คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 ::: การตัดสินใจ
'สาวเมืองรวงข้าว' แจ๋ว! จับโจร...ช่วยหลายสิบชีวิต
นี่คือพาดหัวข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ลอนดอนบริดจ์โพสท์ที่โด่งดัง(แทบจะ)ที่สุดในอังกฤษ เอมิลีอ่านพลางหาววอดใหญ่ ก่อนโยนหนังสือพิมพ์ลงกับพื้นพรมสีแดงที่ปูลาดทั้งพื้นห้อง
นี่คือพาดหัวข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์ลอนดอนบริดจ์โพสท์ที่โด่งดัง(แทบจะ)ที่สุดในอังกฤษ เอมิลีอ่านพลางหาววอดใหญ่ ก่อนโยนหนังสือพิมพ์ลงกับพื้นพรมสีแดงที่ปูลาดทั้งพื้นห้อง
หญิงสาวสยายผมสั้นสีน้ำตาลของเธอก่อนเบิกตามองดูสภาพภายในห้อง แม้มันจะเป็นห้องพักโรงแรมขนาดเล็กๆ แต่ก็มีอะไรให้ทำอีกเยอะ อย่างแรกสุดน่าจะเป็นการเคลียร์สัมภาระที่กองอยู่บนพื้นห้องของเธอ
หลังจากที่พวกโจรถูกจับไป เอมิลีก็ถูกพาตัวไปที่ห้องพยาบาลของสถานีรถไฟคิงส์ครอส ณ กรุงลอนดอนทันทีที่มาถึง ไม่นานเธอก็ฟื้นและหาโรงแรมระดับสามดาวแถวนี้พักผ่อน เพื่อรอให้วันนี้เพื่อนสาวของเธอมารับ
เอมิลีง่วนอยู่กับการจัดกระเป๋าสัมภาระที่ระเนระนาดให้เข้าที่ เตรียมที่จะรอให้เพื่อนของเธอมารับ ก่อนตัดสินใจลงไปหาอะไรรับประทานรองท้องก่อนที่เพื่อนจะมารับ
ทันทีที่ผลักประตูออก แสงแฟลชแรงๆแสงหนึ่งก็กระแทกเข้าใส่กลางตาเธอ ชายหนุ่มตากล้องผู้มีใบหน้าหล่อเหลา กำลังถ่ายรูปเธออยู่ "ว่าแล้ว คุณต้องออกมา"
"ค..คุณเป็นใคร" เอมิลีถามเสียงค่อย
"อ๋อ ผมชื่อสเตฟาน ลุนดิวส์ ร็อดเจอริค" ชายหนุ่มเอ่ยพลางขยับกรอบแว่นตา "มาจากหนังสือพิมพ์โบรเคนนิวส์-สแควร์ ต้องการมาสัมภาษณ์คุณ"
ชายหนุ่มโน้มร่างสูงๆของเขาลงมาพลางยื่นนามบัตรสีขาวส่งกลิ่นหอมให้เอมิลี หญิงสาวรับมันมาดู ก่อนเก็บใส่กระเป๋ากางเกงยีนส์ของเธอแทบจะในทันที
"จะสัมภาษณ์ฉันทำไม" เอมิลีถาม "ฉันไม่ให้สัมภาษณ์อะไรทั้งนั้น!"
