ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ผู้ช่วย! คนที่ไม่อยากให้มาช่วย
                ฉันรีบขึ้นรถยายลิทันทีที่ยายลิเปิดประตูด้วยระบบอัตโนมัติ แล้วก็คาดเข็มขัดนิรภัยซะเรียบร้อย จนยายลิก็แปลกใจ
              “แปลกจัง วันนี้เรียบร้อยผิดปกติแฮะ มีเรื่องอะไรน่าดีใจเหรอ” ยายลิกัดเข้าให้แล้วไง เรื่องไรฉันจะต้องบอกล่ะ ขืนบอกไปแล้วเธอไปฟ้องเจ้านายฉัน ฉันไม่แย่เหรอ ให้ตายก็ไม่บอกหรอก ฉันคิดแล้วก็หัวเราะด้วยความสนุก ดูหน้ายายลิสิ หน้าบึ้งเชียว เอาเถอะ ไว้งานฉันเสร็จก่อนแล้วจะเล่าให้ฟังนะ
    พอถึงบริษัท ฉันรีบโดดลงจากรถแทบไม่ทัน ก็ยายลิน่ะสิ กะจะขังฉันไว้ในรถจนกว่าฉันจะยอมบอกเรื่องที่ฉันปิดไว้ ไม่งั้นฉันก็เข้าทำงานสายน่ะสิ มีหวังเข้าไปยายมารีน่าบึ้งตาย ฉันคิดไปก็ยืนรอลิฟต์ไป เฮ้อ รีบลงมาเร็วๆเข้าสิ ฉันอยากเห็นหน้าผู้ช่วยจะแย่แล้ว พอลิฟต์มา ฉันก็รีบขึ้นไปด้วยความรีบเร่ง ฉันไม่ได้สังเกตเลยว่าใครขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับฉันบ้าง ก็ไม่เห็นจะน่าสนใจเลยนี่ หน้าตาก็เดิมๆล่ะ ไม่มีใครเข้ามาใหม่หรอกน่า ฉันคิด พอดีกับที่ลิฟต์ถึงชั้นที่ ๑๒ ซึ่งเป็นชั้นที่ฉันทำงานอยู่
    ฉันรีบติดเท้าไฟ จ้ำๆไปถึงห้องหัวหน้า พอฉันเปิดประตูเข้าไป อ้าว ก็มีแค่มารีกับหัวหน้าเองนี่ แล้วไหนล่ะผู้ช่วยฉันน่ะ
              “เขาไม่อยู่เหรอ” ฉันถาม ทั้งสองคนทำหน้างงๆ หน้างงๆเหรอ หมายความว่าไง หรือว่าไม่เข้าใจว่าฉันพูดถึงใคร
              “หมายถึงใคร” มารีถาม เธอทำหน้างงสุดขีด
              “ก็ผู้ช่วยฉันไง” ฉันตอบ เอ๊ะ นี่มันยังไงกัน ฉันเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ
              “ก็อยู่ข้างหลังเธอไงล่ะ ดารา” หัวหน้าบอก เขาพูดแล้วก็ยิ้มๆ ฉันหันไปในทันที อ้าว คุณระพีภัทร  เขาจะมาเป็นผู้ช่วยฉันเหรอนี่ ตกใจแฮะ เขาเป็นพวกขี้หลีนะ เลือกผู้ช่วยแบบนี้มาให้ฉันเหรอ ไม่มีทาง ฉันไม่รับข้อตกลงนี้เด็ดขาด ฉันทำหน้าแบบบุญไม่รับ ทั้งสองคนรู้เลยว่าฉันไม่พอใจ ยายมารีเลยลากฉันออกไปหลังห้องหัวหน้า ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นห้องรับรองผู้ช่วยของฉัน
