ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ EXO] Not telling you...ไม่กล้าบอกเธอว่ารัก ::. (KrisYeol)

    ลำดับตอนที่ #6 : Not telling you #05

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ค. 61











    “โว้ย!!!!” ผมโวยลั่นบ้านตื่นเช้ามาทำไม ทำไม หน้าถึงโทรมได้ใจอย่างนี้ T^T นี่ขนาดใช้ครีมมาร์คหน้าหอยขมแล้วนะ สงสัยเป็นเพราะผมนอนดันนอนไม่หลับมัวเพราะแต่คิดมากเรื่องพี่คริสไงแน่ๆเลย

    “ชานยอล ตื่นได้แล้วมีคนมารอลูกแหนะ” เสียงของคุณแม่เรียกผมที่หน้าประตูว่าแต่ใครมารอ ไอ้เซฮุน ฮึ คงไม่มั้ง ถ้ามันมาป่านนี้บุกถึงเตียงผมไปแล้ว ช่างเหอะรีบวิ่งผ่านน้ำ(?)แต่งตัวแล้วรีบไปโรงเรียนดีกว่า วันนี้ต้องไปชมรมแต่เช้าด้วยสิ จะว่าไปต้องเจอพี่คริสสินะ เวรกรรมเมื่อวานก็ดันไปงอนใส่ทั้งที่ไม่มีสิทธิ ไอ้ชานยอลทำไงงี่เง่าอย่างนี้ว่ะ แก๊บซอง~

    “อ้าว ชานยอลลงมาพอดี แม่ว่าจะขึ้นไปตามเราพอดี เรานี่แย่จริงๆปล่อยให้พี่เขารอนาน” แม่ผมเอ่ยทันทีที่ผมเหยียบย่างลงมาที่ชั้นล่าง แล้วไอ้ “พี่” ที่แม่พูดถึงเนี่ยใครว่ะ?

    “ไม่ใช่ความผิดของน้องยอลหรอกครับผมผิดเองที่ไม่ได้บอกน้องก่อน” ผมหันขวับไปหาเจ้าของเสียงที่เดินตามหลังคุณแม่ ไม่ต้องเดาให้ยากเชื่อว่าทุกคนคงรู้อยู่แล้ว ใช่ครับ พี่คริสคนดีศรีอยุธยา

    “พี่คริส มาทำไมครับ” ผมถามไปทันทีด้วยท่าทางเย็นชา

    “ไปพูดแบบนี้ได้ไงตาชานยอลพี่เค้าอุตส่าห์มารอ เอ้า รีบไปโรงเรียนได้แล้ว อ่อ คริสน้าฝากดูน้องด้วยนะ” แม่ผลักผมให้ไปยืนกับพี่คริสแถมยังพูดฝากฝังอีกต่างหาก แม่ไม่รู้เหรอไงพี่เขาไม่ชอบผมอ่ะ

    “ได้ครับจะดูไม่ให้คลาดสายตา” พี่คริสเอ่ยกับคุณแม่ของผมพร้อมปล่อยยิ้มพิฆาตที่สาวแก่แม่หม้ายเห็นแล้วระทวยรวมทั้งผมด้วย จากนั้นพี่คริสก็จูงมือผมออกจากบ้าน

    พอพ้นจากตัวบ้านไปประมาณ 20 ก้าว ผมก็ชักมือกลับทันที ความเงียบเริ่มครอบคลุมเหมือนหมอกที่ห่อหุ้มร่างกายของผมไว้ เดี๋ยวก่อนผมจะรำพึงรำพันเพื่อ(?) เอาเป็นว่าไม่มีใครพูดอะไรกัน เราเดินเงียบๆกันเรื่อย ผมแอบเหล่มองคนเย็นชาเป็นบางที จนในที่สุดเราก็มาถึงโรงเรียน อยากจะบอกว่าโรงเรียนโคตรเงียบไม่มีสิ่งชีวิตอย่างอื่นเลยนอกจากผมกับพี่คริส ให้ตายเหอะ เราสองคนเลยไปสิงสถิตที่สนามบาส

    “น้องยอล” พี่คริสเอ่ย

    “ครับ” ผมขานรับตามคนมีมารยาท

    “โกรธพี่ใช่มั้ย?”

