ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic naruto What about love (Sasunaru)

    ลำดับตอนที่ #1 : จุดเริ่มต้น (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.ค. 56







    เกะ :  แต่งงานกันชั้นเถอะ นารุโตะ!!
    โตะ: มะ..มาพูดอะไรตอนนี้ฟะ




    Magnet sasunaru


     

    ท่ามกลางซากปรักหักพังของสงครามนินจา  ศัตรูได้ถูกจำจัดลงด้วยการร่วมแรงร่วมใจของเหล่านินจา แต่การต่อสู้ในสมรภูมินี้ยังไม่สิ้นสุด..การต่อสู้ของเพื่อน ที่เป็นทั้งคู่แข่ง

    “ในที่สุดก็ต้องมาลงเอยแบบนี้สินะ...ซาซึเกะ”

                “.........”

                “ความจริง..ชั้นก็ไม่ได้ต้องการแบบนี้เท่าไหร่นะ แต่ว่า....”

                “อย่ามัวพูดมากเลย  มาทำให้มันจบๆไปดีกว่า”

                “อื้อ อิอิ”

    คำตอบที่แสนสดใสเข้ากับเรือนผมสีตะวัน ดูไม่เหมือนคนที่กำลังจะสู้กันสักนิด กลับทำให้คนผมดำสึกเครื่องร้อนขึ้นมาซะแล้ว

                “มันจะดีหรอ นารุโตะ ซาซึเกะ หยุดเถอะ!

                “ปล่อยพวกนั้นไปเถอะ ซากุระ มันเป็นเหมือน ชะตากรรมของพวกนั้นนั่นแหละ”

    เมื่อซากุระได้ยินผู้เป็นอาจารย์กล่าวเช่นนั้น จึงยอมให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น

    นารุโตะ กับ ซาซึเกะน่ะ ยังไงซะ ก็คงไม่เป็นไรมากหรอก

                ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

     

    .

    .
    .

    .......

    “อือ....”

    (อา.....ที่ไหนกัน  ขาว  สว่าง  ยั่งกะสวรรค์แน่ะ)

                “ฟื้นแล้วหรอ นารุโตะ”

    (โอ้ะ  นั่นเสียงซากุระจังนี่ )

    “ชั้นตายแล้วหรอ ..   อะ โอ้ย! ซากุระจัง  เจ็บนะ  ทำอะไรน่ะ”

    “โทษทีย่ะ  แหม ตื่นมาก็ทำตัวปากสุนัขเลยนะ แสดงว่าสบายดีแล้วสินะ ที่นี่โรงพยาบาลไง  มานอนออกบ่อย  สลบไปทีเดียวความจำเสื่อมเลยหรือไง”

    สาวสวยผมสีซากุระเหมือนชื่อของเธอเหน็บแนมอย่างประชดประชัน  แหม  ก็จะไม่ให้ประชดได้ไงล่ะ ก็เล่นสู้กับซาซึเกะซะอ่วมขนาดนั้น  ใครจะไปคิดกันว่าจะเอาจริงกันขนาดนี้ มันน่ามั้ยล่ะ 

                “แหม ซากุระจังก็....”

                “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะรู้มั้ยทุกคนเป็นห่วงแทบแย่  ไหนลองขยับตัวดูซิว่ายังเจ็บตรงไหนอยู่มั้ย”

                “อืมม  ก็ปวดๆนิดหน่อยน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก ตอนนี้ชั้นควบคุมเก้าหางได้แล้วนะ”

                “จ้าๆ พ่อคนเก่ง”

                “แล้วตอนนี้ หมอนั่น ..เป็นยังไงบ้าง”

                “ซาซึเกะคุงน่ะหรอ....ซาซึเกะคุงเค้า...เอ่อ”

                “อะไรซากุระจัง เกิดอะไรขึ้นตอนนี้หมอนั่นอยู่ที่ไหน”

                “เอ่อ คือ  ห้อง yyy น่ะ”

    ยังไม่ทันขาดคำ ร่างโปร่งของนารุโตะก็วิ่งฉิวออกไปหาซาซึเกะทันที

                “แฮกๆๆๆ”

                “ว้าย  นารุโตะ อ้าว  ฟื้นแล้วหรอ  แล้ววิ่งหนีอะไรมาละนั่น”

                “ไม่ได้หนีอะไร  ว่าแต่เจ้าซาซึเกะมันเป็นอะไรไป”

                “หา ? ก็ ปลอดภัยดีนะ ตอนนี้แค่รอฟื้นนั่นแหละ แต่อาจมีปัญหาสายตาสักหน่อย  คงต้องใช้เวลาฟื้นตัวน่ะ”

    เมื่อได้ฟังคำตอนจากนินจาสาวอิโนะ นารุโตะนึกเหนื่อยใจ  ผู้หญิงช่างเข้าใจยากแท้  แค่นี้เอง โด่  นึกว่าปางตายซะอีก พูดซะใจหายหมด