              “ดาวจ๋า เธอไม่ชอบคุณระพีภัทรเหรอ ฉันว่าเขาก็ทำงานเก่งดีนะ ฉันนึกว่าเธอชอบคนทำงานเก่งๆซะอีก” มารีพูด เธอทำท่าทางเหมือนกับว่าฉันจะทำให้งานพังตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงั้นแหละ
              “หาคนใหม่เถอะจ๊ะ ถึงเขาจะหน้าตาดีหรือทำงานเก่ง แต่เขาเจ้าชู้น่ะ ฉันไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้” ฉันบอก เถอะน่า มารีจ๋า ได้โปรดเปลี่ยนคนให้ด้วยเถอะ ฉันขอร้องน้า ยังไงก็ไม่เอาคนนี้
              “งั้นเหรอครับ ไม่ชอบผมเหรอ แต่ผมชอบคุณนี่นา” คุณระพีภัทรโผล่ออกมา เขายิ้มแบบกวนๆ ไม่ ฉันไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้จริงๆนี่นา แล้วทำไมเขาถึงมาพูดอะไรตอนนี้ ตอนที่มารีคนนี้อยู่ล่ะ ฉันคิด เริ่มรู้สึกไม่ดี
              “ผมไม่ทำรุ่มร่ามกับคุณหรอกครับ นะคร้าบ ให้ผมเป็นผู้ช่วยคุณเถอะ” เขาอ้อนวอน ฉันจะทำใจยักษ์ใจมารได้ถึงไหนกันน้า ก็ดูสิ คุณระพีภัทรเขาทำตาละห้อยอย่างนั้น แล้วก็ยายมารีด้วย ทำหน้าเหมือนกับว่าจะไม่ได้รับเงินเดือนถ้าฉันไม่ยอมรับงานนี้ เอาเถอะ มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นก็ได้นี่
              “ก็ได้ แต่ว่า ถ้าคุณทำรุ่มร่ามกับฉันแม้แต่ครั้งเดียว ฉันจะไม่แบ่งค่าจ้างให้คุณแม้แต่บาทเดียว” ฉันยื่นคำขาด หวังว่าเขาคงจะเข้าใจ
              “ไม่มีปัญหาครับ” เขาตอบแล้วยิ้มหวาน เขาอายุเท่าไหร่กันนะ หน้าก็ดูไม่แก่มาก ราว ๒๓-๒๔ ตัวก็สูงปึกปึนดี แต่น่าเสียดาย เจ้าชู้ไปหน่อย
              “งั้น มารี เธอช่วยบอกหัวหน้าสุดที่รักของเธอว่าฉันจะพาผู้ช่วยไปเทคแคร์นะ วันนี้อาจจะไม่เข้าอีกล่ะจ๊ะ” ฉันบอก หาข้ออ้างโดดงานได้แล้ว เย้ อ้าว คุณระพีภัทรมองมา เขายิ้มด้วย รู้ทันเหรอ ว้าย ฉันนี่ แล้วทำไมเขาถึงรู้ได้นะ ฉันคิดไปแอบเหลือบมองเขาไป ฉันพาเขาลงลิฟต์ เขายังหัวเราะอยู่เพียงแต่หัวเราะอยู่ในลำคอ เชอะ ฉันไม่สนใจแล้ว แล้วฉันจะพาเขาไปไหนดีล่ะ ฉันเหลือบมองเขา เขาก็มองมาที่ฉัน แล้วเขาก็หยุดลง จ้องมาตลอด
              “คุณมีรถใช่มั้ย” ฉันถามขึ้น เขาผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า อืม ถ้าเขามีรถ งั้นก็ให้เขาขับไปละกัน ดีล่ะ เอ แต่จะไปไหนดีล่ะ
              “ไปทานข้าวกันมั้ยครับ” เขาถามบ้าง ฉันทำหน้างงๆตอบไป เขาหัวเราะเบาๆ โอ๊ย มีผู้ช่วยกวนประสาทแบบนี้ ไม่มีซะยังดีกว่า ฉันคิด แต่ก็พยักหน้าไปตามมารยาท เขายิ้มรับอย่างดีใจ