    ……………………” เงียบตามสไตล์

    “พี่ขอโทษนะ ที่จริงพี่ควรจะพูดอย่างนั้น” พี่คริสเอ่ยแล้วหันมามองหน้าผม ผมก็เงียบไม่พูดอะไรอยู่ดี พี่คริสถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะพูดกับผมต่อ

    “ที่พูดไปแบบนั้น  พูดว่าน้องยอลไม่ควรจะเล่นบาสเพราะพี่เห็นว่าน้องยอลถนัดพวกดนตรีมากกว่า” พอได้ยินแบบนั้นผมก็หันไปมองหน้าพี่คริสอย่างมึนงง พี่คริสรู้ได้ไงว่าผมถนัดดนตรี และดูเหมือนว่าพี่คริสจะอ่านใจผมออกเสียด้วย

    “สงสัยล่ะสิว่าพี่รู้ได้ไง ก็ตอนเย็นๆเราชอบไปนั่งเล่นกีตาร์ใกล้สนามบาส เวลาพี่ซ้อมเห็นประจำ” พี่คริสเอ่ยพลางยิ้มบางๆให้ ไอ้โรคงอนที่สะสมเรื้อรังมาตั้งแต่เมื่อวานหายไปทันที

    “พี่คริสเห็นด้วยเหรอครับ” ผมถามอย่างอายๆ อุตส่าห์หลบมุมนั่งใต้ต้นไม้แล้วนะไม่คิดว่าจะโดนเห็น แมร่งเขิน

    “ครับเห็น คราวนี้พี่ถามอะไรหน่อยนะทำไมน้องยอลถึงอยากเข้าชมรมบาส”

    “เอ่อ….คือ….” จะตอบว่ายังไงดีล่ะ ที่ผมมาเข้าชมรมบาสก็เพราะพี่นั่นแหละ

    “ว่าไงครับ”

    “คืออยากเล่นให้เป็นครับ” สมองมันคิดคำตอบได้แค่นี้

    “เอางี้ ไหนๆคนอื่นยังไม่ทันมาซ้อม เดี๋ยวพี่จะสอนให้ชู๊ตเล่นๆนะ”

    “พี่คริสจะสอนเหรอบาสผมเหรอครับ”

    “ครับ อ่ะลูกบาส” พี่คริสส่งลูกบาสให้ รู้สึกตื่นเต้นเบาๆ ผมคว้าลูกบาสมาเตรียมจะโยนย้ำว่าโยนนะครับไม่ใช่ชู๊ต

    “ใครเขาชู๊ตกันแบบนี้ล่ะ น้องยอลยืนนิ่งๆ” พี่คริสส่ายหน้าเล็กน้อยแล้วเดินเข้ามาประชิดเข้าข้างหลังผมพร้อมจัดท่าทางให้ผม ไม่อยากจะเอ่ยพี่คริสจับมือผม ฟินสิบชาติ

    “เอาล่ะลองชู๊ตไปที่ในกรอบสี่เหลี่ยมที่แป้นบาสน่ะ” พี่คริสกระซิบบอก โอ๊ยยยย มือสั่น ตั้งสติไว้ไอ้ชานยอลคนหน้าตาดี พอสติมาผมจัดการชู๊ตบาส ถ้าในหนังมันคงลงห่วงแต่นี่มันไม่ใช่ในหนังนะสิครับ มันดันไปโดนขอบแป้นบาสแถมกระเด็นออกมาอีก

    “โอ๊ย เชรี่ยยยยย” เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะลูกบาสที่ผมชู๊ตมันไปโดนหัว มันไม่ได้ลงที่หัวพี่คริสครับ แต่มันโดน….

