คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : My Brother l Chapter 2
•2•
“อะไร แฟนอะไร เพ้อป่ะ ง่วงก็นอน”
“ว่าแล้วว่ายังไงคนอย่างชานยอลก็จำไม่ได้หรอก” จำอะไร ทำไมต้องจำ มันดูสำคัญมากหรือไงถึงจะต้องเก็บไว้ในเมมโมรี่ส่วนตัวเลยงั้นเหรอ ว่าแต่กูไปสัญญาบ้าบอนี้ตั้งแต่เมื่อไรว่ะ
“กูไปสัญญาเมื่อไร” เอาเถอะพูดกู มึง กับมันก็คงไม่แปลกยังไงก็พูดกับมันตั้งแต่เจอกันครั้งแรกล่ะ มีแต่ไอ้เด็กนี้แหละที่ทำตัวมุ้งมิ้งแทนตัวเองด้วยเค้าตลอดเวลา แล้วก็ไอ้ชานยอลคนนี้ก็ไม่ใช้คนอ่อนหวานถึงขนาดที่ว่า ต้องเรียก น้องแบคครับ แบคฮยอนจ้า อะไรพวกนี้หรอก
“ก็ตอนที่เค้าบอกชอบชานยอลครั้งแรก”
อ่อ จำได้ล่ะ วันนั้นแม่ผมไปบูชอนเลยลากผมไปด้วยด้วยเหตุผลบ้าบอคอแตกว่า เป็นวันเกิด อายุ 9 ขวบของหนูแบค หลานสุดที่รัก ต้องไปให้ของขวัญเองกับมือ ก็ไม่รู้จะเอาอะไรมากกับลูกเพื่อนตัวเองเห็นรักนักรักหนาตั้งแต่ผมจำความได้ล่ะ เรื่องแม่ช่างก่อนมาก่อนกับเรื่องไอ้เด็กนี้บ้าง
ครั้งแรกที่มันบอกชอบผมก็ด้วยเหตุผลอะไร ไอ้ผมก็ไม่อาจจะทราบได้เพราะมันไม่บอก แค่บอกว่า ‘เค้าชอบชานยอลตั้งแต่เจอครั้งแรกแล้ว’ ผมก็ไม่ใช่คนหลงตัวเองอะไรมากมายแค่อยากรู้ว่าผมมีอะไรที่ทำให้เด็กวัย 6 ขวบในวันนั้นชอบผมจนถึงทุกวันนี้ได้ ตอนนั้นที่พูดไปอย่างงั้นก็แค่พูดเล่นๆ ไม่คิดว่าไอ้บ้านี้จะเก็บมาคิดจริงทำจริง
“ตอนนั้นกูประชดได้ป่ะ มึงนี้ก็จริงจังนะ” ใครจะคิดครับ ว่าไอ้นี้มันเชื่อคนง่ายชิบหาย
“ว่าแล้วว่าชานยอลต้องตอบแบบนี้ เอาเถอะเค้าก็จะคาดหวังกับคนอย่างชานยอลมากไป เพราะคนอย่างชานยอลน่ะ ทั้งพูดไม่คิด ปากหมา ไร้ความรับผิดชอบ ขี้ลืม ถามกูกางอีก” ร่างเล็กที่นั่งอยู่บนเตียงพูดมาเป็นชุดพร้อมทั้งท่าทางประกอบ
“เดียวนะ อันหลังนี้ไม่เกียวป่ะ”
“ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่มีอะไรแล้วใช่ป่ะ เค้าหลับล่ะ บาย” พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนทันที
ตุบ !!
จากหมอนที่อยู่บนตอนนี้มันได้ลอยมาโดนหัวปาร์ค ชานยอลเรียบร้อยด้วยฝีมือของร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียง
“โยนมาทำไมว่ะ !!” หันหลังจากจอคอมแล้วก็ตะโกนถามคนตัวเล็กที่นอนอยู่เตียงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“หมั้นไส้” แบคฮยอนผุดขึ้นมาจากผ้าห่มแล้วตอบกลับพร้อมกับเบ๊ะปากใส่ เอาเป็นว่าให้สงครามมันจบอยู่แค่นี้เถอะงั้นแม่งคงไม่ได้นอนกันทั้งคืน
...............................................
