ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายผัดไท กะ ยัยนกแก้ว

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 2 : part 1 [ อ้อมกอด ]

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 49




    ตอนที่ 2 : part 1 [ อ้อมกอด ]



              ผมเลี้ยวรถไปจอดด้านข้างของโรงแรม ซึ่งเป็นที่ค่อนข้างจะมืดไปสักนิดเพราะมีต้นไม้ปกคลุมอย่างหนาแน่น ผมเปิดประตูลงจากรถ เพื่อไปเอาของสิ่งหนึ่งที่ด้านหลังของรถ ขณะที่ผมกำลังจะหยิบของอยู่นั้น เธอก็เดินลงจากรถและตรงมาที่ผมในทันที โดยที่สีหน้าของเธอตอนนี้ผมบอกไม่ถูกว่าอารมณ์เธอจะเป็นเช่นไร สงสัย โกรธ หรืออยากจะฆ่าผมกันแน่

              "พาฉันมาที่นี่ทำไม"เธอถามผมด้วยเสียงเรียบ แต่...เยือกเย็นและน่ากลัว แววตาที่แข็งกร้าวจ้องมาทางผมอย่างค้นหาความจริงในสิ่งที่ผมกระทำ

              "ฉันจะกลับ พาฉันกลับเดี๋ยวนี้"เสียงของยัยนกแก้วเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวและทำท่าจะดังขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ตาของเธอจ้องมองผมอย่างกะจะฉีกตัวผมเป็นชิ้น ๆ  และในขณะนี้ผมกับเธอห่างกันแค่ก้าวเดียว ผมคิดว่าได้เวลาแล้วที่ผมจะบอกความจริงสักทีว่าผมพาเธอมาทำอะไรในที่แห่งนี้ ที่ซึ่งไม่เหมาะสมที่ชายหญิงจะมาคู่กันในเวลาค่ำ ๆ มืด ๆ ซึ่งถ้ามีใครที่รู้จักเธอมาเห็นเข้ามันคงไม่ดีแน่ ๆ  ผมกำลังจะบอกเธอ แต่เธอกลับพูดกับผมว่า...

              "ฉันเกลียดนาย เกลียดที่สุด"เธอพูดประโยคนั้นออกมา แววตาเธอบ่งบอกถึงความไม่เชื่อใจในตัวของผม แว่บนึงผมรู้สึกว่าเจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บปวดกับคำพูดที่เธอบอกว่า  'เธอเกลียดผม' ไม่รู้ทำไมผมต้องรู้สึกน้อยใจกับประโยค ๆ นี้แต่ประโยคนี้ทำให้ผมพูดในสิ่งที่ผมนึกน้อยใจเธอขึ้นมาในทันที

              "แก้ว ผมไม่คิดที่จะทำอะไรคุณเลย ผมเห็นว่าคุณเศร้ามาก เลยแค่จะพามาดูดาวที่นี่เท่านั้น แต่เมื่อผมทำให้คุณไม่พอใจ ผมขอโทษ..ผมจะพาคุณกลับเดี๋ยวนี้"ผมจ้องตาเธอกลับด้วยแววตาที่เสียใจ ผมไม่นึกว่าสิ่งที่ผมทำให้เธอนี้มันจะทำให้เธอไม่พอใจ พูดเสร็จผมก็หันหลังเก็บกล้องดูดาวกลับที่เดิมและกำลังจะปิดประตูท้ายรถ เธอก็พูดกับผมว่า...

              "ขอโทษ"เธอก้มหน้า

              "ขอโทษ ในสิ่งที่เราดูถูกน้ำใจของนาย ขอโทษที่ทำไม่ดี และขอโทษที่สุด...ขอโทษที่บอกว่าเกลียดนาย ขอโทษ..จริง ๆ"พูดเสร็จเธอก็ยืนก้มหน้านิ่ง  ตอนนี้ผมคิดว่าความหวังดีของผมคงส่งถึงเธอแล้ว ผมมองเธอด้วยสายตาที่อ่อนโยน 

              "ช่างมันเถอะ…เรื่องผ่านไปแล้ว" แต่ผมก็ต้องตกใจเมื่อเธอร้องไห้ออกมา

              "แก้ว ๆ แก้วเป็นอะไรไป"

