ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] ดวงใจแห่งรัก Jaehyun x Taeyong SR14B SMROOKIES

    ลำดับตอนที่ #2 : : ดวงใจแห่งรัก : 2

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 58


    : ดวงใจแห่งรัก : 2

     

     

                 องค์ชายแจฮยอนได้พาแทยงเข้ามาตำหนักของพระองค์โดยทางลับที่มักจะหลบหนีไปเที่ยวนอกวังตามลำพัง ถึงแม้จะมีทหารคุมเข้ม เฝ้าเวรยามหน้าตำหนักแต่องค์ชายแจฮยอนก็สามารถหลอกให้เหล่าทหารไปทางอื่นเพื่อที่องค์รักษ์จงแดจะได้พาแทยงเข้ามาในตำหนักของพระองค์

                 แทยงได้แต่ยืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวเมื่อเข้ามาในตำหนักขององค์ชายเล็ก ไม่กล้าแม้จะขยับตัวไปไหน กลัวระแวงไปหมดว่าอาจทำและที่สำคัญองค์ชายแจฮยอนมีฐานะที่สูงส่งแตกต่างจากตนมาก จะให้เขาทำตัวเทียบเสมือนเท่าองค์ชายไม่ได้

                 "จงแดเจ้าไปจัดหาเสื้อผ้ามาให้แทยงเปลี่ยน"

                 "องค์ชายกระหม่อมว่าพาเด็กคนนี้ไปอยู่ที่อื่นเถอะพะยะค่ะ ถ้าฝ่าบาท พระมเหสีทรงรู้เรื่องนี้เข้าองค์ชายจะเดือดร้อนได้พะยะค่ะ" จงแดเตือนองค์ชายแจฮยอนอย่างเป็นห่วง

                 "เราจะให้แทยงประทับอยู่ที่นี้ ข้าจะตรัสทูลบอกเสด็จแม่เสด็จพ่อเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ เราคงไม่ทำให้แทยงไม่มีตัวตนในวังนี้ แต่แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะบอกความจริงกับใครในตอนนี้" องค์ชายแจฮยอนตรัสมาเช่นนี้แล้วใครจะขัดพระทัยพระองค์ได้ จงแดจึงต้องน้อมรับการตัดสินพระทัยขององค์ชาย

                 "ขอบพระทัยองค์ชายที่ช่วยเหลือข้าเอาไว้" แทยงนั่งคุกเข่าคำนับองค์ชายแจฮยอนที่มีความเมตตาช่วยเหลือตนเอง องค์ชายแจฮยอนต้องย่อตัวนั่งมือทั้งสองข้างจับไหล่เล็กของแทยง

                 "เจ้าจงจำเอาไว้.. ต่อไปนี้เจ้าเป็นคนของเรา จะไม่มีใครมาทำร้ายเจ้าได้ เราจะปกป้องเจ้าเอง" แทยงยิ้มอย่างซาบซึ้งใจอย่างสูงกับความเมตตากรุณาอย่างสูงสำหรับเด็กอย่างแทยง

                 "ชีวิตของข้าต่อไปนี้จะมีองค์ชายเป็นผู้ลิขิตเพียงผู้เดียว ชีวิตของข้าจะมีเพียงองค์ชายผู้เดียวเท่านั้น" น้ำเสียง แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความหนักแน่น ซื่อสัตย์ต่อองค์ชายแจฮยอนผู้มอบชีวิตใหม่ให้กับเขา ชีวิตใหม่ที่เด็กต่ำต้อยไร้ยศศักดิ์จะไม่มีทางได้มันมาถ้าไม่มีองค์ชายแจฮยอนยื่นมือเข้ามาช่วย

     

     

     

     

      

     