“อ้าว หนูแบคตื่นแล้วเหรอจ๊ะ หิวยังเนี้ย” ทันทีที่เดินมาที่ห้องครัวก็เห็นน้าสาวคนสวยที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาทำอาหารเช้าก็จะหันมาแล้วก็พบกับหลานชายสุดที่รัก
“อ่อ ครับ น้าชินเฮทำอะไรครับเนี้ย หอมเชียว”
“ไข่ม้วนจ๊ะ เอ๊ะ หนูแบคจ๊ะ ลูกชายน้าตื่นยังจ๊ะ” หันหน้ามาพร้อมกับกระทะคู่ใจ เพื่อจะเอาไข่ไปวางไว้บนจานที่เตรียมไว้
“อ่อ เอ่อ ยังเลยครับ”
“เอ๊ะ ไหนว่าวันนี้มีปฐมนิเทศที่มหาลัยไง”
“ ……”
“งั้นเดียวน้าไปปลุกก่อนนะ” ขนาดที่น้าชินเฮกำลังจะเดินออกไปจากห้องครัว ก็ต้องหยุดชะงักเพราะถูกหลานชายเรียกไว้ก่อน
“ให้ผมไปปลุกก็ได้ครับ”
“เอางั้นเหรอ งั้นก็ตามใจ” เด็กหนุ่มยิ้มให้ก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นสองทันที
............................................
ตอนนี้เข้ามาในห้องชานยอลเรียบร้อยแล้ว สภาพห้องยังเป็นเหมือนเดิม เหมือนตอนที่เขาลงมาจากห้องเมื่อ 15 นาที ก่อนและนั้นเป็นการบ่งบอกว่าชานยอลยังคงไม่ได้ปลุกจากที่นอน ใช้เวลาในการปลุกประมาณ 5 นาที ทั้งเขย่า ทั้งเรียก ก็ไม่ตื่น แล้วมีหน้าเอามือมาปัดอีก
“ชานยอลลลลลล” เขย่าตัวไปเรื่อยพลางมองรอบๆห้องเผื่อจะมีอะไรที่สามารถใช้ปลุกผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียงได้ กวาดสายตาอยู่สักพักก็เหลือบไปเห็นนกหวีดที่ขวางอยู่ตรงประตูตู้เสื้อผ้า นั้นทำให้คนที่กำลังปลุกคนที่หลับใหลอยู่บนเตียงละออก และเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้านั้นทันที
“ชานยอลลลล” เรียกอีกทีเผื่อจะตื่น แต่ก็ไม่เลย เอาล่ะ คงต้องใช่วิธีนี้จริงๆ เดินไปหยิบเก้าอี้หน้าโต๊ะคอม แล้วเลื่อนมาอยู่ตรงหน้าเตียง แล้วก็เหยียบขึ้นไป เตรียมพร้อมสำหรับการปลุกคนตรงหน้า
ปิ้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คนที่นอนอยู่บนเตียงสะดุ้งเฮือก เพราะเสียงนกหวีดจากปากคนตัวเล็ก เห็นแบบนั้นคนที่ดูจะมีความสุขที่สุดก็คงจะเป็นคนที่ยืนอยู่บนเก้าอี้ ที่หัวเราะอย่างคนได้รับชัยชนะอะไรบางอย่าง
“น้าชินเฮ บอกว่าให้มาปลุกเพราะชานยอลต้องไปปฐมนิเทศ รีบเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวด้วย เพราะนี้มันจะเจ็ดโมงแล้ว” ไม่รอให้คนบนเตียงได้พูดร่างเล็กที่อยู่บนเก้าอี้ก็พูดออกมาซะก่อน แล้วก็เดินออกจากห้องนอนไปทันที ถ้าขืนอยู่ต่อแบคฮยอนคนนี้ดูดีว่าต้องมีหมอนหรืออะไรสักอย่างขวางมาโดนหัวเขาแน่ๆ
“…….” ชานยอลที่นั่งสะลืมสะลืออยู่บนเตียงตบหน้าผากตัวเองอย่างหัวเสีย
.......................................
