ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Will Not Love ยากจะรัก Kihae

    ลำดับตอนที่ #39 : Will Not Love 29

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 702
      1
      26 ม.ค. 53

    เมื่อถึงวันที่ทั้งสามพี่น้องต้องเดินทางไปสัมมนาที่เกาะนามิ ที่วันนี้ฮาเจอาสาเป็นสารถีให้กับน้องชายทั้งสองเอง ที่ไม่ต้องให้คนขับรถที่ทางโรงเรียนส่งมารับนั้นกลับไปพักผ่อนได้ตามสบาย ที่คิบอมดึงมือดงเฮให้มานั่งข้างหลังด้วยกัน ส่วนฮาเจนั้นขึ้นมานั่งที่คนขับที่อดที่จะเล่นกับน้องชายไม่ได้
                    “จะไปไหนกันดีครับ คุณชายทั้งสอง”ชายหนุ่มแหย่กระเซ้าน้องชายที่ดงเฮชะโงกหน้าหน้ามาหาพี่ชาย
                    “ไปเกาะนามิครับ สารถีสุดหล่อช่วยขับบพาผมสองคนไปได้มั๊ยครับ”
                    “ไม่มีปัญหาครับ สำหรับคุณชายทั้งสอง”
                    ฮาเจเคลื่อนรถออกจากหน้าบ้านแล้วแล่นตรงสู่เกาะนามิที่คือจุดหมายของทั้งสาม ตลอดทางที่ฮาเจขับรถแล่นผ่านมา ที่มีทั้งธรรมชาติที่สวยงามของประเทศ ที่ดงเฮนั่งมองดูธรรมชาติริมทาง บางทีก็สะกิดให้คิบอมมามองดูด้วยกันและชี้ดน้นชี้นี้ให้กับคิบอมดูอย่างสนใจกับภาพนั้นที่เห็นด้วยกัน
                    เมื่อร่างกายเริ่มที่อ่อนล้าและง่วงขึ้นมาร่างเล็กก็กลับมาซบไหล่ของน้องชายจนหลับไป ที่มีคิบอมนั่งมองดูใบหน้าที่แสนหวานและคอยปัดผมที่ตกลงมาปกมาบังหน้าหวานของพี่ชายและยังคงนั่งกุมมือของพี่ชายแล้วก็หลับตามไปอีกคน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทั้งสองปฎิบัติให้กันนั้นอยู่ในสายตาของลีฮาเจทั้งหมด
                    มันคงไม่เป็นอย่างที่ผมคิดใช่มั๊ย
                    กว่าจะมาถึงเกาะนามิก็ไปเกือบสองสามชั่วโมง ความสวยงามของเกาะทำให้ดงเฮถึงกับตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศที่สวยงามและความเป็นเอกลักษณ์ของเกาะ ลักษณะของเกาะนั้นเป็นเกาะกลางแม่น้ำ ที่มีรูปร่างเหมื่อนใบไม้ลอยน้ำ ซึ่งเป็นเกาะสำหรับคู่รักที่จะมาฮันนีมูนกัน ไฮไลต์ของที่นี้อยู่ที่ถนนสองฟากเป้นทิวสนที่ทอดแนวยาวตลอดทาง ทำให้รู้ถึงความโรแมนติคสำหรับคู่รักทุกคู่ที่ได้มาที่นี้
     
                    เมื่อมาถึงเล­ขานาฮึนก็ออกมาต้อนรับท่านผู้อำนวยการหนุ่มที่ล็อบบี้ของโรงแรมที่จัดเตรียมไว้ในการสัมมนาครั้งนี้
                    “นี่กุญแจห้องค่ะท่าน”เล­ขานาฮึนยืนกุญแจสองพวงให้กับผู้อำนวยการหนุ่ม “พอดีทางโรงแรมห้องเต็มค่ะท่าน เหลือแค่สองห้องพอดีค่ะ”