                 ระยะเวลาสามเดือนที่แทยงเข้ามาอยู่ในตำหนักขององค์ชายแจฮยอน องค์ชายไม่หนีไปเที่ยวเล่นนอกวังอีกเลย มักคุกอยู่ในตำหนักกับแทยงที่มักคอยสอนหนังสือให้แทยงได้อ่านเขียนเป็น สอนในสิ่งที่เรียนมาจากอาจารย์และนำมาสอนเล่าให้แทยงฟังในสิ่งที่เรียนมา

                 ถึงแม้ว่าต้องอยู่ภายในตำหนัก ไม่ได้ออกไปไหนก็ตาม แต่แทยงก็ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับมันเลย รู้สึกอุ่นใจด้วยซ้ำกับการได้อยู่กับองค์ชายแจฮยอน คอยรับฟังเรื่องราวต่างๆจากองค์ชาย แค่เห็นองค์ชายยิ้ม แค่ทำให้องค์ชายยิ้มได้แค่นี้แทยงก็สุขใจ มีความสุขไม่น้อย

                 แค่ได้ทำอะไรเพื่อองค์ชายบ้าง แทยงคนนี้ก็ยินยอมพร้อมจะทำให้องค์ชาย

                 "เจ้าเบื่อบ้างไหมแทยงที่ต้องมาอุดอู้อยู่เช่นนี้" ตรัสถามขึ้นเมื่อกำลังทรงหนังสืออยู่

                 "ข้าไม่เบื่อเลยองค์ชาย ข้ามีความสุขด้วยซ้ำที่ได้อยู่กับองค์ชาย ขอแค่มีองค์ชายแค่นี้ข้าก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว" องค์ชายแจฮยอนระบายยิ้มออกมาที่มือทรงเคลื่อนมากอบกุมมือบางของแทยงเอาไว้และยิ้มบางๆเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขให้กับองค์ชายแจฮยอน ในใจทั้งสองต่างเริ่มก่อตัวมอบความรู้สึกดีๆให้ต่อกัน ความรู้สึกดีๆที่ต่างฝ่ายต่างรับรู้ได้ด้วยหัวใจของตัวเอง

     

     

     

     

     

                 องค์ชายจงอินทรงยืนทอดมองตำหนักองค์ชายแจฮยอนด้วยแววตาเป็นกังวล ทรงเป็นห่วงองค์ชายแจฮยอนที่พาเด็กอย่างแทยงมาอยู่ในตำหนักด้วย

                 ถึงแม้จะเป็นดั่งชะตาฟ้าลิขิตไว้จากเบื้องบนแต่องค์ชายจงอินก็อดจะเป็นห่วง ปล่อยวางได้

                 "องค์ชายไม่คิดจะตรัสเตือนองค์ชายแจฮยอนหน่อยหรอพะยะค่ะ ถ้าฝ่าบาททรงรู้ด้วยพระองค์เองไม่ใช่แค่องค์ชายแจฮยอนจะทรงโดนลงโทษเพียงผู้เดียว แต่เด็กคนนั้นจะทรงโดนอาญาด้วยนะพะยะค่ะ" องค์รักษ์ซองแจกราบทูลบอก

                 "ในเมื่อองค์ชายแจฮยอนประสงค์จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ เราก็ต้องทำในสิ่งที่องค์ชายขอร้องเราไว้ ถึงแม้ว่าความลับนี้จะปิดไม่ได้นานเท่าไรแต่เราก็จะช่วยปิดมันเอาไว้เพื่อความสุขของน้องชายเรา" น้ำเสียงเรียบพลางสายตาทอดมองคนในตำหนักอย่างกังวลใจ หนักใจทรงเป็นห่วงทั้งสองกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า

     

     



     

                        องค์ชายแจฮยอนทรงถูกองค์ชายจงอินเรียกพบที่ตำหนักจึงต้องปล่อยให้แทยงอยู่ในตำหนักตามลำพัง ถึงแม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่จะปล่อยให้แทยงอยู่ในตำหนักเพียงลำพังแต่ในใจขององค์ชายแจฮยอนยังคงพะว้าพะวงเป็นห่วงแทยงเหลือเกินที่ต้องปล่อยให้อยู่ในตำหนักเพียงลำพังคนเดียว

