ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นายผัดไท กะ ยัยนกแก้ว

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 5 : part 1 [ น้ำตาครั้งสุดท้าย ]

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 49




    ตอนที่ 5 : part 1 [ น้ำตาครั้งสุดท้าย ] 



              ไทพาฉันออกมาจากร้านอาหารนั้นอย่างรวดเร็ว ฉันรู้ว่าสีหน้าของฉันตอนที่เผชิญหน้ากับเขาและเธอคนนั้นมันซีดเป็นกระดาษขาวและทั้งที่ตัวของฉันยืนอยู่ที่ร้านอาหารแต่กลับรู้สึกว่าเหมือนอยู่ที่ขั้วโลกเหนือไม่มีผิด และที่ร้ายกว่านั้นการเจอกับพวกเขาทั้งสองมันไม่ต่างกับมีคมหอกคมดาบนับร้อยมาทิ่มแทงหัวใจคอยย้ำเตือนว่าฉันเป็นเพียงผู้แพ้ในเกมรักครั้งนี้ ระยะเวลาเกือบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่สามารถเยียวยารักษาแผลในใจของฉันได้แม้เพียงนิดเดียว

              "แก้ว"เขาเรียกฉันขณะที่เขากำลังบึ่งรถพาฉันกลับบ้านอย่างรวดเร็ว

              ".........."เงียบ...ไม่มีเสียงตอบกลับจากฉัน ไม่ใช่ฉันไม่อยากตอบเขาหรอกเพียงแต่มันไม่มีเสียงใดหลุดลอดออกจากปากฉันแม้แต่คำเดียว เหมือนมีก้อนอะไรแข็ง ๆ มาจุกที่คอไม่มีผิด

              "อยากร้องก็ร้องให้พอเลยนะแก้ว จะได้ระบายออกมาบ้าง"เขาบอกฉันแค่นี้น้ำตาหยดใส ๆ ก็ไหลออกมา ไม่มีเสียงสะอื้นใดออกจากปากของฉัน มีเพียงแค่น้ำตาเท่านั้นที่ฉันสามารถทำได้ในตอนนี้ น้ำตา...เท่านั้น

         

              "แก้ว ถึงแล้ว"เขาขับรถมาจอดเทียบประตูหน้าบ้านฉัน โดยใช้เวลาเพียงสั้น ๆ ในการขับรถเท่านั้น

              "อือ...จ้ะ"เป็นคำ ๆ แรกที่ฉันเปล่งออกมาหลังจากการที่ร้องไห้ตลอดทางกลับบ้าน

              "เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนนะ เดี๋ยวเราถือของเข้าบ้านให้"ไทแย่งของในมือฉันมาถือ

              "ร้องไห้อย่างนี้เดี๋ยวใครหาว่าทำอะไรเธอละยุ่งเลย"เขาพูดพร้อมกับยิ้มกวน ๆ ให้ แต่ก็ทำให้ริมฝีปากบางแย้มขึ้นนิดนึง

              "บ้าสิ"



              เธอพาผมเข้ามาในบริเวณบ้านของเธอซึ่งมันร่มรื่น เงียบสงบไม่น่าเชื่อว่าบ้านของเธอจะอยู่ในกรุงเทพฯ เข้ามาแล้วรู้สึกว่าปลอดโปร่งหัวใจ บริเวณบ้านสะอาดสะอ้าน กระถางต้นไม้จัดวางอย่างเป็นระเบียบ บ้านที่น่าอยู่อย่างนี้ยังมีอยู่อีกเหรอในเมืองที่แออัดเช่นนี้ เช้ามาการจราจรติดขัดมีแต่ควันรถและมลพิษ แต่บ้านของเธอเหมือนออกมาสู่อีกโลกหนึ่งของกรุงเทพฯ ถึงจะเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้วก็ตาม แต่ก็อดที่จะรู้สึกร่มรื่นไม่ได้อยู่ดี

              "นี่นะแก้ว"ผมวางของที่ถือมาวางไว้ที่โต๊ะด้านหนึ่ง

              "งั้นเรากลับนะ"ผมกำลังจะหันหลังกลับแต่แก้วดึงแขนเสื้อผมไว้

              "ไท อยู่เป็นเพื่อนเราก่อนนะ เราไม่อยากอยู่คนเดียวตอนนี้"แก้วทำหน้าเศร้าพร้อม ๆ มองหน้าผม

              "แก้วอย่าทำหน้าอย่างนี้สิ เราสัญญา...ว่าเราจะอยู่เป็นเพื่อนนะ"พูดเสร็จผมเลยลูบผมเธอ เหมือนเธอเป็นเด็กที่ผมต้องคอยถะนุถนอมเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดไม่กล้าห่างไปไหน เพราะกลัวจะเป็นอะไรไป