หญิงสาวตอบพลางปิดประตูห้องพักก่อนวิ่งลงลิฟต์ไปจนตากล้องหนุ่มตามไปไม่ทัน เธอเข้าไปในร้านอาหารริมถนนร้านหนึ่งแล้วสั่งเบอร์เกอร์ไก่มากินอย่างหิวโหย หลังจากที่ไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายชั่วโมง "แชะ!" สเตฟานตามถ่ายรูปเธอได้สำเร็จ
"นี่ คุณ นี่มันเวลาส่วนตัวของฉันนะ" เอมิลีดุเขาไปเล็กน้อยก่อนหันมารัปประทานอาหารต่อ "แชะ! แชะ! แชะ!" สเตฟานถ่ายรูปหญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างกินแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปคำโต "ถ้าคุณไม่ให้ผมสัมภาษณ์ ผมจะเอารูปพวกนี้ไปประจาน"
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "นี่ คุณ นี่มันเวลาส่วนตัวของฉันนะ" เอมิลีดุเขาไปเล็กน้อยก่อนหันมารัปประทานอาหารต่อ "แชะ! แชะ! แชะ!" สเตฟานถ่ายรูปหญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างกินแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปคำโต "ถ้าคุณไม่ให้ผมสัมภาษณ์ ผมจะเอารูปพวกนี้ไปประจาน"
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
หญิงสาวตอบพลางปิดประตูห้องพักก่อนวิ่งลงลิฟต์ไปจนตากล้องหนุ่มตามไปไม่ทัน เธอเข้าไปในร้านอาหารริมถนนร้านหนึ่งแล้วสั่งเบอร์เกอร์ไก่มากินอย่างหิวโหย หลังจากที่ไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายชั่วโมง
"แชะ!" สเตฟานตามถ่ายรูปเธอได้สำเร็จ
"นี่ คุณ นี่มันเวลาส่วนตัวของฉันนะ" เอมิลีดุเขาไปเล็กน้อยก่อนหันมารัปประทานอาหารต่อ "แชะ! แชะ! แชะ!" สเตฟานถ่ายรูปหญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างกินแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปคำโต "ถ้าคุณไม่ให้ผมสัมภาษณ์ ผมจะเอารูปพวกนี้ไปประจาน"
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"นี่ คุณ นี่มันเวลาส่วนตัวของฉันนะ" เอมิลีดุเขาไปเล็กน้อยก่อนหันมารัปประทานอาหารต่อ
"แชะ! แชะ! แชะ!" สเตฟานถ่ายรูปหญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างกินแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปคำโต "ถ้าคุณไม่ให้ผมสัมภาษณ์ ผมจะเอารูปพวกนี้ไปประจาน"
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์"
เอมิลีเอ่ยตัดบท...
"ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ"
"ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้
"คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม
"ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย"
"แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง"
"ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย"
"เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก
"คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ"
"อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ"
"นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว"
"แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ
"มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย
"เอ่อ...คือ..."
"หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย"
หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก
ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน...
หลุดสู่ความว่างเปล่า!
!"หญิงสาวตอบพลางปิดประตูห้องพักก่อนวิ่งลงลิฟต์ไปจนตากล้องหนุ่มตามไปไม่ทัน เธอเข้าไปในร้านอาหารริมถนนร้านหนึ่งแล้วสั่งเบอร์เกอร์ไก่มากินอย่างหิวโหย หลังจากที่ไม่ได้กินอะไรเลยมาหลายชั่วโมง
"แชะ!" สเตฟานตามถ่ายรูปเธอได้สำเร็จ
"นี่ คุณ นี่มันเวลาส่วนตัวของฉันนะ" เอมิลีดุเขาไปเล็กน้อยก่อนหันมารัปประทานอาหารต่อ "แชะ! แชะ! แชะ!" สเตฟานถ่ายรูปหญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างกินแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปคำโต "ถ้าคุณไม่ให้ผมสัมภาษณ์ ผมจะเอารูปพวกนี้ไปประจาน"
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"นี่ คุณ นี่มันเวลาส่วนตัวของฉันนะ" เอมิลีดุเขาไปเล็กน้อยก่อนหันมารัปประทานอาหารต่อ
"แชะ! แชะ! แชะ!" สเตฟานถ่ายรูปหญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างกินแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปคำโต "ถ้าคุณไม่ให้ผมสัมภาษณ์ ผมจะเอารูปพวกนี้ไปประจาน"
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์"
เอมิลีเอ่ยตัดบท...
"ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ"
"ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้
"คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม
"ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย"
"แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง"
"ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย"
"เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก
"คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ"
"อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ"
"นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว"
"แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ
"มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย
"เอ่อ...คือ..."
"หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย"
หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก
ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน...
หลุดสู่ความว่างเปล่า!
