ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 3 : part 1 [ ความทรงจำในอดีต ]
ตอนที่ 3 : part 1 [ ความทรงจำในอดีต ]
..........ย้อนกลับไปเมื่อ 5-6 ปีก่อน........
โรงเรียนสมัยมัธยมของผมและแก้วเป็นโรงเรียนที่มีหลายเครือ และมีประเพณีที่ว่าทางโรงเรียนจะให้นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เข้าค่ายร่วมกันที่ค่ายวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี การเข้าค่ายนี้จัดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในเครือโรงเรียนให้สมัครสมานสามัคคีกลมเกลียว รักใคร่ปรองดองกันในเครือโรงเรียน และครั้งนี้ก็จะจัดเป็นครั้งที่ 10 แล้ว แต่ที่สำคัญครั้งนี้โรงเรียนผมเป็นเจ้าภาพในการจัดงานด้วย และหน้าที่ที่ผมได้รับมอบหมายให้ทำในงานนี้ คือ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานหลัก ๆ ในค่ายคือหาข่าวสารและถ่ายภาพกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นภายในค่าย ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง ประมาณ 4 ทุ่ม แล้วหลังจากนั้น เราก็นำเอาข่าวและรูปที่เราหามา แล้วรวบรวมเพื่อทำเป็นหนังสือพิมพ์ส่งค่ายต่าง ๆ ในวันรุ่งขึ้น บางคนสงสัยว่าเราเอาเวลาตอนไหนทำหนังสือพิมพ์ ขอบอกว่าเราทำหนังสือพิมพ์เฉพาะกิจนี้ตั้งแต่ 4 ทุ่มถึงตี 4 แต่ถ้าบางวันข่าวมากละก็ถึง 6 โมงเช้าเลยทีเดียว แล้วประมาณ 7 โมงเช้าก็เอาไปส่งตามค่ายต่าง ๆ
แต่ดีที่ยังมีทีมงาน ในทีมประกอบด้วยผม(ไท) หนึ่ง โอม มินและแก้ว รวมทั้งสิ้น 5 ชีวิต ผม หนึ่ง มิน แก้วอยู่ห้องเดียวกันส่วนโอมเป็นน้อง ม.3 พวกเราผลัดเวรกันนอน เข้าห้องน้ำ กินขนม มาม่า ชงโอวัลติน แต่มินกินกาแฟคนเดียว สรุปคือกินนอนด้วยกันหมด เพราะฝ่ายประชาสัมพันธ์จะได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าพี่เลี้ยงธรรมดาตรงที่ ฝ่ายเราจะได้นอนในห้องแอร์เป็นห้องแปดเหลี่ยมใหญ่ นอนรวมกับอาจารย์อีก 8 คน(นอนเตียง) ไม่ต้องถามว่าเรานอนกันอย่างไรพวกเรานอนพื้นแน่นอน ที่พวกอาจารย์ให้เรานอนในห้องแอร์ก็เพราะเราต้องพิมพ์หนังสือพิมพ์กันตอนดึก ๆ ดื่น ๆ แต่พวกผมก็รู้ว่าคอมที่เอามาด้วย 3 ตัว เขาคงไม่ให้พวกผมไปนั่งพิมพ์กลางน้ำค้างหรอก
