ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เรื่องราวของพี่สาว
“อาบเร็วๆนะ มีเรื่องจะคุยด้วย” พี่สาวฉันพูด ฉันหันไปมองร่างบาง เธอยังนั่งดูทีวีอยู่เลย เฮ้อ ฉันคิดแล้วก็ถอนหายใจ
              หลังจากอาบน้ำเสร็จฉันก็มานั่งข้างๆเธออีก เงียบ บรรยากาศช่างน่าหงุดหงิด ฉันควรจะเป็นฝ่ายถามก่อนเหรอ
              “มีอะไรเหรอคะ พี่เดือน” ฉันตัดสินใจเอ่ยถามก่อน ไม่งั้นฉันคงจะไม่ได้พักผ่อนแน่ พี่ฉันเม้มปากสนิทก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณธีระ บรรจบชัย เจ้าของโรงละครชัยสวัสดิ์น่ะ  เขามาขอคบกับพี่ล่ะ แต่พี่ไม่ได้ชอบเขา เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน แล้วจู่ๆเขาก็มาบอกว่าชอบพี่ พี่ควรจะตกลงหรือทำไงดีล่ะ ยัยดา”
    เอาแล้วไง เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอด แล้วจะเป็นที่ปรึกษาเรื่องความรักให้คนอื่นได้ไงล่ะ แต่ก็นะ จะมีคนมาสารภาพรักกับพี่มันก็มีบ่อยไป แต่พี่ก็ตอบปฏิเสธไปหมดเลยนี่ นี่เป็นครั้งแรกที่พี่มาขอความคิดเห็นแฮะ  บางทีพี่อาจจะมีใจให้ก็ได้ แต่พี่ยังไม่รู้ตัว ก็เป็นได้
              “พี่เดือนน่ะสวยจะตายไป ต้องมีความมั่นใจหน่อยสิรู้มั้ย ขืนทำหยั่งงี้เข้าบ่อยๆ คนอื่นเขาจะพลอยเบื่อเข้าก็ได้นะ” ฉันพูดไปงั้นๆ กะจะให้พี่รู้ด้วยตัวเอง
              “พี่ไม่รู้ว่าจะทำไงนี่ ยัยดาบ้า” อ้าว พี่ร้องไห้เลย กลายเป็นว่าฉันไปพูดให้สับสนมากกว่าเดิมเหรอ ต้องเปลี่ยนแผนใหม่
              “แล้วพี่ชอบเขารึเปล่าล่ะ” ฉันถามตรงๆ
              “ไม่รู้เหมือนกัน ก็ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ” พี่ตอบสั้นๆ ไอคำตอบอย่างนี้แหละ กำกวมนัก เฮ้อ ฉันต้องมานั่งตีความจากไทยเป็นไทยอีกรึไง
              “ก็หมายความว่า มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนใช่ป่าว” ฉันถามต่อ สรุปได้แค่เนี่ยล่ะ
              “อืม ก็คงใช่ล่ะ” พี่ยังสะอื้นอยู่ โอ้ น้ำตาช่างเข้ากับใบหน้าม๊ากมาก แต่ถ้าไม่ร้องไห้สวยกว่านี้โขเลย โธ่ ทั้งๆที่เป็นพี่น้องกันแต่ฉันยังไม่ได้ครึ่งของพี่เดือนเลย สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง
              “คืนนี้พี่ขอค้างได้มะ พรุ่งนี้เค้าจะไปหาแม่ที่ชลบุรีล่ะ พอดีพรุ่งนี้ไม่แสดง จะได้ไปท่องบทด้วย” พี่เดือนบอก