!" สเตฟานตามถ่ายรูปเธอได้สำเร็จ"นี่ คุณ นี่มันเวลาส่วนตัวของฉันนะ" เอมิลีดุเขาไปเล็กน้อยก่อนหันมารัปประทานอาหารต่อ
"แชะ! แชะ! แชะ!" สเตฟานถ่ายรูปหญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างกินแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปคำโต "ถ้าคุณไม่ให้ผมสัมภาษณ์ ผมจะเอารูปพวกนี้ไปประจาน"
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์" เอมิลีเอ่ยตัดบท... "ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ" "ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้ "คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม "ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย" "แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง" "ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย" "เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก "คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ" "อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ" "นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว" "แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ "มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย "เอ่อ...คือ..." "หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า! "ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์"
เอมิลีเอ่ยตัดบท...
"ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ"
"ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้
"คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม
"ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย"
"แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง"
"ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย"
"เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก
"คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ"
"อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ"
"นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว"
"แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ
"มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย
"เอ่อ...คือ..."
"หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย"
หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก
ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน...
หลุดสู่ความว่างเปล่า!
! แชะ! แชะ!" สเตฟานถ่ายรูปหญิงสาวที่กำลังอ้าปากกว้างกินแฮมเบอร์เกอร์เข้าไปคำโต "ถ้าคุณไม่ให้ผมสัมภาษณ์ ผมจะเอารูปพวกนี้ไปประจาน""เอามานี่" หญิงสาวตะกายฟ้าหวังจะเอากล้องที่ชายหนุ่มชูสูงขึ้นกว่าศีรษะของเขามากมาลบภาพบ้าๆเหล่านั้นทิ้ง "ก็ได้ ฉันยอมให้สัมภาษณ์"
เอมิลีเอ่ยตัดบท...
"ดี" ชายหนุ่มพูดขึ้น "เชิญนั่งครับ"
"ย่ะ" หญิงสาวแลบลิ้นพลางนั่งลงบนเก้าอี้
"คุณคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นบนรถไฟเมื่อคืนนี้" นักข่าวหนุ่มถาม
"ไม่รู้สึกอะไร" หญิงสาวยักไหล่ "เฉยๆมั้ง ตื่นเต้นนิดหน่อย"
"แล้ว...." ชายหนุ่มมองดูแผ่นสคริปต์ที่เพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋า "คุณต่อสู้กับพวกโจรได้ยังไง"
"ปกตินี่" เอมิลีตอบ "แค่ใช้ศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนมา...นิดหน่อย"
"เอ่อ...คุณมาจากหมู่บ้านอะไรหรอครับ" นักข่าวหนุ่มตะกุกตะกัก
"คุณดูเหมือนพวก...มือใหม่" หญิงสาวพูดขึ้น "ฉันมาจากลุซเซนเบิร์ก อยู่ทางตอนใต้ของเกาะบริทิซ"
"อ๋อ ที่เคยเกิดโรคระบาดร้ายแรงนั่นน่ะหรือครับ" ชายหนุ่มถาม "แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะ"
"นักศึกษา" เอมิลีพูดอย่างหน่ายๆ "แต่จบแล้ว"
"แล้วคุณมาที่ลอนดอนนี่ทำไมหรือครับ" นักข่าวหนุ่มถามไม่ลดละ
"มาหางาน...นักข่าวจำเป็นต้องถามเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ" เอมิลีโต้กลับด้วยท่าทีสงสัย
"เอ่อ...คือ..."
"หรือคุณไม่ใช่นักข่าว!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย" หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน... หลุดสู่ความว่างเปล่า!
"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย"
หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก
ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน...
หลุดสู่ความว่างเปล่า!
!" เอมิลีพูด ทำเอาชายหนุ่มสะดุ้งโหยง"ปะ...เปล่านี่ครับ ผมเป็นนักข่าวจริงๆ" สเตฟานเอ่ยตะกุกตะกัก "กรุณามากับผมหน่อย"
หนุ่มตากล้องเอ่ยกับหญิงสาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในตรอกแคบๆตรอกหนึ่งในย่านการค้า ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆจะมองไม่เห็นเลย เพราะมันอยู่ระหว่างตึกบริหารบริษัทโมเดลลิ่งแอดวานซ์และโรงแรมซารีนาโอเรนทอล ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึงครึ่งศอก
ชายหนุ่มลอดตัวผ่านตรอกเล็กๆนั้นไปได้อย่างสบายๆ ในขณะที่หญิงสาวผู้เดินตามมา ต้องค่อยๆคืบตัวเข้าไปในช่องว่างระหว่างตึกนั่น ก่อนผลักร่างตัวเองเข้าไปลึกจน...