และในการเข้าค่ายครั้งนี้เป็นวันที่ดาวอังคารโคจรมาใกล้โลกมากที่สุดในรอบเกือบ 60,000 ปี แล้วมีหรือเรื่องนี้ผมจะพลาด ผมก็ขออนุญาตอาจารย์ว่าผมจะเอาเจ้ากล้องดูดาวคู่หูของผมไปด้วย ซึ่งอาจารย์ท่านก็ใจดีอนุญาตให้เอาไปได้(รักอาจารย์ที่สุดเลยครับ)
แต่แล้วในการเดินทางก็ประสบปัญหาขึ้นเมื่อน้องไม่มีที่นั่ง เราเป็นพี่นะครับไฉนเลยจะเห็นแก่ตัว พวกพี่ทั้งหลายจึงสละที่นั่งที่อุตส่าห์แย่งกันเองแทบตายให้น้องนั่งแทน ส่วนพวกผมก็ไม่พ้นนั่งพื้น(พื้นอีกแล้วครับ) เราเดินทางไป จ.ชลบุรี โดยรถบัสทั้งหมด 7 คัน ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ถึงจะใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าแต่เวลาเพียงแค่นี้ก็ทำให้พวกผมบางคนขาชา บางคนก็ขาแข็งกันไปคนละหลาย ๆ รอบแล้ว ไปถึงพวกผมก็ออกไปถ่ายรูปตอนที่เตรียมงานกัน ถ่ายรูปสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งเริ่มพิธีเปิดตอน 2 ทุ่ม พวกเราเก็บภาพบรรยากาศรอบ ๆ งานอย่างเต็มที่ กว่างานจะเลิกก็เกือบเที่ยงคืน กลับไปถึงก็ทยอยเอาภาพลงในคอม แล้วก็ผลัดกันไปอาบน้ำกันทีละคน เมื่ออาบน้ำเสร็จประมาณตี 1 ผมขอเพื่อน ๆ ไปตั้งกล้องดูดาวข้างหน้าห้อง เพื่อนอีก 4 ก็เข้าใจดีในนิสัยของผม แต่ว่าวันนี้เมฆมาก ท้องฟ้าปิดเลยต้องจำใจตั้งกล้องเอาไว้แล้วค่อยออกมาดูอีกที
เวลาก็ล่วงเลยไปถึงตี 3 แล้วผมจึงลองออกไปดูอีกสักรอบ คราวนี้เห็นชัดเจนแจ่มแจ้งเลยครับ ไม่เสียแรงที่ผมเอาไอ้กล้องตัวนี้มาด้วย ด้วยความดีใจผมจึงกลับเข้าไปในห้องเรียกแก้วออกมาดูด้วย ถึงเราจะทะเลาะกันบ้างแต่ก็ต้องมีการพักรบ ก็แก้วนี่ก็ชอบดูดาวเหมือนผมนี่แหละ
"แก้วดูไหม มองเห็นแล้วนะ ชัดแจ๋ว"ผมรีบบอกแก้วอย่างตื่นเต้น
"เฮ้ย!! จริงอ่ะ"คนที่ถูกตามคงตื่นเต้นไม่แพ้กัน
"แต่...งานยังไม่เสร็จเลย"แก้วทำหน้าสลดในทันทีเมื่อถึงงานทั้งยังค้างคาอยู่
"แก้ว...ไปเหอะ เดี๋ยวเราทำให้ เหลือตกแต่งแค่นั้นเอง"มินบอกยัยนกแก้วอย่างรู้ใจ
"ขอบใจนะมิน"ขณะนั้นหน้าของเธอระบายไปทั่วด้วยรอยยิ้มเลยทีเดียว ผมไม่นึกเลยว่ารอยยิ้มของยัยนกแก้วจะน่ารักได้ถึงเพียงนี้
เราเดินออกมาข้างนอกส่องดูอีกทียังเห็นอยู่
"แก้ว อ่ะ"ผมเรียกเธอเข้าไปดูใกล้ ๆ เมื่อปรับความคมชัดของกล้องโทรทรรศน์เรียบร้อยแล้ว
"เห็นชัดจริง ๆ ด้วย"เราดูกันได้อีกสักพัก ผลัดกันดูมันก็สนุกดี แต่จู่ ๆ แก้วก็บอกขึ้นว่า