              “ได้จ้า แต่อย่ารบกวนการนอนของฉันล่ะ ฉันไปนอนก่อนนะ บาย” ฉันตอบตกลงแล้วก็บอกราตรีสวัสดิ์ พี่เดือนโบกมือให้ ฉันเข้ามาในห้องนอน รู้สึกว่าพอหัวถึงหมอนก็หลับไปเลย รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว เสียงนาฬิกาปลุกดังสนั่น ฉันอยากจะขว้างมันซะจริ๊ง แต่ไม่ได้หรอก มันแพง 
                อ้าว พี่เดือนมานอนข้างๆ หรอกเหรอ เฮ้อ ขนาดตอนนอนยังสวยเลย ฉันนี่เทียบรัศมีของพี่ไม่ติดเลยนะ
ฉันลุกไปอาบน้ำ พลางคิดว่า วันนี้จะได้เห็นหน้าผู้ช่วยแล้ว ฉันจะได้หาเรื่องโดดงานไปด้วยเลย
                หลังจากอาบน้ำเสร็จ  ฉันก็เข้ามาแต่งตัวในห้อง วันนี้จะแต่งชุดอะไรดีล่ะ เอาเสื้อสีเลมอนละกัน อืม กระโปรงบานสีดำตัวนี้ล่ะ กระเป๋าล่ะ กระเป๋าสีขาวคู่กับรองเท้ารัดส้นสีขาวเมื่อวานดีกว่า ฉันก็หยิบตามที่คิดว่าเหมาะ แล้วก็บรรจงหยิบแต่ละชิ้นมาสวมใส่ด้วยความเรียบร้อย เมื่อแต่งตัวเสร็จก็ตัดสินใจปลุกพี่
              “พี่เดือน ๘ โมงแล้วนะคะ จะไปยังไงล่ะ ขับรถไปรึว่านั่งเครื่องบิน” ฉันถาม แต่อย่างพี่น่าจะนั่งเครื่องไปนะ เพราะเดี๋ยวกลับมาไม่ทันเย็น
              “อืม นั่งเครื่องจ๊ะ ๘ โมงแล้วเหรอ เดี๋ยวพี่ไปส่งมั้ย” พี่เดือนถาม จะขับรถไปส่งฉันที่ทำงานน่ะเหรอ ก็ดีนะ แต่ ป่านนี้ยัยลินั่นต้องรีบบึ่งมารับฉันแล้วล่ะ ขืนบอกว่าเดี๋ยวพี่เดือนไปส่ง ฉันโดนยัยลิฆ่าตายก่อนน่ะสิ
              “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวยัยลิมารับ” ฉันตอบอย่างเกรงใจเต็มที่ จริงๆก็เปล่าหรอก นั่งรถพี่สบายกว่านั่งรถยัยลิโข แต่ก็นะ เดี๋ยวยัยลิก็มารับ นั่นไง เสียงกริ่งดัง ยัยลิชัวร์ ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตู ยัยลิจริงๆ ด้วย
              “ว่าไง ยัยดา เมื่อวานตะโกนมาซะแทบหูแตก” ยัยลิพูดประชด
              “ฮะฮะ โทษทีน่า พี่เดือนไปก่อนนะคะ” ฉันขอโทษยัยลิเรียบร้อยก็บอกพี่ดาก่อนจะดันยัยลิให้ออกไปก่อน
              “หา พี่เดือนอยู่เหรอ” ยัยลิร้องอย่างตกใจปนดีใจ จนเก็บเอาไว้ไม่อยู่
              “ก็ถ้าเมื่อวานมาส่งฉันก็คงจะเจออยู่หรอก” ฉันไม่วายกัดอีก แต่ยัยลิวิ่งเข้าไปหาพี่เดือนแล้ว โธ่ ฟังฉันหน่อยก็ไม่ได้
                “ลิ รีบๆไปเหอะ เดี๋ยวฉันไปทำงานสาย” ฉันบอก ลิพยักหน้าแล้วโบกมือลาพี่ฉัน ไม่แปลกใจที่จะเห็นกิริยาอย่างนี้บ่อยๆ ก็พี่เป็นนักแสดงอยู่ที่โรงละครชัยสวัสดิ์น่ะสิ เคยมีหลายครั้งที่มีคนทาบทามให้ไปแสดงละครทางโทรทัศน์ แต่พี่ก็ไปแสดงได้ ๒-๓ เรื่อง ก็บอกว่าละครเวทีสนุกกว่า ตอนแรกฉันก็คิดว่าพี่จะเข้าวงการมายานั่นซะแล้ว...