หลุดสู่ความว่างเปล่า!
!ความจริงแล้วมันเหมือนกับตรอกหลอกๆที่แคบแค่ชั่วครู่ แต่พอหลุดออกจากภาพลวงตาก็เป็นลานกว้างขนาดใหญ่ มีลังไม้วางประปรายทั่วทั้งลาน ต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นแซมตามกำแพงและม้านั่งคล้ายกับสวนสาธารณะที่จำกัดขนาดแค่ตรอกกว้าง ตรงกลางลานเป็นบ่อน้ำพุที่แกะสลักเป็นลายสัญลักษณ์ประจำราศีกุมภ์ มีน้ำสะอาดไหลรินออกจากไหสีขาวสะอาดที่หญิงสาวเทลงสู่พื้นน้ำเป็นประกาย และชายหนุ่มก็ยืนอยู่ตรงนั้น ในชุดตากล้องที่เปลี่ยนไปคล้ายกับชุดสูทของผู้บริหารใหญ่ แว่นตาดูเรียวคมเสริมอายุให้ชายหนุ่มไม่น้อย
"ขอแนะนำตัวอีกครั้ง" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสุขุม "ผมสเตฟาน ลุนดิวส์ ร็อดเจอริค ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง"
การแนะนำตัวครั้งนี้ดูเป็นทางการมากขึ้นเมื่อชายหนุ่มยื่นมือมาจับทำความรู้จักกับเอมิลี เธอรู้สึกอึ้งเล็กน้อยและคิดว่าที่นี่คือที่ไหน ทำไมตนเองต้องมาทำอะไรที่นี่ ชายเบื้องหน้านี้เป็นใครกันแน่และทำไมถึงไม่มีใครเห็นที่นี่ ยกเว้นตนเองกับชายแปลกหน้าในมาดนักข่าว(ซึ่งเปลี่ยนเป็นนักธุรกิจใหญ่ภายในพริบตา)ที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี้
"ฉันจะตอบเธอทีละคำถาม" ชายหนุ่มตอบทำเอาหญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย "ที่นี่คือ...สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน หรือ Special Spy for official Secret investigate in London แต่มันไม่ได้อยู่ที่นี่โดยสิ้นเชิง เพราะนี่เป็นแค่ทางเข้า..."
ชายหนุ่มเดินไปหยุดที่หน้ารูปปั้นหญิงสาวกุมภ์โดยมีสายตาของเอมิลีจ้องตามอย่างไม่ลดละ ชายหนุ่มล้วงกระเป๋าแล้วหยิบเอาซิกาแรตมวนโตขึ้นมา ดูดมันโดยไม่ได้จุดไฟ แล้วเป่าออกไปทางทิศของรูปปั้นสาว แผ่นแก้วบางๆลอยไปในบ่อน้ำพุ ไม่ถึงสองวินาที มันก็เริ่มทำปฏิกิริยากับน้ำในบ่อน้ำพุเกิดเป็นน้ำที่แข็งตัวอยู่ในบ่อนั่นเอง น้ำใต้น้ำแข็งที่ยังไม่แข็งดีหมุนเป็นเกลียวไปสัมผัสกับกลไกที่ก้นบ่อน้ำพุ รูปปั้นสาวชาวกุมภ์ผู้ถือคนโทค่อยแยกตัวออกจากส่วนที่เป็นบ่อน้ำ เผยให้เห็นพื้นเหล็กที่ลึกจมลงในดินราวหนึ่งนิ้ว เอมิลีตาลุกโตด้วยความตะลึงกับสิ่งเบื้องหน้า "อย่าเพิ่งตกใจ" ชายหนุ่มเปรยขึ้น "ฟังคำตอบต่อไปนะ...ทำไมคุณต้องมาที่นี่...นั่นก็เพราะคุณคือผู้ถูกเลือก สายลับของเราคนหนึ่งกำลังจะเดินทางจากหมู่บ้านเครมลินตันมาที่ลอนดอน ได้นั่งรถไฟขบวนเดียวกันกับเธอ และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะเขาโดยสารอยู่ในโบกี้ถัดจากคุณ ดูเธอทะมัดทะแมง เก่งในการเอาตัวรอด ฉันจึงได้รับหน้าที่จากเขา ให้ลองพิจารณาเธอดู เผื่อจะมาเป็นสายลับให้กับสถาบันนี้ได้ ในฐานะผู้อำนวยการสถาบัน SSSL แห่งนี้ ฉันยังต้องลองทดสอบเธอเสียสักหน่อยก่อน..."