                    ท่าทางรุลี้รุลนพะวงหน้าพะวงหลังขององค์ชายแจฮยอนนั้นทำให้องค์ชายจงอินสรวญยิ้ม ทอดมองพระอนุชาด้วยแววตายิ้มๆ แค่เด็กสามัญชนธรรมดาเพียงคนเดียวช่างมีอิทธิพลต่องค์ชายเล็กไม่น้อย

                    ดูเจ้าจะเป็นห่วงเด็กคนนั้นมากเลยนะองค์ชายแจฮยอน องค์ชายจงอินตรัสมาตรงๆ องค์ชายแจฮยอนทรงมองพระเชษฐาอย่างไม่ปิดบัง

                    ข้ารู้สึกเป็นห่วงแทยงอย่างไงไม่รู้ท่านพี่องค์ชายจงอินยิ้มขำ

                    เด็กคนนี้ช่างมีอิทธิพลต่อเจ้านักนะองค์ชาย เพียงแค่ระยะเวลาสั้นๆก็ทำให้องค์ชายแจฮยอนเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ องค์ชายแจฮยอนได้แต่มองนิ่ง กำลังครุ่นคิดทบทวนว่าจะพูดเรื่องนี้กับองค์ชายจงอินดีไหม

                    “ท่านพี่....”องค์ชายแจฮยอนหยุดเว้นวรรคไม่รู้ว่าจะตรัสไปดีหรือไม่ แต่สายตา แววตาขององค์ชายจงอินสื่อบอกพร้อมจะรับฟังในสิ่งที่องค์ชายแจฮยอนจะเอ่ยบอก “ท่านพี่ข้ารักแทยง...”องค์ชายจงอินถึงกับสรวญยิ้ม ทรงดูไม่ผิดจริงๆว่าเด็กทั้งสองนั้นมีใจให้กัน “ข้ารู้ว่าความรักของข้ากับแทยงไม่ควรเกิดขึ้น แต่ข้าก็มิอาจห้ามใจตนเองได้”

                    “ไม่มีใครฝืนลิขิตได้หรอกนะองค์ชาย ต่อให้องค์ชายพยายามหักห้ามใจมากแค่ไหน หนีไปไกลแค่ไหนแต่ในเมื่อสวรรค์ลิขิตมาแล้วองค์ชายก็หนีลิขิตสวรรค์ไม่พ้น สวรรค์ลิขิตให้องค์ชายให้มาพบเจอกับแทยง ให้ได้มารักกันถึงแม้จะต้องมีอุปสรรคอะไรมากมายแต่สุดท้ายองค์ชายและแทยงก็ต้องอยู่ภายใต้สวรรค์ลิขิต” องค์ชายจงอินสรวญยิ้มให้กับองค์ชายแจฮยอนทรงวิตกกังวล “พี่จะไม่ว่าเจ้า ขัดขวางความรักของเจ้า แต่พี่อยากเตือนเจ้าเอาไว้.... ความรักของเจ้ามีไม่กี่คนที่จะยอมรับมันไม่ได้ ความรักของเจ้าจะไม่ได้ราบรื่น สวยงามอย่างที่เจ้าคิด ถ้าเจ้ายืนยันยังจะรักกับแทยง เจ้าต้องอดทน ยึดมั่นในความรักของเจ้า เจ้าอย่าทรงอ่อนแอเด็ดขาดในวันที่มีปัญหา ถ้าเจ้าอ่อนแอเมื่อไรคนที่จะโดนทำร้ายเสียใจก็คงไม่ใช่ใครถ้าไม่ใช่คนรักของเจ้า” องค์ชายจงอินทรงเตือนด้วยความหวังดี ด้วยความรักที่มีต่อพระอนุชา

