คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่5:เด็กหนุ่มผู้อ่อนโยน
บทที่5:เด็กหนุ่มผู้อ่อนโยน
ผมกำลังคิดอยู่ในใจ มินโฮ นี่มันเป็นชื่อใครหว่า ....คิดๆๆ คิดไงก็คิดไม่ออก แต่ว่าผมเคยได้ยินนะ ชื่อนี้ แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออกซักที
ในที่สุดรถคนนี้ก็พาผมมาจอดที่ราชวังแห่งนึง ใหญ่โตมโหฬาร ใหญ่พอๆกับพระราชวังแวซายด์(O_O)
แล้วรถก็จอดเทียบกับน้ำพุกลางวัง....โอ๊ะ เหมือนในทีวีเลยครับ
“ลงตรงนี้แหละครับคุณคีย์”
“อ่ะ..เอ้อ...ครับ”
บอดี้การ์ดเปิดประตูเชิญผมลงมาจากรถ
ทันทีที่ผมก้าวลงมาจากรถ ก็มีสาวใช้มีอายุนางนึง(รึจะไม่เรียกสาวใช้ เอาเป็นว่าคนแก่ใช้แล้วกัน) ก็มาเชิญผมตามเธอเข้าไป
“เชิญค่ะคุณคีย์”
ผมคิดในใจว่า โอ้ว นี่ทุกคนรู้จักชื่อผมด้วยหรอ มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย แล้วตกลงผมมาที่นี่ทำไมกันแน่ ผมเริ่มไม่ไว้วางใจ
‘ก๊อกๆๆ’
“คุณหนูคะ คุณคีย์มาแล้วค่ะ”
ทันทีที่ประตูเปิดออกมา คนแก่ใช้นางนั้นก็ขอตัวไปที่อื่นทันที
ผมเริ่มเกิดอาการงง และประตูก็ค่อยแง้มออกมาจนเห็นหน้าคนที่เปิดประตู
O_O หา...................นั่นมัน นะ นะ....นั่นมัน ไอ้เด็กม.4 ที่ขโมยจูบผมเมื่อเช้านี่นา เฮ้ย....อย่าบอกนะครับว่ามันเป็นคุณหนูที่ให้คนมาลักพาตัวผมเนี่ย
มินโฮยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน โอ้ว.....ชุดนอนที่ใส่ก็ดูดี เฮ้ยๆๆ ผมคิดอะไรเนี่ย ไม่ได้ๆ
“ยินดีต้อนรับครับพี่ชาย”
“นาย นาย ....อะ....ไอ้เด็กเมื่อเช้า”
มินโฮทำหน้างงเล็กน้อยแต่ก็ยังคงยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร
“อ๋อ....เรื่องเมื่อเช้าต้องขอขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยผมเอาไว้”
“หยุดพูด แล้วมาคุยกับฉันให้รู้เรื่อง”
มินโฮแลซ้ายแลขวา มองดูข้างนอกราวกับไม่ไว้วางใจกลัวคนจะมาเห็น
“เข้ามาคุยกันในห้องสิครับ ผมจะตอบคำถามทุกข้อเลย”
“ไม่!”
“มาเถอะครับผมขอร้อง”
มินโฮพูดพลางเอามือทั้ง2ข้างของเขามากุมที่มือผมพร้อมส่งสายตาอ่อนโยน >< มันทำให้ผมปฏิเสธเขาไม่ได้จริงๆ
มินโฮนำทางเดินเข้าไปในห้อง ห้องที่ว่านี้ก็คือเป็นห้องนอนของมินโฮ ที่มีเตียงนอนใหญ่มากยังกะสนามฟุตบอล ทีวีจอใหญ่ยังกะหนังกลางแปลง เฟอนิเจอร์ครบเซ็ท
แล้วเขาก็พาผมนั่งที่โซฟา
“ตกลงนายพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“คือผมทำการบ้านไม่เป็นครับ”
เด็กคนนั้นพูดเสร็จแล้วยิ้มให้ผมเล็กน้อย เป็นคนนิ่งๆอ่อนโยน เท่าที่ผมสังเกต
“หา....แค่นี้เนี่ยนะ”
“อืม” ^_^
“ละ...ละ...แล้ว......เมื่อตอนเช้า...ทำไม...นายต้อง...เอ่อ....จะ...จะจู...”