              "ไปเปิดหน้าต่างดีกว่านะ"เธอเดินผละไป เอ...แก้มเธอสีจัดขึ้นรึเปล่านะ 



              ฉันเดินผละออกมาจากไท ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตอนที่เขาลูบหัวฉันหน้าฉันมันร้อนผ่าว ใจเต้นแรงขึ้นไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจคิดถึงเรื่องนี้สักเท่าไรนักอาจจะเป็นเพราะแดดวันนี้แรงก็ได้ที่ทำให้หน้าร้อน(เข้าบ้านแล้วเนียนะ) สักพักฉันจึงเอ่ยถามไทในเรื่องที่ฉันนึกกังวลแล้วสิ 

              "เอ่อไท...การที่ชวนผู้ชายเข้าบ้านแล้วอยู่กันสองต่อสองนี่มันผิดไหม"ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าการที่ชวนให้เขาอยู่เป็นเพื่อนมันจะเหมาะหรือไม่

              "อ๋อ...กังวลล่ะสิ"เขาคงพอจะเดาสีหน้าฉันออกล่ะมั้งฉันจึงพยักหน้าเป็นคำตอบ

              "อืม...มันก็แล้วแต่กรณีนะ ถ้าชวนเข้าบ้านเชิงชู้สาวนี่สิผิดแน่ ๆ แต่เราไม่ได้ทำอะไรกันนี่ เอาน่า...สบายใจเถอะ"เขาพูดเพื่อให้ฉันสบายใจขึ้น แต่มันก็จริงอย่างที่เขาว่า ฉันกับเขาไม่ได้ทำอะไรกันนี่จะกลัวอะไร



              ผมช่วยยัยนกแก้วรถน้ำต้นไม้มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีนะที่ได้ทำอะไรแบบนี้ เพราะอยู่ที่คอนโดการที่จะปลูกต้นไม้ก็จำกัดอยู่ที่ตรงต้นเล็ก ๆ เท่านั้น ส่วนยัยนกแก้วก็เก็บกวาดข้างในบ้าน ความจริงไม่ต้องทำก็ได้นะ ผมว่ามันก็สะอาดอยู่แล้ว 

              'ดู ๆ ไปก็เหมือนคู่แต่งงานให...ม่.........เฮ้ย!!!คิดอะไรวะ ชักฟุ้งซ่านใหญ่แล้ว'ทำไมช่วงนี้ผมถึงคิดอะไรก็ไม่รู้เป็นตุเป็นตะไปหมดทั้งเห็นว่ายัยนกแก้วน่ารัก ทั้งรอยยิ้มที่ยังติดตาผม ไหนจะคู่แต่งงานใหม่อีก แต่ละอย่าง...ใครช่วยบอกผมทีว่าผมเป็นอะไรไป แต่ก่อนที่ผมจะได้คิดหาคำตอบเสียงยัยนกแก้วก็เดินออกมาหาผมเสียก่อน

              "ไท อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิ ถือเป็นการตอบแทนที่พาฉันไปเที่ยววันนี้"เธอออกมาชวนผมกินข้าวเย็นมื้อนี้เพราะถือเป็นการตอบแทนที่พาเธอไปซื้อของ ถึงสิ่งที่ได้กลับมาพร้อมกับน้ำตามันจะไม่ดีนักก็ตาม

              "อยู่ก็ได้ แต่แน่ใจนะว่ากินได้"ผมก็ยังไม่วายเย้าเธอเล่น

              "กินได้สิ ดูถูกกันนี่เหรอ"เธอตอบกลับมาพร้อมค้อนอีกวงใหญ่

              "ก็ดูถูกงายยย...ถูกเผ็งเลย"ยิ่งเห็นเธอค้อนผมก็ยิ่งอยากแกล้งยั่วเธออีก 

              "ได้...ด้ ฉันจะใส่ยาพิษให้นายกินให้ตายไปเลย"พร้อมกับค้อนให้อีกวงใหญ่อีกรอบ 



              หลังจากเธอเดินเข้าไปในบ้านสักพักผมก็มาปิดน้ำเก็บสายยางให้เข้าที่แล้วพร้อมไปเผชิญหน้ากับอาหารที่ยัยนกแก้วทำ แต่พอผมเปิดประตูบ้านเข้าไปกินหอม ๆ ก็ลอยมาเตะจมูกผม มารู้สึกตัวอีกทีผมก็เดินไปถึงห้องครัวเสียแล้ว