                    “ขอบพระทัยท่านพี่ที่ทรงเตือนสติข้า ทรงเข้าใจข้าเป็นอย่างดี”องค์ชายจงอินสรวญยิ้มให้กับพระอนุชาที่ทั้งสองพระองค์ต่างทรงยิ้มให้กันด้วยความเข้าใจกัน

     

                    องค์ชายแจฮยอนเสด็จกลับมายังตำหนักด้วยรอยยิ้ม รู้สึกโล่งพระทัยมากขึ้นหลังจากได้พูดคุยกับพระเชษฐาที่ทรงเข้าใจและให้คำปรึกษา ตรัสเตือนด้วยความรัก ความหวังดี

                    แต่รอยยิ้มนั้นกับต้องพลันหุบลง แววตาสีหน้ามีแต่ความกังวลเมื่อเดินมาถึงหน้าตำหนักเจอพระมเหสีโซอึนทรงประทับรออยู่หน้าตำหนัก ในใจหวั่นกลัวว่าพระมเหสีจะทรงเจอแทยงในตำหนักแล้ว แต่องค์ชายแจฮยอนยังทรงยิ้มสู้ไม่ทำตัวมีพิรุธให้พระมเหสีจับได้

                    “เสด็จแม่เสด็จมาหาลูกถึงที่ตำหนักมีอะไรหรือเปล่าพะยะค่ะ”องค์ชายแจฮยอนตรัสถามขึ้น พระมเหสีโซอึนทรงมององค์ชายอย่างจับผิด

                    “แม่มีเรื่องท่าจะคุยกับเจ้า แม่ว่าเราเข้าไปคุยในตำหนักกันดีกว่าองค์ชาย” ในใจขององค์ชายร้อนรนกลัวจะถูกจับได้ว่าพาแทยงเข้ามาอยู่ในตำหนักด้วยแต่องค์ชายยังทำใจดีสู้เสือไม่ให้เป็นพิรุธ

                    “ได้พะยะค่ะเสด็จแม่” องค์ชายยิ้มรับ พระมเหสีโซอึนคอยมองจับผิดองค์ชายก่อนจะเดินเข้าไปในตำหนักขององค์ชายแจฮยอน

                    “เสด็จแม่มีอะไรกับลูกพะยะค่ะ” องค์ชายตรัสถามขึ้นอีกครั้ง พระมเหสีโซอึนทรงกวาดตามองรอบตำหนัก

                    “แม่แค่เห็นว่าพักหลังมานี้เจ้าไม่ค่อยออกไปไหน ไม่แอบหนีไปนอกวังอย่างที่เคยเป็น แม่ก็เลยแค่สงสัยว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่าทำไมถึงไม่ค่อยออกไปไหน” พระมเหสีหยั่งเชิงที่จะพูดออกไปตรงๆ

                    “มันไม่มีอะไรหรอกเสด็จแม่ ลูกแค่เบื่อและที่สำคัญลูกขี้เกียจฟังเสด็จพี่ท่านสองมาบ่นข้า เสด็จแม่ก็รู้ว่าเสร็จพี่จุนมยอน เสด็จพี่จงอินเข้มงวดกับลูกมากแค่ไหน” พาดพิงถึงพระเชษฐาทั้งสอง

                    “คงไม่มีเรื่องอื่นจริงๆนะองค์ชายแจฮยอน”

                    “เสด็จแม่คิดว่าลูกจะมีเรื่องไหนอีกพะยะค่ะ” ลองเชิงถาม พระมเหสีโซอึนสรวญยิ้มกับความฉลาดขององค์ชายแจฮยอน

