คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ตีแผ่ความจริง ที่ถูกปิดกั้น โดย วษณ
24
ยุคสมัยแห่งสื่อเป็นฐานันดรที่ตระหนักตนชัดเจนว่า
พวกตนนั้นมีอิทธิพลต่อสังคมทั้งอย่างอนันต์และอย่างมหันต์เพียงใด
สื่อจึงบันดาลโทสะ ลุแก่โทสะ ที่ไม่ได้รับการสนองผลประโยชน์อย่างที่ต้องการ
ในความต้องการแผ่ขยายเครือข่ายธุรกิจไปสู่การก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ของตน
อันได้แก่สื่อในเครือ MGR
สื่อจึงบันดาลโทสะ เคียดแค้น ที่พลาดหวังการครอบครองกลับคืน ในสถานีโทรทัศน์ที่ตนก่อตั้งขึ้น
แล้วไม่สามารถรักษาไว้ได้จากเงื่อนไขอันเข้มงวด ที่ตนเองเป็นผู้เสนอเองเพื่อก่อตั้งสถานี
แต่ยังหวังที่จะได้กลับคืนในเงื่อนไขที่เป็นผลได้แก่ตนมากกว่าที่เคยเป็น
อันได้แก่สื่อในเครือ NT
เมื่อสองค่ายสื่อถือเอานายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เป็นศัตรู ด้วยข้อหาไม่สนองและขัดความต้องการของตน
จึงไม่น่าแปลกใจที่สองสื่อจะดำเนินการล้างสมองผู้บริโภคสื่อของตนอย่างหนักและต่อเนื่อง
พยายามสร้างกระแสเกลียดชังหวังผลทำลายผู้ถูกยึดถือเป็นปรปักษ์
25
วันที่ 25 ธันวาคม 2550
ศาลอาญาชั้นต้นพิพากษาจำคุกนายสนธิ ลิ้มทองกุล 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
โดยศาลพิจารณาเห็นว่า นายสนธิเปิดประเด็นกล่าวหานายกฯ ทักษิณ อย่างต่อเนื่อง
ให้เป็นที่สงสัยกำกวม หวังสร้างกระแสโค่นล้มนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่ง
การกระทำกระทบโครงสร้างทางสังคมครั้งใหญ่
เกิดความขัดแย้งอย่างมากระหว่างผู้สนับสนุนสองฝ่าย ต่างมุ่งห้ำหั่นล้างผลาญกัน
สถานภาพสังคมไทยเกิดความสูญเสีย ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง
พฤติการณ์กล่าวปราศรัยของนายสนธิ
การแต่งกายของนายสนธิที่ใช้เสื้อสีเหลือง
และข้อตวามที่เสื้อว่า เราจะสู้เพื่อในหลวง
ล้วนพยายามสร้างภาพของทักษิณ ชินวัตร และประชาชนผู้สนับสนุน
ให้ยืนอยู่ตรงข้ามสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
เป็นการแยกประชาชนคนไทยให้เป็นฝ่ายตรงข้ามสถาบันฯ
นับเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศชาติ
การที่นายสนธิพยายามดึงสถาบันอันเป็นที่รักเคารพ เทิดทูนสูงสุดของประชาชนทุกหมู่เหล่า
มาเป็นเครื่องมือในการกำจัดนายกฯ ทักษิณกับพวกในทางการเมือง
พฤติการณ์แห่งคดีมีลักษณะร้ายแรง
เพื่อไม่ไห้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
จึงพิพากษาจำคุกนายสนธิเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
หลังฟังคำพิพากษา นายสนธิกล่าวว่าจะยื่นขอประกันตัวและจะอุทธรณ์สู้คดี
26
วันที่ 22 ก.ย.51
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือพิมพ์เครือเดอะเนชั่นกรุ๊ป
ตีพิมพ์คำขอโทษอย่างเป็นทางการตามคำสั่งศาล ในกรณีที่ได้แสดงความเท็จ
กล่าวหาว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นการจัดซื้อเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด CTX เพื่อใช้ในสนามบินสุวรรณภูมิ
ซึ่งกลุ่ม พธม. ได้ใช้เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในการโจมตีรัฐบาลในขณะนั้น
สร้างเงื่อนไขให้ทหารทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
27
เรื่องราวแอบอ้างเสื้อสีเหลือง
เรื่องราวเท็จของ CTX
เป็นอดีตเพียงช่วงเริ่มต้นๆ ของการทำร้ายและทำลายโดยใช้สื่อใส่ความ
สำแดงอิทธิพลให้ประจักษ์โดยทั่วไป
ให้ยำเกรงต่อการกรรโชกเรียกร้อง
28
ความผยอง อหังการ ของสื่อ
เห็นได้จากการกระทำของผู้ที่แม้เป็นเพียงสื่อตัวเล็กๆ
แต่ความบังอาจโอหังที่แสดงออก อย่างไม่เกรงใจความรู้สึกของประชาชน
ดังเช่นกรณีนายวิศาล ที่ไม่รู้ว่าชูวิทย์ไม่มีข้อด้อย มีแต่ข้อศอก
เสียงตอบโต้วิจารณ์ สะท้อนกลับนายวิศาล อย่างกว้างขวางต่อกรณีที่เกิดขึ้น
29
การหลอกลวงว่าทรัพย์สินของครอบครัวชินวัตรเพิ่มขึ้นหลายหมื่นล้านบาท
มาจากการโกงนั้น ง่ายต่อการหลอกให้เชื่อ
ง่ายต่อการสร้างความอิจฉาริษยา เคียดแค้น ชิงชัง ให้เกิดขึ้นแก่ผู้ถูกยุยงปลุกปั่น
กลุ่มธุรกิจต่างๆในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากทักษิณ ชินวัตร เข้าบริหารประเทศ
มูลค่าธุรกิจต่างเติบโตขึ้น 2 ถึง 6 เท่า เป็นส่วนใหญ่ จากราคาหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้น
มูลค่าธุรกิจของกลุ่มปูนซีเมนต์ไทย กลุ่ม ปตท. กลุ่ม ทีพีไอ กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์
เติบโตขึ้น 5-6 เท่า
มูลค่าธุรกิจในระดับยอดหญ้าต่างเติบโตขึ้น
รวมถึงมูลค่าธุรกิจของครอบครัวชินวัตรที่เติบโตขึ้นประมาณ 2.6 เท่า
ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดหมื่นกว่าล้านบาทของกลุ่มชินวัตรเป็นเรื่องปกติ
และไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายแต่อย่างใดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่นๆ
เมื่อเศรษฐกิจของประเทศแข็งแกร่ง
มูลค่าธุรกิจต่างๆของประเทศก็เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงมูลค่าธุรกิจของครอบครัวชินวัตร
การที่ผู้ใดสร้างผลประโยชน์แก่ประเทศ แล้วตนเองได้รับผลประโยชน์ไปด้วย
ถูกประดิษฐ์ถ้อยคำกล่าวหาให้เกิดอคติว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อน
ถ้าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนเช่นนี้ กลับสมควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น