                เขาพาฉันไปยังที่จอดรถบริษัท ไหนรถเขาล่ะ เอ ไม่มีรถเก๋งอยู่นี่ ฉันกวาดตาไปรอบๆ เขาก็ชี้ไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง เอ๊ะ จริงน่ะ ไม่น่าเชื่อว่าท่าทางอย่างเขาเนี่ยจะขี่มอเตอร์ไซค์ เฮ้อ ฉันผิดหวังอย่างแรง แต่ก็นะ มาตรฐานคนมันไม่ได้วัดกันที่ระดับฐานะนี่ ฉันก็ไม่ใช่ว่าจะรวย แค่พอมีพอกิน แล้วเขาจะคิดมองฉันในแง่ไหนบ้างนะ 
                ทันทีที่เขาขึ้นรถ เขาก็สวมหมวกกันน็อค เขาก็โยนหมวกฯอีกใบมาให้ฉัน เอ๊ะ ทำไมมี ๒ ใบล่ะ ของแฟนเหรอ หรือว่าเขาเตรียมมาให้ฉัน มันคงจะเป็นอย่างหลังมากกว่า เพราะเท่าที่สังเกตเห็นมันยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย พอฉันใส่หมวกฯเสร็จ ฉันก็ขึ้นไปนั่งอย่างระมัดระวัง จริงๆก็อยากจะนั่งคร่อมหรอกนะ แต่ว่าวันนี้ฉันใส่กระโปรงนี่นา แถมยังเป็นกระโปรงบานซะด้วยสิ ก็เลยต้องนั่งข้างๆไป ยังไม่ทันจะจัดที่จัดทางให้เข้าล็อค เขาก็รีบบึ่งรถออก ฉันต้องจำใจเกาะเอวเขาเพื่อไม่ให้ตัวฉันเองหล่นลงจากรถไป เหมือนว่าเขาจะหันมาเหลือบมองฉันแวบนึงตอนที่ฉันเกาะเอวเขา ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ถ้าไม่เกาะเขาแล้วจะให้เกาะอะไรล่ะ 
              “แปลกจัง วันนี้เรียบร้อยผิดปกติแฮะ มีเรื่องอะไรน่าดีใจเหรอ” ยายลิกัดเข้าให้แล้วไง เรื่องไรฉันจะต้องบอกล่ะ ขืนบอกไปแล้วเธอไปฟ้องเจ้านายฉัน ฉันไม่แย่เหรอ ให้ตายก็ไม่บอกหรอก ฉันคิดแล้วก็หัวเราะด้วยความสนุก ดูหน้ายายลิสิ หน้าบึ้งเชียว เอาเถอะ ไว้งานฉันเสร็จก่อนแล้วจะเล่าให้ฟังนะ
    พอถึงบริษัท ฉันรีบโดดลงจากรถแทบไม่ทัน ก็ยายลิน่ะสิ กะจะขังฉันไว้ในรถจนกว่าฉันจะยอมบอกเรื่องที่ฉันปิดไว้ ไม่งั้นฉันก็เข้าทำงานสายน่ะสิ มีหวังเข้าไปยายมารีน่าบึ้งตาย ฉันคิดไปก็ยืนรอลิฟต์ไป เฮ้อ รีบลงมาเร็วๆเข้าสิ ฉันอยากเห็นหน้าผู้ช่วยจะแย่แล้ว พอลิฟต์มา ฉันก็รีบขึ้นไปด้วยความรีบเร่ง ฉันไม่ได้สังเกตเลยว่าใครขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับฉันบ้าง ก็ไม่เห็นจะน่าสนใจเลยนี่ หน้าตาก็เดิมๆล่ะ ไม่มีใครเข้ามาใหม่หรอกน่า ฉันคิด พอดีกับที่ลิฟต์ถึงชั้นที่ ๑๒ ซึ่งเป็นชั้นที่ฉันทำงานอยู่
