ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หมายเหตุประเทศไทย

    ลำดับตอนที่ #10 : กลไกที่บิดเบี้ยว โดย วษณ

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 53



    33
    กลุ่มอำมาตยาธิปไตย เป็นเพียงส่วนหนึ่งของพวกอภิสิทธิ์ชนธิปไตย
    คือกลุ่มคนผู้ต้องการระบอบอภิสิทธิ์ชน-อำมาตยาธิปไตย
    คือระบอบการปกครองที่เป็นของอภิสิทธิ์ชน โดยอภิสิทธิ์ชน เพื่ออภิสิทธิ์ชน เฉพาะกลุ่มของตน
    อันต้องไม่มีการพัฒนาใดๆไปสู่ความเป็นของราษฎร โดยราษฎร เพื่อราษฎร เป็นอันขาด
    ต่างก็เข้ารวมหัวกัน เป็นตัวการเบื้องหน้า ผู้สนับสนุน ตัวการเบื้องหลัง และไอ้โม่งในมุมมืด
    ร่วมมือกันโค่นล้มนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร
    เพื่อที่จะคงไว้ซึ่งการยึดกุมควบคุมอำนาจทางการเมือง คงอภิสิทธิ์กดขี่เหนือประชาชนธรรมดาปกติทั่วไป
    และการเกาะสูบเอาผลประโยชน์ต่างๆแก่ตนไว้

     

    34
    ศาลผู้พิจาณาตัดสินคดี เป็นผู้ดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม สมควรแก่การเคารพในคำตัดสินพิพากษา
    แต่ผู้ที่ถูกจัดสรรมา โดยการเอาพรรคพวกที่ตั้งตนเป็นปรปักษ์เป็นศัตรูกับทักษิณ
    มาดำเนินกระบวนการตัดสิน เอาผิดกับทักษิณ
    ถูกบอกว่าสมควรแก่การเคารพในคำตัดสินพิพากษาเช่นกัน
    ความจริงคือ ต่างกระบวนการ ต่างคณะ ต่างบุคคล ซึ่งต่างกันกับผู้ตัดสินและกระบวนการตัดสินอย่างยุติธรรม

    ในเวลานี้กระบวนการพิพากษามีสองภาค แฝงร่างซ่อนเร้นอยู่
    หนึ่งเป็นกระบวนการอันยุติธรรม
    อีกหนึ่งเป็นกระบวนการแอบแฝงหลอกลวง
    ดังเช่น กระบวนการพิพากษาส่วนหนึ่งถูกจัดตั้งโดย คมช.
    เต็มไปด้วยบุคคลอคติ บุคคลเป็นศัตรู บุคคลมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้อง บุคคลขัดแย้งผลประโยชน์
    ทำไปได้ถึงขนาด
    ออกกฎหมาย...ย้อนหลังไปให้มีความผิดมีโทษในอดีต
    ไม่เพียงเท่านั้น
    ยังออกกฎหมาย...ล่วงหน้าไปยกเว้นการกระทำผิดของพวกฝ่ายตน
    อย่างครอบจักรวาล

     

    35
    จัดรายการชิมไปบ่นไป
    อ้างพจนานุกรมว่าเป็นลูกจ้าง ได้เงินตอบแทน
    เอาโทษถึงปลดนายกฯ สมัคร จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    แต่ผู้ร่วมกระบวนการพิพากษา
    ไปบรรยายเลคเชอร์เป็นงานพิเศษ ไปจัดรายการวิทยุ ได้เงินตอบแทน
    บอกว่าไม่เป็นลูกจ้าง แต่เป็นการประสิทธิ์ประสาทให้วิชาความรู้

    ถูกยุบพรรค อย่างไม่เลิกรา หาทางจะยุบอีกครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างชวนพิศวง
    แต่อีกฝ่ายคือพรรคเก่าแก่ ที่เปรียบเทียบตนเองเหมือนแมลงสาบ
    ในความสามารถดำรงเผ่าพันธุ์มาได้อย่างยาวนานนั้น
    ลอยนวลอย่างน่าสนเท่ห์

     

    36
    กฎหมายที่บัญญัติด้วยอคติ
    โดยองค์กรที่ถูกบิดเบือนล่อลวงให้ยอมรับเป็นรัฐาธิปัตย์ เช่น คมช.
    แท้จริงคือองค์กรโมฆะ
    ไม่อาจยอมให้ถือเป็นรัฐาธิปัตย์ได้ด้วยที่มาจากการขู่เข็ญ
    ที่ต้องชำระล้างการกระทำไม่บริสุทธิ์ให้หมดสิ้น

