถมองทะลุได้จริงๆซะแล้ว

                  “อืมก็แค่กระดาษธรรมดานิ “ วาซีมองเข้าไปก็พบกับกระดาษขนาดA4ที่น่าจะถูกพับเป็นสามท่อนสอดอยู่ภายในจึงไม่ได้ติดใจสงสัยอะไรมากนักจึงแกะมันออกอย่างหมดห่วงลืมความระแวงไปในทันตาความหนักอึ้งเมื่อกี้เหมือนถูกพัดปลิวลอยไปตามลมซะแล้ว

                  วาซีพูดก่อนจะคลี่กระดาษออกมาอ่านก็พบกับคำว่า

                      “Be careful. Your back…ระวังหลังของคุณไว้ อะไรวะ? เมื่อวาซีอ่านจบก็ขมวดคิ้วมุนเข้าหากันอย่างข้องใจในสิ่งที่เจ้าข้อความต้องการจะสื่ออะไรแต่ยังไม่ทันคิดนั้นเองสัมผัสที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นที่แผ่พวยพุงออกมาจากทางด้านหลังของเขาจนรู้สึกหนาวไปถึงไขกระดูกสันหลังก็เกิดขึ้นพร้อมกับวัตถุบางอย่างที่แนบชิดกับแผ่นหลังของเขาไว้โดยไม่ต้องบอกเขาก็รู้ว่านั้นต้องเป็นปืนแน่นอนจากรูปลักษณ์แล้วมันต้องเป็นปืนอย่างแน่นอน

                    บรรยากาศเงียบกริบไร้สุ่มเสียงใดๆเหมือนเป็นใจลุ้นไปกับสถานการณ์ในบ้านร้างหลังนี้ดังฉากละครเด็ดที่กำลังมาถึงจุดไคลเม็กซ์อีกครั้งจนผู้ชมอดที่จะลุ้นตามไม่ได้ ก่อนที่เสียงใสก้องกังวานชวญบาดหูจะเอื้อนเอ่ยว่า

                     “No pain No Game “  ก่อนที่รอยยิ้มน้อยๆจากริมฝีปากจากคลี่ยิ้มสวยดุจดังมัจจุราชพร้อมกับการลั่นไกเพื่อปลิดชีพชายที่อยู่เบื้องหน้าเธอ

    ________________________________________________________________________________
      ก็จบไปอีกตอนนะครับผม แฮะๆขอโทษที่ลงช้านะครับ แต่ก็ชดเชยให้แต่งยาวมากกก(สำหรับไรท์เตอร์ตอนนี้) ก็อ่านตรวจรอบเดียวเองนะครับใครเห็นจุดผิด หรือ มีอะไรติชมบอกกันได้นะครับผม ขอบคุณที่ติดตามครับ ^^ 
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×