    ฉันรีบติดเท้าไฟ จ้ำๆไปถึงห้องหัวหน้า พอฉันเปิดประตูเข้าไป อ้าว ก็มีแค่มารีกับหัวหน้าเองนี่ แล้วไหนล่ะผู้ช่วยฉันน่ะ
              “เขาไม่อยู่เหรอ” ฉันถาม ทั้งสองคนทำหน้างงๆ หน้างงๆเหรอ หมายความว่าไง หรือว่าไม่เข้าใจว่าฉันพูดถึงใคร
              “หมายถึงใคร” มารีถาม เธอทำหน้างงสุดขีด
              “ก็ผู้ช่วยฉันไง” ฉันตอบ เอ๊ะ นี่มันยังไงกัน ฉันเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ
              “ก็อยู่ข้างหลังเธอไงล่ะ ดารา” หัวหน้าบอก เขาพูดแล้วก็ยิ้มๆ ฉันหันไปในทันที อ้าว คุณระพีภัทร  เขาจะมาเป็นผู้ช่วยฉันเหรอนี่ ตกใจแฮะ เขาเป็นพวกขี้หลีนะ เลือกผู้ช่วยแบบนี้มาให้ฉันเหรอ ไม่มีทาง ฉันไม่รับข้อตกลงนี้เด็ดขาด ฉันทำหน้าแบบบุญไม่รับ ทั้งสองคนรู้เลยว่าฉันไม่พอใจ ยายมารีเลยลากฉันออกไปหลังห้องหัวหน้า ซึ่งตอนนี้ใช้เป็นห้องรับรองผู้ช่วยของฉัน
              “ดาวจ๋า เธอไม่ชอบคุณระพีภัทรเหรอ ฉันว่าเขาก็ทำงานเก่งดีนะ ฉันนึกว่าเธอชอบคนทำงานเก่งๆซะอีก” มารีพูด เธอทำท่าทางเหมือนกับว่าฉันจะทำให้งานพังตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงั้นแหละ
              “หาคนใหม่เถอะจ๊ะ ถึงเขาจะหน้าตาดีหรือทำงานเก่ง แต่เขาเจ้าชู้น่ะ ฉันไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้” ฉันบอก เถอะน่า มารีจ๋า ได้โปรดเปลี่ยนคนให้ด้วยเถอะ ฉันขอร้องน้า ยังไงก็ไม่เอาคนนี้
              “งั้นเหรอครับ ไม่ชอบผมเหรอ แต่ผมชอบคุณนี่นา” คุณระพีภัทรโผล่ออกมา เขายิ้มแบบกวนๆ ไม่ ฉันไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้จริงๆนี่นา แล้วทำไมเขาถึงมาพูดอะไรตอนนี้ ตอนที่มารีคนนี้อยู่ล่ะ ฉันคิด เริ่มรู้สึกไม่ดี
              “ผมไม่ทำรุ่มร่ามกับคุณหรอกครับ นะคร้าบ ให้ผมเป็นผู้ช่วยคุณเถอะ” เขาอ้อนวอน ฉันจะทำใจยักษ์ใจมารได้ถึงไหนกันน้า ก็ดูสิ คุณระพีภัทรเขาทำตาละห้อยอย่างนั้น แล้วก็ยายมารีด้วย ทำหน้าเหมือนกับว่าจะไม่ได้รับเงินเดือนถ้าฉันไม่ยอมรับงานนี้ เอาเถอะ มันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นก็ได้นี่
              “ก็ได้ แต่ว่า ถ้าคุณทำรุ่มร่ามกับฉันแม้แต่ครั้งเดียว ฉันจะไม่แบ่งค่าจ้างให้คุณแม้แต่บาทเดียว” ฉันยื่นคำขาด หวังว่าเขาคงจะเข้าใจ