                    “ไม่เป็นไร เชิญคุณไปพักผ่อนได้ตามสบายเถอะครับ”ลีฮาเจบอกกับเลขาสาว ที่เลขาโค้งเล้กน้อยแล้วเดินออกไป แล้วฮาเจก็ยื่นพวงกุญแจอีกห้องให้กับน้องชายทั้งสอง “เดี๋ยวเราสองคนพักห้องเดียวกันนะ ส่วพี่จะพักอีกห้องหนึ่ง”
                    “อ่ะ แล้วผมสองคนต้องเข้าต้องเข้าประชุมด้วยมั๊ยฮ่ะ”ดงเฮถามพี่ชาย
                    “เราสองคนไม่ต้องเข้าสัมมนากับพี่ ที่พี่ให้เราสองคนมาด้วยก็แค่อยากจะพาเราสองคนมาเที่ยวด้วยกันแค่นั้น”
                    “พี่ฮาเจใจดีจังเลยฮ่ะ”ดงเฮกระโดดกอดพี่ชายและหอมแก้มทั้งสองข้างที่ฮาเจก็เอามือลูบผมน้องชาย ที่คิบอมยืนนหน้าบึงอยู่
                    “พี่ว่าเราสองคนขึ้รไปพักผ่อนกันก่อนดีกว่า ท่าทางคิบอมของเราจะเหนื่อยมาก”
                    ฮาเจที่หันมามองน้องชายก็อดที่จะแกล้งกระเซ้าน้องชายไม่ได้ ที่ดงเฮรู้ดีว่าเจ้าน้องชายคนนี้เป็นอะไรกันแน่ ไม่ใช่ว่าเหนื่อยหรอกนะ แต่คงจะหึงมากกว่าล่ะซิ
                    ผมไม่อยากขึ้นห้องแล้วล่ะซิ ขึ้นไปผมได้เสร็จปลาบู่แน่ๆ
     
                    สองพี่น้องที่แยกขึ้นมาบนห้องที่ถูกจัดเอาไว้เรียบร้อย ที่คิบอมล้มตัวลงไปนอนเกลือกกลิ้งบนฟูก ส่วนดงเฮก็จัดเอาเสื้อผ้าใส่ตู้ให้เรียบร้อย เมื่อจัดเสร็จก็เดินมาตรงระเบียงมองดูทิวทัศน์ธรรมชาติ ที่เห็นแม่น้ำรอบๆเกาะและเห็นทิวสนที่ทอดแนวตลอด ที่ให้บรรยากาศสุดๆ ที่ดงเฮสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
                    คิบอมที่เดินเข้ามาโอบเอวแล้ววางคาสงเกยไว้กับไหล่ลาด ที่ดงเฮหันมายิ้มหวานให้กับน้องชาย ที่คิบอมกดจมูกโด่งลงบนแก้มอย่างย่ามใจ
                    “คิบอมพรุ่งนี้ เราไปเที่ยวด้วยกันนะ”
                    “ได้ซิฮ่ะ พรุ่งนี้ผมจะพาพี่ไปทุกทีเลย”
                    ดงเฮหันมายิ้มให้กับน้องชายอีกครั้ง ที่คิบอมโอบรัดเอวบางให้มาแนบชิดมากขึ้นและมองดูบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติคในยามเย็น ที่พระอาทิตย์กำลังตกลงกลางแม่น้ำที่จะลาลับฟ้าอีกไม่นาน
                    ฮาเจที่นั่งอยู่ในห้องที่เค้าคิดและเป็นกังวัลกับความสัมพันธ์ของน้องชายทั้งสอง ที่ดูแล้วมันอาจจะเกินเลยมากกว่าพี่น้อง แต่เค้าก็ไม่อยากจะโทษหรือปรักปรำน้องชายของตัวเอง ถ้าไม่มีหลักฐานหรือไม่ได้ยินจากปากของน้องชายเค้าก็จะไม่เชื่อเด็ดขาด