              หลังจากอาบน้ำเสร็จฉันก็มานั่งข้างๆเธออีก เงียบ บรรยากาศช่างน่าหงุดหงิด ฉันควรจะเป็นฝ่ายถามก่อนเหรอ
              “มีอะไรเหรอคะ พี่เดือน” ฉันตัดสินใจเอ่ยถามก่อน ไม่งั้นฉันคงจะไม่ได้พักผ่อนแน่ พี่ฉันเม้มปากสนิทก่อนจะพูดขึ้นว่า “คุณธีระ บรรจบชัย เจ้าของโรงละครชัยสวัสดิ์น่ะ  เขามาขอคบกับพี่ล่ะ แต่พี่ไม่ได้ชอบเขา เราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน แล้วจู่ๆเขาก็มาบอกว่าชอบพี่ พี่ควรจะตกลงหรือทำไงดีล่ะ ยัยดา”
    เอาแล้วไง เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอด แล้วจะเป็นที่ปรึกษาเรื่องความรักให้คนอื่นได้ไงล่ะ แต่ก็นะ จะมีคนมาสารภาพรักกับพี่มันก็มีบ่อยไป แต่พี่ก็ตอบปฏิเสธไปหมดเลยนี่ นี่เป็นครั้งแรกที่พี่มาขอความคิดเห็นแฮะ  บางทีพี่อาจจะมีใจให้ก็ได้ แต่พี่ยังไม่รู้ตัว ก็เป็นได้
              “พี่เดือนน่ะสวยจะตายไป ต้องมีความมั่นใจหน่อยสิรู้มั้ย ขืนทำหยั่งงี้เข้าบ่อยๆ คนอื่นเขาจะพลอยเบื่อเข้าก็ได้นะ” ฉันพูดไปงั้นๆ กะจะให้พี่รู้ด้วยตัวเอง
              “พี่ไม่รู้ว่าจะทำไงนี่ ยัยดาบ้า” อ้าว พี่ร้องไห้เลย กลายเป็นว่าฉันไปพูดให้สับสนมากกว่าเดิมเหรอ ต้องเปลี่ยนแผนใหม่
              “แล้วพี่ชอบเขารึเปล่าล่ะ” ฉันถามตรงๆ
              “ไม่รู้เหมือนกัน ก็ไม่ได้ชอบ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจ” พี่ตอบสั้นๆ ไอคำตอบอย่างนี้แหละ กำกวมนัก เฮ้อ ฉันต้องมานั่งตีความจากไทยเป็นไทยอีกรึไง
              “ก็หมายความว่า มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟนใช่ป่าว” ฉันถามต่อ สรุปได้แค่เนี่ยล่ะ
              “อืม ก็คงใช่ล่ะ” พี่ยังสะอื้นอยู่ โอ้ น้ำตาช่างเข้ากับใบหน้าม๊ากมาก แต่ถ้าไม่ร้องไห้สวยกว่านี้โขเลย โธ่ ทั้งๆที่เป็นพี่น้องกันแต่ฉันยังไม่ได้ครึ่งของพี่เดือนเลย สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง
              “คืนนี้พี่ขอค้างได้มะ พรุ่งนี้เค้าจะไปหาแม่ที่ชลบุรีล่ะ พอดีพรุ่งนี้ไม่แสดง จะได้ไปท่องบทด้วย” พี่เดือนบอก
              “ได้จ้า แต่อย่ารบกวนการนอนของฉันล่ะ ฉันไปนอนก่อนนะ บาย” ฉันตอบตกลงแล้วก็บอกราตรีสวัสดิ์ พี่เดือนโบกมือให้ ฉันเข้ามาในห้องนอน รู้สึกว่าพอหัวถึงหมอนก็หลับไปเลย รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว เสียงนาฬิกาปลุกดังสนั่น ฉันอยากจะขว้างมันซะจริ๊ง แต่ไม่ได้หรอก มันแพง 