     

    37
    กรณีซื้อที่ดินที่ถนนรัชดาภิเษก

    .........หากดูที่การกระทำอย่างเปิดเผยบริสุทธิ์
    คุณหญิงพจมานกระทำการซื้อขายโดยเปิดเผยสุจริต
    โดยได้มีการสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ
    ซึ่งก็ได้รับการตอบรับยืนยันว่าสามารถกระทำการซื้อที่ดินผืนนี้ได้

    .........หากดูที่อำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง
    กองทุนฟื้นฟูอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย
    นอกเหนืออำนาจใดๆของนายกรัฐมนตรี
    ซึ่งการเบิกความของศาลให้อดีตนายกรัฐมนตรี 3 ท่านชี้แจง
    อดีตนายกฯ บรรหาร อดีตนายกฯ ชวน และอดีตนายกฯ ชวลิต
    ต่างให้การเช่นเดียวกันหมดว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจสั่งการใดเหนือธนาคารแห่งประเทศไทยได้

    .........หากดูที่การก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศหรือไม่
    จากเดิมที่ประกาศขาย ไม่มีใครสนใจจะซื้อ
    จนกระทั่งคุณหญิงพจมานแสดงความประสงค์เสนอซื้อ
    ได้เสนอซื้อในราคา 772 ล้านบาท
    สูงกว่าที่กลุ่มโนเบิลเสนอ  750 ล้านบาท
    สูงกว่าที่กลุ่มแลนด์แอนด์เฮ้าส์เสนอ 730 ล้านบาท
    แม้มีการพยายามสร้างเรื่องว่าราคาประเมินคือ 840 ล้านบาท
    แต่รวมเอาส่วนพื้นที่เป็นถนนและคลองสาธารณะไว้ด้วย
    โดยที่ต้นทุนของกองทุนฟื้นฟูทั้งหมด 107 ล้านบาท
    ความจริงคือไม่มีสิ่งใดเป็นความเสียหาย
    ตรงข้ามกลับมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติ

    .........หากดูที่เจตนา
    จากที่กล่าวมาข้างต้น ย่อมเห็นได้ชัดเจนว่า
    การซื้อที่ดินที่ถนนรัชดาภิเษก ไม่ได้มีการฉ้อโกงใดๆ และไม่มีเจตนาฉ้อโกงใดๆ
    การที่ถูกพิพากษาความผิดในแง่มุมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
    ก็เป็นการกระทำตามกฎระเบียบที่คู่สมรสต้องให้ความยินยอมในการทำนิติกรรม

    โทษที่พิพากษาถึงจำคุกสองปี ไม่รอลงอาญา
    รุนแรงมากจนเกินกว่าความยุติธรรมไปหรือไม่

     

    38
    เปรียบเทียบกับการซื้อที่ดินที่ถนนรัชดาภิเษกกับการแอบแจกที่ดิน สปก.  
    โดยพรรคการเมืองเก่าแก่ ให้แก่ผู้มีฐานะมั่งคั่งระดับเศรษฐี
    ถูกบอกว่าเป็นการแจกให้ฟรีตามสิทธิอันสมควร

     

    39
    การขายหุ้นของกลุ่มชินฯ  ในราคาสูง แก่ต่างชาติ
    ด้วยเจตนาเพื่อพยายามให้ครอบครัวของตนปลอดจากธุรกิจให้มากที่สุดของทักษิณ ชินวัตร
    และเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกโจมตีจากกลุ่มคนที่ต้องการโค่นล้มให้ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
    ถูกบอกว่าเป็นการขายสมบัติชาติ
    การขายหุ้นที่เป็นเจ้าของสัมปทานสิทธิในธุรกิจโทรศัพท์มือถือและสัมปทานสิทธิในดาวเทียม
    ไม่ใช่การขายสมบัติชาติ
    เปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ เหมือนให้เช่าที่ดินไปสร้างตึกหาผลประโยชน์
    เมื่อหมดเวลา ก็จะต้องกลับคืนมา
    โดยที่ผู้ซื้อรับช่วงต่อจากกลุ่มชินฯ มีภาระต้องสร้างและพัฒนาเครือข่ายเพิ่มขึ้นเพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ
    รัฐได้ทั้งค่าสัมปทาน ได้ทั้งระบบโทรศัพท์มือถือและดาวเทียมเป็นสมบัติของชาติเมื่อหมดสัญญา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×