"ฉันเนี่ยนะ?" หญิงสาวถามงงๆ "แน่นอน!" ชายหนุ่มเอ่ย "และที่ถามฉันว่าฉันเป็นใครกันแน่ คำตอบก็คือ ผอ.สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน ส่วนคำตอบสุดท้าย ทำไมไม่มีใครเห็นที่นี่...ลองทายสิ!"
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! "คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! "ฉันเนี่ยนะ?" หญิงสาวถามงงๆ "แน่นอน!" ชายหนุ่มเอ่ย "และที่ถามฉันว่าฉันเป็นใครกันแน่ คำตอบก็คือ ผอ.สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน ส่วนคำตอบสุดท้าย ทำไมไม่มีใครเห็นที่นี่...ลองทายสิ!"
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! "คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
ชายหนุ่มเดินไปหยุดที่หน้ารูปปั้นหญิงสาวกุมภ์โดยมีสายตาของเอมิลีจ้องตามอย่างไม่ลดละ ชายหนุ่มล้วงกระเป๋าแล้วหยิบเอาซิกาแรตมวนโตขึ้นมา ดูดมันโดยไม่ได้จุดไฟ แล้วเป่าออกไปทางทิศของรูปปั้นสาว แผ่นแก้วบางๆลอยไปในบ่อน้ำพุ ไม่ถึงสองวินาที มันก็เริ่มทำปฏิกิริยากับน้ำในบ่อน้ำพุเกิดเป็นน้ำที่แข็งตัวอยู่ในบ่อนั่นเอง น้ำใต้น้ำแข็งที่ยังไม่แข็งดีหมุนเป็นเกลียวไปสัมผัสกับกลไกที่ก้นบ่อน้ำพุ รูปปั้นสาวชาวกุมภ์ผู้ถือคนโทค่อยแยกตัวออกจากส่วนที่เป็นบ่อน้ำ เผยให้เห็นพื้นเหล็กที่ลึกจมลงในดินราวหนึ่งนิ้ว เอมิลีตาลุกโตด้วยความตะลึงกับสิ่งเบื้องหน้า
"อย่าเพิ่งตกใจ" ชายหนุ่มเปรยขึ้น "ฟังคำตอบต่อไปนะ...ทำไมคุณต้องมาที่นี่...นั่นก็เพราะคุณคือผู้ถูกเลือก สายลับของเราคนหนึ่งกำลังจะเดินทางจากหมู่บ้านเครมลินตันมาที่ลอนดอน ได้นั่งรถไฟขบวนเดียวกันกับเธอ และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะเขาโดยสารอยู่ในโบกี้ถัดจากคุณ ดูเธอทะมัดทะแมง เก่งในการเอาตัวรอด ฉันจึงได้รับหน้าที่จากเขา ให้ลองพิจารณาเธอดู เผื่อจะมาเป็นสายลับให้กับสถาบันนี้ได้ ในฐานะผู้อำนวยการสถาบัน SSSL แห่งนี้ ฉันยังต้องลองทดสอบเธอเสียสักหน่อยก่อน..."
"ฉันเนี่ยนะ?" หญิงสาวถามงงๆ "แน่นอน!" ชายหนุ่มเอ่ย "และที่ถามฉันว่าฉันเป็นใครกันแน่ คำตอบก็คือ ผอ.สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน ส่วนคำตอบสุดท้าย ทำไมไม่มีใครเห็นที่นี่...ลองทายสิ!"