                    “คิบอมดงเฮพี่หวังว่าเราสองคนจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังนะ”
    ฮาเจรำพันกับตัวเองและทอดมองออกไปข้างนอกที่มือสนิทในยามค่ำคืน ที่เค้าไม่อาจรู้เลยว่าน้องชายกำลังทำผิดมหันต์
    กับความรักที่กำลังมอบให้กัน
     
                    เช้าวันใหม่กับอากาศที่แสนบริสุทธิ์ ที่มีเสียงนกร้องเจื้อยแจ้วต้อนรับวันใหม่ที่ออกอาหารในยามเช้า คิบอมและดงเฮที่ออกมาทานอาหารที่ล็อบบี้ ที่มีฮาเจนั่งรออยู่แล้ว
                    “เดี๋ยวเราสองคนทานกันต่อแล้วกัน พี่ต้องไปเข้าประชุมก่อนแล้วกัน”
                    “ฮ่ะ”สองเสียงตอบออกมาพร้อมกัน ที่ลีฮาเจลุกออกจากโต๊ะไปให้น้องชายทั้งสองนั่งทานข้าวกันต่อ เมื่อพี่ชายออกไปแล้วทั้งสองก็กลับมาสวีตกันต่อ
                    “ยาหยี ป้อนปลาให้ผมหน่อยซิ ผมอยากกินปลา”คิบอมอย่างทะเล้น
                    “อยากกินใช่มั๊ยนี่แนะ”ดงเฮป้อนข้าวคำใหญ่ให้กับคิบอม ที่คิบอมไม่มีทางที่จะพูดออกมาได้เลย
                    “เดี๋ยวคืนนี้จะกินให้หมดฤทธิ์เลย”คิบอมพูดคาดโทษ
                    “คืนนี้พี่จะยอมให้กินเลย แต่ต้องพี่ไปเที่ยวก่อน โอเค”
                    คิบอมพูดจบก็ลุกขึ้นออกจากโต๊ะและดึงพี่ชายออกไปเที่ยวด้วยกัน ที่เค้าได้เช่ารถจักรยานจากทางโรงแรมเอาไว้แล้ว คิบอมได้พาพี่ชายหน้าหวานไปเที่ยวสถานที่ต่างๆในเกาะนามิ ที่คิบอมขับพาดงเฮผ่านมาที่หุ่นรูปปั้นคู่รักหนุ่มสาว ที่หญิงสาวนั้นนอนอยู่บนตักของชายหนุ่มที่ชายหนุ่มนั้นโอบกอดหญิงสาวเอาไว้ ที่รูปปั้นนี้บ่งบอกถึงความรักของคู่รักที่มีให้กัน เมื่อดงเฮได้เห็นภาพรูปปั้นคู่รักนั้นถึงกับระบายยิ้มออกมาและกอดเอวของน้องชายไว้แน่นกับความรักที่มีให้กันกับน้องชาย
                    คิบอมขี่จักรยานมาถึงที่ทิวสนที่ถนนสองฟากที่ทอดเป็นแนวยาว ที่มีใบไม้ร่วงโรยลงมาที่เปลี่ยนสีจากสีแดงเป็นสีเหลืองเพราะช่วงนี้เป็นหน้าฤดูใบไม้ร่วง ทำให้คนสองคนยืนมองดูใบไม้ร่วงลงมาอย่างมีความสุขกับบรรยากาศที่แสนจะโรแมนติคที่ได้ยืนอยู่เคียงข้างกัน
                    คิบอมวางจักรยานและเดินจูงมือพี่ชายออกไปด้วยกัน ทำให้ดงเฮทั้งงงและสงสัยว่าเจ้าน้องชายตัวดีจะพาไปไหนกันแน่ แต่ดงเฮก็เดินตามและเดินตามรอยเท้าของคิบอมที่เดินนำหน้า เมื่อคิบอมหันมามองและเห็นพี่ชายกำลังเดินย้ำรอยเท้าของตัวเองอยู่ทำให้ชายหนุ่มถึงกับยิ้มออกมาและเดินเข้ามาหาพี่ชายหน้าหวาน