              "ตอนนี้ฉันอ่อนแอ ไม่มีแรงที่จะต่อสู้กับความจริงอีกแล้ว..."เธอร้องไห้หนักเข้าไปอีก ยิ่งปลอบก็ยิ่งร้อง ผมไม่รู้จะปลอบเธออย่างไรดีที่จะทำให้เธอเลิกร้องไห้ ตอนนี้ผมหมดสิ้นหนทางจริง ๆ เหลือหนทางสุดท้าย...แต่หวังว่าเธอคงจะไม่ตบผมนะ
           
              ผมเข้าไปกอดตัวเธอเอาไว้ เมื่อตอนเย็นผมไม่ได้ตั้งใจที่จะกอดเธอมันเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ครั้งนี้ 'ผมตั้งใจ...' เธอร้องไห้ซบกับอกของผม ผมได้กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ จากผมของเธอ ตัวของเธอนั้นเย็นเฉียบ ผมกระชับอ้อมกอดให้แน่นยิ่งขึ้นเผื่อว่าความอบอุ่นในตัวผมจะส่งถึงเธอได้เพียงบางส่วนก็ยังดี ผมไม่รู้ว่าผมกอดเธอนานเท่าใด แต่กว่าเธอจะหยุดร้องก็เกือบสองทุ่มแล้ว 

              เมื่อเธอหยุดร้องผมจึงคลายวงแขนของผมออก เธอก็ถอยออกจากผมไปก้าวหนึ่ง ผมคิดว่าเธอคงจะอายที่มาร้องไห้ซบอกของผมแถมยังโดนผมกอดเอาไว้เสียตั้งนานสองนาน...



              ..........ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาสู่หัวผม..........



              ตั้งแต่อยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่ ม.1 – ม.6 เธอไม่เคยมีแฟน มีคนมาจีบแต่เธอปฏิเสธไป อยู่มหาลัยผมก็อยู่คณะเดียวกับเธอ เธอก็ไม่เคยมีแฟนที่ไหน เพราะถ้าผู้หญิงคณะเรามีแฟนคงไม่พ้นพวกสามแยกป า ก ห ม าประจำคณะไปไม่ได้หรอกพวกนี้มันจะกระจายข่าวให้ทั่วทั้งคณะรู้กันหมด แต่ผมไม่เคยได้ยินเรื่องของเธอเลย มีแต่ข่าวว่าเธอชอบไอ้หมอนั่นแล้วอกหัก.. เมื่อสี่ห้าวันก่อนนี่เอง และที่สำคัญผมคอยดูเธออยู่ตลอด งั้นก็แสดงว่า...

    ....................... 'เธอถูกผู้ชายกอดเป็นครั้งแรก'............................... ตายล่ะ!! สมองผมหยุดชะงักในทันทีที่นึกถึงเรื่องราวทั้งหมด 

              "เอ่อ..ขอโทษ..ที่..กอดเธอ"ผมพูดอึกอัก ติด ๆ ขัด ๆ กว่าจะหลุดออกมาได้แต่ละคำมันช่างยากเย็นเสียจริง 

              "เอ่อ คือ..ไม่เป็นไร..เรารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ขอบคุณนะ"ขณะที่เธอพูดเธอหลบตาของผม เธอคงต้องอายมากแน่ ๆ ผมนี่มันชั่วจริง ๆ ผมต้องเปลี่ยนเรื่องคุยกับเธอดีกว่า ขืนคุยเรื่องนี้ต่อไปอันตรายต้องกลับมาเข้าตัวผม

              "ไปดูดาวกัน บนตึกนั่น"เธอมองหน้าผม ผมต้องรีบอธิบายเดี๋ยวเกิดเรื่องเข้าใจผิดอีกมันคงไม่ดีแน่

              "ไม่เป็นไร นี่เป็นโรงแรมของลุงผมเอง ลุงเขาเลี้ยงผมมาตั้งแต่เด็กตั้งแต่พ่อแม่ผมเสียเมื่อสิบปีก่อน คุณลุงท่านไม่ได้แต่งงานเลยรับผมเป็นลูกบุญธรรมของท่าน ท่านยกชั้นบนสุดของตึกนี้ให้ผมอยู่ แต่ผมเกรงใจท่านเลยไปอยู่คอนโดได้สองปีแล้วผมรักลุงของผมยิ่งกว่าพ่อแม่แท้ ๆ เสียอีกนะ"ผมพูดเสียยืดยาว เพราะกลัวเธอจะเข้าใจผิด แล้วเธอหัวเราะออกมาในที่สุด

              "ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อยพูดเสียยาวเชียว เอาเป็นว่า...ตกลงเราเชื่อใจนาย ไปดูดาวบนตึกกัน"







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×