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! "คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
"ฉันเนี่ยนะ?" หญิงสาวถามงงๆ
"แน่นอน!" ชายหนุ่มเอ่ย "และที่ถามฉันว่าฉันเป็นใครกันแน่ คำตอบก็คือ ผอ.สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน ส่วนคำตอบสุดท้าย ทำไมไม่มีใครเห็นที่นี่...ลองทายสิ!"
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง
"นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค"
"ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ
หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก...
"ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่
แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
Special Spy for official Secret investigate in London แต่มันไม่ได้อยู่ที่นี่โดยสิ้นเชิง เพราะนี่เป็นแค่ทางเข้า..."ชายหนุ่มเดินไปหยุดที่หน้ารูปปั้นหญิงสาวกุมภ์โดยมีสายตาของเอมิลีจ้องตามอย่างไม่ลดละ ชายหนุ่มล้วงกระเป๋าแล้วหยิบเอาซิกาแรตมวนโตขึ้นมา ดูดมันโดยไม่ได้จุดไฟ แล้วเป่าออกไปทางทิศของรูปปั้นสาว แผ่นแก้วบางๆลอยไปในบ่อน้ำพุ ไม่ถึงสองวินาที มันก็เริ่มทำปฏิกิริยากับน้ำในบ่อน้ำพุเกิดเป็นน้ำที่แข็งตัวอยู่ในบ่อนั่นเอง น้ำใต้น้ำแข็งที่ยังไม่แข็งดีหมุนเป็นเกลียวไปสัมผัสกับกลไกที่ก้นบ่อน้ำพุ รูปปั้นสาวชาวกุมภ์ผู้ถือคนโทค่อยแยกตัวออกจากส่วนที่เป็นบ่อน้ำ เผยให้เห็นพื้นเหล็กที่ลึกจมลงในดินราวหนึ่งนิ้ว เอมิลีตาลุกโตด้วยความตะลึงกับสิ่งเบื้องหน้า
"อย่าเพิ่งตกใจ" ชายหนุ่มเปรยขึ้น "ฟังคำตอบต่อไปนะ...ทำไมคุณต้องมาที่นี่...นั่นก็เพราะคุณคือผู้ถูกเลือก สายลับของเราคนหนึ่งกำลังจะเดินทางจากหมู่บ้านเครมลินตันมาที่ลอนดอน ได้นั่งรถไฟขบวนเดียวกันกับเธอ และเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเพราะเขาโดยสารอยู่ในโบกี้ถัดจากคุณ ดูเธอทะมัดทะแมง เก่งในการเอาตัวรอด ฉันจึงได้รับหน้าที่จากเขา ให้ลองพิจารณาเธอดู เผื่อจะมาเป็นสายลับให้กับสถาบันนี้ได้ ในฐานะผู้อำนวยการสถาบัน SSSL แห่งนี้ ฉันยังต้องลองทดสอบเธอเสียสักหน่อยก่อน..."
"ฉันเนี่ยนะ?" หญิงสาวถามงงๆ "แน่นอน!" ชายหนุ่มเอ่ย "และที่ถามฉันว่าฉันเป็นใครกันแน่ คำตอบก็คือ ผอ.สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน ส่วนคำตอบสุดท้าย ทำไมไม่มีใครเห็นที่นี่...ลองทายสิ!"
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! "คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
"ฉันเนี่ยนะ?" หญิงสาวถามงงๆ
"แน่นอน!" ชายหนุ่มเอ่ย "และที่ถามฉันว่าฉันเป็นใครกันแน่ คำตอบก็คือ ผอ.สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน ส่วนคำตอบสุดท้าย ทำไมไม่มีใครเห็นที่นี่...ลองทายสิ!"
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง
"นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค"
"ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ
หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก...
"ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่
แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
SSSL แห่งนี้ ฉันยังต้องลองทดสอบเธอเสียสักหน่อยก่อน...""ฉันเนี่ยนะ?" หญิงสาวถามงงๆ
"แน่นอน!" ชายหนุ่มเอ่ย "และที่ถามฉันว่าฉันเป็นใครกันแน่ คำตอบก็คือ ผอ.สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน ส่วนคำตอบสุดท้าย ทำไมไม่มีใครเห็นที่นี่...ลองทายสิ!"
