ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : สุภาพบุรุษจริงรึเปล่า
              วันนี้ทั้งวันฉันรอเขาติดต่อกลับมา แต่
เอ เขาจะติดต่อกลับมาจริงๆน่ะเหรอ เบื่อจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะเลิกงานซะทีนะ ฉันคิดพลางเหลือบมองดูนาฬิกา อีก ๑๐ นาทีจะเลิกงาน โอ๊ย นาฬิกาเจ้าขา เดินให้มันเร็วๆกว่านี้อีกไม่ได้รึไง ฉันต้องนั่งอยู่เฉยๆอย่างนี้ทั้งวันจนจะรากงอกอยู่แล้วนะ เฮ้อ แล้วงานตั้งพะเนินที่วางอยู่ข้างๆโต๊ะฉันเนี่ยล่ะ  อย่าบอกนะว่ายัยมารีจะแบ่งให้ฉันเอาไปทำด้วยน่ะ
              “ดาจ๋า ดารา” เสียงมารีเรียกฉัน เรียกซะหวานเชียว รู้เลยว่าไอ้เรื่องนี้มันจะจบยังไง เธอต้องขอให้ฉันช่วยงานแน่ๆ
              “ดา ฉันเห็นเธอนั่งว่างๆ ก็เลยอยากจะขอแรงเธอพรุ่งนี้ ไปสัมภาษณ์หนุ่มนักธุรกิจคนหนึ่งให้หน่อยได้มั้ยจ๊ะ” มารีพูด เธอลดแว่นหนาเตอะของเธอลงมาอยู่ปลายจมูก แล้วเธอก็มองลอดแว่นมองฉันด้วยแววตาวิงวอน
              “รายละเอียดล่ะ” ฉันลองถามไป เผื่อมันจะมีอะไรน่าสนใจ
              “ก็ หนุ่มนักธุรกิจไฟแรง นายธีระ บรรจบชัย ตำแหน่งปัจจุบันเจ้าของโรงละครชัยสวัสดิ์ คู่แข่งกับนายเชษฐา กิตินนท์ที่เป็นผู้จัดการโรงละครกิตินนท์ยังไงล่ะ ฉันจะให้เธอไปสัมภาษณ์ทั้งสองคนเลย แล้วฉันก็จะขอหัวหน้าให้หาผู้ช่วยให้เธอก็ได้นะ แล้วถ้าเธอทำให้ได้ แล้วผลงานเป็นที่ยอมรับของตลาด ชั้นก็จะบอกว่ามันเป็นผลงานของเธอ ว่าไง สนใจรึยัง” มารีถามอย่างรู้ทัน แน่ล่ะซิ ชั้นก็ต้องรับงานนี้ชัวร์ๆ แต่ก่อนจะได้พลอยเม็ดใหญ่ ชั้นอยากจะได้นิลก่อนนี่นา
              “ฉันต้องการผู้ช่วยก่อน ถ้าเธอหาให้ชั้นทันในวันพรุ่งนี้ แล้วแน่นอนว่าฉันต้องถูกใจด้วย วันมะรืนชั้นจะรีบทำงานให้เสร็จใน ๕ วัน” ฉันยื่นขอเสนอไป เดาใจยัยนี่ไม่ถูกแฮะ แต่ยัยนี่เป็นมือ 1 ของหัวหน้า ถ้าชั้นทำงานออกมาดี บางทีฉันอาจจะเป็นมือสองของหัวหน้าบ้างก็ได้ ฉันยิ้มอย่างมีชัย ข้อเสนอของฉันไม่มากนะ ถ้าเธอปฏิเสธล่ะก็ งานนี้ล่มแน่ ยัยมารีเอ๋ย ฉันมั่นใจว่าฝีมือของฉันไม่ได้แพ้เธอหรอกนะ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นการยากที่จะหาใครมาทำงานแทนเธอนะ มารี
              “อืม ได้สิ งั้นเดี๋ยวฉันจะเข้าไปคุยกับหัวหน้านะ เธอกลับไปเลยก็ได้ อีก ๒-๓ นาทีก็เลิกงานแล้ว จะได้ไม่ต้องไปเบียดกับใครในลิฟต์” มารีบอก แหมเธอช่างใจดีจริงนะ แต่ก็นะ คิดๆดูอีกทีเป็นลูกน้องหัวหน้าโดยตรงนี่ลำบากนะ ฉันเลยไม่ค่อยอยากเสนอความคิดเท่าไรน่ะสิ ขืนงั้นมีหวังได้งานท่วมหัวแบบเธอแน่ มารีเอ๋ย
    แล้วฉันก็เปลี่ยนรองเท้าจากสลิบเปอร์มาเป็นรองเท้าสั้นสูงสีขาวปลายเข็ม ฉันเปิดตลับแป้ง อืม หน้าตาโอเค แล้วฉันก็ยัดมันลงไปในกระเป๋าถือ ฉันเลื่อนเก้าอี้เข้าไปในโต๊ะ แล้วเดินออกมาจากห้องทำงานที่ทุกคนกำลังเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน  พร้อมกับสะพายกระเป๋าขึ้นที่บ่า ฉันเดินไปกดลิฟต์ อ้าว มีหนุ่มหล่อยืนอยู่ตรงนี้นี่นา ฉันเพิ่งสังเกตเห็นก่อนที่ลิฟต์จะมา เขายิ้ม เขายิ้มให้ฉันหรือ ฉันหันไปรอบๆ ตรงนี้ก็มีแค่ฉันกับเขา เขาหัวเราะ ทำไมกันนะ ท่าทางของฉันมันตลกขนาดนั้นเชียว พอลิฟต์มาเขาก็ผายมือให้ฉันเข้าไปก่อน โอ้ เขาช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ
              “คุณชื่ออะไรเหรอครับ ผมชื่อระพีภัทรครับ” เขาเอ่ยปากถาม ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อย่ายิ้มนักสิ เดี๋ยวฉันละลาย เอ๊ย ไม่ใช่ ฉันยังไม่ได้ตอบคำถามของเขาเลย
              “ดาราค่ะ” ฉันตอบกลับไปอย่างสุภาพ ก็เป็นครั้งแรกที่เจอกันนี่นา ก็ต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ เขายื่นมือออกมา ยื่นมาทำไม ฉันคิด อ้อ แล้วฉันก็ยื่นมือไปจับมือเขา เขาหัวเราะเบาๆ อีกแล้ว พอเจอหนุ่มหล่อทีไร ทำไมฉันถึงได้เปิ่นทุกทีเลยนะ 
              “เอ่อ คุณทำงานที่นี่” ฉันถามพลางเลิกคิ้ว เขาส่ายหัว
              “เปล่าหรอกครับ ผมไม่ได้ทำงานที่นี่เพียงแต่มีธุระกับเพื่อน เขามาชวนให้ผมเป็นช่างภาพของที่นี่น่ะครับ” เขาตอบ ใช่แล้วค่ะ บริษัทที่ฉันทำงานอยู่นี่เป็นบริษัทจัดทำนิตยสารเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปต่างๆ แล้วงานของฉันก็คือเรียบเรียงข้อมูล แต่บางทีวันมะรืนที่จะถึงนี้ ฉันอาจจะเป็นผู้หาข้อมูลก็เป็นได้นะ
              “คุณเป็นช่างภาพ” ฉันถาม เขายิ้มตอบ
              “ใช่ครับ” เขาตอบสั้นๆแล้วหน้าแดงนิดหน่อย เขาเขินรึเนี่ย ว้าย ดูเขาสิ น่ารักจัง ฉันคิดแล้วก็ยิ้มบ้าง เขาน่าเอ็นดูจังน้า ช่างเป็นการขึ้นลิฟต์ที่สนุกจัง ฉันคิด ก็พอดีกับที่ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างสุด เขาก็รอให้ฉันเดินออกไปก่อนแล้วเขาถึงค่อยออกมา ใช่ เขาเป็นสุภาพบุรุษมาก
              “ดาจ๋า ดารา” เสียงมารีเรียกฉัน เรียกซะหวานเชียว รู้เลยว่าไอ้เรื่องนี้มันจะจบยังไง เธอต้องขอให้ฉันช่วยงานแน่ๆ
              “ดา ฉันเห็นเธอนั่งว่างๆ ก็เลยอยากจะขอแรงเธอพรุ่งนี้ ไปสัมภาษณ์หนุ่มนักธุรกิจคนหนึ่งให้หน่อยได้มั้ยจ๊ะ” มารีพูด เธอลดแว่นหนาเตอะของเธอลงมาอยู่ปลายจมูก แล้วเธอก็มองลอดแว่นมองฉันด้วยแววตาวิงวอน
              “รายละเอียดล่ะ” ฉันลองถามไป เผื่อมันจะมีอะไรน่าสนใจ
              “ก็ หนุ่มนักธุรกิจไฟแรง นายธีระ บรรจบชัย ตำแหน่งปัจจุบันเจ้าของโรงละครชัยสวัสดิ์ คู่แข่งกับนายเชษฐา กิตินนท์ที่เป็นผู้จัดการโรงละครกิตินนท์ยังไงล่ะ ฉันจะให้เธอไปสัมภาษณ์ทั้งสองคนเลย แล้วฉันก็จะขอหัวหน้าให้หาผู้ช่วยให้เธอก็ได้นะ แล้วถ้าเธอทำให้ได้ แล้วผลงานเป็นที่ยอมรับของตลาด ชั้นก็จะบอกว่ามันเป็นผลงานของเธอ ว่าไง สนใจรึยัง” มารีถามอย่างรู้ทัน แน่ล่ะซิ ชั้นก็ต้องรับงานนี้ชัวร์ๆ แต่ก่อนจะได้พลอยเม็ดใหญ่ ชั้นอยากจะได้นิลก่อนนี่นา