                “เข้าไปดูได้มั้ย”

                “ได้สิ”

                ภายในห้อง ร่างสูงโปร่งของอุจิวะกำลังนอนสงบนิ่งบนเตียงนอนสีขาวสะอาด ใบหน้าขาวเนียนดูผ่อนคลายอย่างที่นารุโตะไม่เคยเห็นมาก่อน

                “ดูสบายดีหนินะ”

                โครม! ”แฮกๆๆ  เจ้าบ้านารุโตะ วิ่งมาทำไมยะ นายยังไม่หายดีนะรู้มั้ย  ยังไม่ได้ตรวจร่างกายครั้งสุดท้ายเลย โอ้ย  ซาซึเกะน่ะ เค้าไม่หนีนายไปไหนหรอกน่า”

    (ตอนแรกๆ ก็ดูเป็นห่วงเค้าดีอยู่หรอก แต่ไหงไปๆมาๆมาแซวเค้ายั่งงั้นเล่า ซากุระจัง) นารุโตะคิด แต่ไม่กล้าพูดออกไป เพราะดูสาวเจ้าอารมณ์บูดที่เห็นเขาวิ่งไม่คำนึงสังขารตัวเองซะยั่งงั้น

                “อ่าจ้า แหม่ เป็นห่วงเค้าด้วย เค้าเขินนะซากุระจัง”

                “ไม่ต้องมาพูดมากเลย กลับห้องเดี๋ยวนี้  อ้อ ฮินาตะซัง ตามมาด้วยก็ดีนะจ๊ะ”

                “อ่า ค่ะๆ”

    สาวฮิวงะที่มาเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครทราบได้ ตามมาอย่างเขินๆ นารุโตะพึ่งนึกได้ว่าเมื่อกี้ที่ตัวเองวิ่งมาทำให้ร้าวไปทั้งร่างกายได้เหมือนกัน ทำให้ร่างโปร่งถึงกับทรุดลงไปกองกันพื้น

                “ว้าย  นะ..นารุโตะคุง”

    สาวผมสีชมพูรีบหันควบมาทันที  พร้อมไปช่วยฮินาตะพยุงนารุโตะที่ดูท่าจะไม่ไหวและสลบไปแล้ว อิโนะซึ่งอยู่ใกล้ๆทำท่าจะวิ่งออกไปบอกหน่วยแพทย์ แต่โดนซากุระห้ามไว้ก่อน

                “ไม่เป็นไร อิโนะ  เดี๋ยวชั้นกันฮินาตะจัดการเอง เธออยู่ดูอาการซาซึเกะต่อเถอะ”

                “อือ แล้วเรื่องนั้น..”

                “เรื่องนั้นน่ะ ต้องรอซาซึเกะคุงฟื้นก่อนนะ”

                “มันจะเป็นเรื่องอะไรกันนะ น่าสงสัยจริงๆ”

                “นั่นสินะ..ชั้นก็ไม่รู้ลายละเอียดหรอ ไปนะ”

    หลังจากที่สาวสองคนแบกนารุโตะมาที่ห้องแล้ว  จึงทำการตรวจเช็คร่างกายทันที ซากุระใช้จักระตรวจดูตามร่างกาย ฮินาตะใช้เนตรสัขาวดูการเคลื่อนไหวของจักระ

                “เอ้ะ  แบบนี้มัน..” (จักระเก้าหางนี่)

                “อ้ะ!..เดี๋ยวชั้นจะไปตามท่านซึนาเดะมานะคะ”

    ไม่นานหลังจากที่ฮินะตะหายตัวไป ซึนาเดะฮิเมะก็ดิ่งเข้ามาในห้องทันที พร้อมทั้งใช้จักระตรวจดูร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้า

                “ไม่ได้การแล้ว ..ซากุระ เราต้องทำการผนึกมันอีกครั้ง ฮินาตะ คอยดูให้ด้วย”

    (แค่ร่างกายอ่อนแอครู่เดียว เป็นได้ขนาดนี้เชียวรึ ) รุ่นห้าครุ่นคิด ก่อนทำการผนึกทันที ตอนนี้ซากุระเก่งขึ้นมาก  เพียงครู่เดียว ผนึกที่หน้าท้องก็สมบูรณ์อีกครั้ง แต่แค่นี้ เธอก็ยังไม่คลายกังวลเพราะว่า หากนารุโตะอ่อนแอขึ้นมาอีกล่ะก็...

                “ฮินาตะ  ในช่วง3วันนี้คอยดูจักระนารุโตะให้ด้วย  เจ้าหนูนี่จะยังไม่ฟื้นจนครบ 72 ชั่วโมง ชั้นกับซากุระ จะไปดูเจ้าเด็กอุจิวะ“

                “ค่ะ”

    ..