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง "นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค" "ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน! หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
"คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง
"นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค"
"ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ
หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก...
"ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่
แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
!" ชายหนุ่มเอ่ย "และที่ถามฉันว่าฉันเป็นใครกันแน่ คำตอบก็คือ ผอ.สถาบันสายลับพิเศษเพื่อสืบสวนคดีทางราชการลับประจำกรุงลอนดอน ส่วนคำตอบสุดท้าย ทำไมไม่มีใครเห็นที่นี่...ลองทายสิ!""คุณอ่านความคิดฉันออกได้ยังไง" หญิงสาวถามอย่างตกตะลึง
"นั่นไม่ใช่คำตอบ" ชายหนุ่มส่ายนิ้วชี้หยั่งเชิง "ที่นี่ถูกปกคลุมด้วยธาตุแวนิสเซโน ซึ่งเป็นธาตุใหม่ที่ถูกค้นพบ เราสามารถควบคุมการปล่อยและการกระจายของธาตุ การดูดธาตุและการส่งคลื่นภาพลวงตาไปยังตึกสองฝั่งฝากให้ดูเหมือนที่ตรงนี้...เป็นแค่ตรอก ส่วนเรื่องที่เราเห็นที่นี่ได้ก็เพราะเรามีกิจธุระ ทางห้องควบคุมจะตรวจดูกิจธุระและประสงค์ของผู้เข้าเขต ซึ่งกระจายอยู่สิบเอ็ดแห่งทั่วทั้งลอนดอน ด้วยคลื่นรังสีที่จับชีพจร การเต้นหัวใจ รังสีแห่งอารมณ์และคลื่นความคิดของสมองด้วยอุปกรณ์ไฮเทค"
"ตามฉันมาเถอะ!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก... "ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่ แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ
หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก...
"ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่
แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
!" ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางก้าวไปบนพื้นเหล็ก "ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ว่าเธอจะเข้าร่วมกับสถาบันหรือไม่ เพราะนอกจากเธอจะได้รางวัลจากการทำงานแล้ว ยังได้สิทธิพิเศษอีกเพียบ เรามีเวลาไม่มาก"หญิงสาวครุ่นคิดพลางจ้องไปที่นาฬิกาข้อมือ ซึ่งหยุดเดินสนิท แต่ดูเหมือนถ่านจะไม่หมด เธอมองออกไปภายนอกให้ผู้คนที่พลุกพล่านและรถบนถนนหยุดชะงัก เธอจะมีเวลาคิดอีกเท่าไรกันนะ
หญิงสาวคิดถึงข้อดีข้อเสีย แค่ตนต่อสู้กับจอมโจรพีทั้งสองก็ออกข่าวหนังสือพิมพ์เสียแล้ว นับประสาอะไรกับงานใหญ่โตอย่างนี้ แต่ผลประโยชน์ที่เธอจะได้รับก็มีไม่น้อย ทั้งเงิน ทั้งงาน ไหนจะสิทธิพิเศษแบบที่ผู้อำนวยการหนุ่มบอกอีก...
"ตามใจเธอ" ชายหนุ่มพึมพำพลางยักไหล่
แผ่นพื้นเหล็กเริ่มเลื่อนลงไปในพื้นดินลึกไปเรื่อยๆจนเอมิลีมองไม่เห็นส่วนขาของชายหนุ่มจากจุดที่เธอมองอยู่ เธอต้องตัดสินใจที่จะไปหรือไม่ไป...อย่างเร่งด่วน!
!แผ่นเหล็กเลื่อนลงถึงระดับคอ ชายหนุ่มยืนหันหลังให้หญิงสาว บ่อน้ำพุกับรูปปั้นหญิงสาวกุมภ์ผู้ถือคนโทเริ่มเชื่อมมาหากันตามแผ่นเหล็กที่เลื่อนลงจนมองไม่เห็นศีรษะของชายหนุ่ม น้ำแข็งเริ่มละลายตัวช้าๆ และเริ่มจะกลับเป็นน้ำพุอีกครั้ง ไม่มีเวลาสำหรับการตัดสินใจของเธออีกแล้ว!!!
!!!และในที่สุด...
ความคิดเห็น