                    “ถ้าเจ้าบอกไม่มีแม่จะเชื่อเจ้าแล้วกัน”ยกยิ้มน้อยๆ องค์ชายแจฮยอนรู้สึกโล่งอกไม่น้อยที่ไม่ต้องสรรหาคำโกหกมาตรัสทูลกับพระมเหสี “มีอีกหนึ่งเรื่องที่แม่จะต้องบอกกับเจ้า อีกสองเดือนจะถึงเวลาที่เจ้าต้องเลือกคู่ครองพร้อมกับพระเชษฐาของเจ้า เจ้าก็เตรียมตัวให้ดีเพื่อที่จะมีชายามาเคียงคู่กับเจ้า”องค์ชายแจฮยอนทรงตกใจไม่น้อยกับการเลือกพระชายา และคงมีอีกหนึ่งคนที่ต่างตกใจ ผิดหวังกับสิ่งที่ได้ยิน “องค์ชายสิ่งนี้มันเป็นหน้าที่ของเจ้า เป็นสิ่งที่องค์ชายรัชททายาททุกพระองค์ต้องทำ เจ้าเป็นถึงลูกกษัตริย์ เป็นถึงองค์รัชทายาทอันดับที่สาม เจ้าจะมาทำไม่มีความรับผิดชอบไม่ได้ หน้าที่ของเจ้าเจ้าก็ต้องทำ”องค์ชายแจฮยอนถึงกับเงียบนิ่ง “แม่หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้แม่และเสด็จพ่อของเจ้าต้องผิดหวังในตัวเจ้ารู้ไหม”

                    “พะยะค่ะเสด็จแม่”ตรัสเสียงอ่อน พระมเหสีสรวญยิ้มอย่างพึงพอใจ

                    “แม่ก็ไม่อะไรกับเจ้าแล้ว เจ้าพักผ่อนเถอะองค์ชาย”พระมเหสีทรงลุกขึ้นที่องค์ชายแจฮยอนทรงลุกตามค้อมหัวให้กับพระมเหสีเล็กน้อยก่อนที่พระมเหสีจะเสด็จออกไป

                    พอพระมเหสีเสด็จพ้นตำหนักไปเท่านั้นองค์ชายแจฮยอนทรงรีบเสด็จเข้ามาดูแทยงที่ทรงแอบหลบอยู่ในห้องบรรทม หัวใจขององค์ชายแจฮยอนถึงกับปวดหนึบ บีบแน่นไปทั่งหัวใจเมื่อเห็นแทยงนั่งกอดตัวเองร้องไห้อยู่กับพื้นทั้งน้ำตา องค์ชายแจฮยอนรีบเดินเข้าไปกอดแทยงโอบปลอบคนที่เป็นดั่งดวงใจของตนเอง

                    “แทยงเจ้าไม่ต้องกลัวอะไรไป ข้าจะไม่มีทางอภิเษกกับใครหน้าไหนทั้งนั้นถ้าไม่ใช่เจ้า”กอดรัดร่างบอบบางไว้แน่นในอ้อมกอดที่แทยงก็กอดตอบร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดขององค์ชายผู้เป็นดั่งดวงใจของตัวเอง “เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้ารัก เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้าจะมอบหัวใจของข้าไว้ให้กับเจ้า” องค์ชายแจฮยอนค่อยๆละจากกอดแทยง สองมือประคองใบหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา นิ้วโป้งทั้งสองเช็ดคลึ้งบนแก้มทั้งสองข้าของคนที่เป็นดั่งดวงใจของตัวเอง

                    “เจ้าจงจำไว้แทยง ข้ารักเจ้า เจ้าเป็นคนเดียวที่ข้ารัก เจ้าเป็นดั่งดวงใจของข้าแทยง” แทยงยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมรับจูบแสนหวานจากองค์ชายแจฮยอนชายที่เป็นดั่งดวงใจของแทยงเหมือนกัน