"ไท...เมฆบังแล้วอ่ะ"เธอหันมาอย่างรวดเร็ว แต่นั่นทำให้หน้าของผมและเธอห่างกันไม่ถึง 3 นิ้ว แต่เรื่องเมื่อกี้นี้ทำ หัวใจของผมเต้นแรงและเร็ว ผมจึงรีบกลบเกลื่อนพฤติกรรมก่อนที่เธอจะสงสัยว่าผมเป็นอะไร
"ไหน ๆ"ผมเฉไฉหันไปดูที่เลนส์ใกล้ตาในทันที เพื่อปิดบังสีหน้าของตนเองก่อนที่เธอจะสังเกตเห็น
"เออ จริงด้วย.."คราวนี้หน้าตาผมบอกอาการได้ว่าเศร้าที่สุดเพราะเมฆเจ้ากรรมบังดาวอังคารมิดดวง
"แก้วจะดูต่อรึเปล่า"ผมหันไปถามเธอถ้าเธอไม่ดูผมอาจจะต้องเก็บกล้อง เพราะเมฆมากเหลือเกิน คงยากที่จะมองเห็นแต่เรื่องท้องฟ้ามันเอาแน่เอานอนไม่ได้ในความคิดผม
"ถ้าดูต่อ...นายจะว่าไหม"เธอถามหน้าตาอ้อน ๆ ในตอนนั้นผมรู้ว่าหน้าตาเธอตอนอ้อน ๆ ก็ดีเหมือนกัน
"ดูก็ดู...เดี๋ยวไปเอาเสื่อกับเสื้อกันหนาว ถ้าไงเราเอามาให้ละกัน เฝ้ากล้องนะ"ผมกำชับเธอก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องเพื่อหยิบเสื่อและเสื้อกันหนาวออกมา น้ำค้างวันนี้แรงซะด้วย ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองจะแพ้ลูกอ้อนเธอ
"ไปดูไหมทั้ง 3 คน แต่ตอนนี้เมฆบังมิดเลย จะรอดูก็ได้ เรากำลังจะเอาเสื่อไปปูพอดี"ผมถามเพื่อนอีก 3 คนที่ทำงานกันอยู่ แต่คาดว่างานที่ทั้งสามกำลังทำคงใกล้จะเสร็จแล้ว
"ว้า...กะจะไปดูกันซะหน่อย งั้นไม่ไปแล้วแหละ ขอบใจนะ"มินแสดงออกว่าออกจะเสียดายอยู่เหมือนกันแต่คงไม่มากมายอะไร
"ไปพวก นอน ๆ เฝ้าคอม เดี๋นวมานจาหาย...ย"มินหันไปบอกหนึ่งกับโอมซึ่งก็ไดรับเสียงหัวเราะตอบกลับมา
"เอ่อไทจะดูต่อละสิ เอาผ้าห่มไปด้วยไป ยัยแก้วมันไม่ถูกกับอากาศเย็น" มินหันมาบอกผมอีกทีก่อนที่จะไปนอน
"OK."ผมจึงไปหยิบผ้าห่มมาอีก 2 ผืน แล้วค่อยเดินออกไปหาเธอ
"เป็นไง...เห็นบ้างไหม"ผมถามเธอ เพราะไม่แน่ตอนที่ผมเข้าไปท้องฟ้าอาจจะเปิด
"ไม่เลย"เธอบอกพลางส่ายหน้าว่าดาวอังคารยังอยู่ในกลีบเมฆ
"เอานี่ถือเสื้อก่อน จะปูเสื่อจะได้นั่งดูสบาย ๆ หน่อย"
เรานั่งรอดูว่าเมื่อไรท้องฟ้าจะเปิดให้เรายลโฉมดาวอังคารอีกสักที ตุบ...มีอะไรอุ่น ๆ มาอยู่ตรงไหล่ พอหันไปเธอก็หลับซบไหล่ผมไปเรียบร้อยแล้ว พูดตามความสัตย์จริงผมไม่ได้ทำอะไรยัยนกแก้วนะ
"แก้ว"ผมเรียกพร้อมกับจับแขนเธอเขย่าเบา ๆ เงียบ...ไร้ปฏิกิริยาโต้ตอบ
"ไปนอนข้างใน"เงียบอีกแล้ว ขี้เซาจริงเชียวนะยัยนกแก้ว
'เอาไงดีวะ'ผมคิดในใจแล้วหันไปมองหน้าเธออีกที แล้วก็คิดได้ว่า...