    .

    .

    .

    .

    เวลาผ่านไป สามวัน ไวเหมือนเคาะเอนเทอร์สี่ห้าหน

    นารุโตะฟื้นขึ้นมาอย่างงงๆ พลางคิด (เอ จำได้ว่าเราจะไปหาเจ้าซาซึเกะนี่หว่าแล้ว เรามาอยู่ที่ห้องตัวเองได้ไงเนี่ย เอ แล้วก็....)

                “ฟะ...ฟื้นแล้วหรอ นารุโตะคุง มะ..จะ..เจ็บตรงไหนรึเปล่า”

    คิดยังไม่ทันเสร็จ ฮิวงะตาขาวสาวน้อย ก็พูดตะกุกตะกัก ดูท่าเธอคงรวบรวมความกล้าที่จะคุยกับเด็กหนุ่มจิ้งจอกไม่ค่อยได้  แต่นับว่าดีขึ้นมากถ้าเทียบกับเมื่อก่อน           

                “อืมม..  ไม่เจ็บอะไรนะ  ชั้นเป็นอะไรไปหรอ”

                “อา..เธอสลบไปอีกทีน่ะ “

                “นี่ผ่านไปกี่วันแล้วล่ะ”

                “สามวันจ้ะ อ้ะ..ยังไงซะ แปปนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวชั้นไปตามท่านซึนะเดะมา”

                “อะ อ่าว  ไปซะแล้ว  ว่าจะถามเรื่องซาซึเกะซักหน่อย “

    ระหว่างรอ นารุโตะก็ชักจะหิวขึ้นมา (แหงล่ะ ไม่ได้กินอะไรตั้งสามวัน ไม่สิ  ตั้งแต่ตื่นมาคราวก่อน เค้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่หว่า!! ทำไงดีวะ )

                “โอ้ยยย หิวจะตายอยู่แล้ว”

                “เอ้า นารุโตะ ทานนี่สิ”

    ไม่ต้องรอนาน เสียงของป้าแก่ เอ้ย ท่านรุ่นห้าที่นารุโตะไม่เคยคิดว่ามันจะพิเศษอะไร  ตอนนี้เป็นดั่งเสียงสวรรค์ที่ทำให้เขาแทบถลาเข้าไปหา รามงราเม็งอะไรช่างมันตอนนี้อยากหาอะไรก็ได้ใส่ท้องเต็มแก่  ไม่นาน  อาหารที่เตรียมมาก็อันตธานหายเข้าไปในกระเพาะของเด็กหนุ่มจิ้งจอกเรียบร้อย

                “อ้า.. อิ่มจังตังค์อยู่ครบ”  โป้ก!

                “ยังมีหน้ามาพูดเล่นอีกนะเจ้าหนู  ช่างเถอะ เห็นยั่งงี้ค่อยหายห่วงหน่อย”

                “เกิดอะไรขึ้นหรอกับผมหรอ ป้า”ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น  เจ้าเด็กราเมงลิซึ่มคนนี้ก็ไม่เคยคิดจะเรียกเธอว่าโฮคาเงะสักครั้ง  แต่เธอก็ไม่ถือสาเพราะเธอก็คิดว่าเด็กคนนี้ก็เป็นคนในครอบครัวของเธอเหมือนกัน

                “ผนึกอ่อนกำลังลงน่ะ แต่ไม่เป็นไรแล้วนะ”

                “.....”

    เด็กหนุ่มดูซึมลงไปทันที เขาคิดว่าตนเองเก่งขึ้นแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังควบคุมเก้าหางไม่ได้100% ไม่เหมือนซากุระกับซาซึเกะที่...

    เอ้ะ ซาซึเกะ..

                “ป้า...แล้วซาซึเกะล่ะ”

                “ตอนนี้  ฟื้นและหายเป็นปกติแล้วล่ะ “

                “แล้ว ความผิดของหมอนั่น..”

                “หึหึ...ตอนนี้หลับไปก่อนเถอะเจ้าหนู  วันรุ่งขึ้นค่อยคุยกัน”

    .ไม่รู้เพราะอะไร   ตอนนี้ ร่างโปร่งรู้สึกว่า  บรรยากาศช่างหนักอึ้งจนสะกดเขาให้หลับไป

    .

    .

    .




    พิมในwordมันดูไม่สั้นเท่าไหร่นะเฮ้ย  ทำไมพอลงเด็กดีแล้วสั้นจนทุเรศเลยฟะ ต้องพิมพ์เพิ่มบานเลยเรา

    แล้วก็ ทำยังไงให้ยูทูปมันเล่นเองเนี่ย - -"'//บื้อจนเกินเยียวยา

      เม้นติชมหน่อยนะคะ  จะเอาไปแก้ไขให้มันดีขึ้นน่ะค่ะ  


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×