              'เพิ่งเคยเห็นยัยนกแก้วทำกับข้าวแฮะ! คล่องน่าดูอย่างนี้ต้องพิสูจน์รสชาติ'ผมแอบลอบสังเกตเธอก่อนที่จะเข้าไปช่วย

              "แก้วมีอะไรให้ช่วยป่ะ"ผมถามเพราะเห็นเธอง่วนอยู่กับการผัดหมูสับในกระทะ

              "งั้น...ช่วยหยิบพริกแกงตรงนั้นให้หน่อย"เธอชี้ไปที่โต๊ะใกล้ ๆ อ่างล้างจานซึ่งมีพริกแกงที่ตำแล้วถ้วยเล็ก ๆ วางอยู่ ผมหยิบพริกแกงนั้นส่งให้เธอ แต่ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าเธอกินพริกแกงได้เหรอ

              "แก้วมันเผ็ดไม่ใช่เหรอ พริกแกงนั่นน่ะ"

              "ก็เผ็ดนะ แต่ทำน้ำพริกอ่องใส่พริกแกงแค่นิดเดียว ใส่น้ำเข้าไปอีกนิดพอขลุกขลิกก็ไม่ค่อยเผ็ดแล้ว"เธออธิบายพลางปรุงรสเจ้าน้ำพริกอ่องไปด้วย

              "ไท...มะเขือจ้ะ"เธอหันมาบอกทั้งที่ตัวเองง่วนอยู่กับการผัด

              "อ่ะนี่"ผมส่งมะเขือเทศให้เธอ เธอผัดอีก 2 – 3 ทีก็ปิดเตาแก๊ส ระหว่างที่เธอผัดอยู่ผมก็เป็นลูกมือที่ดีหาจานมารอเอาไว้

              "รู้หน้าที่ดีนี่ ขอบคุณนะ"แล้วเธอก็ค่อย ๆ ตักน้ำพริกอ่องใส่จานลายสวยอย่างเบามือ เสร็จแล้วจึงเช็ดขอบจานที่เปื้อนอีกทีเป็นอันเรียบร้อย เราช่วยกับยกอาวุธในการกินทั้งจาน ช้อน ส้อมและกับข้าวไปที่โต๊ะกินข้าว โดยที่กับข้าววันนี้มีไข่เจียว ต้มจืดวุ้นเส้นและน้ำพริกอ่อง 

              "เป็นไงไท กับข้าวใช้ได้ไหม"เธอถามเมื่อผมตักกับข้าวคำแรกเข้าปากแล้ว

              "อืม...ก็ดี กินได้ละกัน"ผมไม่อยากจะบอกว่าอร่อย เดี๋ยวยัยนกแก้วจะเหลิง (ความจริงกลัวตัวเองเสียหน้าอ่ะดิที่ไปว่าเขาเอาไว้) 



              รู้สึกว่าวันนี้ผมจะเจริญอาหารมาก กินไปเสียตั้งสองจาน(กว่า ๆ) ข้าวที่ยัยนกแก้วหุงไว้เกลี้ยงหม้อเลย ข้าวประมาณค่อนหม้ออยู่ในท้องของผมตอนนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากินเข้าไปได้อย่างไร

              "เออเนาะแค่กินได้อ่ะนะ"เธอพูดขำ ๆ พร้อมกับมองดูความว่างเปล่าในหม้อข้าว ผมรู้สึกว่าตอนนี้เธอคงลืมเรื่องเมื่อตอนบ่ายไปแล้วกระมังสีหน้าของเธอดูดีขึ้นเป็นกองเลยต่างกับเมื่อตอนบ่ายลิบลับ ผมช่วยเธอเก็บจานไปล้างที่อ่างล้างจานตอนแรกผมกะว่าจะช่วยเธอล้างแต่เธอไล่ผมให้ไปนั่งเฉย ๆ ที่โต๊ะรับแขก

              "ไปนั่งตรงนั้นเลยนะ มีบ้านไหนบ้างใช้แขกที่มาที่บ้านล้างจาน"และแล้วผมก็ขัดเธอไม่ได้เลยต้องมานั่งที่โซฟานี้ เผด็จการจริง ๆ ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ (ก็ผู้หญิงแบบยัยนกแก้วไง) ระหว่างนั่งรออยู่ผมก็คิดอะไรเพลิน ๆ แล้วความคิดประหลาดก็แล่นเข้ามาในหัวของผม (อีกแล้ว)

              'ยัยนกแก้วทำกับข้าวเป็น อย่างน้อยก็ได้กินน้ำพริกอ่อง ต้มจืด แล้วก็ไข่เจียวละเนอะ"แล้วผมก็ยิ้มน้อย ๆ กับความคิดของตัวเอง 