“กว่าจะเสด็จออกจากห้องนะ” แม่ทักขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเดินลงมาจากบันไดพร้อมกับชุดนักศึกษา
“อ้าว แม่แล้วไอ้เด็กนั้นอ่ะ” พูดพลางมองซ้ายมองขวา
“เด็ก ? หนูแบคอ่ะเหรอ อยู่ข้างนอกมั่ง”
“แล้วนี้เป็นไร หน้าไม่จอยเลยนะ” พูดพลางเดินมานั่งข้างๆแม่
“ก็พ่อแกอ่ะดิ โทรมาบอกว่าต้องอยู่เมกาอีก 3 อาทิตย์” แม่พูดพลางเท้าคางมองทีวี
“ก็ดีดิแล้วแม่เครียดไรเนี้ย”
“เครียดที่ต้องดูแลลิงอย่างแกโดยที่ไม่มีพ่อแกอีก 3 อาทิตย์ไง”
“เอาน่าไม่ต้องเครียดหรอก เดียวระหว่าง 3 อาทิตย์นี้ผมจะทำตัวเป็นลูกที่น่ารักแล้วกัน” พูดจบก็ลงไปซบไหล่ผู้เป็นแม่
“ให้มันจริงเถอะ แล้วไหนว่าจะไปปฐมนิเทศไง”
“อืม เดียวก็จะไปล่ะ”
“เอาน้องไปซื้อชุดนักเรียนด้วยนะ” แม่พูดเสียงเรียบทำให้ชานยอลที่กำลังซบไหล่ของแม่เงยหน้าขึ้นมาทันที
“ทำไมต้องเป็นผมอ่ะ”
“ก็แกต้องไปมหาลัยอยู่แล้ว ก็ไปหนูแบคซื้อของหน่อยจะเป็นไร นี่แกจะขัดคำสั่งฉันเหรอ” พูดอย่างนั้นทำให้ชานยอลจำใจต้องพาไอ้เด็กที่ตอนนี้กำลังเดินเล่นอยู่บนสนามหญ้าไปมหาลัยด้วย
..................................
“รออยู่นี้ห้ามไปไหน รอจนกว่ากูจะออกมาเข้าใจ๊”
“รู้แล้ว เค้าจะไหนได้” พูดขนาดที่เจ้าตัวกำลังวุ่นวายอยู่กับเกมส์เศรษฐีบนไอโฟนสีดำคู่
“เออ รู้ก็ดี งั้นกูไปนะ” พูดจบก็เดินเข้าอประชุมไปโดยปล่อยให้เด็กตัวเล็กนั่งเล่นเกมส์อยู่ที่โต๊ะหน้าหอประชุม
“เฮ้ย !! ไอ้ลู่ ไอ้ฮุน” ทันทีที่ถึงก็เดินเข้าไปทักเพื่อน 2 คนที่นั้งเรียงแถวเพื่อเตรียมตัวเข้าหอประชุม
“อ้าว ไอ้ยอลมาสายนะมึงเนี้ย” ผู้ที่ทักทายเป็นคนแรกก็คือเซฮุน
“แต่มาเร็วกว่าไอ้จงอินว่ะ” คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเซฮุนพูดขึ้นพลางก้มดูนาฬิกา
“ห๊ะ !! จะเข้าหอประชุมแล้วเนี้ยนะ อยู่ไหนของมันว่ะ” พูดพลางมองซ้ายมองขวาหันหลัง ก็ไม่เห็นวี่แววเพื่อนอีกคน
“คงสายอีกตามเคย” ลู่หานพูดอย่างเอือม ก็หันหลังกลับไปเพราะได้ยินเสียงเพื่อนตัวดีที่พึ่งมาใหม่
“ทันเวลาแบบเฉียดฉิว” ยังมีหน้ามาพูดหน้าระรื่นอีก อีกแค่ 30 วินาที มึงก็สายจะแล้วครับไอ้คุณเพื่อน
“ทำไมมึงมาสายจังว่ะ” ถามไอ้คนข้างหลังขนาดกำลังเดินเข้าหอประชุม
“เอานะ มึงควรจะชินได้ล่ะ”
“……..” ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ส่ายหัวอย่างเอือมๆ
“เออ มึงเมื่อกี้ระหว่างที่กูเดินมากูเจอคนคนหนึ่งโว้ย โครตน่ารักเลย”
“คราวนี้กี่ขวบครับ ไอ้คุณจงอิน” ที่ต้องถามอย่างนี้เพราะว่าเพื่อนผมคนนี้มันเป็นพวกชอบบ้าเด็ก ชอบพรากผู้เยาว์ แต่ก็ไม่ได้เด็กถึงขนาดประถม อนุบาลหรอกนะครับ มันชอบพวกอยูม.ปลาย ขาวๆ หน้าใสๆ เนี้ยสเป็กมันเลย
“คนนี้ไม่เด็กขนาดนั้นโว้ย น่าจะอยู่ม.ปลายแล้วล่ะ เดียวกูให้ฟังโว้ย”
TBC -----------------------
ความคิดเห็น