'เอาวะ นอนตรงนี้ก็ตรงนี้'ผมคิดในใจ พลางห่มผ้าให้เธอดี ๆ ผมก็เป็นคนดีอุทิศไหล่ให้เธอหนุน แต่อยู่อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ
'เห็นยัยนกแก้วไม่พูดไม่จา เงียบ ๆ ไปมันก็สบายหูดี อืม..น่ารั....เฮ้ย!!คิดบ้าอะไรวะ'เมื่อรู้ว่าตัวเองจะพูดว่าอะไรก็รีบสะบัดหัวไล่ความคิดนั้นออกจากหัวในทันที
'ตี 4 กว่าแล้วเหรอเนี่ย'ผมตื่นขึ้นพลางก้มลงมองนาฬิกาอย่างสะลึมสะลือ แล้วเงยหน้าไปดูที่ท้องฟ้า
'ฟ้ายังปิดอยู่เลย คงไม่ได้ดูแล้วมั้งปลุกยัยแก้วดีกว่าน้ำค้างชักแรงแล้ว ฝนก็ทำท่าว่าจะตก'
"แก้ว ๆ"ผมเรียกเธอ แต่คราวนี้เธอค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา
"ฮ้าว...เช้าแล้วเหรอ"เสียงออกแนวงัวเงีย
"บ้าสิ!!ไปนอนข้างในไป"ผมรีบไล่เธอให้เข้าไปนอน
"อารายนะ"เธอทำตาสะลึมสะลือมองผมอย่างงง ๆ
"ไปนอนข้างใน เธอมาหนุนไหล่ฉันแทนหมอนเป็นชั่วโมงแล้ว รู้ไหม"ผมพูดพร้อมกับแกล้งนวดไหล่ของตนไปมาแบบทำท่าว่าปวดจริง(มารยาลูกผู้ชายครับ)
เธอเงียบไปครู่...
"เออว่ะ...นอนจริงด้วย แฮะ ๆ ขอโทษ"เธอหันมาหาผมพร้อมรอยยิ้มแหย ๆ
"ไม่ต้องยิ้ม ช่วยกันเก็บของก่อนจะได้นอน"ผมทำเสียงดุ ๆ
"เจ้าค่า...นายท่าน"เธอตอบกลับในเสียงที่ประชด ๆ แต่แววตายังบอกว่าเธอง่วงอยู่เลย
แต่เมื่อเก็บของเสร็จแล้วแต่พอจะนอนกลับนอนไม่หลับคิดถึงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ชั่วโมงมานี้ จนเวลา 6 โมงเช้านั่นแหละผมถึงจะได้หลับจริง ๆ
..........กลับมาปัจจุบัน..........
"เป็นไงกระเพราไก่ไข่ดาว"ผมถามในขณะที่เธอกำลังเป็นลูกมือช่วยผมตั้งกล้องที่ดาดฟ้าของโรงแรม
"อร่อยสุด"
"กินง่ายไม่เปลี่ยนเลยนะแก้ว"ผมหันมาทำหน้ายิ้ม ๆ
"นายจะให้ฉันกินสเต๊กตอนจะ 3 ทุ่มเหรอไง"เธอถามแบบประชดกลับมา
"งั้นมั้ง..."ผมก็อดที่จะย้อนเธอไม่ได้อยู่ดี
ขณะที่ผมตั้งกล้องเธอก็ปูเสื่อเพื่อให้เรานั่งสบาย ๆ
"เสร็จเรียบร้อย"ผมหันมาบอกเธอ แต่ก็เหมือนภาพยนตร์ที่คล้ายจะฉายซ้ำแค่ตอนนั้นผมกับเธอสลับที่กันเท่านั้น
"เอ่อ...ดูสิ"ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเพราะอาการโรคหัวใจเต้นแรงและเร็วกำเริบอีกแล้ว
"อ..อือ"อาการอย่างนี้ดูท่าทางเธอก็คงตกใจเช่นกัน ที่ผมหันหน้าไปรวดเร็วแต่สักพักเหตุการณ์เมื่อสักครู่ก็ถูกลืม โดยเรื่องของดวงดาวที่เข้ามาแทน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น