ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1: part 2 [ คู่กัดและเพื่อนรัก ]
ตอนที่ 1: part 2 [ คู่กัดและเพื่อนรัก ]
ฉันรีบเดินผ่านประตูทางเข้ามหาลัยให้เร็วที่สุดเท่าที่กำลังขาทั้งสองข้างของฉันจะทำได้ เพื่อให้ภาพบาดตาบาดใจออกจากใจนั้นผ่านไปให้เร็วที่สุด เมื่อเดินได้สักระยะหนึ่งฉันจึงลดความเร็วในการก้าวลงจนในที่สุดก็กลายเป็นการเดินธรรมดา ฉันเดินไปเรื่อย ๆ ตามทางเดินที่จะเดินไปสู่คณะของฉัน คณะวิศวกรรมศาสตร์ ฉันอยู่ปีสามอีกแค่ปีเดียวก็ต้องไปเผชิญกับการที่ต้องหางานทำ
แต่ตอนนี้ฉันก็กำลังหาหอพักดี ๆ สักที่เพราะว่าบ้านที่ฉันอยู่ตอนนี้มันใหญ่เกินไปสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว พ่อแม่ของฉันท่านทั้งสองคนได้ย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่เพราะธุรกิจรีสอร์ทและเพื่ออากาศบริสุทธิ์ ตอนนี้ฉันเลยอยู่ตัวคนเดียว พ่อและแม่ของฉันอนุญาตให้ไปอยู่หอ แต่ปัญหามันอยู่ที่ฉันยังหาที่ ๆ ถูกใจยังไม่ได้ แถมยังมีเรื่องนี้เกิดขึ้นอีก เรื่องที่จะไปอยู่ที่อื่นเป็นอันต้องเก็บพับไปเดินถึงบ้านได้ก็ดีถมไปแล้ว
เมื่อถึงคณะของฉันคนที่ฉันเจอคนที่ฉันไม่พึงปรารถนาที่จะเจอ นายชานนท์หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ไท เป็นคู่อริกับฉันมาตั้งแต่มัธยม แต่ก็ถือว่าเป็นคนดีได้ในระดับหนึ่งทีเดียว อาจจะสำหรับคนอื่นแต่ยกเว้นฉันแน่นอน โดยปกตินายนี่จะเป็นคนเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จาเท่าไร ถ้าคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนจะหาว่านายนี่หยิ่งก็เป็นได้ แต่สำหรับฉันนายชานนท์ปากดีที่สุด
"แก้ว" ฉันหันไปมองก็ไปพบกับต้นเสียงที่เรียกฉันเมื่อครู่
"มีอะไร"เมื่อฉันเจอกับต้นเสียงแล้ว ฉันก็ต้องเปลี่ยนอารมณ์โดยฉับพลัน
"เลิกเรียนแล้ว รอด้วย"เดินมาด้วยมาดนิ่ง ๆ แต่ปากยังกวนโทสะได้ทุกเมื่อ
.........เงียบไปครู่.........แต่ชานนท์เดินไปแล้ว
"เฮ้ย!!"ฉันเพิ่งได้สติกลับคืนมาและพยายามจะเรียกให้ชานนท์หันมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนแต่ไม่เป็นผล นายนี่พูดเสร็จก็เดินจ้ำอ้าวไปทันที ถ้าไม่ติดว่าฉันกำลังจะไปเรียนละก็ต้องได้เห็นดีกันแน่
'แล้วมันธุระกงการอะไรของฉันที่ต้องรอนายด้วยยะ'ฉันคิดในใจ
ฉันเดินเข้าไปข้างในห้องเรียนเพื่อไปนั่งเรียนตรงที่ประจำของฉัน แต่เพื่อนของฉันก็มารออยู่แล้วเธอชื่อว่าศุภกานต์ แต่ส่วนมากที่ฉันใช้เรียกก็คือ ออม ออมเป็นเพื่อนรักของฉันมาตั้งแต่มัธยมเหมือนกับไท แต่ผิดกันที่นายนั่นเป็นคู่กัดแต่ออมเป็นเพื่อนรักเท่านั้นเอง
"แก้ว ยังเป็นอะไรอยู่ไหม"คำถามที่ไม่มีอะไรเลย แต่สามารถสื่อความหมายได้มากมาย
"เปล่านี่"แต่ในขณะที่ตอบคำถามฉันไม่มองหน้าเพื่อนของฉันเลย
"เออ ๆ ไม่เป็นไรก็ไม่เป็นไร แต่แกหลอกฉันไม่ได้หรอกนะ คุณรินรดา"แต่บทสนทนาของฉันกับออมก็ถูกขัดไปโดยอาจารย์เจ้าของวิชาที่เข้ามาสอนพอดี
วันนี้เป็นวันที่ฉันเรียนหนังสือไม่รู้เรื่องเลย ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าแค่เขาเพียงคนเดียวจะทำให้ฉันเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ ฉันมองออกไปนอกห้องเรียนมองดูท้องฟ้า ก้อนเมฆไปเรื่อย ๆ โดยที่เสียงของอาจารย์ไม่ได้เข้าสู่สมองของฉันเลย
"เอาไว้แค่นี้"เสียงอาจารย์เป็นสัญญาณว่าหมดคาบแล้ว นักศึกษาเกือบทุกคนก็เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ของตนเองลงกระเป๋า แต่ยกเว้นฉันที่ยังคงนั่งเหม่อออกไปข้างนอกห้องเช่นเดิม
"แก้วจ๋า"...เงียบ...
"แก้ว!!"พอรอบที่สองคราวนี้ฉันถึงจะรู้สึกตัวว่าตัวเองถูกเรียกชื่อโดยเพื่อนรักของฉัน
"แกเป็นอะไรไป เหม่อทั้งคาบเลยนะ"ออมพูดอย่างนึกสงสัย
"เปล่า"ฉันปฏิเสธไปอีกแล้ว ซึ่งมันตรงข้ามกับสิ่งที่ฉันเป็นอยู่
"ไปกันเถอะ เลิกเรียนแล้ว"
"ออม..คือ..ออมกลับไปก่อนเถอะเรามีธุระนิดหน่อยน่ะ"ฉันก็ยังหาข้ออ้างไปเรื่อย แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนของฉันจะเข้าใจฉันเลยไม่เซ้าซี้ให้กลับด้วยกัน
"งั้นระวังตัวนะ หน้าหนาวมันมืดเร็วรีบกลับบ้านนะแก้ว"ออมพูดโดยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด
"จ้ะ"ฉันนึกขอบคุณเพื่อนของฉันในใจ เธอเป็นเพื่อนที่ฉันรักที่สุด เข้าใจในสิ่งที่ฉันกำลังคิดโดยที่ฉันไม่ได้พูดเลยก็ตาม
ฉันยังคงนั่งอยู่ตรงเก้าอี้ตัวเดิม นึกถึงเรื่องที่ผ่าน ๆ มา แล้วจู่ ๆ น้ำตาของฉันก็ไหลออกมาพร้อมกับความเหงาที่เข้ามาแทรกซึมในหัวใจ เมื่อรู้สึกตัวฉันจึงปาดน้ำตาทิ้งเหมือนว่าน้ำตาเป็นเครื่องย้ำเตือนความเจ็บปวดระหว่างฉันกับเขา
'ไหนบอกว่าจะไม่ร้องอีกไง ยัยแก้ว'เมื่อน้ำตาของฉันเหือดแห้งไปแล้วจึงเก็บของใส่กระเป๋าสะพายข้างของฉัน เอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่แล้วก็มีมือใหญ่ข้างหนึ่งก็มาดึงข้อมือของฉันไว้...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น