“นี่ครับพี่ผมไม่เข้าใจคณิตศาสตร์ข้อนี้”
มินโฮพูดแล้วเปิดข้อที่ไม่เข้าใจให้ผมดู เออไม่ถามก็ไม่ถาม กะว่าจะถามว่าทำไมนายต้องจูบฉันด้วยนะ เมื่อตอนเช้าน่ะ
เด็กคนนี้เป็นใครกันนะ ทำไมต้องมาวุ่นวายกับชีวิตของผมด้วยเนี่ย
“ความจริงพี่ก็ไม่ค่อยเก่งหรอกนะ”
ผมพูดแล้วก็เกาหัวแกรกๆ ไม่ได้มีรังแคนะครับ -.-+ แบบอายอ่ะ ต้องมาถ่ายทอดวิชา ทั้งๆที่ตัวเองก็เรียนแค่ปานกลาง
2ชั่วโมงผ่านไป
“โอ้ว.....พี่คีย์เก่งจังเลยครับ แค่แป๊บเดียวก็ทำให้ผมเข้าใจตั้งขนาดนี้แล้ว”
“แหะๆ ไม่หรอกน่า”
“จริงนะครับผม”
“เอิ๊กๆๆๆๆๆบ้า”
>< ชมออกนอกหน้านอกตางี้ได้ไง เอิ๊กๆ ผมเขิลนะ
แล้วผมก็ยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกา โอ้ว...จะทุ่มแล้ว
“เออๆนี่นาย มันจะทุ่มแล้วพี่ต้องไปทำงานพิเศษ”
“อ้าวหรอ.....เอ่อ....ครับๆ เดี๋ยวผมให้คนไปส่งนะ”
“ครับ แล้วเจอกันใหม่นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาสอนต่อกำลังสนุกเลย”
“ครับ^^”
คุณหนูมินโฮ หรือน้องมินโฮ ก็บอกให้การ์ดมาส่งผมถึงที่ทำงาน
ก่อนที่ผมจะเดินลงไปจากรถ การ์ดก็พูดขึ้นมาว่า
“คุณคีย์ครับ คุณหนูบอกให้จ่ายเงินค่าสอนอาทิตย์นี้ล่วงหน้าครับ”
“โอ๊ะ....ครับ” ^^
ผมรับซองเงินสีขาวมา ทำไมมันเบาๆนะ....
ผมลงมาจากรถแล้วก็เดินช้าๆจะไปร้านขายรองเท้าที่ผมทำงานพิเศษอยู่
ผมค่อยๆเปิดซองสีขาวออกดู
O_O โอ้วววว....ตาผมถลนออกมายังกะไข่ห่าน
“หนึ่งล้านวอน!!!”
ผมวิ่งตามรถของบอดี้การ์ดไปและกะว่าจะเอาเงินคืน เพราะมันเยอะเกินไป ผมรู้สึกไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ -.- แต่มันก็ไม่ทันแล้วครับ รถแล่นไปได้ไกลมากแล้ว
ผมก็เลยเก็บเงินนั้นใส่กระเป๋าไว้อย่างดี...ตั้ง1ล้านวอน ผมทำงานงกๆ ตั้งหลายเดือนยังไม่ได้เลยครับ
“อ้าวมาแล้วหรอจ๊ะคีย์”
“ครับ ^^”
เจ๊เจ้าของร้าน ‘รองเท้าแก้ว’ ทักทายผมด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม แตกต่างจากร้านไอติมเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ใช่มั๊ยล่ะครับ 55+
เจ๊เจ้าของร้านรองเท้าแกเป็นคนใจดีครับ ผมเลยทำงานสบาย แถมลูกค้าก็เยอะนะครับ ผมคาดว่าคนหล่อๆอย่างผมเป็นแรงดึงดูดให้มีคนเข้าร้านเยอะเป็นแน่แท้ ^^
ทางด้านอนยู
ขณะที่เขาห่มผ้านอนอยู่บนที่นอนในห้องนอนอันแสนน่ารักของเขานั้น เขาก็ฉุกคิดเรื่องทั้งหมดในวันนี้ขึ้นมา เขากลิ้งไปทางซ้าย กลิ้งไปทางขวา ทำอย่างไรก็นอนไม่หลับซักที.....