                อ้าว พี่เดือนมานอนข้างๆ หรอกเหรอ เฮ้อ ขนาดตอนนอนยังสวยเลย ฉันนี่เทียบรัศมีของพี่ไม่ติดเลยนะ
ฉันลุกไปอาบน้ำ พลางคิดว่า วันนี้จะได้เห็นหน้าผู้ช่วยแล้ว ฉันจะได้หาเรื่องโดดงานไปด้วยเลย
                หลังจากอาบน้ำเสร็จ  ฉันก็เข้ามาแต่งตัวในห้อง วันนี้จะแต่งชุดอะไรดีล่ะ เอาเสื้อสีเลมอนละกัน อืม กระโปรงบานสีดำตัวนี้ล่ะ กระเป๋าล่ะ กระเป๋าสีขาวคู่กับรองเท้ารัดส้นสีขาวเมื่อวานดีกว่า ฉันก็หยิบตามที่คิดว่าเหมาะ แล้วก็บรรจงหยิบแต่ละชิ้นมาสวมใส่ด้วยความเรียบร้อย เมื่อแต่งตัวเสร็จก็ตัดสินใจปลุกพี่
              “พี่เดือน ๘ โมงแล้วนะคะ จะไปยังไงล่ะ ขับรถไปรึว่านั่งเครื่องบิน” ฉันถาม แต่อย่างพี่น่าจะนั่งเครื่องไปนะ เพราะเดี๋ยวกลับมาไม่ทันเย็น
              “อืม นั่งเครื่องจ๊ะ ๘ โมงแล้วเหรอ เดี๋ยวพี่ไปส่งมั้ย” พี่เดือนถาม จะขับรถไปส่งฉันที่ทำงานน่ะเหรอ ก็ดีนะ แต่ ป่านนี้ยัยลินั่นต้องรีบบึ่งมารับฉันแล้วล่ะ ขืนบอกว่าเดี๋ยวพี่เดือนไปส่ง ฉันโดนยัยลิฆ่าตายก่อนน่ะสิ
              “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวยัยลิมารับ” ฉันตอบอย่างเกรงใจเต็มที่ จริงๆก็เปล่าหรอก นั่งรถพี่สบายกว่านั่งรถยัยลิโข แต่ก็นะ เดี๋ยวยัยลิก็มารับ นั่นไง เสียงกริ่งดัง ยัยลิชัวร์ ฉันรีบวิ่งไปเปิดประตู ยัยลิจริงๆ ด้วย
              “ว่าไง ยัยดา เมื่อวานตะโกนมาซะแทบหูแตก” ยัยลิพูดประชด
              “ฮะฮะ โทษทีน่า พี่เดือนไปก่อนนะคะ” ฉันขอโทษยัยลิเรียบร้อยก็บอกพี่ดาก่อนจะดันยัยลิให้ออกไปก่อน
              “หา พี่เดือนอยู่เหรอ” ยัยลิร้องอย่างตกใจปนดีใจ จนเก็บเอาไว้ไม่อยู่
              “ก็ถ้าเมื่อวานมาส่งฉันก็คงจะเจออยู่หรอก” ฉันไม่วายกัดอีก แต่ยัยลิวิ่งเข้าไปหาพี่เดือนแล้ว โธ่ ฟังฉันหน่อยก็ไม่ได้
                “ลิ รีบๆไปเหอะ เดี๋ยวฉันไปทำงานสาย” ฉันบอก ลิพยักหน้าแล้วโบกมือลาพี่ฉัน ไม่แปลกใจที่จะเห็นกิริยาอย่างนี้บ่อยๆ ก็พี่เป็นนักแสดงอยู่ที่โรงละครชัยสวัสดิ์น่ะสิ เคยมีหลายครั้งที่มีคนทาบทามให้ไปแสดงละครทางโทรทัศน์ แต่พี่ก็ไปแสดงได้ ๒-๓ เรื่อง ก็บอกว่าละครเวทีสนุกกว่า ตอนแรกฉันก็คิดว่าพี่จะเข้าวงการมายานั่นซะแล้ว...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น