              "ไท...ไท!!"ยัยนกแก้วตะโกนเรียกผมจนผมตกใจ 

              "จะเรียกทำไมเสียงดังอยู่กันแค่นี้"หันมาต่อปากต่อคำกับเธอพร้อมกับที่กลบเกลื่อนสีหน้าของผมเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว 'ไอ้ไทเอาอีกแล้วนะช่วงนี้ท่าจะบ้า คิดอะไรวะเป็นตุเป็นตะ'

              "เรียกแล้วไม่ได้ยินนี่ แล้วอมยิ้มอยู่คนเดียวเป็นไรป่าว"

              "ก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยน่ะ  ไม่มีอะไรหรอก"ผมก็โกหกไปน้ำขุ่น ๆ แต่เธอก็ไม่ติดใจสงสัยอะไร อาจจะเพราะโทรศัพท์มือถือของเธอเกิดดังขึ้นมา



              "สวัสดีค่ะ"ฉันรีบรับโทรศัพท์โดยไม่ทันได้ดูเบอร์ที่โทรมาว่าเป็นเบอร์ของใคร ถ้ารู้ว่าเป็นใครฉันคงจะไม่รับโทรศัพท์สายนี้

              "สวัสดีครับแก้ว พี่อิฐเองนะ"

              "...พี่อิฐเหรอคะ"ฉันตกใจไม่ใช่น้อยที่พี่อิฐโทรมา ที่ฉันร้องไห้มาเกือบทั้งอาทิตย์เพราะเขายังไม่พอใจอีกหรือ แล้ววันนี้ยังตามมาซ้ำเติม คงอยากให้ฉันช้ำใจตายไปเลยหรือไร แต่นั่นก็ได้แค่ความคิดภายในใจเท่านั้น ไม่กล้าที่จะเอ่ยให้ทางปลายสายฟัง

              "ครับ คือพี่จะโทรมาขอโทษเรื่องวันนี้ที่แพทไปเสียมารยาทกับแก้วน่ะ"อีกปลายสายเอ่ยบอกจุดประสงค์ที่โทรมาแก่อีกสายให้ทราบ

              "ร...เรื่องนั้นเองรึคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ"หวังว่าพี่อิฐคงจับน้ำเสียงตอนต้นประโยคของฉันไม่ได้นะว่ามันสั่นเพียงใด

              "พี่ต้องขอโทษจริง ๆ หวังว่าแก้วคงไม่โกรธแพทนะครับ"

              "ไม่ค่ะ"ฉันปฏิเสธออกไป

              "พี่อิฐคะ แก้วขอตัวก่อนนะคะติดธุระนิดหน่อย ขอโทษนะคะ"ฉันพูดโกหกออกไป แต่มันอาจจะเป็นเพราะว่าจิตใจของฉันคงจะรับเรื่องนี้ไม่ไหวอีกแล้ว

              "เหรอครับ งั้นพี่ไม่กวนแล้วนะ สวัสดีครับ"ทางปลายสายกล่าวขอโทษ

              "สวัสดีค่ะ"เมื่อวางโทรศัพท์แล้วฉันจึงค่อย ๆ นั่งลงข้าง ๆ ไทแล้วความรู้สึกเมื่อตอนบ่ายก็หวนกลับมาพร้อม ๆ กับน้ำตา

              "แก้ว ไอ้หมอนั่นโทรมาใช่ไหม"ผมถามเธอแต่ถึงเธอไม่ตอบผมก็รู้ว่าต้องใช่ไอ้หมอนี่แน่ แก้วพยักหน้าน้อย ๆ เป็นคำตอบพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมาจากดวงตาดวงกลมใสของเธอ ไอ้หมอนี่ทำแก้วร้องไห้อีกแล้ว

              "ไท...เราขอยืมไหล่หน่อยนะ และนี่คือน้ำตาครั้งสุดท้ายที่ฉันจะเสียให้เขา...ฉันสัญญา"เธอพูดออกมาพร้อมกับเอาหัวของเธอมาพิงที่ไหล่ผมเบา ๆ ผมและเธอเราไม่ได้พูดอะไรกันอีก แต่ผมกลับรับรู้ความรู้สึกของเธอที่ถ่ายทอดมาสู่ผม ผมค่อย ๆ ดึงเธอมากอดเอาไว้แนบอก ครั้งนี้เธอไม่ได้ขัดขืนการกระทำของผมแต่อย่างใด เหมือนกับว่าตอนนี้ผมคือที่พึ่งสิ่งสุดท้ายที่เธอสามารถยึดเหนี่ยวเอาไว้ได้





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×