                    “พี่รู้ใช่มั๊ย ว่าที่พี่ทำอยู่มันหมายถึงอะไร”ดงเฮมองตาแป่ว คิบอมก้มลงมากระซิบ “ก็หมายถึงพี่จะอยู่กับผมตลอดไป พี่ยอมมอบชีวิตทั้งหมดของพี่ให้ผมดูพี่ตลอดชีวิต”
                    “ก็พี่รู้ซิ พี่ถึงทำแบบนี้”ดงเฮบอกอย่างเขินอาย
                    “งั้นเราไปเขียนคำสัญญาที่ต้นสนกัน”คิบอมดึงมือดงเฮมาที่ต้นสนต้นหนึ่งและเขียนคำสัญญาเอาไว้ที่ต้นสนที่ใช้เป็นพยานรักของทั้งสอง
                    “ผมคิมคิบอมจะดูแลลีดงเฮคนนี้ด้วยชีวิตของผม”ดงเฮที่อ่านข้อความของน้องชายถึงกับยิ้มออกมาและเขียนลงข้างๆน้องชาย
                    “ผมลีดงเฮ ยอมมอบชีวิตและหัวใจของผมให้กับคิมคิบอมเพียงคนเดียว”
                    คิบอมดึงร่างเล็กเข้ามาจูบเมื่อได้อ่านข้อความที่พี่ชายได้เขียนเอาไว้ ใบไม้ร่วงหล่นลงมากับความรักทั้งสอง ที่ร่วงหล่นลงมาบนร่างของชายหนุ่มที่กำลังมอบจุมพิตกันอยู่ ที่ใบไม้พัดปลิวสไหวรอบๆตัว
     
                    ลีฮาเจที่หมดการประชุมของวันนี้และถามหาน้องชายทั้งสองจากเลขา
                    “คิบอมกับดงเฮอยู่หรือเปล่าคุณนาอึน”
                    “คุณทั้งสองออกไปเที่ยวตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ”
                    “เดี๋ยวผมจะออกไปข้างนอก ถ้าทั้งสองกลับมาบอกด้วยล่ะกันว่าผมไปธุระข้างนอกเดี๋ยวกลับ”
                    “ค่ะท่าน”
                    ลีฮาเจเดินออกไปได้สักพัก คิบอมและดงเฮก็กลับเข้ามาในโรงแรม ที่เลขานาอึนยืนอยู่หน้าล็อบบี้
                    “พี่ฮาเจล่ะครับ”ดงเฮถามขึ้น
                    “ท่านออกไปทำธุระข้างนอกค่ะ คุณทั้งสองมีอะไรหรือเปล่าค่ะ”
                    “ไม่มีอะไรฮ่ะ เชิญคุณเลขาตามสบายเถอะฮ่ะ”คิบอมบอกออกมาทันที
                    “งั้นดิชั้นขอตัวก่อนนะค่ะ”เลขาโค้งเล็กน้อยและเดินออกไป ที่คิบอมหันมายิ้มให้กับพี่ชายอย่างเจ้าชู้
                    “ทางสะดวกแล้วอ่ะ ผมว่าเราขึ้นไปกินปลากันดีกว่า”
                    ดงเฮไม่ทันพูดอะไรก็โดนคิบอมลากขึ้นไปบนห้องทันที ที่ดงเฮไม่ต้องคิดอะไรเลยว่าขึ้นไปบนห้องแล้วจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้
     
                    ช่วงหัวค่ำที่ลีฮาเจกลับมาถึงโรงแรมแล้วเตรียมที่จะเข้าห้องของตัวเอง แต่เค้าก็ดันเปลี่ยนใจไปห้องของน้องชายแทน ยังไม่ทันเดินถึงห้องเลขานาอึนก็เดินเข้ามาหาผอ.หนุ่ม
                    “มีอะไรเปล่าคุณนาอึน”