เขาเป็นอะไรกันนะ......อนยู หยิบโทรศัพท์มือถือจากหัวเตียงเขามาดู โทรศัพท์ที่แพงมาก เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่อนยูพึ่งไปซื้อมาจากอเมริกาเมื่อเดือนที่แล้ว
เขากดดูรายชื่อโทรออกเมื่อตอนเย็น ซึ่งนั่นเป็นเบอร์ของคิมคีย์ คนที่โดนไล่ออกจากงานเพราะความเปิ่นของเขา....
แน่นอน ว่าอนยูได้เซฟเบอร์คีย์ไว้เรียบร้อยแล้ว อนยูเลื่อนไปดูที่เบอร์ของคีย์ เขาเตรียมพร้อมที่จะกดปุ่มโทรออกสีเขียว
>< ฮึ่ม..ไม่โทรดีกว่า เดี๋ยวโทรไปอาจจะโดนด่า เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่
เขามองโทรศัพท์ที่ขึ้นเบอร์ของคีย์แล้วพูดอยู่คนเดียวบนเตียงนอน
“ฝันดีนะคิมคีย์...พรุ่งนี้เจอกัน”
ทางด้านคิมคีย์ ทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย เพื่อที่จะได้มาซึ่งเงินที่เขาปรารถนา
พอถึงเที่ยงคืน เวลาเลิกงาน ก็ต้องเดินกลับบ้านคนเดียว
บรี๋ย~~ หนาวจังครับ ><
ผมกลับมาถึงบ้านคุณยายก็นอนไปซะแล้ว ^^ ฝันดีนะครับคุณยาย
ผมไปอาบน้ำ ทำภารกิจต่างๆและเดินเข้ามาถึงห้องนอน ที่มีเตียงนอนเล็กๆ และห้องที่มีอะไรข้างของอะไรมาก ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู และเมมเบอร์นึงที่โทรเข้าเครื่องผมเมื่อตอนเย็นว่า ‘ONEW’
อยากโทรจังเลย........รึไม่โทร.....แล้วทำไมผมต้องโทร...เออนั่นสิ.....งั้นไม่โทรดีกว่า
เวลาเดินผ่านไป เสียงนาฬิกาในห้องผมดัง ต่อกๆๆ โอ๊ย.......โทรดีกว่า
ผมกดโทรออกที่เบอร์ของอนยู.......อ่า........เฮ้ย.....ทำไมผู้หญิงรับสายอ่ะ
‘ขออภัยค่ะยอดเงินคงเหลือของคุณไม่พอที่จะโทรเบอร์นี้
..’
-.-+ เออ!ชิส์ ไม่โทรก็ได้ฟะ เราไม่มีเหตุผลที่จะโทรนี่นา ผมนอนหลับปุ๋ย ท่ามกลางอากาศหนาว คงเป็นเพราะวันนี้ผมเหนื่อยมากเพราะได้มีเรื่องเกิดขึ้นกับผมมากมาย.....ในวันนี้
ก่อนนอนผมก็คิดคำด่าที่จะเอาไว้ด่านายอนยูไว้แล้วเรียบร้อย ผมคาดว่ามันจะไม่มารับผม(มั้ง) เลยซ้อมคำด่าในใจสัก2-3ประโยคไว้ เช่น ทำไมนายไม่มารับฉัน รู้ไหมฉันรอจนหัวหงอกแล้ว ไอ้งั่ง ค่าที่นายไม่มารับฉันตามสัญญาจ่ายมาครั้งละ 500 วอน ^^
--------------
ช่วยเม้นกันด้วยนะครับ
ถ้าเม้นถึงเม้นที่66 เมื่อไหร่ สัญญาว่าจะลงตอนที่6ทันทีเลยนะครับ ^^.
ความคิดเห็น