              “ฉันต้องการผู้ช่วยก่อน ถ้าเธอหาให้ชั้นทันในวันพรุ่งนี้ แล้วแน่นอนว่าฉันต้องถูกใจด้วย วันมะรืนชั้นจะรีบทำงานให้เสร็จใน ๕ วัน” ฉันยื่นขอเสนอไป เดาใจยัยนี่ไม่ถูกแฮะ แต่ยัยนี่เป็นมือ 1 ของหัวหน้า ถ้าชั้นทำงานออกมาดี บางทีฉันอาจจะเป็นมือสองของหัวหน้าบ้างก็ได้ ฉันยิ้มอย่างมีชัย ข้อเสนอของฉันไม่มากนะ ถ้าเธอปฏิเสธล่ะก็ งานนี้ล่มแน่ ยัยมารีเอ๋ย ฉันมั่นใจว่าฝีมือของฉันไม่ได้แพ้เธอหรอกนะ เพราะฉะนั้นก็จะเป็นการยากที่จะหาใครมาทำงานแทนเธอนะ มารี
              “อืม ได้สิ งั้นเดี๋ยวฉันจะเข้าไปคุยกับหัวหน้านะ เธอกลับไปเลยก็ได้ อีก ๒-๓ นาทีก็เลิกงานแล้ว จะได้ไม่ต้องไปเบียดกับใครในลิฟต์” มารีบอก แหมเธอช่างใจดีจริงนะ แต่ก็นะ คิดๆดูอีกทีเป็นลูกน้องหัวหน้าโดยตรงนี่ลำบากนะ ฉันเลยไม่ค่อยอยากเสนอความคิดเท่าไรน่ะสิ ขืนงั้นมีหวังได้งานท่วมหัวแบบเธอแน่ มารีเอ๋ย
    แล้วฉันก็เปลี่ยนรองเท้าจากสลิบเปอร์มาเป็นรองเท้าสั้นสูงสีขาวปลายเข็ม ฉันเปิดตลับแป้ง อืม หน้าตาโอเค แล้วฉันก็ยัดมันลงไปในกระเป๋าถือ ฉันเลื่อนเก้าอี้เข้าไปในโต๊ะ แล้วเดินออกมาจากห้องทำงานที่ทุกคนกำลังเก็บข้าวของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน  พร้อมกับสะพายกระเป๋าขึ้นที่บ่า ฉันเดินไปกดลิฟต์ อ้าว มีหนุ่มหล่อยืนอยู่ตรงนี้นี่นา ฉันเพิ่งสังเกตเห็นก่อนที่ลิฟต์จะมา เขายิ้ม เขายิ้มให้ฉันหรือ ฉันหันไปรอบๆ ตรงนี้ก็มีแค่ฉันกับเขา เขาหัวเราะ ทำไมกันนะ ท่าทางของฉันมันตลกขนาดนั้นเชียว พอลิฟต์มาเขาก็ผายมือให้ฉันเข้าไปก่อน โอ้ เขาช่างเป็นสุภาพบุรุษจริงๆ
              “คุณชื่ออะไรเหรอครับ ผมชื่อระพีภัทรครับ” เขาเอ่ยปากถาม ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม อย่ายิ้มนักสิ เดี๋ยวฉันละลาย เอ๊ย ไม่ใช่ ฉันยังไม่ได้ตอบคำถามของเขาเลย
              “ดาราค่ะ” ฉันตอบกลับไปอย่างสุภาพ ก็เป็นครั้งแรกที่เจอกันนี่นา ก็ต้องสร้างความประทับใจหน่อยสิ เขายื่นมือออกมา ยื่นมาทำไม ฉันคิด อ้อ แล้วฉันก็ยื่นมือไปจับมือเขา เขาหัวเราะเบาๆ อีกแล้ว พอเจอหนุ่มหล่อทีไร ทำไมฉันถึงได้เปิ่นทุกทีเลยนะ 
              “เอ่อ คุณทำงานที่นี่” ฉันถามพลางเลิกคิ้ว เขาส่ายหัว
              “เปล่าหรอกครับ ผมไม่ได้ทำงานที่นี่เพียงแต่มีธุระกับเพื่อน เขามาชวนให้ผมเป็นช่างภาพของที่นี่น่ะครับ” เขาตอบ ใช่แล้วค่ะ บริษัทที่ฉันทำงานอยู่นี่เป็นบริษัทจัดทำนิตยสารเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปต่างๆ แล้วงานของฉันก็คือเรียบเรียงข้อมูล แต่บางทีวันมะรืนที่จะถึงนี้ ฉันอาจจะเป็นผู้หาข้อมูลก็เป็นได้นะ
              “คุณเป็นช่างภาพ” ฉันถาม เขายิ้มตอบ
              “ใช่ครับ” เขาตอบสั้นๆแล้วหน้าแดงนิดหน่อย เขาเขินรึเนี่ย ว้าย ดูเขาสิ น่ารักจัง ฉันคิดแล้วก็ยิ้มบ้าง เขาน่าเอ็นดูจังน้า ช่างเป็นการขึ้นลิฟต์ที่สนุกจัง ฉันคิด ก็พอดีกับที่ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างสุด เขาก็รอให้ฉันเดินออกไปก่อนแล้วเขาถึงค่อยออกมา ใช่ เขาเป็นสุภาพบุรุษมาก
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น