                    “คือดิชั้นยังไม่เห็นคุณคิบอมคุณดงเฮลงไปทานอาหารเย็นเลยค่ะท่าน”
                    “งั้นคุณไปพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
                    “ค่ะท่าน”เลขาโค้งเล็กน้อย
                    เมื่อเลขาเดินออกไป ชายหนุ่มจึงเดินตรงไปที่ห้องของน้องชายทั้งสอง ที่ตอนแรกจะเคาะประตูแต่ดันเห็นว่าประตูเปิดอยู่ ทำให้ฮาเจเดินเข้ามาในห้อง เมื่อเดินเข้ามาในห้องถึงกับช็อกกับภาพที่เห็น ร่างกายของคนเป็นพี่ที่เห็นน้องชายทั้งสองนอนกอดกายกันอยู่บนเตียงกับสภาพที่เปลือยเปล่าที่อยู่ในผ้าห่มและมีรอยเต็มตัว ที่ต้องหยุดนิ่ง สั่นสะท้านไปทั้งตัว ที่มือไม้ไร้เรี่ยวแรงที่เข่าอ่อนแทบจะทรุดลงกับพื้นกับภาพตรงหน้า
                    ดงเฮที่ลืมตาตื่นขึ้นมาและเมื่อเห็นพี่ชายยืนอยู่ตรงปลายเตียง ทำให้ดงเฮถึงกับตกใจและหน้าเสียลงทันทีกับความจริงที่ถูกเปิดเผย ให้กับพี่ชายรับรู้ น้ำใสๆจากนัยน์ตาคู่สวยที่ไหลรินออกมากับความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้นมาพร้อมกับความกลัวที่ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน คิบอมที่พลิกตัวจะมากอดพี่ชายหน้าหวานแต่ ก็ไม่มีร่างของร่างเล็กนอนอยู่ข้างกาย จึงลุกขึ้นมาและเมื่อเห็นว่าพี่ชายยืนอยู่ตรงหน้าถึงกับตกใจ
                    “พี่ฮาเจ!!”คิบอมร้องขึ้นอย่างตกใจ ที่ดงเฮยังนั่งร้องไห้อยู่ข้างๆ
                    “ไปพบพี่ที่ห้องทั้งสองคน”
                    น้ำเสียงที่ผิดหวังและเยือกเย็นของลีฮาเจทำให้ทั้งคิบอมและดงเฮต่างรู้สึกผิดและกลัวพี่ชายมากขึ้นไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้
    …………………………………………………………………………………………………………………….
    ไรเตอร์ขอคุย
    *มาอัพให้แล้วนะจ๊ะ ตอนนี้ความลับที่ปิดมานานของคิมคิกับลีด๊องพี่ฮาเจของเราได้รู้ความจริงแล้ว แล้วอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากกนี้ก็ติดตามตอนต่อไปนะ มาลุ้นกัน มาให้กำลังใจสองพี่น้องปลาบู่ปลาทองกันต่อไป*
    *ตอนต่อไปนี้จะอยู่ในช่วงเศร้าให้นะทุกคน มีความสุขกันไม่เท่าไรทุกข์ก็ตามทันที ใครที่ลุ้นว่าตอนจบจะเป็นอย่างไงก็ลุ้นกันต่อไปนะ แต่ไรเตอร์จะบอกว่าอาจจะไม่เหมื่อนฟิคเรื่องอื่นนะจ๊ะ ไรเตอร์ย้ำได้คำเดียวว่าคิมคิกับลีด๊องเป็นพี่น้องกันจริงๆ*
    *อย่างไงก้ช่วยเม้นกันด้วยนะ *
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×