              “ไม่มีปัญหาครับ” เขาตอบแล้วยิ้มหวาน เขาอายุเท่าไหร่กันนะ หน้าก็ดูไม่แก่มาก ราว ๒๓-๒๔ ตัวก็สูงปึกปึนดี แต่น่าเสียดาย เจ้าชู้ไปหน่อย
              “งั้น มารี เธอช่วยบอกหัวหน้าสุดที่รักของเธอว่าฉันจะพาผู้ช่วยไปเทคแคร์นะ วันนี้อาจจะไม่เข้าอีกล่ะจ๊ะ” ฉันบอก หาข้ออ้างโดดงานได้แล้ว เย้ อ้าว คุณระพีภัทรมองมา เขายิ้มด้วย รู้ทันเหรอ ว้าย ฉันนี่ แล้วทำไมเขาถึงรู้ได้นะ ฉันคิดไปแอบเหลือบมองเขาไป ฉันพาเขาลงลิฟต์ เขายังหัวเราะอยู่เพียงแต่หัวเราะอยู่ในลำคอ เชอะ ฉันไม่สนใจแล้ว แล้วฉันจะพาเขาไปไหนดีล่ะ ฉันเหลือบมองเขา เขาก็มองมาที่ฉัน แล้วเขาก็หยุดลง จ้องมาตลอด
              “คุณมีรถใช่มั้ย” ฉันถามขึ้น เขาผงะไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า อืม ถ้าเขามีรถ งั้นก็ให้เขาขับไปละกัน ดีล่ะ เอ แต่จะไปไหนดีล่ะ
              “ไปทานข้าวกันมั้ยครับ” เขาถามบ้าง ฉันทำหน้างงๆตอบไป เขาหัวเราะเบาๆ โอ๊ย มีผู้ช่วยกวนประสาทแบบนี้ ไม่มีซะยังดีกว่า ฉันคิด แต่ก็พยักหน้าไปตามมารยาท เขายิ้มรับอย่างดีใจ
                เขาพาฉันไปยังที่จอดรถบริษัท ไหนรถเขาล่ะ เอ ไม่มีรถเก๋งอยู่นี่ ฉันกวาดตาไปรอบๆ เขาก็ชี้ไปที่รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง เอ๊ะ จริงน่ะ ไม่น่าเชื่อว่าท่าทางอย่างเขาเนี่ยจะขี่มอเตอร์ไซค์ เฮ้อ ฉันผิดหวังอย่างแรง แต่ก็นะ มาตรฐานคนมันไม่ได้วัดกันที่ระดับฐานะนี่ ฉันก็ไม่ใช่ว่าจะรวย แค่พอมีพอกิน แล้วเขาจะคิดมองฉันในแง่ไหนบ้างนะ 
                ทันทีที่เขาขึ้นรถ เขาก็สวมหมวกกันน็อค เขาก็โยนหมวกฯอีกใบมาให้ฉัน เอ๊ะ ทำไมมี ๒ ใบล่ะ ของแฟนเหรอ หรือว่าเขาเตรียมมาให้ฉัน มันคงจะเป็นอย่างหลังมากกว่า เพราะเท่าที่สังเกตเห็นมันยังใหม่เอี่ยมอยู่เลย พอฉันใส่หมวกฯเสร็จ ฉันก็ขึ้นไปนั่งอย่างระมัดระวัง จริงๆก็อยากจะนั่งคร่อมหรอกนะ แต่ว่าวันนี้ฉันใส่กระโปรงนี่นา แถมยังเป็นกระโปรงบานซะด้วยสิ ก็เลยต้องนั่งข้างๆไป ยังไม่ทันจะจัดที่จัดทางให้เข้าล็อค เขาก็รีบบึ่งรถออก ฉันต้องจำใจเกาะเอวเขาเพื่อไม่ให้ตัวฉันเองหล่นลงจากรถไป เหมือนว่าเขาจะหันมาเหลือบมองฉันแวบนึงตอนที่ฉันเกาะเอวเขา ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ถ้าไม่เกาะเขาแล้วจะให้เกาะอะไรล่ะ 
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น