ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หมายเหตุประเทศไทย

    ลำดับตอนที่ #8 : ตีแผ่ความจริง ที่ถูกปิดกั้น โดย วษณ

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 53


     

    24
    ยุคสมัยแห่งสื่อเป็นฐานันดรที่ตระหนักตนชัดเจนว่า
    พวกตนนั้นมีอิทธิพลต่อสังคมทั้งอย่างอนันต์และอย่างมหันต์เพียงใด

    สื่อจึงบันดาลโทสะ ลุแก่โทสะ ที่ไม่ได้รับการสนองผลประโยชน์อย่างที่ต้องการ
    ในความต้องการแผ่ขยายเครือข่ายธุรกิจไปสู่การก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ของตน
    อันได้แก่สื่อในเครือ MGR

    สื่อจึงบันดาลโทสะ เคียดแค้น ที่พลาดหวังการครอบครองกลับคืน ในสถานีโทรทัศน์ที่ตนก่อตั้งขึ้น
    แล้วไม่สามารถรักษาไว้ได้จากเงื่อนไขอันเข้มงวด ที่ตนเองเป็นผู้เสนอเองเพื่อก่อตั้งสถานี  
    แต่ยังหวังที่จะได้กลับคืนในเงื่อนไขที่เป็นผลได้แก่ตนมากกว่าที่เคยเป็น
    อันได้แก่สื่อในเครือ NT

    เมื่อสองค่ายสื่อถือเอานายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นศัตรู ด้วยข้อหาไม่สนองและขัดความต้องการของตน
    จึงไม่น่าแปลกใจที่สองสื่อจะดำเนินการล้างสมองผู้บริโภคสื่อของตนอย่างหนักและต่อเนื่อง
    พยายามสร้างกระแสเกลียดชังหวังผลทำลายผู้ถูกยึดถือเป็นปรปักษ์

     

    25
    วันที่ 25 ธันวาคม 2550

    ศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายสนธิ ลิ้มทองกุล 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
    โดยศาลพิจารณาเห็นว่า นายสนธิเปิดประเด็นกล่าวหานายกฯ ทักษิณ อย่างต่อเนื่อง
    ให้เป็นที่สงสัยกำกวม หวังสร้างกระแสโค่นล้มนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่ง
    การกระทำกระทบโครงสร้างทางสังคมครั้งใหญ่
    เกิดความขัดแย้งอย่างมากระหว่างผู้สนับสนุนสองฝ่าย ต่างมุ่งห้ำหั่นล้างผลาญกัน
    สถานภาพสังคมไทยเกิดความสูญเสีย ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง

    พฤติการณ์กล่าวปราศรัยของนายสนธิ
    การแต่งกายของนายสนธิที่ใช้เสื้อสีเหลือง
    และข้อตวามที่เสื้อว่า เราจะสู้เพื่อในหลวง
    ล้วนพยายามสร้างภาพของทักษิณ ชินวัตร และประชาชนผู้สนับสนุน
    ให้ยืนอยู่ตรงข้ามสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
    เป็นการแยกประชาชนคนไทยให้เป็นฝ่ายตรงข้ามสถาบันฯ
    นับเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ

    การที่นายสนธิพยายามดึงสถาบันอันเป็นที่รักเคารพ เทิดทูนสูงสุดของประชาชนทุกหมู่เหล่า
    มาเป็นเครื่องมือในการกำจัดนายกฯ ทักษิณกับพวกในทางการเมือง
    พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะร้ายแรง
    เพื่อไม่ไห้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
    จึงพิพากษาจำคุกนายสนธิเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา

    หลังฟังคำพิพากษา นายสนธิกล่าวว่าจะยื่นขอประกันตัวและจะอุทธรณ์สู้คดี

     

    26
    วันที่ 22 ก.ย.51

    หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือพิมพ์เครือเดอะเนชั่นกรุ๊ป
    ตีพิมพ์คำขอโทษอย่างเป็นทางการตามคำสั่งศาล ในกรณีที่ได้แสดงความเท็จ
    กล่าวหาว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด  CTX เพื่อใช้ในสนามบินสุวรรณภูมิ
    ซึ่งกลุ่ม พธม. ได้ใช้เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในการโจมตีรัฐบาลในขณะนั้น
    สร้างเงื่อนไขให้ทหารทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร

     

    27
    เรื่องราวแอบอ้างเสื้อสีเหลือง
    เรื่องราวเท็จของ CTX
    เป็นอดีตเพียงช่วงเริ่มต้นๆ ของการทำร้ายและทำลายโดยใช้สื่อใส่ความ
    สำแดงอิทธิพลให้ประจักษ์โดยทั่วไป
    ให้ยำเกรงต่อการกรรโชกเรียกร้อง

     

    28
    ความผยอง อหังการ ของสื่อ
    เห็นได้จากการกระทำของผู้ที่แม้เป็นเพียงสื่อตัวเล็กๆ
    แต่ความบังอาจโอหังที่แสดงออก อย่างไม่เกรงใจความรู้สึกของประชาชน
    ดังเช่นกรณีนายวิศาล ที่ไม่รู้ว่าชูวิทย์ไม่มีข้อด้อย มีแต่ข้อศอก

    เสียงตอบโต้วิจารณ์ สะท้อนกลับนายวิศาล อย่างกว้างขวางต่อกรณีที่เกิดขึ้น

     

    29
    การหลอกลวงว่าทรัพย์สินของครอบครัวชินวัตรเพิ่มขึ้นหลายหมื่นล้านบาท
    มาจากการโกงนั้น ง่ายต่อการหลอกให้เชื่อ
    ง่ายต่อการสร้างความอิจฉาริษยา เคียดแค้น ชิงชัง ให้เกิดขึ้นแก่ผู้ถูกยุยงปลุกปั่น

    กลุ่มธุรกิจต่างๆในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากทักษิณ ชินวัตร เข้าบริหารประเทศ
    มูลค่าธุรกิจต่างเติบโตขึ้น 2 ถึง 6 เท่า เป็นส่วนใหญ่ จากราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น
    มูลค่าธุรกิจของกลุ่มปูนซีเมนต์ไทย กลุ่ม ปตท. กลุ่ม ทีพีไอ กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์
    เติบโตขึ้น 5-6 เท่า
    มูลค่าธุรกิจในระดับยอดหญ้าต่างเติบโตขึ้น
    รวมถึงมูลค่าธุรกิจของครอบครัวชินวัตรที่เติบโตขึ้นประมาณ 2.6 เท่า
    ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดหมื่นกว่าล้านบาทของกลุ่มชินวัตรเป็นเรื่องปกติ
    และไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายแต่อย่างใดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ

    เมื่อเศรษฐกิจของประเทศแข็งแกร่ง
    มูลค่าธุรกิจต่างๆของประเทศก็เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงมูลค่าธุรกิจของครอบครัวชินวัตร
    การที่ผู้ใดสร้างผลประโยชน์แก่ประเทศ แล้วตนเองได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
    ถูกประดิษฐ์ถ้อยคำกล่าวหาให้เกิดอคติว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน
    ถ้าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ กลับสมควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×