    “อ้าวจงอินซวยตั้งแต่เช้าเลยนะ” พี่คยองซูผู้จัดการตัวเล็กเอ่ยกับพี่จงอินที่กุมหัวตนเองไว้

    “เออ ซวยชิบ แผลเก่ายังไม่ทันหายแผลใหม่ก็เข้ามาแทรก”

    “คริสนายชู๊ตเหรอ” พี่คยองซูถาม พี่คริสก็ยิ้มให้ก่อนจะหันมามองที่ผม

    “เอ่อ ไม่ใช่พี่คริสหรอกครับ ผมเอง” ผมยกมือสารภาพบาปที่ตนเองได้ก่อเอาไว้ พี่จงอินหันขวับมาทางผมทันทีแถมทำตาดุใส่ ฮือ พี่คริสผมกลัว

    “นายนี่มัน อ้ากกกกกกกกกกก ฉันเจอนายทีไรเจ็บตัวทุกที” พี่จงอินโวยวาย

    “ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” ผมตีหน้าเศร้าทำตาปริบๆใส่

    “เออๆ ทีหลังระวังหน่อยล่ะกัน” พี่จงอินเอ่ยกับผมที่น้ำเสียงที่อ่อนลง แล้วเดินไปนั่งทายาที่ข้างสนาม

    “นี่คืนดีกันแล้วเหรอ” พี่คยองซูถามผมกับพี่คริส

    “คืนดีอะไรครับ ผมไม่ได้โกรธอะไรพี่คริสเสียหน่อย” ผมตอบพี่คยองซูไป ดูเหมือนพี่คยองซูจะไม่เชื่อ ผมไม่ได้โกรธแค่น้อยใจนิดนึง

    “จริงเหรอ” พี่คริสพูดน่าทะเล้น

    “จริงสิครับ” ผมหันไปบอกพี่คริส

    “อ่ะ เชื่อก็ได้ แล้วนี่มาพร้อมกันเหรอ” พี่คยองซูถามอีก

    “ครับ” ผมตอบตามความจริง พี่คยองซูยิ้มให้กับคำตอบ ส่วนพี่คริสก็เดินออกไปแทบทันที ผมพูดผิดตรงไหน

    “อย่าตกใจครับน้องชานยอล คือว่าที่จริงอ่ะชมรมเราซ้อมตอนเจ็ดโมงครึ่งแต่พี่อยากรับน้องเลยบอกให้น้องมาก่อน ฮึ พี่ไม่คิดเลยว่าเจ้าชายเย็นชาจะออกตัวแรงมาอยู่เป็นเพื่อนน้องชานยอล” พี่คยองซูบอกผมอย่างร่าเริงแล้วเดินออกไปจัดของ ทิ้งให้ผมยืนมึนอยู่คนเดียว

    เฮ้ย!!!! พี่คริสมาอยู่เป็นเพื่อนผมเหรอ? บอกผมที ผมไม่ได้ฝันใช่ป่ะ?




































    ..............................................................................................

    มาทิ้งท้ายก่อนไปสอบ อาจจะสั้นไปหน่อยโทษทีนะครับ

    พอดีไรต์เคลียร์งานใหญ่ไปได้สองงานครับ

    โล่งมาก เลยมาแต่งฟิคแก้บน

    ตอนนี้เสียดายไม่มีเซฮุน555555 แต่มีจงอินกับคยองซูแทน

    สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านมาเม้นกัน บอกไว้เลยว่าเป็นฟิคชิวๆใสใส เอ็นซีจะมีมั้ย? ก็แล้วแต่คนอ่านว่าอยากให้มีป่ะ?

    ไรต์เป็นคนไม่หื่น ไรต์ชิวๆครับ

    ป.ล. เจอกันหลังสอบ อ่อถ้าไรต์อดใจไม่ไหวก็จะมาอัพนะครับ






    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×