                    บทจูบแสนหวานยังคงดำเนินไปตามครรลองครองธรรมของคนทั้งสองที่เต็มไปด้วยความรักที่มีให้กัน ความรักที่ต่างถูกถ่ายทอดผ่านบทจูบแสนหวาน จูบที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความรักที่ไม่มีใครอาจจะเข้าใจได้นอกจากคนทั้งสอง

                    องค์ชายแจฮยอนละริมฝีปากละเมียดละมัยค่อยๆบรรจงทำไปด้วยความรักที่แทยงก็เต็มใจให้องค์ชายแจฮยอน องค์ชายแจฮยอนละริมฝีปากออกมา สายตาทอดมองใบหน้าหวานด้วยความรักที่ถ่ายทอดถึงกัน ที่ไม่ต้องมีคำพูดมากมายก็รู้ความรู้สึกของกันและกัน

                    องค์ชายแจฮยอนจับไหล่เล็กประคองขึ้นมานั่งบนแท่นบรรทม มือทั้งสองข้างค่อยๆปลดเปลื้องอาภรณ์บนเรือนร่างของแทยงออกจนทำให้เห็นผิวขาวดุจดั่งหิมะ แทยงได้แต่ก้มหน้างุดหน้าความเขินอายแต่บนใบหน้าก็เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข

                    “แทยงข้าสัญญา ข้าจะรักเจ้าคนเดียว ข้าจะปกป้องเจ้าด้วยชีวิตของข้า ชีวิตของข้าจะเป็นของเจ้าเพียงผู้เดียว” มือแกร่งเชยคางเรียวมนขึ้นมามองด้วยรอยยิ้ม

                    “ข้าก็จะรักองค์ชายเพียงผู้เดียว ดวงใจของข้าจะเป็นขององค์ชายเพียงผู้เดียว ชีวิตของข้าจะเป็นขององค์ชายผู้เดียว” สองสายตาหวานซึ้งจ้องมองกันด้วยความรักที่มีให้กัน ความรักที่จะไม่มีใครจะมาขัดขวางแยกเขาทั้งสองออกจากกันได้

                    ร่างบอบบางเอนนอนลงกับพื้นไปตามแรงโน้มถ่วมของความรัก ร่างสูงขององค์ชายแจฮยอนคร่อมอยู่บนตัวของแทยงที่มือบางช่วยเปลื้องอาภรณ์บนร่างกายขององค์ชายแจฮยอนออกจจากร่างกายทั้งที่เรือนร่างของตนเองนั้นถูกครอบครองเชยชิมจากริมฝีปากขององค์ชายแจฮยอนที่บรรจงทำลงด้วยความรัก ความรักที่จะไม่มีใครได้นอกจากแทยง....

                    ค่ำคืนแสนหวานที่อบอวนไปด้วยความรัก เต็มไปด้วยความต้องการของกันและกัน ทุกอย่างในค่ำคืนนี้เกิดจากความรัก ความตั้งใจขององค์ชายแจฮยอนและแทยงที่ต้องการเป็นของกันและกันเพื่อเป็นหลักยึดมั่นในความรักที่มีให้กัน เป็นดั่งคำสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกัน จะไม่แยกจากกันไม่ว่าจะเกิดออะไรขึ้นหลังจากนี้

                    องค์ชายแจฮยอนตัดสินใจแล้วว่าผู้ที่จะมาอยู่เคียงข้าง จะเป็นดั่งดวงใจดวงเดียวนั้นจะมีเพียงแทยงเพียงคนเดียวเท่านั้น จะไม่มีใครทั้งนั้นนอกจากแทยงคนที่อยู่ภายใต้อ้อมกอดของตนในตอนนี้.......

     

     

     

     

     

    TALK

                    มาอัพครบ100 สุดท้ายแทยงก็เป็นขององค์ชายแจฮยอน หลังจากนี้ความรักขององค์ชายและแทยงจะเป็นอย่างไงกันต่อต้องติดตามกันต่อไปนะคะทุกคน

     

     #ฟิคดวงใจแจยง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×